Visual Studio Code อัพเดตเวอร์ชัน 1.86 รอบเดือนมกราคม 2024 มีฟีเจอร์ใหม่ที่สำคัญคือการรองรับคำสั่งเสียง "Hey Code" เพื่อเรียก Copilot Chat มาช่วยงานเราได้
การประมวลผลเสียงจะเกิดขึ้นในเครื่องของเราเอง ไม่ถูกส่งออกไปยังเซิร์ฟเวอร์ภายนอก ส่วน GitHub Copilot Chat ก็มีความสามารถหลากหลาย ทั้งแปลภาษา ช่วยสรุปหรืออธิบายโค้ดในจุดนั้นๆ เป็นต้น
การใช้ฟีเจอร์นี้จำเป็นต้องติดตั้งส่วนขยาย GitHub Copilot Chat, VS Code Speech และตั้งค่าโหมด accessibility.voice.keywordActivation ให้ทำงานตามที่เราต้องการ มีทั้งการพูดคุยแบบ inline ในตัว editor เลย และเปิด Chat view ขึ้นมาแยกต่างหาก
🗣️🎙️ You can trigger #Copilot Chat by saying "Hey Code" in the latest @code release. 👉 install VS Code Speech: https://t.co/z9XoEmAu3A 👉 install Copilot Chat: https://t.co/y4wdXwmrl1 Configure via the new "accessibility.voice.keywordActivation" setting.Happy Hey Coding! pic.twitter.com/Q8CRnw06Xo
— Benjamin Pasero (@BenjaminPasero) February 1, 2024
ฟีเจอร์อื่นใน VS Code 1.86 ได้แก่
- Per-window zoom levels ตั้งค่าขยายหน้าจอแยกตามแต่ละหน้าต่าง
- Restore auxiliary windows หน้าต่างลอย (floating window) ที่ผูกกับหน้าต่างหลัก จะเปิดกลับมาในตำแหน่งเดิมเมื่อเรารีสตาร์ต VS Code
- Sticky Scroll in tree views เลื่อนหน้าจอแสดงแผนภูมิต้นไม้ (tree) เฉพาะส่วนได้ ส่วนที่เป็นหัวจะแสดงค้างไว้ (sticky) บนหน้าจอ
- แยกการตั้งค่า Auto Save ตามภาษาโปรแกรมที่ใช้ หรือตามแต่ละโฟลเดอร์เก็บไฟล์
- ตั้งค่าปิดการแจ้งเตือนส่วนขยายเป็นรายตัวได้แล้ว ตัวไหนน่ารำคาญก็เปิดเฉพาะตัวนั้น
- การ paste URL ลงในข้อความ Markdown จะสร้างลิงก์ใน Markdown ให้อัตโนมัติ
- กรณีที่เปิด 2 ไฟล์คู่กันเพื่อเปรียบเทียบ มีปุ่มสลับไฟล์ด้านซ้ายและด้านขวาแล้ว
ที่มา - VS Code
Comments
อีกหนึ่ง feature สำคัญคือ 1.86 เพิ่ม min req ของ glibc ขึ้นมาใน extension remote code ssh ทำคนใช้ distro หรือ glibcเก่า เจ้งเพียบ https://github.com/microsoft/vscode/issues/203967
คนบ่นกันระดับนึงเลย อย่าง Ubuntu 18.04 LTS ก็โดน
เพราะงั้นใช้ vim กัน ฮ่าๆ
..: เรื่อยไป
เท่าที่ลองบน Windows มันฟังแล้วเข้าใจผิดไปกว่าระบบอื่นเยอะมากเลย T-T
เห้ โค้ด