เมื่อปลายปีที่ผ่านมา เกิดเหตุการณ์ที่รถแท็กซี่ไร้คนขับของ Waymo ชนกับหุ่นยนต์ส่งของ Serve Robotics ชนกันที่สี่แยกในลอสแอนเจลิส จากวิดีโอที่เผยแพร่ผ่าน Reddit จะเห็นได้ว่าหุ่นยนต์ส่งของขนาดเล็กกำลังพยายามไต่ขึ้นทางเท้า โดยถอยหลังเล็กน้อยเพื่อตั้งหลัก ซึ่งตอนนั้นเองเป็นเวลาที่แท็กซี่ไร้คนขับเลี้ยวมาชนพอดี
เหตุการณ์นี้ไม่มียานพาหนะคันใดเสียหาย ทั้งคู่ติดกันอยู่ราว ๆ หนึ่งนาทีก่อนจะขับไปตามทางของตัวเองต่อ โฆษกของ Serve Robotics บอกกับ TechCrunch ว่านี่เป็นครั้งแรกที่หุ่นยนต์ส่งของชนกับรถแท็กซี่ไร้คนขับ และยืนยันว่าหุ่นยนต์อยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ดูแลระยะไกลในขณะเกิดเหตุ ซึ่งเป็นวิธีการที่บริษัทใช้อยู่แล้วสำหรับควบคุมหุ่นยนต์ข้ามแยก
ผู้ใช้ Reddit บางคนคอมเมนต์ว่ารถแท็กซี่ตรวจจับไม่เจอว่าหุ่นยนต์ส่งของดังกล่าวเป็นมนุษย์หรือสัตว์จึงทำให้เกิดเหตุชนกันคราวนี้ ทว่าโฆษกของ Waymo ออกมาระบุกับ TechCrunch แล้วว่าระบบ Waymo Driver สังเกตระบุได้อย่างถูกต้องว่าหุ่นยนต์ส่งของเป็นวัตถุไม่มีชีวิตอย่างถูกต้อง
โฆษกของทั้งสองบริษัทไม่ได้ให้คำตอบอย่างเป็นรูปธรรมว่าความรับผิดชอบจะอยู่ที่ใครหากเกิดเหตุการณ์คล้าย ๆ กันแต่มีความเสียหายมากกว่านี้ในอนาคต อย่างไรก็ตามทั้งคู่ยืนยันว่าจะทำงานร่วมกันเพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคต
อ้างอิง: Techcrunch
Comments
สงครามกำลังจะเริ่มต้น
มีสิ่งกีดขวางก็ไม่ควรบวกใส่เปล่านะ ฮ่าๆ
ในต้นทางบอกว่าเหยียบเบรคแล้วแต่ก็ยังชนอยู่ดีด้วยความเร็ว 4 ไมล์/ชม (แปลงได้ 6.4 กม/ชม)
งี้เป็นมุมอับเปล่าครับ
ถอยหลังเล็กน้อยเพื่อตั้งหลัก <- อาจจะแปลได้ว่าเปลี่ยนทิศทางกะทันหันมั้ยครับ อยากรู้ว่าถ้าเป็นคนจะมีอะไรที่ตัดสินใจต่างกันบ้าง
https://www.threads.net/@eunonews/post/DESrP1GyChH?xmt=AQGz2fur4Ubp60G-oAn8jf2AThfSi5qWCfgEhLafffpF0g
เจอแบบเป็นคลิป เหมือน frame rate น้อยภาพดูไวๆ หรือเร่งความเร็วไม่รู้ เลี้ยวปุ๊ป ไม่เห็นบวกไปก่อนเลย แอบคิดว่ารถขับเองใช้กล้อง น่าจะมองเห็นดีกว่าคน
อันนี้สงสัยส่วนตัว เค้าไม่มี network คุยกันระหว่าง robot ด้วยกันเหรอครับ หรือเพราะเป็นคนละบริษัทกันเลยไม่ได้มีตรงนี้ ต่างคนต่างสร้างของตัวเองขึ้นมาเลย
Mekokung's Story บล็อกส่วนตัวที่ย้ายไป Blogger แล้วนะ
v2v เป็นหนึ่งใน use case ของ 5g .. แต่ยังอยู่ระหว่างพัฒนา , ยังไม่มี standard และ regulation
อนึ่ง , การเทียบยานที่ iss .. ก็กำลังมีการทดลองพัฒนา use case นี้โดยใช้ wlan
อาจจะไม่จำเป็นต้องมีแล้วก็ได้นะครับ คนขับรถปกติเราก็ไม่ได้คุยกับคันอื่นก็มองทางไปเรื่อยๆ อย่างเดียว แล้วกว่าจะถึงวันที่รถทุกคันสื่อสารได้หมดคงยาก เพราะรถบางคันคุยกันไม่ได้ก็ไม่ได้ช่วยไรเหมือนรถ Stealth ล่องหนเป็นสิ่้งกีดขวางงี้ สรุปก็ใช้การมองไปเหมือนเดิมดีกว่า
เพราะเจอว่าเป็น ”วัตถุไม่มีชีวิต“ เลยไม่มีการคำนวนระยะปลอดภัย(เพราะไม่คิดว่าจะมีการเคลื่อนที่ได้เอง)หรือเปล่า ทำให้คิดต่อได้ว่า แล้วถ้าคนเข็นรถเข็นเด็กที่ปิดที่ครอบอยู่จนไม่เห็นตัวเด็กล่ะ(จับความร้อนไม่ได้) หรือคนเข็นรถเข็นช๊อปปิ้ง ก็หาทางแก้กันไป
ปล. ไร้สาระ เปิดฉาก robot war!!
ซ้ำ
ต่อไปต้องติดอาวุธให้หุ่นยนต์ส่งของซะแล้ว มีอะไรกีดขวาง ยิงขีปนาวุธใส่เลย 555 กำลังเล่นเกมส์อยู่ เลยพาออกนอกโลกซะหน่อย