ไมโครซอฟท์ออกโพสต์ต้อนรับงาน CES 2025 ที่พาร์ทเนอร์ฮาร์ดแวร์ Intel , AMD , NVIDIA , Qualcomm ต่างเปิดตัวชิปใหม่ๆ กันถ้วนหน้า พร้อมกับพีซีรุ่นใหม่ๆ ของบรรดาแบรนด์ต่างๆ ที่จะทยอยออกสู่ตลาดกันในระยะถัดไป
ถึงแม้เนื้อหาของโพสต์ไม่มีอะไรใหม่ แต่ไมโครซอฟท์ย้ำเรื่อง Windows 10 จะสิ้นอายุซัพพอร์ตในเดือนตุลาคม 2025 ทำให้ปี 2025 เป็นปีแห่งการอัพเกรดมาใช้พีซีใหม่ที่เป็น Windows 11 (The year of the Windows 11 PC refresh) ไม่ว่าจะเป็นการอัพเกรดตามรอบฮาร์ดแวร์ปกติ, การอัพเกรดเพื่อความปลอดภัยที่ดีขึ้น หรือเพื่อฟีเจอร์ใหม่ๆ ด้าน AI ของ Windows 11 ก็ตาม
ท่าทีของไมโครซอฟท์นั้นชัดเจนว่าจะไม่มีการต่ออายุ Windows 10 ให้อีกแล้ว ยกเว้น ยอมจ่ายเงินซื้อแพตช์ต่ออายุเพิ่มเท่านั้น
ที่มา - Windows Blog
Comments
แต่ชิพใหม่ๆ นี่มันแพงอยู่นะครับ 55
ลองให้ทุกเครื่องอัปเกรดไป Windows 11 ได้แล้ววิเคราะห์ดูอีกทีมั้ย
Windows 11, version 24H2 บ้งมาก ขนาดใช้กับ surface เองเลยนะ
Linux: ยินดีต้อนรับคอมพิวเตอร์ Windows 10 ทุกเครื่อง
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
No
เกลียด windows ใหม่ๆ ขายของเก่ง น่ารำคาญ
Google Apple: ทำเหมือนกันไม่ใช่เหรอ
แต่โฆษณา OS ตรงปกนะครับ ของ Windows 11 ไม่เห็นทำ UI/UX สวย ๆ 3D ได้เหมือนโฆษณาเปิดตัว
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
งั้น Google apple ก็ขายของเก่งสิครับ
ไม่นะครับ ยังไม่เคยเจอ มือถือเคริ่องไหนขึ้นมาบังหน้าให้อัพเกรด os หลังกด ignore ไปแล้ว หรือ เปลี่ยน default browser ถามแล้วถามอีกว่าจะเปลี่ยนไหม
ผมสงสัยครับ ios android ใช้วิธีเขียน os แล้วอัปเกรด os ไปเรื่อยๆจนกว่าตะตันแล้วค่อยเขียนใหม่มช่มั๊ยครับส่วน windows ออกเวอร์ใหม่ก็เขียนขึ้นมาใหม่
เหมือนกันหมดนะครับ คือใช้อันเดิมเปลี่ยนบางส่วนแล้วอัพเวอร์ชันใหม่ จะมีนานๆ เปลี่ยนเยอะหน่อยแต่ก็ยังใช้ต่อจากของเดิมไม่ได้เริ่มใหม่หมดเลย ทั้ง ios, android, windows ครับ ที่เหมือนเริ่มใหม่มันแค่ UI เฉยๆ ครับ อารมณ์เปลี่ยนสกิน แต่ข้างก็ใช้ของเดิมเพิ่มเติมนิดหน่อย
บล็อก: nitpum.com
Windows 11 ไม่ได้เขียนใหม่หมดนะครับ code ส่วนใหญ่ก็มาจาก Windows 10 นั่นแหละ และ Windows 10 เองก็ มีการ reuse code จาก Windows เวอร์ชั่นก่อนๆ เช่นกัน สังเกตุง่ายๆ อย่างเช่น MMC (Microsoft Management Console) ซึ่งมีมาตั้งแต่ NT ก็ยังมีใช้ใน Windows 11
เพียงแต่ Windows 10 และ Windows 11 มีหั่น OS เป็นระดับ features/components ย่อยๆ ทำให้ OS มีการ update และ เพิ่ม features ใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา ต่างจาก OS เก่าๆ อย่าง 8.1 ไล่ลงไป ทีจะอัพ feature ทีก็จะมาในรูปแบบ Service Pack หรือต้องอัพทั้ง OS เลย
ตรงนี้เป็นพัฒนาการที่สำคัญของ Windows ในช่วงหลังเลยเนอะ ซึ่งผมว่าดีเลยล่ะ
..: เรื่อยไป
24H2 จะนิ่งยังท้อใจมาก ๆ
ผมก็ใช้งานได้นิ่งอยู่นะครับ 24H2เครื่องคอมพิวเตอร์ ที่ทำงานทั้งหมด เป็น Notebook HP
นั่นสิ พรี่ช่วยทำให้ 24H2 มันนิ่งก่อนเดี๋ยวคนก็ตามมาเอง
พรี่ทำบ้งทุกแพทช์รายเดือน ใครจะกล้าใช้?
ต้องรอ 25H2 หวังว่าจะแก้มือได้นะรอบนี้
No ไม่มีตังอัพคอม นี่คือปีแห่ง Linux
"With the first link, the chain is forged. The first speech censured, the first thought forbidden, the first freedom denied, chains us all irrevocably."
มันคงไม่ถึงขนาดทำให้ PC ในองค์กรหันไปใช้ Linux ในเร็ววัน แต่อนาคตก็ไม่แน่ หากดื้อแพ่ง และคิดราคาแพง ๆ ในการ Extended Support อนาคต Linux รุ่งเรืองแน่
ผมว่าสำหรับคนใช้ทั่วไปก็ไม่รู้ว่าทำไมต้องวิ่งไล่ตาม Win 11 เพียงเพราะเรื่องความปลอดภัยกับเป็นของใหม่
หลายส่วนผมคิดว่าก็คงใช้กันไปจนกว่าเครื่องจะพัง หรือแทบใช้งานอะไรไม่ได้นั่นแหละ
อย่างล่าสุดที่ผมยอมออกเครื่องใหม่ก็เพราะเครื่องเก่ามันแทบไม่ไหวแล้ว (อยู่ด้วยกันมา 7 ปี) เลยได้ฤกษ์จัดเครื่องใหม่ ถ้ายังใช้ได้ดี ผมก็คงอยู่กับ Win 10 ไปนั่นแหละ
ปกติแล้ว ผมอัพเดท ใช้ซอร์ฟแวร์เวอร์ชันใหม่ตลอด ไม่ค่อยกลัวเรื่องพัง ที่ยังไม่ไป Windows 11 ตอนที่มาใหม่ๆคือเรื่อง WSL กับหน้าตา
ตอนนี้เรื่อง WSL ไม่ใช่ประเด็นละ แต่ UI เนี่ย ผมชอบ Windows 10 มากกว่าแบบเทียบกันไม่ได้เลย เลยอยากอยู่กับมันจนกว่าจะอัพเดท security patch ไม่ได้
แต่ก็ไม่แน่ว่าอาจจะต้องอัพเกรดไป 11 ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า เหมือน OS ใช้มา 4 ปีกว่าๆ เริ่มมีไฟล์หรือ config บางจุดที่พัง ถ้าจะลง Windows 10 ใหม่ตอนนี้ก็นะ
..: เรื่อยไป