คดีประวัติศาสตร์นี้เป็นข่าวตลอดมาในรอบเดือนนี้ (นับตั้งแต่ เริ่มไต่สวนกันรอบใหม่ ) แต่หลายเรื่องที่เป็นข่าวก็เป็นประเด็นยิบย่อยเกินไป จนหลายครั้งไม่ได้นำมาเขียนเป็นข่าวบน Blognone (เช่น ใครมาให้การที่ศาลบ้าง) ดังนั้นขอสรุปเป็นข่าวเดียวแบบรวบรัดแทนนะครับ
ก่อนอื่นต้องอธิบายก่อนว่า คดีระหว่างออราเคิลกับกูเกิลแยกการไต่สวนออกเป็น 3 ช่วง ได้แก่
- คดีส่วนลิขสิทธิ์ (copyright)
- คดีส่วนสิทธิบัตร (patent)
- ค่าเสียหายที่ต้องจ่าย
คดีส่วนลิขสิทธิ์
คดีส่วนลิขสิทธิ์ แบ่งออกได้เป็นอีก 2 ประเด็นย่อย คือ
- กูเกิลละเมิดลิขสิทธิ์ "โค้ด" ของ Java หรือไม่
- กูเกิลสามารถใช้งาน Java API ได้โดยไม่ต้องขออนุญาตหรือไม่
สำหรับประเด็นแรกคณะลูกขุนตัดสินแล้วว่า กูเกิลผิดโดยละเมิดลิขสิทธิ์โค้ดส่วนฟังก์ชัน rangeCheck() จำนวน 9 บรรทัด (จากโค้ดของ Android ทั้งหมด 15 ล้านบรรทัด) ตามข่าวเก่า คณะลูกขุนระบุ "กูเกิลละเมิดลิขสิทธิ์โค้ดจาวาแต่ไม่ได้ละเมิด API"
ผู้พิพากษา William Alsup ประเมินว่าออราเคิลสามารถเรียกค่าเสียหายจากกูเกิลตามฐานความผิด ( statutory damages ) ได้ไม่เกิน 150,000 ดอลลาร์เท่านั้น ในขณะที่ออราเคิลต้องการเรียกค่าเสียหายตามสัดส่วนความผิด โดยอ้างอิงจากกำไรของ Android แทน
ทนายของออราเคิลยืนยันว่าจะเลือกเส้นทางเรียกค่าเสียหายเป็นส่วนแบ่งกำไร ซึ่งประเด็นนี้จะไปตัดสินกันในการไต่สวนช่วงที่สามต่อไป
สำหรับประเด็นที่สองคณะลูกขุน ไม่สามารถตกลงกันได้ว่ากูเกิลผิดหรือไม่ เพราะกูเกิลอ้างหลักการ fair use หรือ "การขอใช้งานอย่างเป็นธรรม" ตามกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐ ว่ากูเกิลออกแบบ API ให้เข้ากันได้กับ Java API เท่านั้น แต่โค้ดภายในกูเกิลเขียนเองหมดโดยไม่ได้ดูโค้ด Java เดิมเลย (ออราเคิลอ้างว่ากูเกิลละเมิด API 37 ตัว)
ประเด็นนี้กูเกิลเรียกร้องให้ศาลถือว่าการพิจารณาครั้งนี้ไม่ได้ข้อยุติ (mistrial) และเสนอให้ไต่สวนใหม่อีกครั้งด้วยคณะลูกขุนชุดใหม่ (ซึ่งจะมีผลให้คดียืดยาวออกไป) ซึ่งผู้พิพากษา Alsup ยังไม่ได้ตัดสินใจในประเด็นเหล่านี้
ประเด็นที่สองนี้มีความสำคัญต่อวงการซอฟต์แวร์มาก เพราะคำตัดสินของ Alsup จะเป็นตัวกำหนดว่าจริงๆ แล้ว API นั้นมีลิขสิทธิ์หรือไม่ด้วย
ถ้าหากว่าศาลตัดสินให้กูเกิลผิดในประเด็นเรื่อง API ผลกระทบจะไปอยู่ที่วงการ Java ด้วย เพราะต่อจากนี้ไปคนที่จะใช้งาน Java API จะต้องขออนุญาตจากออราเคิลก่อน
คดีส่วนสิทธิบัตร
ตอนนี้การพิจารณาคดีส่วนสิทธิบัตรใกล้สิ้นสุดแล้ว และน่าจะแถลงปิดคดีได้ในวันจันทร์ที่ 14 พ.ค. นี้ (ตามเวลาสหรัฐ) โดยศาลลดจำนวนสิทธิบัตรที่เป็นเหตุมูลฟ้องลงเหลือแค่ 2 รายการเท่านั้น
ความเคลื่อนไหวของการไต่สวนแบบคร่าวๆ
- ออราเคิลเรียก Andy Rubin มาให้การในศาลอีกครั้ง โดยเน้นไปที่อีเมลระหว่าง Rubin กับผู้บริหารของกูเกิล ที่แสดงความกังวลในประเด็นเรื่องสิทธิบัตรของซัน เพื่อแสดงให้เห็นว่ากูเกิลทราบเรื่องสิทธิบัตรแต่แรกแต่จงใจเลี่ยง
- กูเกิลเชิญพยานคือ Vineet Gupta ซึ่งเป็นอดีตพนักงานของซันที่ดูแลเรื่องการเซ็นสัญญาอนุญาตใช้งาน Java และเขาเป็นคนเจรจากับ Andy Rubin ในตอนนั้น (แต่สุดท้ายแล้วสัญญาระหว่างซันกับกูเกิลไม่เกิดขึ้น) ซึ่ง Gupta ให้การในศาลว่า ระหว่างเจรจากับ Rubin ไม่เคยหยิบประเด็นเรื่องสิทธิบัตรมาพูดกันเลย
- กูเกิลยังเชิญผู้เชี่ยวชาญด้าน virtual machine อีกสองคน (เป็นอาจารย์มหาวิทยาลัยด้านวิทยาการคอมพิวเตอร์ทั้งคู่) มาให้ความเห็นถึงสิทธิบัตรที่ออราเคิลใช้ฟ้อง โดยพยานของกูเกิลว่าสิทธิบัตรหมายเลข 6,061,520 ไม่มีความสำคัญกับการทำงานของ Android มากนัก ส่วนพยานอีกคนให้ความเห็นว่า Android ไม่ได้ทำงานตามสิทธิบัตรหมายเลข RE38, 104 จึงแปลว่ากูเกิลไม่ได้ละเมิดสิทธิบัตรชิ้นนี้ (ส่วนลูกขุนจะเชื่อหรือไม่ก็อีกเรื่องนะครับ)
ที่มา
Comments
แก้ ซํน เป็น ซัน ด้วยครับ
หรือไม่ก็ ซนฺ ครับ
/me โดนเท้า
สรุปมาได้เข้าใจง่ายดีมากครับ
ขอบคุณครับ
ขอบคุณครับ สรุปเข้าใจง่ายดี ^_^
edit: กดช้าไป - -'
^
^
that's just my two cents.
blognone ต้องรับตำแหน่งพิสูจน์ตัวอักษรเพิ่มครับ
หรือไม่ก็ควรพิมพ์ใน microsoft word ก่อนเพื่อพิสูจน์คำผิด
ใน Blogนี้มันก็พิสูจน์คำผิดได้ แต่เฉพาะภาษาอังกฤษครับ
พี่ mk เค้าใช้ libreoffice ครับ ^^
WE ARE THE 99%
ปกติคนเขียนจะกรองเองก่อน แล้วคนอ่านก็ช่วยกันดูคำผิดอยู่แล้วครับ
ที่นี่ทุกคนช่วยกันเป็นหูเป็นตาครับ :D
Blog | Twitter
เป็นวัฒธรรมของที่นี่ครับ
ปล. lol
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ในฐานะคนที่เลือกใช้ Java เป็นภาษาหลักมาตลอดรู้สึกผิดหวังมากๆที่ต้องเห็น Java กลายมาเป็นแบบนี้
เจอแบบนี้ใครจะไปอยากใช้ Java อีกล่ะเนี่ย
+1
ผมยอมรับว่าเป็นอีกหนึ่งคนที่หนีมาจาก Java ได้สามปีละ เห็นอะไรต่อมิอะไรก็ขวางหูขวางตาไปหมด
แต่หนังสือที่ออกมาตอนนี้มีแต่ C# กระหึ่มมาก ผิดกับเมื่อก่อนที่มีแต่ Java
เสียดายซัน เสียดายจาว่า เสียดายมาย์เอสคิวเอล
หนีไปซบ PostgreSQL ละ =A=
MariaDB ก็น่าสนใจนะครับ
Oracle เฮ้อ
รอดูผลคืนนี้
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com