หลังจากวันที่ 21 พฤษภาคม 2555 หุ้น Facebook ปิดที่ 34.03 ดอลลาร์ ลดลงถึง 11 เปอร์เซนต์ แค่เพียง 2 วันหลังจาก IPO ราคาก็ต่ำกว่าราคา IPO ที่ 38 ดอลลาร์ซะแล้ว ส่งผลทำให้ Mark Zuckerberg จนลง 2.1 พันล้านดอลลาร์ ส่วน ผู้ถือหุ้นรายอื่นก็จนลงไปตามๆ กันไม่ว่าจะเป็น
- Dustin Moskovitz จนลง 560 ล้านดอลลาร์
- Eduardo Saverin จนลง 220 ล้านดอลลาร์
- Sean Parker จนลง 276 ล้านดอลลาร์
ส่วนใครมีเงินเหลือไม่ต้องเสียใจที่ไม่ได้หุ้นตอน IPO ตอนนี้ซื้อได้ในราคาต่ำกว่า IPO ซะอีก
ที่มา Bloomberg
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
มือใหม่ครับ แนะนำด้วยครับ อาจตอบช้าหน่อยน่ะครับ งานเยอะ
อะไรเป็นชื่อต้องใช้ตัวใหญ่นำหน้าครับ
เสริมครับ
ผมเพิ่งเห็น Fackbook เขียนผิดนะครับ
เสริมด้วยครับ
ซ่ะแล้ว -> เสียแล้ว/ซะแล้ว
ไม่ว่าเป็น -> ไม่ว่าจะเป็น
ซ่ะอีก -> เสียอีก/ซะอีก
Dream high, work hard.
ขอบคุณมากครับ แก้แล้วครับ
เหลือ Bloomberg ครับ
ตรงรายชื่อผู้ถือหุ้น ทำเป็น list ด้วยจะช่วยให้อ่านง่ายขึ้นครับ
แก้เป็น list แล้วครับ แต่มันล้นๆอย่างที่เห็น ส่วนตัวชอบแบบเก่ามากกว่า แต่ไม่เป็นไรครับ ครั้งหน้าจะทำให้ดีกว่านี้ครับ ขอบคุณทุกๆคำแนะนำด้วยน่ะครับ
เรื่อง list ล้นนี่เป็นความผิดของ Blognone เองครับ
จริงๆ หลังจากที่ Facebook บูมมาได้สักพักนึง
ผมว่ามันก็ดูคงที่นะครับ ไม่วูบวาบ ไม่ตื่นเต้นเหมือนแต่ก่อนเท่าไหร่(เมื่อก่อนค่ายเกม วิ่งเข้าหา facebook กันใหญ่ คนแห่กันทำ Facebook Application กัน)
อยากรู้เหมือนกันว่า Facebook จะกระตุ้นนักลงทุนยังไงต่อไป (นอกจากมีคนเล่น Facebook กัน 8 ร้อยกว่าล้านคน)
ผมว่ารายได้ ของ Facebook มันไม่สอดคล้องกับ มูลค่า ของบริษัท
มูลค่าบริษัทก็ไม่ได้วัดมาจากรายได้เหมือนกันครับ
ใจเย็นครับ เค้าตั้งใจปล่อยราคาลงอยู่แล้ว ถ้าราคายืนสูงกว่า IPO นานๆมันจะทำให้หุ้นตัวอื่นมันตก มันต้องกระตุ้นตลาดรวมแบบนี้แหละครับ ยังไงซะหุ้น FB ไปได้ยาวๆถึง 45$/หุ้น สบายๆอยู่แล้ว เพราะมันไม่ใช่หุ้นกินปันผล เพียงแต่ว่าพวกแบ็คอัพตอนนี้มันแรงไปหน่อย
มาร์ก ซัคเคอร์เบิร์ก ถือหุ้นตั้ง 54% เลขสวย ความหมายดีซะด้วย สงสัยภรรยาแนะนำมา หุหุ
คนจองอร่อยเลยขายราคาเปิด
{$user} was not an Imposter
ข่าวนี้เหมาะกับ Meconomic มากกว่าหรือเปล่าครับ
คุ้น ๆ ว่าถ้าเป็นข่าวที่คาบเกี่ยวกันระหว่าง BN กับเวปอื่น ให้ไปลงเวปอื่นก่อนนิ ? (หรือว่าผมจำผิด)
เนื้อหาคาบเกี่ยวจริงๆ แหละครับ
ส่วนตัวมองว่ากรณีของ Facebook ยังพอลงที่นี่ได้อยู่นะ - -' (ถึงเนื้อหาข่าวจะพุ่งไปที่การลงทุนไปหน่อยก็เถอะ)
ขอบคุณสำหรับคำแนะนำน่ะครับ คราวหน้าจะทำให้ดีกว่านี้ครับ