เมื่อแอปเปิลเริ่มวางขาย iPhone 5 ซัมซุงก็ไม่พลาดโอกาสนี้ในการยิงโฆษณา "เกทับ" แบบเดียวกับที่เคยทำมาแล้วตอน iPhone 4S ( ข่าวเก่า 1 , ข่าวเก่า 2 )
รูปแบบของโฆษณายังคล้ายๆ ของเดิมคือแฟนๆ ของแอปเปิลที่ต่อแถวรอซื้อ iPhone 5 ตามเมืองต่างๆ ในสหรัฐ พบกับเพื่อนหรือคนรู้จักที่ใช้ Galaxy S III ซึ่งมีฟีเจอร์เด่นอย่างการแตะแล้วแชร์, จอที่ใหญ่กว่า รวมถึงการรองรับเครือข่าย LTE มาก่อนหน้าแล้วหลายเดือน ขณะเดียวกันก็แอบกัดแอปเปิลว่าทำ "best adapter" ซึ่งหมายถึงการเปลี่ยนพอร์ตเป็น Lightning
ที่มา - VentureBeat
Comments
เจ็บนะเนี่ยแต่ i5 บอดี้ ไม่ได้ก้องเก้งแบบ s3 นะ แค่นี้ก็ชนะใสๆ
เป็นผมก็คงไม่เสียเวลาไปต่อแถวรอ...
ผมก็คิดแบบนี้ เพราะได้ใช้ก่อนคนอื่น 7 วัน ผมคิดว่าไม่คุ้มค่าไปรอ
รอสั่งบน Online Store เอาดีกว่า
อยู่ที่ความพอใจนิครับ ตรงนี้ ไม่ได้มีใครห้าม เหมือนรักใครก็เอาใจใส่ดูแล
สงสัยจะหมดมุขจริงๆ
ถูกทุกข้อเลยยย ที่ยกมาแต่ละเรื่อง SSGS3 เหนือกว่าทุกอย่าง
แต่ผมก็ยังซื้อ iPhone 5 เพราะชินกับ ecosystem นี้ + ลงทุนไปเยอะแล้วด้วย
(ตราบใดที่ iPhone ยังตอบโจทย์การใช้งานทุกๆ วันผมได้อยู่ ผมก็คงไม่เปลี่ยนฮะ -_-")
ปล. อ่านที่ daring fireball พูดไว้ ผมก็เห็นด้วยนะครับว่าเป้าหมายของ ad นี้ เน้นไปที่คนที่ไม่ชอบ Apple มากกว่า ไม่ได้ส่งผลให้คนที่ชอบสินค้า Apple หรือตั้งใจจะซื้อ iPhone 5 จะไปซื้อ SSGS3 แทนเลย
บล็อกของผม: http://sikachu.com
อย่าไปยึด daring fireball เป็นที่อ้างอิงเลยครับ อันนี้เรียกว่า "ยิ่งกว่าศาสดา"
+1 คนที่จะซื้อก็ซื้ออยู่ดี
ผมรู้ว่่าดจ๋งแต่ไงๆก็ iphone5 อยู่ดีงะ
เจออันนี้มาใน MacRumors
จิ้มเพื่อดู
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
อันนี้ฮามากครับ
อย่างฮา XD
Dream high, work hard.
ผมไม่เก็ทมุก T^T
ต้องลองเทียบกับภาพดั้งเดิมของ SS ดูครับ ถ้าดู Timeline จะเห็นว่า Ads ตัวนี้ออริจินอลออกมาก่อนที่จะมีข่าวยอดจอง iP5 ซึ่งจุดหลักอยู่ที่ด้านล่างคือ
The next big thing is already here!
คือ SS จะบอกว่าของดีอยู่ตรงนี้แล้วจะรอ iP5 ทำไม แต่ถึงจะขนาดนั้นยอดขายก็ยังดีอยู่ในระดับไม่พลิกโผอะไร
แต่ต่อมายอดจองของ iP5 ที่ยังไม่ทันขายก็มียอดถล่มทลายแล้วจึงออกมาเป็น
It's not even here yet.
ครับ...
ป.ล.นี่ยังเคราะห์ดีที่คนทำตัวหลังนี่ปล่อยออกมาก่อนที่ผล Benchmark iP5 จะออกมาตามข่าว่อนหน้านี้ว่าผลออกมาแรงกว่ามือถือทุกรุ่นกันเลยทีเดียวไม่งั้นอาจจะเจ็บหนักกว่านี้ ฮ่าๆ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ตกข่าวหลายชั้นเกินเลยไม่เก็ตมุก -___-
S3 จอใหญ่กว่า เพราะเครื่องต้องใหญ่ จะได้ใส่แบตให้เพียงพอกับกำลัง CPU
บริษัทอื่นเขาล้อสินค้า/ตัวบริษัทคู่แข่งกัน มีเจ้านี้นี่แหละที่ล้อเล่นคนใช้...
คงอิจฉาที่ไม่มีคนไปต่อคิวเพื่อซื้อของตัวเองมั๊งครับเวลามีคนไปต่อคิวเพื่อรอซื้อสินค้าของแอปเปิ้ลทีไร ผมนึกถึงตอนที่ Starwars ออกฉายทุกที อันนั้นถึงขึ้นกางเต้นท์รอกันเลย
ให้ไปดู Startrek แทน
แสดงว่าเกิดไม่ทัน I'm Mac!
ขำๆ Ad ยังเลียนแบบ I'm Mac!
I'm Mac vs I'm PC เขาไม่ได้ล้อลูกค้าแบบนี้ครับ
ประเด็นนี้น่าสนใจครับ
Dream high, work hard.
ใช่ครับ เพราะชุด Get a Mac ล้อชาว PC ซะหน้าตาเฉิ่มเลย แถมชาว PC ไอค๊อกๆ แค๊กๆ เพราะติด
ไวรัสไข้หวัดใหญ่ชุดนั้นล้อว่าลูกค้าเฉิ่มเฉยๆ ไม่ได้ล้อว่าเป็น isheep ล้อกันคนละแบบ ใช่ปะครับ
ผมใช้ Mac แต่ดูโฆษณาอันนั้นแล้วผมชอบตัว PC นะ แกดูตลกดี เปิ่นๆ แบบน่าเอ็นดูและเป็นกันเองครับ ส่วนตัว Mac มันดูเก๊กไปหน่อยดูห่างเหินไปเลย
1984
lewcpe.com , @wasonliw
โทรศัพท์มือถือ ไม่ว่าจะ Samsung Galaxy S3, Apple iPhone 5, NOKIA Lumia 920, LG Optimus G, htc One X, htc Windows Phone 8x, OPPO Find (Full HD) ฯลฯ ตัวท็อปๆ ผมว่าดีหมดนั่นแหละครับ
มันอยู่ที่ผู้บริโภคว่า เขาจะพอใจเลือกเครื่องไหนเป็นเครื่องที่จะใช้ หรือบางคนก็อาจจะมีหลายๆ เครื่อง ครบทุก OS เพื่อใช้ในหลากหลายแนวทางก็เป็นได้ น่าจะปล่อยให้ผู้บริโภคเป็นผู้เลือกและตัดสินใจนะ
ปล. Samsung ก็เหลือเกิน ก็ไม่เห็นต้องล้อเลียนแบบนี้เลย ที่จริงไม้เด็ดอย่าง Galaxy Note II ที่มีคนรอคอยกันอื้ออึงก็สามารถสร้างกระแสได้แล้ว ทำไมไม่งัดเจ้านี่มาต่อสู้ ทำไมต้องเอาเครื่องที่ออกไปแล้ว 3 เดือนกว่ามาสู้น้อ หรือจะเก็บเงียบต่อไปเพื่อให้เป็น Top Secret กันล่ะนั่น (จะว่าไปมันไม่ Top Secret แล้วนี่นะ)
เค้ายังไม่ขายเป็นทางการหรือเปล่าครับ Note2 เลยค่อยทำโฆษณาต่อก็ได้
ประโยคนี้ใช้ได้กับโฆษณาชุด Get a Mac ด้วยหรือเปล่าครับ?
โฆษณา Get A Mac กัด PC เป็นชุดเลย ใครยังไม่ได้ดู ลองมาดูกันครับ
โห้......เยอะมากตอนแรกกะว่านั่งดูเล่นๆ ไม่จบสักที ดูแถบเวลา ครึ่งชมกว่า!! ตัวนึงยาวแค่ 30 วิ เอง มี 70 ตัวเลยเหรอ O_o!
เค้าทำอยู่ร่วม 4ปีนะครับ แถมยังมีเวอร์ชั่นแบบอื่นๆ ด้วย เช่นเปลี่ยนตัวแสดง หรือเป็นการ์ตูนก็มี
ดูเอาขำๆ พอครับ อย่าไปซีเรียส เพราะสิ่งที่ Mac เคยล้อ PC เดี๋ยวนี้ก็เป็นซะเองแล้ว เช่น มีไวรัสเป็นของตัวเอง :-p
มีซ้ำกันอยู่ 2 ตอนนะครับ :)
ดูรวดเดียวเลยครับ เพลินดี ขอบคุณมาก
ต่อแถวยังกะ มี limited number ว่าเครื่องที่เท่าไร -_-
องุ่นเปรี้ยว...
หมดมุขแล้วละสิ่ เพราะเล่นแบบนี้มาหลายครั้งแล้ว
อยากเห็นโฆษณาเมืองไทยล้อสินค้าค่ายอื่นบ้างเคยเห็นแค่ค่ายมือถือโฆษณาเดียวเอง...
ล้อไม่ได้หรอกจ่ะ คนไทยเบาะบาง
คราวก่อน true ว่า dtac ล่ม ยังไปตั้งกระทู้สวดยับเลย
@ fb.me/frozenology @
เมืองไทยเรากองทัพไซเบอร์เรามีเยอะมากกครับ ฝีมือ(มือจริงๆ เพราะใช้มือพิมพ์)เก่งๆ กันทั้งนั้น
ดูอย่าง กรณีซูซีหมิงสิ ใน fan page ของ AIBA โดนกองทัพไซเบอร์ประเทศไทยถล่มกว่า 60,000+ reply
^
^
that's just my two cents.
ในไทยรู้สึกจะมีกฎหมายห้ามนะครับ
+1 ครับ
คนไทยโลกสวยครับ รับไม่ได้หรอกถ้าใช้วิธีโกง ๆ ถ้าตัวเองได้ประโยชน์ด้วยถึงรับได้
ให้ความประทับใจด้านลบเหมือนเดิม
ถามจริง ๆ เถอะ ถ้าสมมติคุณไม่ได้ใช้ทั้ง Galaxy SIII กับ Iphone 5 ถ้ามาเจอโฆษณาแบบนี้ จะอยากซื้อ SIII หรือเปล่า -..-
คุณถามเนี้ย เพราะคุณมีความเอียงไปทางไอโฟนหรือเปล่า เพื่อนผมที่มันไม่ได้ตัดสินใจมันยังพูดกับผมเลยว่าจริงแฮะ มีมาขายที่ไทยก็ไม่รู้ทันมั้ย ต้องลางานไปยืนต่อแถวตามโควต้าแต่ละวันแบบเดิมที่เค้าขาย 4S หรือเปล่าอยู่เลยครับ มันว่าซัมซุงก็น่าสนใจ เสียเวลาดีมั้ย ราคาซัมซุงก็ลดลงมาแล้วด้วย ก็ไม่ได้แตกต่างอะไรกันมากเลยสูสีกันด้วยซ้ำ
ต่อแถวรอ คือพ่วง โปรของแต่ล่ะค่ายครับ เครื่องเปล่าสั่งได้ตั้งแต่ ของมาไทยผ่าน WEB ละครับ 4S ไม่เกิน 1 สัปดาห์ได้รับ
มันตอนนี้หรือเปล่าครับ ผมพูดถึงตอนออกใหม่ๆครับ มาซื้อตอนที่ 5 ออกมันก็แหงแหละครับ
ผมว่าเค้าหมายถึงสั่งเครื่องเปล่าผ่านเวปตอนที่เปิดดัวในไทยแล้วน่ะครับ ซึ่งมันใช้เวลาประมาณ 1 สัปดาห์
ใช่ครับ ผ่าน WEB ไม่ต้องรอครับ ที่ต่อกันนั่นพ่วงโปรทั้งนั้น
ราคาลดลงนี้แหละน่ากลัว
ถ้าคิดว่าซื้อเพื่อขายต่อผมว่าไม่เอาซัมซุงอะดีแล้ว เทคโนโลยี ใหม่มาอันเดิมราคาลดลงมันถูกต้องอยู่แล้วครับ ผมว่าแอปเปิ้ลต่างหากที่แปลก แต่น่าจะคนซื้อเองมากกว่าที่ยอมจ่ายแพงเท่าเดิมโดยไม่มองตลาด เพราะคิดแค่ว่าไอโฟนรุ่นล่าสุดอยูเลยไม่เปรียบเทียบราคากะมือถืออื่น ชอบด้วยกฎหมายเฉพาะไอโฟนเหมือนกันเท่านั้น เค้าเก่งมากที่ทำให้ลูกค้า มีพฤติกรรมการซื้อแบบนี้ได้
demand กับ supply อ่ะครับ........ไม่แปลกหรอกครับ
ถ้าคนยังต้องการอยู่ ราคาก็ยังสูงอยู่ได้เป็นธรรมดา พลังแห่ง loyalty :D
ความต้องการคนก็ต่างกันอยู่แล้วเหมือนกระเป๋า,นาฬิกา ที่มีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยยันเป็นล้าน
ถ้าชอบมากผมก้ไปต่อคิวนะ มันขึ้นกับความรู้สึกส่วนต่อว่าอยากได้แค่ไหน เคยอยากได้อะไรมาก ต้อง วิ่งออกไปซื้อไกลแค่ไกนก็จะไป ผมเคยเป็นนะ
จากโจทย์นี่ผมว่า S3 น่าสนกว่านะ
ดูที่การตอบโจทย์การใช้งานส่วนตัวมากกว่า Ads. ครับ
ซื้อครับ (ถ้าตอนนั้น Sony xperia T/V ยังไม่มีขายในไทยนะ)
ก็น่าแปลกใจน่ะครับเพราะผมก็ไม่ได้ใช้ทั้งสองค่ายแต่ดูจบกลับอยากซื้อ S3
เลือกเอสสามแน่นอนครับ
ช่วงนี้ซัมซุงขยันออก Ads มากเป็นพิเศษ
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
ไม่รู้สิครับ จริงๆผมก็ยอมรับว่าไม่ค่อยชอบแอปเปิ้ลที่พยายามทำให้คนใช้งานมือถือมองเรื่องความสวยงามมากกว่าประโยชน์การใช้งาน จริงๆเค้าไม่ได้ผิดหรอกครับ แต่รู้สึกไม่โอเท่าไหร่แค่นั้นเอง ทางซัมซุงโฆษณานี้เค้าไม่ได้บอกว่าเค้าดีกว่าหรือยังไง แค่พยายามให้เห็นว่า มือถือที่ต้องต่อแถวซื้อเป็นวัน มันคุ้มกับการเสียเวลาในการต่อแถวจริงๆหรือ มันว้าวขนาดที่ว่ายอมเสียเวลาชีวิต ไปเที่ยวอยู่กับครอบครัวเพื่อต่อแถวซื้อมือถือที่ตอนนี้ในตลาดก็มีของที่ประสิทธิภาพพอๆกันหรือเหนือกว่าในบางด้านให้เลือกอยู่ ซึ่งตัวผมเองก็มองแบบนั้นจริงๆนะ เค้าไม่ได้ทำให้คนที่อยากได้ไอโฟนอย่างเดียวเปลี่ยนใจหรอกแต่ผมว่าเค้าทำมาให้คนที่ยังไม่ตัดสินใจว่ารอดีมั้ย รอเพื่ออะไร คุ้มการรอมั้ย หรือยังไม่ได้ตัดสินใจ มองดูของในตลาดก่อนมากกว่า ผมว่าไม่ได้แรงอะไรเลยกะโฆษณานี้ มันเหมือนการผมบอกเพื่อนผมว่า เฮ้ยจะซื้อปากกาด้ามนั้นทำไมวะแค่สวยกว่านิดหน่อย นอกนั้นไม่ได้ต่างกันมากมาย เพื่อนมันก็บอกว่าปากกาอันนี้เหน็บไว้แล้วดูภูมิฐาน ซึ่งก็ผมก็ว่ามันนะมึงต้องการแค่ดูดีว่างั้นจ่ายเยอะก็ยอม ซึ่งผมไม่คิดแบบมัน ไม่มีใครผิดแต่มองว่าถ้าต้องจ่ายตังแล้วเยอะอยู่แล้วมองรูปลักษณ์กันมากกว่าประโยชน์อีกรึ = =!!
คุณเป็น value customer ครับ แต่คนกลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มหนึ่ง เขาซื้อเพื่อภาพลักษณ์ ครับ (มันสำคัญต่อ หน้าทีการงาน และตำแหน่งในสังคมของเขา) ถ้าเพื่อนคุณเขามีเงินซื้อก็ปล่อยไปเถอะครับ แต่ถ้าไม่มี แล้วยังทำแบบนั้นก็ เออ.. ตัวใครตัวมันครับ
ใช่ครับถ้ามันมีตังพอว่า แต่ปัญหาคือทุกคนที่ผมเจอและทำแบบผมว่า มันไม่ได้มีตังเหลือกินเหลือใช้ไงครับ แค่เอามาสร้างภาพ เพราะเพื่อนผมคนมีตังมากมายเหลือเฟือจริงๆมันไม่เห็นต้องพยายามสรรหาอะไรแบบนี้ แถมมันใช้ของธรรมดาๆด้วยซ้ำแต่มันก็ใช้ไอโฟนนะครับมันว่าไม่ใช่อะไรหรอก มันทำไรไม่เป็นไอโฟนร้านรับลงโปรแกรมอะไรเยอะแยะเค้าจัดการให้ครบ มันขี้เกียจยุ่งยาก เพราะมันแค่โทรกะถ่ายรูป แต่ก็อยากมีแอพบ้างไรบ้างในเครื่อง
ส่วนตัวผมเห็นว่าคนใช้ S3 ดู smart ครับ เพราะที่เลือกซื้อมือถือที่ค่อนข้างสวนกระแสนี่น่าจะผ่านการคิดมาแล้ว
ส่วน iPhone ผมมองว่า.. "อาจจะ" เป็นพวก Me too (smart รึเปล่าต้องดูอีกที)
แล้วคุณว่าใครภาพลักษณ์ดีกว่ากันครับ?
แล้วถ้าคนซื้อ iPhone ก็ผ่านการคิดมาแล้วเหมือนกันล่ะครับ?
แล้วถ้าคนซื้อ Android ยี่ห้ออื่นๆ ก็ผ่านการคิดมาแล้วเหมือนกันล่ะครับ?
แล้วถ้าคนซื้อ Windows Phone ก็ผ่านการคิดมาแล้วเหมือนกันล่ะครับ?
Dream high, work hard.
+1
มีคนตั้งหลายประเภท ที่ซื้อของแบบเดียวกัน ความต้องการคนก็ไม่เหมือนกันอยู่แล้ว
+1 ครับ
อาจจะมีบางส่วนที่ซื้อเพื่อให้ตัวเองดูดี แต่ก็มีอีกส่วนที่ซื้อสิ่งที่เหมาะกับการใช้งานของตัวเองจริง
+10 ชอบมากครับเม้นท์นี้ ^^
Because, iPhone is too mainstream. สินะ
S3 เนี่ยนะดู smart
ผมว่า Nexus ยังเข้าท่ากว่ามันเยอะ
ผมว่า One x ครับ หน้าตา ดี build ดี เสปค ดี ราคา ดี เสียงก็มี Beats Audio รับประกัน ขาดแต่ไม่มี sd card
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
เอาเรื่องเสียงเทียบกับ S3 ระวังหน้าแตกนะครับ
พูดซะเหมือนคนซื้อไอโฟนไม่มีหัวคิด
ใครใคร่ใช้อะไรก็เลือกใช้กันไป สนอง need ของตัวเอง อย่าดูถูกคนอื่นนักเลยครับ
ผมว่าผมเขียนมาชัดเจน ไม่มีช่องโหว่แล้วนะครับ ไม่แน่ใจว่าเป็นที่ผมเขียนไม่ชัดเจนพอ หรือบางท่านอ่านกันแค่บรรทัดแรกแล้วเม้นต์หว่า?
ผมเน้นคำว่า "อาจจะ" แล้วนะครับ แปลว่า ใช่ หรือไม่ใช่ก็ได้ ...เพราะกรณี me too ในกรณี iPhone นี่มันเยอะมาก หรือจะปฏิเสธว่าไม่จริงครับ?
ผมเคยเมนต์มาหลายครั้งแล้วว่าผมไม่ได้เหมารวม ผมไม่ได้บอกนะครับว่าคนซื้อ iPhone ไม่มีหัวคิดเลย คนที่ซื้อของโดยดูความต้องการของตนเอง ความเหมาะสมของตนเอง แล้วก็ซื้อ iPhone มีเยอะแยะไปครับ และผมก็เคยพูดแบบนี้ หาเมนต์เก่าๆ ผมได้เลย
จะบอกว่า ผมก็ซื้อ iPhone 4S ให้แม่ใช้ เพราะมันเหมาะกับแม่ผมที่สุดแล้ว ถ้าผมด่าว่าคนใช้ไม่มีหัวคิด ผมก็ด่าตัวเองและแม่ผมแล้วล่ะครับ
แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าพวก me too ก็เยอะ ดังนั้นถ้าจะบอกว่าคนใช้ iPhone มัน cool หรือไม่ ก็ต้องมีการคัดกรองกันก่อน
พวกใช้เครื่องแล้วคุ้ม ผมมองว่า cool และคนกลุ่มนี้มีเยอะด้วยครับ ..แต่พวก me too ผมก็จะมองอีกแบบนึง
แต่สำหรับพวก S3 ผมมองว่า cool ทันทีตั้งแต่แรกที่ได้พบ เพราะคนเหล่านี้กล้าที่จะแตกต่างไงครับ ตรงนี้ที่ผมมองว่ามันเจ๋ง
พอเข้าใจเจตนาใช่ไหมครับ คงเขียนมาเคลียร์พอนะครับ ^^
ที่ทำให้คิดมันคือประโยคนี้น่ะครับ ไม่ใช่ประโยค me too
"ส่วนตัวผมเห็นว่าคนใช้ S3 ดู smart ครับ เพราะที่เลือกซื้อมือถือที่ค่อนข้างสวนกระแสนี่น่าจะผ่านการคิดมาแล้ว"
ทำให้เกิดคำถามขึ้นมาว่า แล้วคนซื้อไอโฟนไม่คิดหรอ? เพราะคนที่ซื้อไอโฟนหลายคนก็คิดมาแล้วน่ะครับ ^^
สำหรับคนที่ซื้อ S3 ผมว่าตอนนี้ก็ไม่ได้ดูว่าคิดต่างอะไรมากแล้วนะครับ มันเกลื่อนตลาดแล้วนะ ^^
ผมมองว่าพวกที่ใช้ Nexus หรือ xPeria cool กว่านะ (หรือเพราะใจรัก sony เกินไปด้วยมั้ง 555)
มีสิครับ ไม่งั้นผู้บริหารเค้าจะซื้อปากกาแพงๆ นาฬิกาแพงๆทำไมครับ เสื้อผ้าคงมีแต่ห่านคู่หรือเป่ายิ้งฉุบไปหมดแล้ว
บางทีการซื้อของแพงก็เป็นการลงทุนทางสังคมอย่างหนึ่ง
สำหรับผม ของใช้ที่เราอยู่กับมัน ทั้งวัน ทุกวัน ถ้าเลือกได้และงบถึงผมก็เลือกสวยไว้ก่อนครับ แพงกว่าหน่อยก็ยอม เพราะเรามีความสุขที่ได้เห็นมัน
ใช่ครับถ้ามีเงินมีอะไรที่ควรมีมันไว้ แต่ไอโฟนเนี้ย ผมเห็นเด็กมหาลัยหาตังเองยังไม่ได้ พอ 5 ออกสี่มันเพิ่งซื้อมาเอง ขายต่อละขาดทุนก็ขาย ทั้งที่ไม่คิดด้วยซ้ำว่า ตังที่หายไปกะส่วนต่างมันคุ้มกะไปเอา 5 มั้ย ที่บอกไม่ได้โม้เพื่อนน้องผมเองประกาศขายในเฟสเลย 4s หมื่นเดียวใช้งานแค่สองเดือนกว่าๆมีใบเสร็จ ผมแย่งขอซื้อยังไม่ทันเลย = =!!
บ้านคงรวย=.,=
เพราะว่าหาเงินเองไม่ได้นี่ล่ะครับเขาถึงคิดแบบนั้น เขาถึงคิดว่าไอ้เงินสองหมื่นกว่าบาทเนี่ยมันไม่ได้หาลำบากอะไร แบมือขอเงินก็ได้แล้ว
สรุปว่าพ่อแม่ผิด (ฮา)
โจทย์เกือบดีแล้วครับ แต่ยกตัวอย่างแคบไปหน่อย เรื่องใช้เงินเป็นแต่หาเองไม่ได้นี่ ถึงไม่ใช่ iPhone ก็ทำได้ครับ ทั้งเสื้อผ้า กระเป๋า นาฬิกา รองเท้า ฯลฯ
เออ... แล้วเด็กมหาลัย' มันใช้แต่ iPhone หรือยังไง ไม่มีใครใช้ Samsung บ้างเลยเหรอ ของเค้าออกจาก smart .. 555
พูดยังกับ iPhone สวยแต่รูป จูบไม่หอมแบบนั้นหละ
แปลกดีนะครับ โทรศัพท์ที่เน้นเรื่องสวยงาม แต่ design บางปีก็ไม่เปลี่ยนหรือเปลี่ยนน้อยมาก ผมเห็นเค้าก็ present ฟังก์ชั่นใหม่ตลอดเพื่อดึงคนเก่าให้มาซื้อ และ present แต่ฟังก์ชั่นที่คนใช้งาน ไม่ได้ present เป็น tech spec
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ตอนนี้การเลือกซื้อมือถือขึ้นอยู่กับโอเอสแล้วครับ เหมือนที่บล็อกนอนเคยเขียนเกี่ยวกับวัฒกรรมย้ายไปอยู่บนซอฟแวร์ แค่ตัดสินใจได้ว่าซื้อโอเอสไหนแค่นั้นจบ ไม่ใช่สมัยฟีเจอร์โฟนที่ทุกเครื่องก็เป็นมือถือเหมือนกันหมดเพราะตอนนี้มันเป็นมากกว่ามือถือเหมือนที่เทียบกับปากกาครับ
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
สำหรับผมถ้ามองว่าซื้อเพื่อภาพลักษณ์ (เหมือนซื้อหลุย มาหิ้ว) ผมมองว่าพวกนั้นคือพวกที่ใช้มือถือแค่รับสายโทรออก และถ่ายรูปเท่านั้นครับ
ถึงวันนี้ ถ้าถามว่า iphone5 มีอะไรที่เหนือกว่า s3 คำตอบที่พอจับความได้คือ ตัวเครื่อง(ที่ไม่ก๊องแก๊ง) กับ ecosystem เพียง 2 อย่างเท่านั้น แต่จริง ๆ ผมมองว่า มันเหลือเพียง ความรู้สึกที่เหนือกว่า (เพราะเอาเข้าจริง ๆ 2 อย่างที่ว่ามา ตอนนี้มันไม่ได้ต่างกันมาก ถึงขนานเป็นปัจจัยหลักที่คนส่วนใหญ่เลือกซื้อโทรศัพท์ แต่ตอนนี้ ซื้อเพราะ brand apple เหนือกว่าเท่านั้น) แค่เรื่องภาพความเหนื่อกว่าของ brand มันสร้างได้ และผมว่า samsung กำลังทำให้ภาพนั้นเปลี่ยนไป
ecosystem มันใหญ่มากซะด้วยสิครับ เห็นหลายคนซื้อ iDevice เพราะบอกว่ามันแอพเยอะ
ส่วนบางคนก็บอกใช้ง่าย พอให้ลองไปจับ Android ปุ๊บ งง ใช้ไม่เป็น
Dream high, work hard.
android รุ่นก่อน ICS ผมยอมรับว่าใช้ไม่ค่อยเป็น เคยไปจับๆ เครื่องบ้าง แต่ไม่สนใจพอ ICS กับ Jelly Bean ออกมาใช้ง่ายขึ้นเยอะ ตอนนี้เปลี่ยนมาใช้ Galaxy Nexus แล้ว
First Impression ครับ, บางคนไม่ต้องการจะเรียนรู้อะไรมากนัก, ไปลองแล้วงง, ไม่ถนัดก็ไม่เอาเลยก็มีครับ
ผมก็อิจฉา iTune Store ที่ซื้อเพลงได้เหมือนกัน -.-ไม่แน่ใจว่าซื้อหนังได้ด้วยรึเปล่า?
ซื้อเพลง ซื้อหนัง เช่าหนัง ได้แล้วครับ iTunes Store Thailand
เท่าที่ซื้อเพลงใน iTunes Store ซื้อเพลงแล้วมันได้ mp4 มาแบบไม่ติด DRM lock ครับ
หมายความว่าอยากซื้อก็ซื้อได้ ไม่ต้องมี iDevice ก็ซื้อได้ (ซื้อแล้วก็อปได้) XD
Dream high, work hard.
ตัวเครื่องเรียกว่าเหนือกว่าก็... เป็นความเห็นส่วนตัวนะผมว่า ผมรู้สึกว่าพอตัวเครื่องเป็นเหล็กมันก็หนัก เป็นรอยได้ง่ายแถมเป็นรอยแล้วเห็นชัดกว่า (พลาสติก) แถมคุ้นๆ ว่ากราวนด์รั่วด้วย (อันนี้ไม่แน่ใจ ลืมไปแล้ว พอดีไม่ได้เล่นของพ่อนานละ iPod ผมก็ห่อฟิล์มพลาสติกอีกชั้น) ส่วนกระจกด้านหลังก็มีโอกาสแตกร้าวได้สูง (ซึ่งเป็นจุดอ่อนของ 4 ที่ถูกเอาออกไปใน 5 กลายเป็นอลูมิเนียมแทน น่าจะเป็นรอยง่ายสุด ๆ 555)
ในขณะที่พอเป็นพลาสติกมันให้ความรู้สึกที่คุ้นมือมากกว่า เบากว่า แล้วพอมันบอบบางกว่ามันก็ถนอมมือเรามากกว่า 555 ล่าง ๆ นี่เริ่มมั่วละ (คิดว่า S3 ซึ่งข้างหลังเงาแว่บก็น่าจะเป็นรอยง่ายพอ ๆ กัน) แต่ถ้าให้เลือกผมขอเบา ๆ ดีกว่า ผมไม่อยากรู้สึกว่ามันถ่วงกางเกง เพราะว่าผมมีไอพอดคลาสสิคอยู่อีกตัวอยู่แล้ว ใส่ไว้ด้วยกันเลย
บางคนอาจจะท้วงว่าน้ำหนักไม่ต่างกันมาก แต่พอมันมีขนาดมาเกี่ยวด้วย ไอ้ตัวที่มีขนาดเล็กกว่าจะให้ความรู้สึกว่าหนักกว่า (อาจจะเพราะตัวใหญ่มันกระจายแรงกดได้ดีกว่ามั้ง)
ทั้งนี้ผมไม่ได้ใช้ SIII นะ ผมใช้ Galaxy Nexus น่ะครับ
ผมว่าไอโฟนมันทนกว่าเยอะนะ ไม่ว่าจะรุ่นไหนก็ตามยิ่งตัวนี้การประกอบแน่นหนาท่าทางทนน่าดู
โดยเฉพาะอาการแตกของ 4 , 4s และ ปุ่ม home เจ้าปัญหา ...
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
มันเป็นอลูมิเนียมแล้วครับพี่
อาการแตกของ 4 , 4s และ ปุ่ม home เจ้าปัญหา เป็นอาการเก่าที่ชัดเจนนิครับ
ไม่ใด้บอกว่า 5 ทีเปลี่ยนหลังเป็นอลูมิเนียมมันจะแตกเสียหน่อย ... แต่เราก็ไม่รู้อยู่ดีว่า 5 จะมีปัญหาหรือไม่อยู่ดี
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
plastic น่าจะทนกว่านะครับ โดยวัสดุแล้วยืดหยุ่นกว่า และพิสูจน์มาแล้วด้วย 3310
มันไม่ใช่พลาสติกนะครับ มันคือวัสดุจากนอกโลก
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
ฮาเงิบเลย 3310
มนุษย์โลกช่างง๊องแง๊ง. ตีกันเลยสิ อิอิอิ
Thor มาเอง
เจ็บสุดๆ
รอวัดกันที่ยอดขาย
.
ผมแอบคิดว่า apple จะพลิกเรื่อง NFC Payment เหมือน เรื่องเลิกใช้ Flash
ไหนๆจะคิดใช้โทรศัพท์แทนบัตรเครดิตละลองแทนบัตรเครดิตด้วยโทรศัพท์ทุกสถาณการณ์ชีวิตประจำวันละ
ส่วนตัวผมว่าไม่เวิร์คอย่างแรง
คิดดูว่าถ้าเด็กปั๊มมันวิ่งชิ่งบัตรเครดิตไป เรายังมีโทรศัพท์สั่งอาญัดแต่ถ้าโดนเด็กปั๊มตบโทรศัพท์ไป = =' จะเหลือไรให้โทร
หรือ เด็กปั๊มจะลากตัวตัดเงินมา จะต้องลงทุนซื้อเครื่องแบบนั้นอีกกี่เครื่อง = ='
เรื่อง NFC สงสัย Apple จะ win แน่ๆที่ไม่ใช้ หรือจะเรื่องส่งรูป ใช้ Bluetooth น่าจะเวิร์กอยู่แล้ว
เรื่องปั๊มน้ำมัน ถ้ามีระบบจ่ายเงินที่เชื่อถือได้ เค้าก็คงต้องปรับอะไรใหม่แหละครับ เช่น ให้ไปแตะที่จุดก่อนออกที่เดียวเลยก็ได้ ไม่ต้องเซ็น (เพราะถ้าต้องเซ็นต์ใช้บัตรเครดิตไปเหมือนเดิมก็ไม่เห็นจะต่างกัน) หรืออาจจะวิธีอื่นๆ คงไม่ให้เอามือถือไปห่างตัวหรอกครับ คนคงไม่ยอมใช้
ผมว่าปัญหาหลักคือเรื่องระบบแหละครับ แค่บัตรเครดิตเองยังมีหลายระบบ ต้องมีเครื่องอ่าน ต้องปลอดภัย จะทำอย่างไรให้ร้านมาร่วมกับระบบเราเพราะร้านที่รับก็ต้องลงทุนเพิ่ม และเสี่ยงว่าเดี๋ยวก็มีระบบของเจ้าอื่นอีก ฯลฯ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
คิดแบบนี้มี มุมมองอีกแบบครับ +1 ผมชอบของ SONY ที่เป็นอันกลมติดตาม จุดพเดินเอาเครื่องยิงนะ ปิดเสียง ตั้งนาฬกาปลุกผมชอบมากที่ SONY ทำนะ แต่ไอโฟน 5 ถ้าเทียบผมว่ามัน มีความเดิมๆๆมากกว่าสิ่งใหม่ บ้างคนที่หวังอยากได้รูปทรงอะไรใหม่ๆๆบ้าง คงผิดหวังเยอะ
ผมนะอยากได้ แอนดรอยนะ แต่ไม่รู้อยากได้รุ่นไหน มีแต่ TAB 7.0 Plus กว่าจะได้ อับ เป็นปี แถม มีปัญหาเรื่อง wifi ต่อยาก ปัญหาตอนใช้แรกช้าแลคตอนนี้อับไฮสครีม ก็ถือว่าดีนะแต่ก็ค้างนั่นค้างนี้เหมือนกันนะ แต่คิดว่าคงเลิกใช้ samsung แน่ ๆ กำลังดู OPPO นาสนใจสวยด้วย
แอปเปิ้ลอาจจะกังวล(มากไป)เรื่องความปลอดภัยอยู่ก็ได้ครับ เพราะตอนนี้มาตรฐาน nfc ยังมีช่องโหว่อยู่เพราะผู้รับไม่ต้องยืนยันการรับข้อมูล
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
NFC ไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะเรื่อง Payment กับส่ง ไฟล์นะครับ นะครับมันทำอะไรได้มากโขเลย
ถ้ามองแค่บางเรื่องแล้วบอกว่าไม่เราไม่ทำมันก็แย่นะครับ คือแล้วใครบอกท่านว่า NFC มันต้องเป็นเครื่องใหญ่โตมโหฬารจนต้องเก็บไว้ในที่เป็นที หรือต้องยื่นให้เด็กปั้มไปรูดแบบบัตรเครดิตหละครับ = =!! แค่ทำเครื่องรับติดข้างตู้ปั้ม หรือแม้แต่ เครื่องอ่านที่เป็นไวไฟไร้สายมายื่นให้ลูกค้าเอามาติ๊ดก็มีครับถ้าจะใช้จ่ายตังจริงๆ
สงสัยจริงๆว่าทำไมต้องมอง NFC คือการเอาไปใช้แทนบัตรเครดิตถึงจะเป็นประโยชน์หว่า = =!! ญี่ปุ่นเอามือถือติ๊ดกะตู้น้ำ หักจากยอดเเติมเงินโทรศัพท์ก็ทำได้ครับถ้าจะใช้กะเรื่องใช้จ่ายโดยไม่กังวลเรื่องซีเคียวริตี้มาก อยากรู้ว่าท่านพยายามหาเหตุผลให้แอปเปิ้ลถูกอยู่ หรือท่านพยายามมองมันแบบเปิดกว้าง ผมดูการใช้งาน NFC มันใช้งานได้มากมายสารพัดประโยชน์ไม่จำเป็นต้องเรื่องจ่ายตังหรือโอนไฟล์ ทำให้ผมมองว่าแอปเปิ้ลไม่ใส่ให้เนี้ยไม่น่าจะโอเคนักเพราะ เลือกเพิ่ม CPU GPU ที่ใครๆก็มองว่ามันก็ลื่นดีอยู่แล้ว แต่กลับไม่ใส่สิ่งใหม่ๆที่มันน่าจะเปลี่ยนรูปแบบเทคโนโลยีไปได้ ทำไมแอปเปิ้ลไม่เป็นผู้นำเทคโนโลยีทั้งที่มีฐานลูกค้าที่พร้อมซื้อมากมาย แต่กลับไม่ใส่ให้แล้วมีคนมาช่วยปกป้องว่ามันไม่น่าบูม แล้วทำไมตัวเองที่บอกว่าเป็นคนนำเทรนเปลี่ยนแปลงวงการมือถือ มีอะไรพร้อมกลับกลายเป็นบริษัทที่ต้องรอเทรนมาก็ทำตามหรือครับ ก็แปลว่าแอปเปิ้ลเปลี่ยนไปไม่อยากนำเทรนอีกแล้วสิหรือว่าไม่อยากใส่ cost เพิ่มขึ้นหวังแต่กำไรเพราะคิดว่ามีสาวกมากมายแล้ว คิดดูสิครับถ้าใส่มา มือถือไอโฟนขายได้เป็นล้านๆเครื่องทั่วโลก มีเจ้าใหนที่เค้าจะไม่อยากจะพัฒนา NFC มาเพื่อรองรับ เพราะผู้ถือไอโฟนที่เป็นเป้าหมายมีเป็นล้านๆให้ตักตวง
ถ้ามีในมือถือทุกเจ้าก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี แต่! จะมีเจ้าของกิจการ, หรือธุรกิจสักกี่เจ้าที่จะลงทุนติดตั้งระบบขนาดนั้น และไม่ได้ทุกคนที่มี smart phone หรือโทรศัพท์ที่มี NFC, ทางออกที่ดีก็คือใช้ของเดิมให้ดีที่สุด เพราะบางคนไม่อยากจะต้องลงทุนเรื่องพวกนี้เพื่อรองรับสิ่งที่เรียกได้ว่าไกลไปสำหรับบ้านเรา แค่ให้คนจะยอมใช้บัตรเครดิตของตัวเองซื้อของ online ยังกล้าๆ กลัวๆ กันอยู่เลย :-) แชร์กันครับ
ผมเลยมองว่าถ้าไอโฟนใส่มาก็เป็นการกระตุ้นให้มีการทำไงครับ เพราะผู้มีกำลังซื้อไอโฟนมาใช้ได้แปลว่า มีเงินไม่ก็มีบัตรเครดิทผ่อนสินค้าแน่ๆ ถูกมั้ยครับซึ่งคนกลุ่มเนี้ยเป็นลูกค้ามีกำลังซื้อแน่ๆ แถมมีเยอะเพราะความนิยมของไอโฟน บ่อเงินขนาดนั้นไม่ใช่ว่าไม่น่าพิจารณาในการลงทุนนะครับ
มองในฐานะผู้บริโภค อยากให้มี NFC ทุกๆ เครื่องและทุกๆ เจ้าน่ะครับ ถ้า iPhone จะใส่เข้ามาเพื่อกระตุ้นให้เกิดการใช้เทคโนโลยี ก็จะดีไม่ใช่น้อย แต่อย่างที่ผมบอกไป แต่ว่าถ้ามองในฐานะเจ้าของกิจการ (อย่างที่เรายกตัวอย่างกันก็คือปั้มน้ำมัน) ถ้าผมเป็นเจ้าของปั้ม และจะต้องเสียเงิน หรือลงทุนเพื่อติดตั้งระบบเพื่อมารองรับ NFC ให้กับกลุ่มคนที่มีโทรศัพท์หรืออุปกรณ์ที่มี NFC ซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะมีใครใช้กี่คน
ผม(เจ้าของกิจการ)จะต้องมองตั้งแต่ เงินที่จะค้องลงทุน, การฝึกอบรม, การบำรุงรักษา, การแก้ปัญหาเฉพาะหน้า แล้วผลตอบแทนที่จะได้รับล่ะคืออะไร คิดออกมาแล้วคุ้มไหมกับการใช้งาน ซึ่งวันนี้ยังไม่พร้อมในบ้านเรา?, มันจะทำให้มีคนมาเติมน้ำมันผมมากขึ้นไหม? แล้วพนักงานผมจะแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าได้ไหมถ้าเกิดปัญหาขึ้น แล้วถ้ามันไม่ดีจะมีคนใช้อีกหรือเปล่า, เมื่อไหร่จะคืนทุน, ผมเชื่อคำถามพวกนี้ จะเกิดขึ้นแน่ๆ กับคนที่จะต้องเสียเงินติดตั้งระบบเหล่านี้ ถ้าในมุมมองของผม(ที่สมมุติว่าเป็นเจ้าของกิจการในบ้านเรา) ผมขอทำในสิ่งที่มีอยู่ดีกว่า อาจจะเป็นพวก Value Card ของสะดวกซื้อต่างๆ เพราะหลายๆ คนไม่ต้องมีบัตรเครดิต ไม่ต้องมี NFC ก็สามารถซื้อของหรือบริการของเราได้ (เฉพาะในแง่ของการใช้จ่ายเงินน่ะครับ, การแลกเปลี่ยนข้อมูลผมไม่ขอแสดงความคิดเห็น) เพราะอย่างน้อยเจ้าของกิจการอาจจะสามารถใช้แค่ที่อ่านบัตรเครดิตอันเดิมโดยไม่ต้องติดตั้งอะไรเพิ่มเติมก็ได้.
ความนิยมของไอโฟน(และยี่ห้ออื่น)เองก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่ง ในความนิยมนั้นต้องมองลงไปอีกว่ามีกี่คนที่ใช้ บัตรเครคิตผูกกับโทรศัพท์ของตนกี่เครื่อง (ในบ้านเรา)
มันไม่ได้แปลว่าทุกเครื่องจะมีบัตร หรือ กำลังเงินในการใช้ส่อย เพราะบางเครื่องมาจากเงินผู้ปกครอง หรือซื้อมาแล้วลงแอปเถื่อน ใช้โดยยังไม่รู้ว่าจะต้องมี id เพื่อโหลดโปรแกรมก็มี (ตู้มือถือ fin), พอเราตบๆ ข้อมูลพวกนี้ออกมาเป็นตัวเลขอาจจะพบว่ามีตัวเลขที่ไม่น่าลงทุนกับการเอาระบบมาติดตั้งกับกิจการของตนสักเท่าไหร่ นอกจากเจ้าของกิจการจะชอบเทคโนโลยี และมีเงินทุน หรือเงินหมุนเวียนค่อนข้างเยอะ และไม่เดือดร้อนอะไรก็สามารถทำได้ (แต่จะมีกี่คน กี่เจ้า)
แต่ผมเห็นด้วยน่ะครับที่ควรมีเพราะ ถ้ามีแล้วเทคโนโลยีจะตามมาเอง ด้วยแรงกระเพื่อมของทุกๆ เจ้า มันจะต้องมีแน่นอนครับ แต่เมื่อไหร่เท่านั้นเอง ... (บ้านเราจะหร้อมเมื่อไหร่คงมีตัวอื่นมาแล้วกระมั่ง)
แขร์กันครับ :-)
ไม่เสมอไปครับ บ้านเรามีมือถือรองรับ 3G กันมานมนานแล้ว เพิ่งจะได้ใช้กันจริงๆ จังๆ ก็ไม่กี่เดือนที่ผ่านมาแถมกระจุกอยู่แต่เฉพาะในหัวเมืองใหญ่
จุดแข็งของ apple คือความ look cool ดู smart ทาง samsung ต้องการทำลายจุดแข็งจุดนี้จึง ยิง dis credit AD ออกมาเรื่อยๆ ประมาณว่า ด่าคนใช้ apple ว่าไม่ทันสมัยทำอะไรไม่เข้าท่าเพื่อให้ความ cool ความ smart ของ band apple บอบบางคงสักเล็กน้อยก็ยังดี ประมาณว่า น้ำหยดลงหินทุกวันหินมันยังกร่อน น่าจะเป็นแผนการตลาดโจมตีแบบนี้ระยะยาว และเราจะได้เห็น AD ลักษณะแบบนี้ออกมาอีกเรื่อยๆ
ทำได้ครับ แต่บ้างคนมีความคิดตัวเองครับผม ผมว่า คนจะเหม็นขี้หน้า samsung มากกว่านะสิบ้างคน ต่างคนต่างผลิต แข่งขันกันนนะถูกที่สุดแล้ว ต้องมอง apple ขาย MAC ทุกวันนี้ยังขายได้เลย ครับเครื่องก็ไม่ได้แรงมาก แถมราคาแพงอีก ยังมีคนเอาเงินไปซื้อ บอกว่ามันใช้ดีกว่า PC อีกแหนะ samsung เจาะยากครับ ตราบใด samsung ยังใช้แอนดรอย กว่าจะได้อับเกรด ก็ตั้งนาน ต้องไปหา ROM ผมว่าก็มีคน หลายประเภทนั่นแหละ
แต่พวกทำงานผมว่าไม่มีใครมานั่งหา ROMเป็นแน่พวกเวลาน้อย ส่วนมากก็ไอฟอง บ้างคนมีไอฟอง เสียงเรียกเข้ายังไม่เคยเปลี่ยนเลยเป็นเสียงมากกับเครื่อง ส่วนมากจะเน้นรูป facebook มือถือทกวันนี้ก็แค่นี้แหละ 4 หัว 5 หัว ก็แค่นั่นแหละ ออกบ้านเอาจริงนะ อยู่ไม่ถึง 5 ชมหมดละ ผมออกเดินทางนั่งรถ iphone4 ยังไม่ถึงทั้งวันเลยเล่นสามจี จริงน่าจะออกให้เล่นยาวสักวันครึ่งก็คงดีกว่านี้
อาจจะไม่เยอะขนาดนั้นก็ได้ครับ ของแบบนี้อยู่กับมุมมอง ไม่งั้นสมัย I'm a Mac, I'm a PC นี่ Apple คงโดนเหม็นขี้หน้าเยอะกว่า เพราะโฆษณาชุดนี้ออกมาเพียบเลย
Dream high, work hard.
การตลาดแบบนี้ปล่อยออกมาเยอะๆมีผลเหมือนกันครับ เหมือนโฆษณาที่แมคเคยทำกัดวินโดว มันก็เวิคอยู่นะผมว่า แต่อาจจะเป็นเพราะคนอาจจะไม่ค่อยชอบวินโดวอยู่แล้วก็ได้
Blog: https://medium.com/@tanakritsai
ผมว่ามัน ออก เชิงจิตวิทยาหมู่ น่ะครับ พูดกรอกใส่หูเรื่อยๆ เดียวก็ได้ผล ตามหลักจิตวิทยาแล้ว ได้ผลกับคนส่วนใหญ่แต่มักจะไม่ได้ผลกับคนที่รู้ทัน(ซึ่งมันน้อย)ส่วนใหญ่จะโดนกันไปเต็มๆ ทั้งทางตรงและทางอ้อม เป็นยุทธศาสตย์โจมตี band ที่แข็งแกร่งกว่าอย่างได้ผล
เค้าพูดถึงความจริงกลางๆ แต่คุณหนะมันหัวเอียงด้านนึงอยู่นะครับ
+1
ซัมซุงกำลังโจมตีแอปเปิ้ลเรื่อง look cool แน่นอนครับ ประเด็นที่ยกมาในโฆษณาคือ ซัมซุงทำได้ cool กว่า
ซัมซุงอิจฉาหละสิ ที่ไม่มีคนมาต่อแถวซื้อแบบแอปเปิ้ลบ้าง อิอิ
ผมกับแฟนเคยเดินผ่านคนต่อแถวซื้อโรตีบอย ก็เลยแกล้งถามว่า "อยากกินมั้ยจะไปต่อแถวซื้อให้" แล้วคุณเธอก็บอกว่า "ไม่เห็นจำเป็นเลยคนไทยบ้าเห่อเห็นอะไรใหม่ก็อยากได้อยากมีก่อนคนอื่นเขาภูมิใจอะไรไม่เข้าท่าไม่ได้ไปขอกินฟรีนะเสียเงินแล้วต้องยอมลำบากขนาดนั้นไปทำไม บลาๆๆๆ" (T_T)เฮ้ย! ถามดีๆ โดนด่าเป็นชุดซะงั้น เซ็งเลย
+1 ครับ ดีใจด้วยนะครับที่คุณมีแฟนแบบนี้ เป็นคนที่รู้จักคิดแบบดีๆพูดง่ายๆ คือ คิดเป็น
ถูกครับ ผมจะซื้อ i5 แน่นอน แต่ก็จะไม่ต่อแถวแน่นอน
+1 ให้แฟนคุณฮะ ผมก็ถือหลักเสียเงินแล้วต้องสบายเหมือนกัน เดินห้างร้านไหนต้องจองคิวบางทีก็เปลี่ยนร้าน -..-)
แล้วแต่ความพอใจแต่ละคน ครับผม
คนต่อแถวซื้อคือพวกโง่
-1 อาการหนัก
-1 อย่าให้ถึงทีตัวเองนะครับ:) คำว่า โง่ ผมว่าแรงไป
เอิ่มคือ ต้องการบอกว่าซัมสื่ออะไร! ผมเขียนลอยๆไม่เคลียร์เอง
ผมว่าเค้าแค่บอกว่า มีอันนี้ด้วยนะ มีคุณสมบัติดีด้วย ไม่ต้องต่อแถวรอ เพราะถ้าเค้าสื่อแบบท่านว่าตัวละครที่ถือซัมซุงต้องเยาะเยยคนต่อแถวนะครับ แต่จากในเรื่องผมเห็นเค้าเป็นแบบว่าประมาณเพื่อนกันมาทักทาย แล้วก็ใช้งานมือถือตัวเองตามปรกติ แล้วคนในแถวก็ถามว่าใช้มือถืออะไรเหรอ แต่คนต่อแถวก็ต่อแถวตามปรกติ
เห็นด้วยครับ ผมว่ารอบที่แล้วแรงกว่าเยอะ รอบนี้นุ่มนวลกว่าเดิม
ใช้คำว่าศรัทธาดีกว่าครับ ถ้าโง่จริงต้องพวกซื้อของหิ้วตอนราคา 50,000 แล้วพบว่าเครื่อง lock
มันไม่ต่อแถว กลับบ้านไปก็นั่งเปิด xda ละว้าา 55+
วันนึงถ้า s5 ขายดีจนมมีคนต่อแถว .... จะรีรันโฆษณาให้ดู !!!
งั้นอาจจะไม่มีโอกาสรีรันครับ 5 5 5
ซัมซุงยังไม่เลิก
iPhone 5 ไม่น่าสนใจ
รอดู iPhone 5S ดีกว่า 55555
ถูกต้องแล้วครับ map 3D เมืองไทยไม่มี, street view ก็หายไป, Siri ในไทยใช้ไม่ค่อยได้ ไม่ต้องพูดถึงพูดไทยเลย, LTE อีกกี่ปีจะได้ใช้ก็ไม่รู้, passbook ไม่มีที่ให้ใช้, Accessory สำหรับ port ใหม่ยังไม่มา, จอใหญ่แต่ App ยังไม่อัพเดทก็ได้แอพเล็กเท่าเดิม และที่สำคัญรุ่น S มักจะได้ software ใน iOS ที่กั๊กเอาไว้เช่น iPhone 4 อดใช้ Siri, FaceTime Cellular, Turn-by-turn, Flyover, Panorama (ดูได้ที่ comment เล็กๆในหน้า iOS 6) คนที่ซื้อ iPhone 5 ต้องศรัทธาจริงๆ
พูดถึงเมืองไทย ... พูดตรง ๆ ตลาดเล็ก ๆ อย่างบ้านเรา เขาไม่แลหรอกครับ ต้องคนไทยไปพัฒนาระบบเองนั่นแหละถึงจะมีให้ใช้
เชื่อมั้ยครับว่า Apple ขาย iPod มาเป็นสิบปี ไม่มีรุ่นไหนรองรับภาษาไทย ยกเว้น iPod Touch ที่ใช้ iOS ซึ่งเป็นอาณิสงค์มาจากการที่มันถูกใช้ใน iPhone ด้วย (ผมเดาว่าถูก operator บีบน่ะ) แต่กว่า iOS รองรับภาษาไทยก็อีกกี่ปีให้หลังจากที่มันขายล่ะ ? (ผมจำไม่ได้ ... สองปีมั้ง ลืมแล้ว)
ถ้ามองอดีตย้อนไปอีก Mac OS รุ่นที่ไม่ใช่ OSX นี่ไม่มีภาษาไทยในกล่อง คนใช้ต้องซื้อโซลูชั่นจากคนไทยด้วยกันเองนี่แหละ
นี่แค่พื้นฐานสุด ๆ อย่างภาษาไทยนะ
โอเค ถ้างั้นนี่ก็เป็นโอกาสดีสำหรับนักพัฒนาคนไทย จะได้มีงานทำ
iPod Nano ตั้งแต่ Gen 3 ขึ้นไปรองรับภาษาไทยนะครับ
gen 3 ของผมไม่เห็นอ่านไทยได้เลย
เค้าจำผิดอ่ะตัวเอง แฮะ แฮะ
iPod Nano มีไทยครับ มีแต่ Classic และ Shuffle ที่ไม่มี
iPhone อ่านไทยตั้งแต่วันแรกที่เปิดขาย แต่มีอินเตอร์เฟสภาษาไทยตอน 3GS ที่ทรูเริ่มเอาเข้ามา (ปกติ?)
Mac ก่อน OSX มันรองรับกี่ภาษาหรือครับ?
ที่จริง shuffle มีภาษาไทยนะ ไอ้ที่พูดชื่อเพลงอ่ะ Voice over ดูในหน้า tech spec
+1
iPod nano ใช้ภาษาไทยได้นะคะ เพราะใช้gen4 อยู่ แต่ก่อนหน้านั้น ไม่แน่ใจว่า gen3 เครื่องทรงสี่เหลี่ยมนั่นใช้ภาษาไทยได้รึยัง แต่สองรุ่นแรก ใช้ไม่ได้
ผมว่าไม่จริงนะที่เค้าไม่สนใจประเทศไทย
เขาไปต่อแถวเพื่อซื้อเครื่องมาขาย MBK กันครับ กำไรงาม<เพิ่มแง่คิดเฉยๆ>
สาวกแอปเปิลรุ่นใหม่นี่รู้สึกจะอ่อนไหวกับการถูกด่า ถูกถากถางนะ คือพวกลุงชินแล้วฮะ ไม่รู้สึกอะไร ตายด้านมาตั้งแต่สมัยแพ้ Windows แล้ว
แฟนพันธุ์แท้สตีฟจ็อบส์ | MacThai.com
+1 เลยจุดนั้นมาแล้ว ... เพราะเคยทั้งโดนกระทำ และเป็นผู้กระทำ :P
จริงๆผมว่าทุกค่ายแหละครับ
แต่สงสัยแฟน apple จะเยอะกว่าหน่อย ทำให้เหมือนมีเยอะ ฮ่าๆ
+1 ตามนั้น
ฮา ตั้งแต่ข่าวนี้โผล่ ผมสนุกกับการนั่งอ่านคอมเม้นต์มาก ไม่ได้สนใจข่าวอื่นซักเท่าไหร่เลย (ปกติแอบ refresh หน้าแรกเพื่ออ่านข่าวใหม่ๆ ตลอด) อ่อนไหวกันจริงๆ (สาวกทั้ง 2 ค่าย)
มาม่าอร่อย haha มาอารมณ์เดียวกัน
สำหรับผมนะครับ
สินค้า Samsung = สเปคA + คุณภาพB + บริการC + ดีไซด์/วัสดุC + OS A
สินค้า Apple = สเปคB + คุณภาพA + บริการA + ดีไซด์/วัสดุA + OS A
สรุปผมเลือกแอปเปิ้ล
ถ้าตอนนี้จะมีมือถือจะมาให้หวั่นไหวก็โนเกีย 920 นี่แหละ
+1 920 แต่ content อะสิ
ผมดูก็น่าสนใจมากครับ 920 แต่ดัมเบลรึเปล่า หนักมาก = =
iPhone 5 112 g, Nokia Lumia 920 185 gหมดยุคมือถือหนักแล้วกระมัง ไม่ไหวอ่ะ หนักเกิน
ผมอ่านๆมา ก็เฉยๆนะครับ
แต่มีอยู่ที่บอกทำนองว่า iPhone สวยแต่หน้าตา แต่ระบบไม่ได้เรื่อง = =
นั่นมันจริงเหรอครับ ทุกวันนี้ผมใช้ iPhone เพราะติดกับ app ที่ซื้อมาแล้ว และ eco ต่างๆครับ
และผมก็มองว่าระบบมันดีมานานแล้ว เป็นแอนดรอยที่คอยวิ่งตามมาจนตอนนี้ใกล้เคียงกันใน 4.1 ตังหากละครับ
eco แอนดรอยเพิ่งตามทันจริงๆครับ แต่บริการออนไลน์นี่แอนดรอยนำมานานละ แล้วเหมือนจะไล่ตามยากด้วย
รู้สึกไม่ค่อยดีกับพฤติกรรมบางอย่างของ samsung
ชอบอันไหนก็อันนั้น สิ่งที่เราใช้กับสิ่งที่คนอื่นใช้ไม่เหมือนกัน คน s3 หรือ i5 เราก็ต้องซื้อของเขาอยู่ดี สาวกเยอะ ทั้งคู่ เขาก็ยิ่งรวย เถียงกันไปก็ไม่จบ ดีกว่า ไม่ดี อยู่ที่ผู้ใช้ ว่าของในมือใช้คุ้มใหม หรือแค่อยากให้โลกรู้ว่าฉันถืออะไรอยู่ ถือถือเครื่องในมือ ลองทำรายการว่าใช้ทำอะไรบ้าง และมันยังทำอะไรไม่ได้บ้าง เราทุกคนต่างหากที่เป็นเยื่อของ สองบริษัทนี้
พอใจซื้ออะไรซื้อไปเถอะครับ
แต่การตลาดซัมซุงเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ตอนงัดกับโนเกีย-ซิมเบี้ยนแล้วล่ะคับรู้สึกจะย่ำยีซิมเบี้ยนไว้พอสมควร สงสัยลืมว่าตัวเองก็เคยใช้ซิมเบี้ยนมาก่อน
บางทีผมมองว่า บางคนถึงขั้นสาวก เพราะตัวโฆษณานี้ผมมองว่าซัมซุงเค้าสื่อว่าเค้าคือทางเลือกมากกว่าจะเป็นการว่าคนซื้อไอโฟนโง่ แต่บางคนทางฝั่งสนับสนุนไอโฟนทำไมถึงมองว่าเค้าไปดูถูก หรือการบอกว่ามือถืออีกแบรนด์มันก็ทำอะไรได้เหมือนกับไอโฟนแล้วและบางอย่างดีกว่า เรียกง่ายๆว่ามาเทียบชั้นมันทำให้รับไม่ได้ = =!! แล้ว NFC ก็ยังมองไม่ออกว่าทำไมต้องไปหาเหตุผลสนับสนุน Apple ที่เค้าไม่ยอมใส่เทคโนโลยีนั้นมาด้วยทั้งที่รอบนี้ก็ไม่ได้ใส่อะไรมาเพิ่มมากมาย ทั้งที่ก่อนหน้าก็กำไรมหาศาลจะใส่ NFC ในราคาที่จะขายตอนนี้ไม่ได้เลยหรือ? เจ้าอื่นที่ OS ยังมีค่าใช้จ่ายเพราะไม่ใช่ของตัวเอง เค้ายังใส่มาในราคาเท่านั้นได้ แล้วทำไม Iphone OS ก็มีเป็นของตัวเองกลับไม่ใส่มา แถมฝ่ายสนับสนุนไอโฟนหลายคนยังพูดประมาณว่าไม่มีอะดีแล้ว ? งงเค้าไม่ใส่เทคโลยีมาให้เราเป็นลูกค้ากลับปกป้องและหาข้อมูลสนุบสนุน ต่อให้ไม่บูมในปีนี้แต่หากบูมในปีหน้าก็ทิ้งเหรอ cycletime มือถือราคา 20k up มันสั้นขนาดนั้นไปแล้วเหรอน่ากลัวมากๆ
ผมไม่ได้ว่าเหมารวมนะ ถามว่าไอโฟนน่าใช้มั้ยน่าใช้ครับ แต่สำหรับผมมือถือที่ออกมานานเป็นปีๆแล้ว ให้ผมซื้อราคาสูงอยู่ผมคงไม่เอาจริงๆ ถ้ามีคนมาขาย 4S ไม่เกิน 12k ผมซื้อทันทีเลย เพราะเกินกว่านั้นผมไปเอา Meisu M4 น่าจะคุ้มกว่า เข้าใจว่านานาจิตตัง แต่การที่ทำให้ลูกค้าจ่ายตังยอมชาบูขนาดว่าเค้าไม่ใส่มาให้ก็ยังเห็นดีด้วยผมมองว่าแบรนด์เข้าขั้นลัทธิไปแล้ว ทั้งที่เราขาดทุนนะนั้น
คุณครับ เครียดเกินไปมั้ย เห็นตอบซะยาวหลาย rep เลย ^^"
ผมว่าคุณอคตินะที่ไปคิดว่าคนที่บอกว่า NFC ไม่จําเป็น (ผมเป็นหนึ่งในนั้น) แปลว่าเป็นพวกที่่กป้อง brand คือผมก็แค่แสดงความคิดเห็นไปตรงๆ นะครับว่า NFC นี่มีก็ไม่ได้ใช้ในบ้านเราในระยะเวลาอันใกล้แน่ๆ แน่นอนครับว่ามีย่อมดีกว่าไม่มี แต่ถ้าถามว่าผมอยากได้ไหมผมเฉยๆ นะ
คุณมักบอกว่า NFC ทําอะไรได้มากมายกว่า payment แต่ก็ไม่เห็นคุณจะยกตัวอย่างอะไรมาให้ดูเลย แถมไปยกตัวอย่างการซื้อนํ้าจากตู้กดนํ้าในญี่ปุ่นมาอีก ขนาดแม้แต่คุณเองยังคิดถึงเรื่อง payment เป็นหลักเลยแล้วจะไม่ให้คนอื่นคิดถึงเรื่อง payment ได้อย่างไร
ไม่รู้ว่าส่วนตัวคุณใช้บัตรเงินสดกับร้านสะดวกซื้อหรือไม่ ถ้าใช้คุณเติมเงินครั้งละเท่าไร เคยทําบัตรหายหรือไม่ ถ้าไม่มีทําไมคุณไม่ใช้ทั้งๆ ที่มันสะดวกกว่า?
เหมือนคุณจะพยายามเรียกร้องให้ Apple ผลักดัน NFC แต่ผมกลับคิดว่าทําไม Apple ต้องช่วยผลักดันด้วย ผมไม่ได้เข้าข้างใครแต่ผมว่าธุรกิจก็คือธุรกิจ ในผับดังขายนํ้าอัดลมขวดละ 60 บาท กําไรมาเป็น 10 ปี ผมก็ไม่เห็นว่าเขาจะสมนาคุยคนไปเที่ยวผับอะไรแต่อย่างใดนะ
That is the way things are.
ผมก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันเอาไปทำอะไรได้มากกว่า payment หรือส่งไฟล์ข้ามเครื่องหรือเปล่าก็เลยลองไปค้นๆ มาก็เจอมาประมาณนี้ครับ
Nokia Play 360° - Portable Speakers with NFC Technology << ลำโพงที่ส่งเพลงจากมือถือไปลำโพงทาง NFC
Mobile World Congress 2012: using NFC technology for more than just payments << เอามือถือไปแตะแล้วจะได้รับข้อมูลกับเอาไปใช้รับของแจก
Customer Loyalty Program using NFC Technology << เอามือถือไปแตะเพื่อรับแต้มกับเอาแต้มไปใช้
NFC Mobile Technology - Opens Doors << ใช้เพื่อเปิดประตู
Augmented Reality using NFC Technology << ถ้าเข้าใจไม่ผิดใช้ NFC แตะเพื่อรับข้อมูลแล้วข้อมูลนั้นแสดงออกมาเป็นแบบ Augmented Reality บนหน้าจอมือถือเพื่อแสดงตำแหน่งและระยะของสถานที่ต่างๆ ดูอันนี้แล้วนึกไปถึงงานหนังสือบ้านเราที่เวลาหาซุ้มทีก็ต้องไปดูบนบอร์ดใหญ่ๆ ว่าสำนักพิมพ์ที่เราต้องการไปซื้อหนังสืออยู่ตรงไหน ถ้าเทศกาลหนังสือบ้านเราใช้อย่างนี้บ้างก็น่าจะดี เอามือถือไปแตะแล้วข้อมูลจะเข้ามายังมือถือเรา เราก็เอามือถือไปส่องดูรอบๆ ตัวเราว่าซุ้มของสำนักพิมพ์นั้นอยู่ที่ไหน
อันแรกมันแค่ Tap to Pair ครับ ที่เหลือก็ BT เหมือนเดิม แต่ชอบที่เอา 2 ตัวมาเป็น Stereo ได้เจ๋งดี (แต่ใครจะมาซื้อสองตัวล่ะหว่า หาคนใช้คงไม่มี)
ส่วนใหญ่ NFC มันจะอำนวยความสะดวกเพื่อ Feature หลักอื่นๆ มากกว่าที่จะเป็น Feature ใหม่ด้วยตัวเองจริงๆ
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
Tap to Pair นี้มันสุดยอดเลยนะครับชีวิตสะดวกขึ้นมากการที่ เปิดสัญญาณ>กดหา>แพร์>ใส่รหัสยืนยัน>เลือกไฟส์ >กดส่ง>ค้นหาเครื่อง>เลือกอุ่ปกรณ์>ส่งจริง ผมคิดว่าขั้นตอนมันเยอะไปครับถ้ามีอะไรที่ทำให้มันตัดตอนให้สั้นลงคงสะดวกกว่านี้ สารภาพว่าชีวิตจริงรุ้สึกเบื่อหนายกับการส่งไฟส์ในมือถือมากๆครับ กลายเป็น "โอเค เดี๋ยวอัพเฟซให้ไปโหลดมาดูละกันเดี๋ยวตั้งส่วนตัวไว้"
หนังสือติด NFC Catch the Sun
ตัวอย่างนึงนะครับ
http://www.youtube.com/watch?v=Vn0QQM3pL44
ผมขอโทษด้วยที่พูดแล้วไม่ได้เอามาอ้างให้ดู แต่ผมไม่ได้พูดลอยๆผมไปดูมาแล้วว่ามันสามารถดัดแปลงทำอะไรได้อีกเยอะ พูดง่ายๆมันก็เหมือน port ชนิดนึงที่เราจะเอาไปดัดแปลงเขียนโปรแกรมอะไรใส่ไปให้สะดวกได้หลายแบบ ติดใจเรื่องไม่ใสมาให้อย่างเดียวเท่านั้นแหละ เพราะมองว่าไอที่เพิ่มเติมมาก็ไม่เห็นน่า ข้ามไปเป็น Gen 5 ซะเท่าไหร่เลยออกแนว 4S plus แบบบางค่ายมากกว่า อิอิ เรื่องอื่นผมไม่สนใจอะไรนานาจิตตัง แต่ไม่เข้าใจว่าการไม่ใส่มาให้ถึงยอมรับกันได้ เหมือนดังว่า Apple บอกยังไงก็ต้องยังงั้น เฟสไทม์ wifi ก็พอแล้วก็เห็นตามกัน แล้วมาทำให้ผ่าน 3G ได้ทีหลังคือ อันนี้พอเข้าใจว่าของมันมีแค่ทำให้ใช้ได้หรือไม่ แต่เล่นไม่ใส่มาเนี่ย = =!! ทำไมการไม่มีถึงดีกว่ามีหว่า กินแบตเหรอถ้ามีก็ไม่ใช่ สุดท้ายผมมองว่าก็คือการลดต้นทุนตัวเองทั้งที่กำไรบานเบอะแล้วแค่นั้นจริง ใส่มาใครใคร่ใช้ก็ใช้ไม่ได้ลำบากหรือโดนประณาม แต่เล่นแบบนี้พอมันบูมเหมือนบังคับซื้อใหม่ เหมือนว่าเห็นว่าตัวเองฐานลูกค้าเยอะบริษัทคาดเอาหวังเอาหรืออะไรก็ได้ว่ามันต้องไม่บูมลูกค้าทุกคนก็ต้องเสี่ยงที่อาจจะต้องซื้อใหม่หากจำเป็นต้องใช้ตามการคาดเดาของบริษัทไปด้วย ลูกค้ามีแต่ออกตังส่วนบริษัทมีแต่ได้ขายรุ่นใหม่ได้อีก = =!!
nfc มันจะเหมือน 3g หรือเปล่าครับ ผมจำได้ว่ามือถือ nokia รุ่นที่รองรับ 3g พวก n?? ออกมาแล้วก็ตกรุ่นไปอยู่หลายปีกว่าคนไทยจะได้สัมผัส 3g ตัวเป็นๆ แต่ก็ยังเป็น 3G แบบผลุบๆ โผล่ๆ อยู่ดี ไม่รู้อีกกี่ปีกว่าจะ 3G แท้ ถึงตอนนั้นเมืองนอกเค้าคงใช้ LTE เป็นมาตรฐานไปแล้ว
NFC มีก็ดี แต่ไม่มีก็ไม่ถึงตาย เพราะเชื่อว่าอีกนานกว่าเมืองไทยจะใช้กันเป็นจริงเป็นจัง..
ที่พูดมาก็ไม่ผิดหรอก มันคล้ายๆเรื่องเครื่อง Fax นั้นแหละ
"เครื่อง Fax เครื่องแรกของโลกควรส่ง Fax ไปให้ใครดี?" ถามว่าเครื่อง Fax ดีไหม? ดี คล้ายๆกัน
NFC ไม่ได้ไม่มีการใช้ ไม่มีให้ใช้แต่มัน รอผู้ใช้ที่มี NFC มาใช้ต่างหาก ถ้าไอโฟนใส่มา แปลว่าในมือถือคนนับล้านจะมีมันพร้อมที่จะใช้ ถ้ามันไม่มีมาก่อนในโลกหรือใหม่มากผมจะไม่ว่า แต่มันมีมาพักนึงแล้วรอการผลักดันมากกว่า ผมแปลกใจว่าทำไมไม่ใส่มาทั้งที่ จะบอกว่าทำราคาเท่าเดิมไม่ได้ก็ไม่น่าใช่ เพราะสิ่งอื่นที่ยัดมา(จอยาวขึ้น CPU แรงขึ้นกว่าเดิม)ไม่น่ามีราคาแพงขึ้นจนยัด NFC ไม่ได้ เพราะเค้าแทบไม่ต้องหาวัตถุดิบชนิดใหม่มาสร้าง
ผมก็ไม่รู้นะว่า NFC มันมีความจำเป็นต้องเอามาใส่ในมือถือขนาดไหนคุณถึงใส่ใจกับมันมากขนาดนี้ ดูไปมันก็ยังไม่ใช่ประเด็นสำคัญหลักๆ ที่จะต้องเอามาใส่สักเท่าไหร่ ผมว่ายังไม่ต้องเดือดร้อนอะไรดีกว่าเพราะผมมั่นใจว่าเมื่อถึงเวลามันก็จะมาเอง ส่วนใครจะมีแนวคิดเชิดชูกับสิ่งที่ไม่ได้ใส่มาก็ปล่อยๆ เค้าไปเถอะครับ
ผมเลือกที่ OS ก่อนแฮะ พอดีพี่ซัมแกรัน iOS ไม่ได้ด้วย จะรอดูลีลาการออกแบบ WP8 แข่งกับ Nokia อีกที ถ้าไม่ถูกใจก็จบกัน ระบบนิเวศของสองเจ้านี่ก้าวหน้ามี OS ตั้งโต๊ะรองรับ
ผมว่าที่ Samsung ยังจะกัดแบบการต่อคิวซื้อก็คงเป็นเพราะ Samsung ออกมือถือลงตลาดได้ห่วยมาก ซอยรุ่นเล็กน้อนยิบย่อย แล้วแถมดีไซต์คล้ายกันจนคนงงกระทั่งคิดว่า เฮ้ยย มันดีไซต์คล้ายกันแต่ราคาถูกกว่าว่ะ ไม่หรูหราสมกับเป็น s3 เลย (ถ้าจะให้ดี ล้มความคิดที่จะซอยรุ่นมือถือ 3-4 พันแล้วใช้แอนดอยไปซ่ะ ! เหลือ Windows Phone กับ Android ตัว Top ปีละรุ่นเท่านั้น รุ่งเรืองแน่!)
แล้วคุณไม่คิดบ้างหรือครับว่าเค้าจะทำซอยรุ่นมาทำไม คนเรามันมีหลายระดับ ระดับของผมคือ ทั้งกำลังทรัพย์และความจำเป็น อย่างผมซื้อให้แม่ผมก็ไม่จำเป็นต้อง S3 แต่เป็น Galaxy Cooper ธรรมดาเพราะคนแก่ไม่ได้ทันเทคโนโลยีอะไรมากแต่ก็อยากจะให้พอลงแอพอะไรที่จำเป็นต้องใช้ได้บ้าง ทำไมผมต้องเสียตัง 20k เพื่อที่จะซื้อละครับ หรืออาจจะคิดกลับไปตอนเรียนอยากได้มือถือแต่ไม่มีตังก็เก็บตังซื้อเอง ได้ซักสี่ห้าพันก็พอที่จะซื้อสมาร์ทโฟนใช้ได้ ไม่งั้นซัมซุงคงไม่ได้ก้าวมาแซงหน้า Nokia แบบนี้หรอกครับ
สนุกเลย แอบกัดกัน มันส์
ios ดีจริง android พึ่งจะมาเข้าท่าและมีแววจะมีอะไรให้แปลกใหม่อยู่เรื่อยๆ รุ่นหน้าขอให้ตื่นเต้นเหมือนเมื่อก่อนหน่อยเถอะ apple
ความเห็นส่วนตัวนะครับ จริงๆสองยี่ห้อนี่ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไปอยู่ที่เหมาะกับเรามากกว่าสำหรับผมใช้มาสองยี่ห้อแล้วไม่เห็นว่ามันสุดยอดที่สุดเลย
นั่นดิ
พักหลังๆผมก็เฉยๆแล้วแฮะ ลองจับลองใช้มาแล้ว(ตัวเก่าๆอะนะ) มันก็มีข้อดีข้อด้อยต่างกันนะ
ผมไม่เน้นที่ตัวเครื่องเท่าไหร่ผมเน้นที่แอพลิเคชั่นมากกว่า ว่ามันมีที่ตอบโจทย์ผมได้หรือเปล่า
ส่วนเรื่องโฆษณาเนี่ยผมมองว่ามันเป็นสีสันนะ ขำๆสนุกๆให้แฟนๆได้ออกกำลังกายเล่นปะทะฝีปากกันซะมากกว่า ซัมซุงไม่กัดแอปเปิลจะไปกัดใคร
ผัวเมียทะเลาะกัน เชิ้บๆ
Blognone = 138.1 news/w เยอะมากๆ
ทะเลาะกันเยอะๆ ลูกจะได้ดกๆ 5555