ครั้งหนึ่งสิทธิบัตรเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวเคยถูกนำเสนอต่อ Microsoft และ Sony ซึ่งพากันเมิน ก่อนที่สุดท้ายมันจะตกไปสู่ Nintendo และได้รับการพัฒนาจนกลายเป็นเครืองเกม Wii ที่ขายดีถล่มทลาย
Tom Quinn ซึ่งเป็นเจ้าของเดิมของสิทธิบัตรดังกล่าวได้ให้สัมภาษณ์แก่ CVG และเล่าว่า เขาเคยเข้าพบผู้บริหารของ Microsoft เพื่อนำเสนอสิทธิบัตรเซ็นเซอร์จับการเคลื่อนไหวด้วยหลักการทำงานของ gyroscope โดยหวังว่า Microsoft จะสนใจนำสิ่งนี้ไปพัฒนาร่วมกับ Xbox แต่กลับต้องผิดหวัง
หลังจากนั้น Quinn ได้ติดต่อ Sony และได้พบกับ Kutaragi ผู้ได้ชื่อว่าบิดาแห่ง PlayStation แต่ผลงานของ Quinn ก็ถูกมองข้ามไปอีกเช่นกัน โดย Quinn กล่าวว่า Kutaragi ไม่แม้แต่จะมองหน้าจอการนำเสนอของเขาด้วยซ้ำ
ท้ายที่สุด Quinn จึงลองนำเสนอสิทธิบัตรของเขาให้แก่ Nintendo ที่ซึ่งเขาไม่ได้สนใจมาแต่แรก เพราะมองว่ายอดขายของ Nintendo ยังตามหลัง 2 คู่แข่งสำคัญอยู่มาก แต่ทว่าเป็นที่นี่เองที่ตกลงทำสัญญากับเขา และเป็นจุดเริ่มต้นของ Wii
Quinn ทิ้งท้ายว่า "เมื่อมองย้อนกลับไปทั้งหมด มันเหลือเชื่อที่ Microsoft และ Sony ต่างพากันตาถั่วขนาดนั้น"
Comments
microsoft เขามองข้ามช๊อตไปโดยไม่อยากให้ถืออะไรเลยมั้ง เลยได้มาเป็น kinect
ใช่ครับผมว่า sony อ่าพลาดจริง แต่ MS เขามองข้าม ไปที่ kinect เลยมากกว่า
นั้ันสิน่าจะเป็นแค่ sony มัง เพราะไม่แม้แต่ดูจอเลยด้วยซ้ำไป
ในเวลานั้นผมว่า gyroscope อาจจะไม่ค่อยตรงกันแนวทางของ PS ที่เน้นประสบการณ์ด้านกราฟฟิกสักเท่าไหร่
แต่ตอนหลังก็ยังได้ PS Move มานะ
+1 คิดเหมือนผมเลย
แต่ในมุมมองผม ปุ่มยังสำคัญอยู่ดี อย่างน้อยก็ใช้ร่วมกับการเคลื่อนไหว เช่นสั่งยิง
+1 แต่ทางโซนี่เขาก็แก้เผ็ดโดยการทำเว็บ Yay Button แทน
Coder | Designer | Thinker | Blogger
kinect มันออกมาหลังwiiซักพักแล้วนิ จนwii ออกแผ่นเล่นโยคะ kinectก็พึ่งโผล่มาช่วงนั้น
น่าจะได้ ไอเดียจากwiiนะ ว่ามันเจ๋งดีและขายได้ เลยเริ่มมีplay moveก่ะ kinect ทยอยออกมา
อย่าบวกเวลาในการพัฒนาเน้อ MS อาจมีโปรเจคนี้ก่อนอยู่แล้ว ก็เลยไม่รับไอเดียของนายคนนี้ก็ได้ ก็คิดกันไป
wii ออกขายปี 2006kinect ออกขายปี 2010
ถ้ามองข้ามช็อตก็เป็นการมองที่นาน.. มากๆ ครับ
ผมก็เห็นหลายคนเขามองว่าkinectได้แรงบันดาลใจมาจากwiiมากกว่ามองข้ามช็อตนะครับ ฮา
เทคโนโลยีบางอย่างมันก็อาจจะยังไม่พร้อมที่จะผลิตขาย หรือวิจัยนานไปหน่อย พร้อมกับต้นทุนที่แพงมากที่จะทำออกมาเพื่ออะไร ในเวลานั้นๆ เท่าที่ผมไปค้นๆ ดูมา kinect มันเริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2005 แล้วครับ
http://patentscope.wipo.int/search/en/WO2007043036
คือ ms ตั้งใจจะใส่ kinect ใน xbox มาตั้งแต่ตอนนั้นเลยเหรอ หรือว่าเห็น wii ขายดีเลยเอาอันนี้(ที่มีการพัฒนามาก่อนหน้านั้นแล้วโดยทีมงานอื่น?โดยยังไม่ได้เจาะจงว่าจะเอาไปทำอะไร?)มาใส่เพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาด
ถ้าเป็นอย่างแรกนี่ผมจะทึ่ง ms มากๆเลยนะ อ่านขาดมาก
เทคโนโลยีวิจัยกันนานจริงครับ แต่ kinect นาน, wii ก็นานนะครับ เท่าที่ผมลองหาข้อมูลดู
ปลายยุค 80 quinn เริ่มค้นคว้า motion control.
1999 quinn ได้รับสิทธิบัตร. Sony เริ่มค้นคว้า Eye.
2000 PS2 วางตลาด.
2001 quinn นำเสนอต่อ microsoft, sony และขายให้ nintendo ในที่สุด. Sony เริ่มค้นคว้า move. Xbox, GameCube วางตลาด.
2003 EyeToy(eye for PS2) วางตลาด.
2004 e3 nintendo พูดเรื่อง Wii(Revolution), Sony พูดเรื่อง PS3.
2005 PRIME SENSE LTD เริ่มค้นคว้า kinect. Microsoft ประกาศ Xbox360 ทาง mtv. E3 nintendo ประกาศ Wii(Revolution), Sony ประกาศ PS3. TGS nintendo นำเสนอ Wii-mote(Revolution's controller) เป็นครั้งแรก. Xbox360 วางตลาด.
2006 E3 nintendo ประกาศชื่อ Wii. Wii, PS3 วางตลาด. Sony ได้สิทธิบัตร Move.
2007 Bill Gate พูดเรื่อง camera-based control. PRIME SENSE LTD ได้สิทธิบัตร Kinect. Playstation Eye วางตลาด
2009 Microsoft ซื้อบริษัท 3DV(3D camera). E3 microsoft ประกาศ kinect (project natal) Sony ประกาศ Move. Wii MotionPlus วางตลาด
2010 Microsoft ประกาศใช้ chip จาก PRIME SENSE LTD ใน kinect. Move, Kinect วางตลาด
ปัจจุบัน Wii ขายได้ 97 ล้าน เป็นที่ 3 รองจาก PS1(102m), PS2(150m) นำทั้ง xbox360และ PS3 ที่อยู่ประมาณ 70 ซึ่งยืนยันความสำเร็จของ Wii ได้เป็นอย่างดี
ปล.น่าสนใจที่ว่า Sony เริ่มค้นคว้า Move ปีเดียวกับที่ Quinn มานำเสนอ motion control แต่ถึงยังไงเทคโนโลยีก็เป็นคนละทางกัน ถึงผลจะออกมาคล้ายกัน
MS บอกเทคโนโลยีในอนาคตจะใช้เรื่องกล้องจับภาพApple บอกว่าเครื่องพกพาคือเทคโนโลยีในอนาคต
เหมือนจะพูดกันนานมากแล้ว
ถามจริง เคยติดตามการเกิดของ kinect รึเปล่าครับ
ตอน Wii กำลังฮิต Johnny Lee ก็เอา remote wii และตัว infrared sensor มาเล่น
พร้อมทำ reverse engineer มันออกมา เขียน tool แจกให้คนไปโมกันสำหรับเล่นบน windows(ถือremote wii เล็งที่จอคอมเล่น counter strike)
แล้วตาคนนี้ถูก MS ซื้อตัวไปพัฒนา Kinect จะเมื่อ Kinect เสร็จสิ้นก็ลาออกจาก MS เรียบร้อยแล้ว
ไม่ได้ตามแล้วก็ไม่ได้สนด้วยครับ เพราะผมไม่ได้เล่นเกมคอนโซล
Quinn ทิ้งท้ายว่า "เมื่อมองย้อนกลับไปทั้งหมด มันเหลือเชื่อที่ Microsoft และ Sony ต่างพาตาถั่วขนาดนั้น"
น่าจะเป็น "ต่างพากันตาถั่วขนาดนั้น" จะอ่านได้ดีกว่านะครับ
Playstation -> PlayStation
ต่างพากันตาถั่วทั้งนั้น 555 ชอบคำนี้อะ ><
ยังไงก็ต้องมีพลาด บริหารเยอะ ก็คงมีเรื่องให้มองหลายเรื่องอยู่ หรือ อาจเป็นเพราะสองครั้งแรกQuinn นำเสนอได้ไม่ดี มาปรับตัวได้ตอนเจอnintendo
+1 มีส่วนมากเลย ผิดพลาดและแก้ไข แต่ถ้าเป็นผู้บริหารมีวิสัยทัศ ผมว่านำเสนอ แบบง่อยๆ ก็ต้องมองเห็นอนาคตบางอย่าง หรือว่าแบบนี้มันเป็นไอเดียที่น่าต่อยอดได้เจ๋งสุดๆ ^^
พูดอย่างนี้ก็เหมือนซื้อหวย พอเลขออกมาแล้วก็ทายอย่างโน้นอย่างนี้ถูกหมด
ลืม EyeToy ไปหรือเปล่าครับ มันมีมาตั้งแต่ PS2 แล้วนะครับ โซนี่ไม่เอามาทำจริง ๆ จัง ๆ จนกระทั่ง Wii ออกมา เจ้า EyeToy เดี่ยว ๆ เลยล้าหลัง ต้องมี Move มาช่วย แต่ไมโครซอฟท์ก็ยังสรรหาเทคโนโลยีที่เหนือกว่าอย่าง Kinect มาชนอีก ถ้าโซนี่ไม่มีไม้เด็ดใน Gen หน้า คงหืดขึ้นคอแน่เพราะ PS Vita ตอนนี้ก็ดิ้นอย่างหนักเลย
ก็ถือเป็นเรื่องโชคดีทั้งสองฝ่ายครับ ถ้าเจ้าอื่นที่ว่ามาได้ไป อาจจะไม่เกิดขนาดนี้ก็ได้นะ
นินเทนโดจำเป็นต้องสร้างนวัตกรรมใหม่ๆขึ้นมาตลอด เพราะไม่งั้นก็จะไปทับไลน์ลูกค้ากับโซนี่ที่เน้นแต่กราฟฟิค
ผมเลยชอบนินมากกว่ามาตลอด
นินเทนโด ให้อารมณ์เดียวกับ แอปเปิ้ล เลยครับ
ผมเฉยๆนะกับนิน เพราะนวัตกรรมที่สร้างไม่ได้พยุงอุตสาหกรรมโดยรวมไปด้วย เครื่องเค้าสามารถขายเกมได้แค่ 1st กะ 2nd party ส่วนค่าย ms กะ sony กลับสร้างรายได้ให้อุตสาหกรรมโดยรวมมากกว่า ส่วนสาเหตุผมว่าเพราะ nin อกกเครื่องมาแนวอินดี้ตั้งแต่ n64 ทำเอาชาวบ้าน(ผู้ผลิตเกมส์)ปวดขมองกันไปตามๆกัน
อันนี้งง ผมอ่านแล้วไม่ค่อยเข้าใจ ช่วยอธิบายทีครับ
แล้วเกมของ 3rd ที่ขายดีมากๆ ของเครื่อง GBA, NDS จะเรียกว่าอะไรดี