Apple บล็อคปลั๊กอิน Java เป็นรอบที่สองของเดือนมกราคมแล้ว ( รอบแรก ) อันเนื่องมาจากปัญหาความปลอดภัยของ Java ที่ถูกค้นพบอยู่เรื่อย ๆ และการแก้บั๊กที่ล่าช้าของ Oracle นั่นเอง
คราวก่อน Apple อัพเดตไฟล์ blacklist ที่ชื่อ Xprotect.plist (ปกติไฟล์นี้จะอัพเดตเองอัตโนมัติเมื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต) เพื่อปิดการทำงานของปลั๊กอิน Java จนกว่า Oracle จะออก Java เวอร์ชันใหม่ แต่ถึงแม้จะออก Java เวอร์ชันใหม่มา กลับมีผู้ค้นพบช่องโหว่ที่รุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ (ติดตามได้จากแท็ก Java) และการแก้ไขอันล่าช้าของ Oracle ทำให้ Apple สั่งปิดปลั๊กอิน Java บน OS X อีกครั้ง
การอัพเดตนี้จะมีผลต่อผู้ใช้ OS X 10.6 ขึ้นไป เพราะ Apple ยังคงดูแลอยู่ แต่ระบบปฏิบัติการอื่นที่มีปลั๊กอิน Java ติดตั้ง หากไม่จำเป็นต้องใช้ก็ควรปิดการใช้งานหรือลบทิ้งเพื่อความปลอดภัย
ที่มา - The Next Web , MacRumors
Comments
แก้ช้าจนจาวาจะเป็นโรคช่องโหว่เรื้อรังแล้ว
Dream high, work hard.
เสริมครับ
เรียบร้อยครับ
แก้แล้วครับ
เมื่อจะแก้Bugหมด? เสียดายJavaไม่อยากลบ ._.'
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ผมออกแนวขี้เกียจลบ
พนักงาน Google คงมีเงิบกันบ้าง มีหลายคนต้องเขียน App แอนดรอยด์ แต่รัน Eclipse ไม่ได้เพราะ java โดนบล๊อค 555
(ผมว่าผมอ่านไม่ผิดนะ ดูแล้วมันไม่ได้บล๊อกเฉพาะ applet)
แต่ผมใช้วิธีการ copy แบบ portable ไม่ต้องติดตั้งก็ใช้ได้
http://www.macrumors.com/2013/01/31/apple-once-again-blocks-java-7-web-plug-in/
อย่างน้อยก็มีข่าวที่ทำให้คนไม่สับสน ช่วงนี้ข่าวความปลอดภัยบน Java applet, java web startจะเขียนแบบสั้นๆว่า Java จนทำให้คนนึกถึง JVM แทนที่จะเป็น java plugin บน browser
ผมว่าเขียนข่าวอย่างนี้ก็น่าสนใจดี
Microsoft พบช่องโหว่บน C (ActiveX เขียนด้วย C) แนะนำให้ block C
สุดท้ายพอว่าระบบ Antimalware ดันเขียนด้วย C อีก แต่ยัง block ไม่ได้เพราะ
ต้อง block OS ก่อน แต่ถ้า block OS แล้ว Antimalware ก็จะทำงานไม่ได้
เกิดปัญหาจึงต้องทำการ format drive แต่ตัว format drive ดันเขียนด้วย C อีก
PC รุ่นหน้าจึงต้องติดระบิดขนาดจิ๋วไว้ที่ harddisk กดเปิดเครื่องปุ๊ประเบิดทำงานปั๊บ ป้องกันไม่ให้
โปรแกรมใดๆทำงานได้ sure สุด
หรือ
สมมุติว่า Safari เขียนด้วย Obj-C
Apple พบช่องโหว่บน Obj-C .....
เรื่องนี้สอนให้รู้ว่าเวลาสร้าง brand อย่าเอา brand ไปแปะไว้หน้าทุกผลิตภัณฑ์จะได้ไม่ตายหมู่
ขนาด javascript ซึ่งไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเค้าด้วยเลย อาจจะโดนหางเลขไปด้วยเพราะดันมีคำว่า
java อยู่ข้างหน้า
Paypal, Amazon, Linkedin, Yahoo และอีกมามาย ผมเดาว่าเค้าใช้ java (บน server) นะครับระวัง HTML จะพุ่งชนได้
ผมแก้ข่าวตามนี้และเพิ่มที่มาแล้วนะครับ จะได้ไม่สับสน
+1 backend ของแอพฝั่งเซิร์ฟเวอร์ค่อนโลกเป็นจาวา ดังนั้นก็คงต้องปิดไปก่อนเพื่อความปลอดภัย
ไม่เก่ง java นะ แต่อยากรู้ว่า พวก openoffice libreoffice อันตรายไหม
กดดู tag Java เฉพาะหน้าแรกมีข่าวดีอยู่ 5 ข่าวร้าย 15
Apple ดูแลดีจริงๆ