รายงานจาก Ofcom (เรียกง่าย ๆ ว่าเป็น กสทช. ของอังกฤษ) กว่าครึ่งของประเทศใช้มือถือสมาร์ทโฟน แต่ 22% ของผู้ใช้กลุ่มนี้บอกว่าจะไม่เปลี่ยนไปใช้บริการ 4G ในอนาคตอย่างแน่นอน ส่วนสองในสามของผู้ใช้สมาร์ทโฟนในประเทศบอกว่าพวกเขาไม่มั่นใจ ว่าจะเปลี่ยนไปใช้บริการ 4G หรือไม่ในอนาคต
สาเหตุหนึ่งที่ผู้ใช้ไม่ยอมเปลี่ยนไปใช้บริการ 4G ในรายงานบอกว่า น่าจะเป็นลักษณะสัญญาให้บริการที่ผูกมัด โดยผู้ใช้สมาร์ทโฟนส่วนหนึ่งระบุว่าจะเปลี่ยนไปใช้ 4G เมื่อสัญญาของตัวเองกับผู้ให้บริการสิ้นสุดลง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องจ่ายปรับยกเลิกสัญญา
นักวิจัยของ Ofcom บอกว่าผู้ให้บริการเครือข่ายเอง ก็ไม่ค่อยให้ข้อมูลแก่ผู้ใช้ได้ดีมากนัก เช่น การใช้คำว่า LTE กับการเปรียบเทียบความเร็วเป็น Mbps ทำให้ผู้ใช้สับสน อีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้คนทั่วไปไม่อยากใช้ 4G มากนักคือราคา โดย EE เครือข่ายรายเดียวที่ให้บริการ 4G อยู่ตอนนี้ระบุว่าพวกเขาไม่มีแผนที่จะทำให้บริการ 4G มีราคาถูกลงมาเทียบเท่ากับบริการ 3G แต่ก็ยืนยันว่าทุกวันนี้มีผู้ใช้บริการเริ่มเปลี่ยนมาใช้ 4G มากขึ้นเรื่อย ๆ อย่างต่อเนื่อง
จนถึงตอนนี้ มีเพียงค่ายเดียวที่ได้ออกมาประกาศว่าจะไม่เก็บเงินลูกค้าเพิ่มเพื่อใช้ 4G นั่นคือ 3UK อย่างไรก็ตามค่ายนี้กลับเร่งปรับเครือข่ายตัวเองให้เป็น DC-HSPA+ มากกว่าการลงทุนกับเครือข่าย LTE และเหมารวมสองเทคโนโลยีนี้ว่าเป็นเครือข่าย Ultrafast Network
Comments
ส่วนตัวนะผมคิดว่าความเร็วระดับ 3.9G HSPA+ เนี่ย ถ้าวิ่ง เต็มๆ นิ่งๆ ครอบคลุม เนี่ย มันก็เหลือเฟือแล้ว (ในตอนนี้)
เอาง่ายๆ HSPA+ เร็วกว่าเน็ตบ้านแพคเกจปกติตอนนี้แบบมากๆ (ตอนนี้ 10-15 mbps. มั้ง)แต่ว่าตอนนี้มันช้าๆง่อยๆ เพราะวิ่งกันแบบว่า 4-5mbps. ก็จะแทบกราบกันแล้ว (ไม่ต้องพูดถึง 42 mbps.)
ผมยังนึกไม่ออกว่าระดับ LTE เนี่ยจะใช้อะไร ในระดับ Personal Use ของ Smart Phone ตอนนี้
อาจจะต้อง Stream หนังโหดๆหน่อย ไม่งั้นก็ใช้แทนเน็ตบ้าน หรือระดับองค์กรณ์ขนาดเล็กอะไรแบบนั้น
ใช้กับ Content ตอนนี้ ก็คงเร็วกว่า 3G แบบไม่รู้สึกไรมาก (ไวมากทั้งคู่ ถ้า 3G เทพๆ)
ดังนั้นมันก็ต้องใช้เวลานาน ตามชื่อ Long Term Evolution นั่นแหละกว่า Content ระดับบุคคลจะใหญ่มากมาย เข้าถึงคนส่วนมาก 3G ช้าเริ่มเกิน
ถ้าถึงขนาดใช้จริงจัง ก็คงต้องสเถียรจนที่ว่า Call ผ่าน Line Whatapps Skype แล้วเสถียรพอเหมือนความอุ่นใจในระดับ 2G สมัยนี้ล่ะมั้ง (2G ช่วงรับปริญญา ยังโทรไม่ติดเป็นว่าเล่น)
ผมเข้าใจเอาเองว่าเสาของผู้ให้บริการ ถ้าเป็นเสา LTE จะรองรับผู้ใช้ได้มากกว่า HSPA+ นะครับ อย่าง HSPA+ 42Mbps บอกว่ากรณีใช้คนเดียว ถ้าใช้ 42 คนเต็มที่จะได้คนละเม็ก ถ้าเป็น LTE คนละเม็กอาจจะได้เป็นร้อยคนก็ได้
ถ้าพูดถึง เสาเท่ากัน ใช้ได้หลายคนขึ้นก็ดูโอเคนะครับต้นทุนน่าจะถูกกว่าตั้ง 3G หลายๆเสา
ถ้าพูดถึง LTE ต้องมองไปที่ UPLINK ครับ ไม่ใช่ DOWNLINK
ยกตัวอย่างง่ายๆ งานข่าว STREAM UPLINK ขึ้นไปที่โครงข่ายได้สบายมากๆ ภาพชัดไม่กระตุก
หรือ ถ้าใกล้ตัวหน่อยก็เวลาอัพโหลดไฟล์3G มันใช้ HSUPA ความเร็วแค่ 5.76 Mbps กว่าจะมาถึง user โดนแชร์ไปความเร็วเหลือ 1-3 Mbps (อย่างมาก)
แต่ LTE ผมใช้อยู่นี่ ถ้า iPhone ก็ 8Mbps แต่ถ้าเป็น Android ได้เร็วกว่านั้นเยอะครับ 10 ปลายๆ ถึง 20 Mbps ต้นๆครับ
ยังไง LTE ก็ต้องมาแบ่งโหลดจาก 3G
บ้านเพื่อนผมอยู่สมุทรสาคร เน็ตบ้านยังเข้าไม่ถึงครับ ถึงแม้จะถึงก็ตามไม่เดือนเดียวพัง ก็แรงงานพม่าตัดสายโทรศัพท์ไปขาย อยากให้มี Promotion ที่ใกล้เคียงเน็ตบ้านจริงๆ
จริงๆมันมีครับ ของ TOT เป็นแบบจำกัดความเร็ว ไม่มี FUPhttp://www.tot3g.net/PromotionInfo.aspx?pid=23
แต่คุณภาพ การครอบคลุม ผมไม่ทราบได้ T^T
ที่น่าสนใจในข่าวนี้คือ "นักวิจัยของ Ofcom" รู้สึกหน่วยงานของเค้ามีนักวิจัยด้วย ไม่รู้ของเรามีรึเปล่า หรือแค่ไล่จับละครติดเรทไปวันๆ
/me แอบนอยฮอร์โมน
เห็นคนในกสทช. ออกมาบอกว่าไม่รู้เรื่อง และข่าวไม่จริงนะครับ อีกอย่างไม่อยู่ในอำนาจนี่นา
เร็วมากมันจำเป็นไหมครับ ถ้าเป็นคนที่ใช้ส่งข้อมูลคงจะดี แต่คนทั่วไปทำอะไรเลย อัพรูป แชท 3จีก็โอเคแล้วครับ เขาเลยไม่สนใจ
ถ้าค่าเฉลี่ยความเร็วมันสูงขึ้น มันก็คุ้มที่จะอัพขึ้นไปใช้นะครับ