กระทรวงการคลังประเทศเยอรมนีประกาศรับรอง Bitcoin เป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคล และจะเรียกเก็บภาษีจากกำไรในการค้า Bitcoin
จากที่สมาชิกสภาของเยอรมนีรายหนึ่งได้เรียกร้องให้รัฐบาลพิจารณาสถานะของ Bitcoin เพื่อกำหนดแนวทางในการดำเนินการด้านต่างๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเหมาะสม ล่าสุดกระทรวงการคลังของเยอรมนีก็ได้ออกมากล่าวถึงเรื่องนี้ โดยระบุว่า Bitcoin มีสถานะเป็นสินทรัพย์ส่วนบุคคล เช่นเดียวกับหุ้นและพันธบัตร นั่นคือมีการถือครองและซื้อขายแลกเปลี่ยนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย
ทั้งนี้ได้มีการกำหนดให้ประชาชนผู้ถือครอง Bitcoin ต้องแจ้งจำนวนที่ถือครองต่อทางการทุกปีเพื่อแสดงว่าเป็นส่วนหนึ่งของสินทรัพย์ และหากในปีนั้นๆ มีการค้า Bitcoin จนเกิดรายได้ก็จะต้องแจ้งแสดงรายได้ส่วนดังกล่าวเพื่อนำมาประเมินภาษีในอัตรา 25% เว้นแต่ส่วนที่มีการถือครองนานเกิน 1 ปีจะได้รับการยกเว้นภาษีดังกล่าว
ส่วนบ้านเราในขณะนี้ธนาคารแห่งประเทศไทยยังไม่ยอมรับหน่วยเงิน Bitcoin และสั่ง ระงับการแลกเปลี่ยน Bitcoin ในประเทศไทยทั้งหมด เนื่องจาก เกรงว่าจะเกิดการค้า Bitcoin เพื่อเก็งกำไรค่าเงินบาท
ที่มา - Ars Technica
Comments
เป็นแนวคิดจัดการ BitCoin ที่ผมคิดว่าทันสมัยที่สุดครับ
ครับประเทศเขาไม่กลัวแต่เรากลัวเอาเก็งค่าเงิน แล้วที่ แบงค์ชาติ ตรึงค่าเงินจนขาดทุนประมาณ 5แสนล้าน เงียบเชียวนะส่วนตัวคิดว่า. น่าห่วงกว่าเงินกู้ 2ล้านล้าน ซะอีก ถ้าแบงค์ชาติยังดื้ออย่างนี้นะ ปล่อยวางซักนิดชีวีเป็นสุข
ขอตอบในระดับความรู้งูๆปลาๆนะครับขออธิบายโดยใจความที่ผมสรุปแล้วจำมานะครับ รายละเอียดลึกๆผมคืนอาจารย์เศรษฐศาสตร์ ไปหมดแล้วครับ
จริงๆค่าเงินบาทถูกตกเป็นเครื่องมือในการใช้เล่นแร่แปรธาตุมาหลายครั้ง เอาดอลล่าซื้อเงินบาท แล้วเอาเงินบาทไปซื้อเงินเยน แล้วเอาเงินเยนกลับไปซื้อดอลล่า ทำให้เกิดความไม่แน่นอนทางค่าเงินเอามากๆ
เราจึงใช้วิธี ถ้าแปลงค่าเงินเร็ว(ในไม่กี่วัน)จะต้องเสียภาษี แต่ถือนานไม่เสีย ป้องกันเหตุเงินไหลออก แต่ถ้ามีอะไรสักอย่างที่มีมูลค่าแทนเงินได้และไม่ได้รับการควบคุม มันอาจทำให้ประเทศล้มทั้งยืนได้เลยครับ
หรืออีกอย่าง ถ้าใครคนนึงมีเงินผิดกฏหมายสัก 100ล้าน จะเอามาใช้ยังไง?เข้าบัญชีปุ๊บโดนตรวจสอบปั๊บแต่ถ้าเอาไปซื้ออะไรบางอย่างที่มีมูลค่าแบบนี้ เงินก็ถูกฟอกเรียบร้อย....
จริงๆมันมีเล่นแร่แปรธาตุอีกเยอะ เรื่องนี้จริงๆอาจต้องเห็นใจแบงค์ชาติ ต้องศึกษาให้รอบคอบเพราะมันไม่มีโอกาศแก้ตัว ถ้าพลาด บ้านเราอาจทรุดไป สิบยี่สิบปีได้เลยครับ
ผมเข้าใจเรื่องกลัวของแบงค์ชาติครับ แต่ถ้าคุณรู้จักความดื้อ หรือมั่นใจในตัวเองจนไม่ฟังใครของคนแบงค์ชาติแล้วจะหนาวหรือร้อนดี
ยักษ์ใหญ่เขาไม่กลัวเรื่องค่าเงินครับ เพราะเขากำหนดตลาดได้
แต่ ประเทศเล็กๆ อย่างบ้านเราทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะหน้าตักเงินไม่พอ... (โซรอสเลยเข้ามาได้ไง)
ดังนั้น จึงมีมาตราการเรื่องเงิน คนละแบบกับ ต่างชาติเขา
และการ ใช้เงิน เพื่อเอามาพยุงค่าเงิน นั้น มันเป็นการปกป้องเศษฐกิจ ครับ รัฐเสียเงินแต่ธุรกิจยังอยู่ และมูลค่าทางธุรกิจ มันมากกว่าค่าเงินที่เสียไป เมื่อธุรกิจเสีย คนตกงาน รัฐเสียภาษี มองยังไงก็ไม่คุ้ม
แต่แท้ที่จริงแล้ว ผมว่ามันก็คนละประเด็นกับที่เราคุยกันอยู่เรื่อง Bitcoin นี่...
แต่ถ้าหากวันนึง คนไทยมีการเทรด Bitcoin กันมากขึ้น วันนั้น ก็คงจะมีนโยบาย เรื่องภาษี หรือรับรองสกุลเงินได้ส่วนตัวผมมองว่า bitcoin อาจจะเป็นแหล่งฟอกเงินได้นะ...
ครับผมนอกเรื่อง Bitcoin ไปแต่มันก็เกี่ยวกับทัศนะคติของคนแบงค์ชาติ
ในฐานะคนทำธุรกิจผมขอแย้งเรื่อง กำหนดค่าเงินของยักษ์ใหญ่ อย่างญี่ปุ่น เกาหลี ช่วงที่ผ่านมาเขาปล่อยเงินอ่อน แต่เรากลับตรึงค่าเงินสู้(ไม่ใช่พยุง) อย่างคุณว่าเราหน้าตักไม่หนาแล้วเราทำไปเพื่ออะไร ปล่อยอ่อนบ้างเล็กน้อยก็ได้แล้วคอยพยุงไม่ใช่ดื้อ จนขาดทุนค่าเงินไปเรื่อย ส่งออกยาก ของภายในจะแพงขึ้น
ผมสั่งของเข้าแพงขึ้นก็จริง แต่ส่งออกturnคุ้มกว่า
ปล. ยิ่งเขียนของยิ่งขึ้น
Meanwhile in Thailand...
It stills idiot, useless and out-dates. What a shame.
Get ready to work from now on.
ก็ไม่ outed เท่าไรนะครับ ในยุคที่เราเพิ่งมี 3G ใช้, รัฐบาลเพิ่งตื่นตัวกับเรื่อง IT, Cloud, OTPC ฯลฯ
การมีปฏิกิริยา "อิ๊อ๊ะ" อะไรบ้างจากธปท.กับเรื่อง BitCoin ผมก็ถือว่ายอมรับได้แล้วนะครับ เพราะถือว่าธปท.ยังรู้ได้ถึงการมีอยู่ของ BitCoin (awareness)
คราวนี้ต้องดูต่อว่าจะดองเรื่องนี้นานแค่ไหน ซึ่งคงต้องดูกันต่อไปครับ
ปล. BitCoin ไม่ใช่เรื่องสามัญในระดับที่คนทั่วไปจะรู้จัก แม้คน IT เองก็ตาม ถ้าไม่ใช่คนที่สนใจจริงๆ ก็คงจะไม่รู้จักครับ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังรู้จัก BitCoin หรือยังครับ?
ไม่ต้องทำตามหรอก ทำตามแบบของเราเนี่ยแหละ
ย้ายไปอยู่เยอรมันกันครับ
ไปโมนาโคไม่ดีกว่าหรือครับ ไปเยอรมันเล่น Bitcoin แล้วจ่ายภาษี 25% นะครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
"ทั้งนี้ได้มีการกำหนดให้ประชาชนผู้ถือครอง Bitcoin ต้องแจ้งจำนวนที่ถือครองต่อทางการทุกปี"ปัญหาคือ จะควบคุมยังไงเหรอครับ เพราะแต่ละคนก็ถือครองแบบ anonymous
ผมก็ไม่ทราบเหมือนกันครับ ไม่รู้ว่ามันมีการตรวจสอบย้อนกลับได้เหมือนกับการถือหุ้นหรือพันธบัตรรึเปล่า?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ส่วนตัวแล้ว ผมไม่ค่อยชอบ ธปท. เท่าไหร่ เพราะออกนโยบายแต่ละอย่างเหมือนอยู่บนยอดหอคอยงาช้างแล้วเขียนมาทั้งนั้น
แต่เรื่อง BitCoin ผมเห็นด้วยนะ ถ้าเครื่องมือในการควบคุมไม่พร้อมก็ไม่ควรปล่อยให้รุกล้ำเข้ามา (ยิ่ง BitCoin ค่าเงินมันแปรผันไวด้วย)
คน IT อาจมองเรื่องเสรีภาพ แต่ถ้าเสรีภาพอันนั้นมีโอกาสทำให้ระบบการเงินของประเทศมีความเสี่ยงได้ คน IT ก็ไม่ได้ไปร่วมรับผิดชอบใด ๆ นี่ครับ
ธปท. ก็ไม่เคยรับผิดชอบอะไรนี่ครับ
ตอนปี40 สู้ค่าเงินจนเงินหมด
ตอนรบ.ทหาร ประกาศปิดกั้นเงินไหลเข้าจนตลาดทุนพังทลายในวันเดียว
ไม่เห็นมีผู้ว่าฯคนไหนเคยรับผิดชอบทางกฎหมายอะไรเลย มีแต่อ้างว่าห้ามรัฐแทรกแซง(แต่ถ้ารัฐฟากตัวเองสั่งก็ทำตาม)
ที่ ธปท. ไม่ต้องรับผิดชอบเรื่องพวกนั้น เพราะระบบการทวงถามความรับผิดชอบของประเทศเรามันยังมีปัญหาต่างหาก
แต่ความผิดที่เกิดขึ้น มันก็ติดตัวผู้รับผิดชอบไปจนตายนั่นแหละครับ
สักวันระบบมันก็คงดีขึ้น อย่าพึ่งหมดหวังในระบบที่ถูกต้องเลยครับ
+1
อ่านแล้วทำให้อยากลองเขียนโปรแกรม bit coin mining ดูบ้าง
มาตรการเรียกเก็บภาษีเข้ารัฐฯ เพิ่มเตืมซินะ
ภาษี 25% นี่...เอ็งอย่าคิดใช้ Bitcoin ค้ากำไรจากการเทรดรายวันเชียว ภาษีบาน ฟอกเงินไม่ได้ แต่ถ้าใช้ทำธุรกรรมชำระเงินตามปกตินี่ OK
มันอยู่ที่วิสัยทัศน์จริงๆ รู้ว่าห้ามยากยังไงก็มีแอบใต้ดินแน่ๆ ก็เปิดให้ถูกต้องแต่เก็บภาษีซะเลย จะได้ควบคุมได้