จากดีล ไมโครซอฟท์ซื้อธุรกิจมือถือของโนเกีย คนที่น่าจะตกใจไม่น้อยคือประชาชนชาวฟินแลนด์ เพราะโนเกียถือเป็นความภาคภูมิใจของคนในประเทศนี้ โดยเริ่มจากการเป็นโรงงานกระดาษในปี 1865 และเปลี่ยนธุรกิจหลายอย่างจนเข้าสู่ธุรกิจสื่อสาร กลายเป็นบริษัทฟินแลนด์ระดับโลกรายแรก รวมทั้งเคยเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟนรายใหญ่ที่สุดในโลก มีรายได้คิดเป็น 4% ของจีดีพีในประเทศในขณะนั้น เมื่อเกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นปฏิกิริยาที่ออกมาก็แตกต่างกันครับ
Liisa Hannula ว่าที่คุณครูวัย 26 บอกว่าตลอดชีวิตเธอใช้โนเกียมาโดยตลอด และภูมิใจที่จะบอกทุกคนว่าโนเกียคือโทรศัพท์แบรนด์จากฟินแลนด์ แต่เมื่อเกิดเรื่องนี้เธอคงหนีไปใช้ซัมซุงแล้ว ส่วน Sirje Liemola วัย 56 พนักงานห้างสรรพสินค้าให้ความเห็นว่า คนฟินแลนด์นั้นกังวลมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Stephen Elop เป็นม้าไส้ศึกที่เข้ามาทุบมูลค่ากิจการโนเกีย สุดท้ายก็ปล่อยให้ไมโครซอฟท์มาซื้อกิจการไปในราคาที่ต่ำเหลือเชื่อ ซึ่งสุดท้ายเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริง
ส่วน Alexander Stubb รัฐมนตรีกระทรวงการค้ายุโรปบอกว่าเขาไม่แปลกใจที่คนฟินแลนด์จะตกใจกับเรื่องนี้ เพราะคนส่วนใหญ่โตมาและผูกพันกับโนเกีย แต่เขาก็เชื่อว่าความเสียใจนี้จะเป็นพลังให้คนฟินแลนด์สร้างสรรค์สิ่งใหม่ออกสู่ตลาดโลกได้อีกครั้ง โดย Stubb ยกตัวอย่างธุรกิจให้บริการศูนย์ข้อมูลที่ไมโครซอฟท์ก็สัญญาว่าจะลงทุนจัดสร้าง ว่าด้วยความโดดเด่นของฟินแลนด์ที่ระบบไฟฟ้ามีดาวน์ไทม์เพียง 1 ครั้งในรอบ 30 ปี ทำให้บริษัทยักษ์ของโลกอย่าง กูเกิล, ไอบีเอ็ม และ Yandex ล้วนเข้ามาลงทุนสร้างศูนย์ข้อมูลในฟินแลนด์ทั้งนั้น
ขณะที่ Ilkka Paananen ซีอีโอของบริษัท Supercell Oy ผู้ผลิตเกม Clash of Clans และ Hay Day ซึ่งก็เป็นบริษัทฟินแลนด์ก็บอกว่านี่คือสิ่งที่คนฟินแลนด์ต้องเผชิญ และพวกเขาเหล่านั้นก็ควรตื่นจากความฝันและออกไปแสวงหาโอกาสใหม่ๆ กันได้แล้ว
ที่มา: Bloomberg และ Business Insider
Comments
ผมสงสัยว่าในเมื่อคนส่วนใหญ่กลัวเหตุการ์ณเช่นนี้ ทำไมยังปล่อยให้ Elop เป็นซีอีโออยู่ ทำไมไม่มีประชาชนขึ้นมาประท้วง หรือแม้แต่ผู้ถือหุ้นในโนเกียเองทำไมยังปล่อยให้ Elop บริหารต่อไปอีก
มีผู้ถือหุ้นออกมาประท้วงอยู่เนือง ๆ แต่ว่าไม่ใช่ผู้ถือหุ้นใหญ่ก็เลยไม่ค่อยมีผลกระทบอะไรเท่าไหร่น่ะครับ (ถ้าเป็นผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่ล่ะก็บอร์ดบริหารเต้นแน่)
งั้นก็แสดงว่า Elop บริหารโนเกียได้ดีในระดับที่ผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่พอใจน่ะสิครับ?
Elop เข้ามาปี 2010 นะครับ ผมว่าผลงานเค้าไม่ได้แย่อะไร 2010 Nokia มีแต่ Symbian เป็นหลักอยู่เลย ไม่ใช่เข้ามาปุ๊บจะเสกทุกอย่างได้ทันที
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
เอ่อ ถ้าไม่เห็นด้วย คงต้องบอกให้ไปซื้อหุ้นกันเยอะๆ จะได้มีสิทธิ์โหวตนะครับ
บริษัทเอกชนก็ต้องทำตามผู้ถือหุ้น ไม่ใช่ทำตามความคิดเห็นของคนนอกครับ
เพราะเขาเป็นประชากรในประเทศที่พัฒนาแล้ว กระมั้งครับ :)
มีความมีวินัย ไม่ทำตามใจตัวเอง แบบประเทศสารขัน
+1 น่าขันนะครับ บริษัทเอกชนสุดขั้วขายให้กับต่างชาติต้องเอาประชาชนมาประท้วงกันเทียว?
คนละกรณีกันมั่งครับ หากกิจการนี้ภาครัฐเป็นเจ้าของหรือถือหุ้นใหญ่อยู่แล้ว ก็ไม่แปลกที่ประชาชนจะมีสิทธิออกมาเรียกร้อง
ว่าแต่ประเทศสารขันอยู่ที่ไหนครับ ผมเคยไปหรือเปล่านะ
ฟินแลนด์ หิมะปกคลุมเกือบทั้งปีครับ ประชาชนเลยออกมาปิดถนนลำบากครั้นจะออกมาชุมนุมยึดสำนักงานโนเกีย ก็อากาศหนาวเกิน พาลจะปอดบวมตายกันก่อนได้รับชัยชนะ
เลยไม่มีการประท้วงจริงจังครับ
อยากตั้งม็อบหรอคับ
นึกถึงที่ทำงานที่ไฟตกได้แทบทุกวัน ...
บ้านผมไฟดับทั้งภาคก็เจอมาแล้วน๊า
ผมเดีอนละครั้ง -.- ขนาดใน กทม. นะ..
ของผมอาการหนักเลย ไฟวูบครั้งละ 1-2 นาทีเกือบทุกอาทิตย์เฉพาะเมื่อวานตอนเช้า 2 รอบ
ร้องเรียนที่ทำการก็แล้ว ส่วนกลางก็แล้วไม่มีอะไรดีขึ้น T_T
ประเทศไทยไฟฟ้าไม่พอใช้นะครับอย่าลืมซื้อเขามาทั้งนั้นแล้วอีกหน่อยเขาก็จะไม่ขายแล้วเพราะประเทศเขาต้องใช้ไฟฟ้า ประเทศได้กำลังเข้าสู่ยุคแบ่งกันดับไฟฟ้าครับ
ย่อหน้าสุดท้าย เปลี่ยนเป็นประเทศสารขันเที่ยวก็ได้เหมือนกันแหะ 55555555555555555
ความรู้สึกจะคล้ายๆ ตอนขาย AIS ให้เทมาละมั้งนะ แต่ระดับของชาตินิยมอาจจะไม่รุนแรงเท่า... ตอนนี้ผมก็ยังเป็นลูกค้า AIS เหมือนเดิม
ผมว่าน่าจะต่างกันนะครับ
ธุรกิจที่เป็นหน้าตาของประเทศขนาดโนเกีย น่าจะเทียบกับโตโยต้าที่เป็น Japan Pride มากกว่า ธุรกิจที่เป็นเบอร์หนึ่งของโลก ไปที่ไหนก็ทำให้เราภูมิใจที่มาจากชาติเรา
"คนฟินแลนด์นั้นกังวลมาก่อนหน้านี้แล้วว่า Stephen Elop เป็นม้าไส้ศึกที่เข้ามาทุบมูลค่ากิจการโนเกีย สุดท้ายก็ปล่อยให้ไมโครซอฟท์มาซื้อกิจการไปในราคาที่ต่ำเหลือเชื่อ ซึ่งสุดท้ายเรื่องนี้ก็เกิดขึ้นจริง"
ขนาดผมเป็นคนไทยยังเจ็บใจแทน!!
ถ้าไม่ติดว่ามีม้าไส้ศึก ... ขายกิจการให้ Google รึ Samsung น่าจะได้ราคาสูงกว่านี้เยอะ
ต่อให้ขายให้หัวเหว่ย ก็น่าจะราคาดีกว่า M$
ขายให้เทมาเซ็กก็น่าจะราคาดีไม่น่อย
ไม่มีความรู้เรื่องธุรกิจอย่างงี้อ่ะ แต่สงสัยว่าถ้าพิสูจน์ได้ว่า Elop เป็นไส้ศึกจริงนี่มันไม่ผิดเหรอ ไม่มีใครทำอะไร MS ที่ทำงี้ได้เลยเหรอ
ผมว่ามันเป็นการแข่งขันอย่างเป็นธรรมนะครับ
ถึงจะเป็นไส้ศึกจริง ผู้ถือหุ้นเปลี่ยนตัว CEO ได้ตลอด ที่ไม่เปลี่ยนอาจเพราะว่า ดีสุดได้แค่นี้
ถึงเป็นไส้ศึกจริง ตอนราคาตกลงมา บริษัทอื่นที่ไม่ใช่ MS ก็เสนอซื้อได้ถ้าพอใจราคา
May the Force Close be with you. || @nuttyi
คนประเทศนี้ยังไงก็มีความสุขครับ .. ฟิน~~~~*....แลนด์
my blog
เก็ทมุข .... แต่ขรรมไม่ออก
ถูกเหลือเชื่อจริงๆ เห็นราคาครั้งแรกยังคิดว่าต้องเขียนผิดแน่ๆ แต่ก็ไม่เห็นผู้ถือหุ้นออกมาคัดค้านแสดงว่าสถานะภาพคงย่ำแย่จริงๆ
อย่ายึดติดกับความสำเร็จในอดีต ตัดอวัยวะ รักษาร่างกาย เพื่อให้ Brand Nokia ยังคงอยู่ รอบเทคโนโลยีมันสั้นหมดสัญญากับ Microsoft Brand Nokia อาจทำอะไรใหม่ๆ ก็ได้ ให้ Microsoft เช่าชื่อ Brand ใช้ไปพลางๆ ก่อน เพื่อรักษา Brand ไม่ให้หายไป ระหว่างนี้ก็เอาเงินมาทำทุนวิจัย แต่คิดว่าคงเป็นธุรกิจอื่นแล้วแหล่ะ
แต่ที่น่ากลัวคือ ยื้อกันสุดชีวิต จนสุดท้ายอาจพาประเทศล่มไปด้วย งานนี้ Win Win ทั้งสองฝ่าย รัฐบาลฟินแลนด์ก็ลอยตัวไป
น่าเป็นห่วงส่วนที่เหลือของโนเกียนะ
ตรงที่ว่าธุรกิจ infrastructure มันจะไปได้ไกลแค่ไหน
ถ้ามันไปได้ดี หุ้นส่วนอย่างซีเมนส์คงไม่ถอนตัวออกไป
ถึงตอนนี้จะอยู่ได้ แต่ต่อไปจะสู้ราคากับสินค้าจีนได้เหรอ
แล้วถ้าเจตนาบริการให้เจ๊งต่อ แล้วตอนจบก็ประกาศล้มละลาย
เอาสิทธิบัตรมาขายต่อถูกๆ ผู้ถือหุ้นเดิมก็ไม่เหลืออะไรนอกจากใบหุ้น
ถ้าซื้อไปทั้งหมดยังพอมีกฏให้ตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นคืน
แถมซื้อไปแค่ส่วนที่อยากได้ไม่ต้องรับผิดชอบพนักงานส่วนที่เหลือ รวมถึงหนี้ต่างๆด้วย
เข้าใจว่าทางโนเกียซื้อคืนจากซีเมนส์นะครับ ไม่ใช่ทางซีเมนส์ถอนตัวออก
และธุรกิจสายนี้ก็เป็นสายที่ทำกำไรได้งบไตรมาสล่าสุดที่ประกาศมา
ส่วนธุรกิจสายมือถือยังขาดทุนอยู่ครับ (เอาแค่ผลดำเนินการในไตรมาสนะครับ ยังไม่ต้องนับพวกค่าใช้จ่ายค้างจ่ายต่าง ๆ ที่มาหักเพิ่ม)
NSN ขายดีใช้ได้เลยนะครับ ช่วงหลังบริษัทฝรั่งเริ่มลดราคาแข่งกับทางจีนแล้ว
ถ้า Elop ไม่เข้ามา ผมว่าป่านนี้ Nokia อาจจะล้มละลายไปแล้วก็ได้ เพราะอีไม่ยอมใช้ Android เลย
ทีแรกก็ไม่ยอมใช้ Microsoft แต่สุดท้ายก็จำใจเพราะทางเลือกเหลือไม่มากถ้า Elop ไม่เข้ามา ถึงแม้จะต้องลงเอยขายกิจการให้คนอื่นๆในตลาด โนเกียที่มีชื่อเสียงมานานพร้อมสิทธิบัตรเพียบก็ยังน่าจะขายได้ราคาสูงกว่านี้มากมาย
แต่นี่ก็ยังไม่ได้ขายทั้งบริษัทนะครับ แถมการขายครั้งนี้โนเกียได้สิทธิบัตรจากไมโครซอฟท์มาใช้ได้ด้วยนะ
ถึงแม้จะไม่ได้ขายทั้งบริษัท ... แต่ลองคิดดู ...
ธุรกิจมือถือของโนเกีย ราคาถูกกว่า Skype
ตอนที่ซื้อ Skype ตอนนั้นถ้าผมจำไม่ผิด Skype มันบูม แล้วกิจการก็กำไรดีครับส่วนแบ่งการตลาด ของ Skype สูงอยู่ครับ
ส่วนโนเกียแม้จะเป็นมือถือแต่เทียบส่วนแบ่งการตลาดแล้วไม่กี่เปอร์เซ็นต์ และหน่วยธุรกิจยังมีผลการดำเนินการที่ขาดทุนครับ
ในแง่ของราคาหุ้นผมไม่แน่ใจว่าต่างกันขนาดไหน
แต่ในแง่ของความอยากได้และอยากขายผมมองว่า Skype ตอนนั้น Skype ไม่ได้อยากขาย ก็ต้องจ่ายเงินแพงหน่อยส่วน Nokia มองว่าอาจจะอยากขายนานแล้วก็ได้ครับ ขาดทุนมาตลอด บริษัทกำไรก็จริง ไตรมาสล่าสุดแต่หน่วยมือถือก็ยังขาดทุนอยู่ดี
ขาย Cut Loss ประมาณนั้นครับ สำหรับโนเกียส่วน Skype ขาย Take Profit
มีแต่คนว่าเป็นไส้สึก ผมว่ามองอีกมุม ตอนนั้นผมก็เห็น Nokia ร่อแร่อยู่แล้ว
ถ้าถามว่่าไส้ศึกไหมก็คงมีบ้าง แต่ก็ช่วยปรับองค์กรณ์ด้วยประมาณว่า แก้สถานการณ์จากร่อแร่ ให้ตั้งตัวได้ แล้วก็ซื้อ แบบนี้มากกว่า
ไม่น่าจะใช่เหตุผลนั้นมั้งครับ
บอกให้โนเกียหนุนหลัง Jolla สิ
ม็อบทวงคืนโนเกีย
เริ่มจากถนนไหนดีครับ
ถนนข้าวสารครับ
ไกลเกินครับ ขี้เกียจไป
ทวงคืนหลัง 2016 นะฮะ ตอนนี้ทวงไปก็ทำอะไรไม่ได้หรอกครับผม
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
จะขายให้ใครก็ขายไปเถอะ
ขอบคุณความเห็นจากฟินแลนด์ครับ
ถ้าเทียบกับไทย..
ลองคิดว่าขายซีพี
May the Force Close be with you. || @nuttyi