Windows XP จะสิ้นอายุขัยอย่างสมบูรณ์แบบในวันที่ 8 เมษายน 2014 หรืออีกไม่ถึง 3 เดือนนับจากนี้
Blognone เขียนเตือนเรื่อง Windows XP มานับครั้งไม่ถ้วน ผลลัพธ์ที่ได้คือมีผู้ใช้กลุ่มหนึ่งตอบกลับมาว่า "ก็ฉันจะใช้ต่อไป ใครจะทำไม" (อ่านแล้วอยากเลิกทำเว็บเลยครับ)
บทความนี้เขียนขึ้นโดยมีจุดประสงค์ว่าต้องการ "ท้าชน" ผู้ใช้ Windows XP ทุกท่าน ถ้าอ่านแล้วยังไม่รู้สึกอะไรก็คงทำอะไรไม่ได้อีกแล้วล่ะครับ
Since 2001 เราอยู่กันมานานแล้วนะ
ปีนี้ปี 2014
Windows XP เปิดตัวและวางขายครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2001
ย้ำว่า 2001
ลบเลขครับ
12 ขวบเกือบครึ่ง!
ถ้า XP เป็นคน ตอนนี้ก็คงเรียนอยู่ประถมปลายเตรียมขึ้นมัธยมต้นแล้ว
ผมเชื่อว่าช่วงชีวิตของผู้อ่าน Blognone ทุกคนก็คงผ่านวันเวลาอันยาวนานของ XP กันหมด ลองหลับตา 1 นาทีระลึกว่า ตลอด 12 ปีที่ผ่านมานี้ ชีวิตของคุณมีอะไรเปลี่ยนแปลงบ้าง (เปลี่ยนโรงเรียน เข้ามหาวิทยาลัย ทำงาน ย้ายงาน แต่งงาน มีลูก ฯลฯ) ความเปลี่ยนแปลงในชีวิตคงมหาศาล
ลองดูชีวิตของผู้ชายคนนี้สิครับ
2001: ( ภาพจาก Biography.com )
2013:
แต่ถ้าเรายังใช้ Windows XP คอมพิวเตอร์ของเราก็ยังถูกผนึกค้างไว้ที่ปี 2001 อยู่ ถึงแม้ช่วงเวลาที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์จะมีอัพเดตให้บ้าง 3 service packs แต่หลักใหญ่ใจความแล้ว มันก็คือระบบปฏิบัติการของปี 2001 อยู่ดี
หมดอายุอะไรยังไง
คอมพิวเตอร์ประกอบด้วยฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ ในฝั่งของฮาร์ดแวร์คงไม่ต่างอะไรจากเครื่องใช้ไฟฟ้า ถ้ามันไม่พังก็ใช้ต่อไปได้เรื่อยๆ
แต่ฝั่งของซอฟต์แวร์นี้มี "อายุขัย" ของมัน (เหมือนกับนมบูด ปลากระป๋องเน่า) ถึงแม้ตัวซอฟต์แวร์จะใช้ต่อไปได้ก็จริง (และไม่มีใครไปกำหนด deadline ว่าหลังจากวันนี้แล้วห้ามใช้) แต่ "บริการแวดล้อม" ของตัวซอฟต์แวร์นั้นๆ มันไม่ได้อยู่ต่อไปชั่วกาลอวสานไปด้วย
"บริการแวดล้อม" ที่ว่านี้ หลักๆ แล้วมันคือการอัพเดตแพตช์ความปลอดภัย บริการหลังขาย และความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่ๆ
ไมโครซอฟท์มีนโยบายเรื่องการอัพเดตแพตช์ที่แบ่งเป็น 2 ระดับคือ mainstream support และ extended support ( อ้างอิง )
- mainstream supportนับช่วงแรกหลังวางขายซอฟต์แวร์ ออกแพตช์ความปลอดภัยให้ และไมโครซอฟท์จะปรับแก้บั๊กหรือฟีเจอร์บางอย่างของตัวระบบปฏิบัติการถ้าจำเป็น (ถ้าใครทันยุค SP1/2 จะเห็นว่ามีฟีเจอร์เปลี่ยนเยอะระหว่างรุ่น)
- extended supportหลังหมดระยะ mainstream support แล้ว ไมโครซอฟท์จะออกแพตช์ความปลอดภัยให้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น ไม่เพิ่มฟีเจอร์หรือแก้บั๊กให้อีกแล้ว
Windows XP หมดระยะ mainstream support ตั้งแต่ปี 2009 และกำลังจะหมดระยะ extended support ในปี 2014
ส่วน Windows รุ่นอื่นๆ คือ Vista ปี 2017, Windows 7 ปี 2020, Windows 8 ปี 2023 ( อ้างอิง )
จะเกิดอะไรขึ้นหลังไมโครซอฟท์หยุดออกแพตช์ความปลอดภัย
คนที่เข้าใจการทำงานของระบบความปลอดภัยคอมพิวเตอร์ คงทราบดีว่าปัญหาเรื่อง "รูรั่ว" หรือช่องโหว่ความปลอดภัย เป็นเกมแมวจับหนูที่ไม่มีวันจบสิ้น เพราะตอนสร้างซอฟต์แวร์ขึ้นมา คนสร้างก็ไม่รู้หรอกว่ามันมีช่องโหว่ตรงไหนบ้าง ดังนั้นเมื่อซอฟต์แวร์วางขายแล้ว ทั้งคนในคนนอก ไม่ว่าจะหวังดีหรือประสงค์ร้าย ก็มีหน้าที่ค้นหาช่องโหว่เหล่านี้ ฝั่งของไมโครซอฟท์เองก็มีหน้าที่อุดช่องว่างเหล่านี้ไปเรื่อยๆ เท่าระยะเวลาที่สัญญาไว้
ในกรณีของ Windows XP จะไม่มีอัพเดตแพตช์ใดๆ หลังวันที่ 8 เมษายนนี้ แต่ Windows รุ่นอื่นๆ ที่ใหม่กว่าจะยังได้อัพเดตแพตช์ต่อไป
เมื่อ Windows เป็นระบบปฏิบัติการที่มีพื้นฐานเดียวกัน ชิ้นส่วนบางชิ้นก็ตกทอดสืบเนื่องกันมานานหลายชั่วคน ดังนั้นมีโอกาสสูงที่จะพบช่องโหว่สักแห่งมีผลกับ Windows ทุกรุ่น
ถ้าหากเกิดกรณีแบบนี้ขึ้น ไมโครซอฟท์จะอุดช่องโหว่บน Windows รุ่นใหม่ๆ แต่ไม่อุดรูเดียวกันบน Windows XP แบบนี้ก็เสร็จโจรสิครับ (ช่องโหว่แบบนี้เรียกว่า zero-day attack)
สิ่งที่แฮ็กเกอร์จะทำคือโหลดแพตช์ของ Windows รุ่นใหม่ๆ มาแกะดูว่า ไมโครซอฟท์อุดรูอย่างไร จากนั้นก็ reverse engineer เขียนมัลแวร์ที่อาศัยช่องโหว่เดียวกันไปเจาะ Windows XP ได้แบบง่ายๆ เลย (จากเดิมที่ต้องงมหาช่องโหว่เอง ก็เปลี่ยนเป็นลอกการบ้านไมโครซอฟท์แทน ง่ายกว่ากันเยอะ)
ไมโครซอฟท์เคยออกมาเตือนเรื่องนี้อย่างเป็นทางการแล้ว ย้อนอ่านในข่าวเก่า
ช่องโหว่ลักษณะนี้มีโอกาสสูงที่จะป้องกันไม่ได้ด้วยแอนตี้ไวรัสหรือซอฟต์แวร์ความปลอดภัยต่างๆ (อาจสกรีนได้บ้างที่ระดับของไฟร์วอลล์) เพราะเป็นช่องโหว่ของตัวระบบปฏิบัติการโดยตรงนั่นเอง
เก่ากว่า เสี่ยงกว่า
เวลา 12 ปีเปลี่ยนบิล เกตส์ จากหนุ่มเฟี้ยวเป็นชายกลางคน เส้นผมเริ่มสีเทา ช่วงเวลาเดียวกันนี้ โลกของความปลอดภัยก็พัฒนาไปมาก มีเทคนิคและกระบวนการมากมายที่ช่วยปกป้องให้ระบบปฏิบัติการปลอดภัยมากขึ้น
ผมขออ้างข้อมูลของไมโครซอฟท์เอง ( Microsoft Security Blog ) ที่บอกว่า Windows แต่ละรุ่นมีพัฒนาการด้านความปลอดภัยที่ดีขึ้นอย่างไร (คลิกเพื่อดูภาพขนาดเต็ม)
และข้อมูลสถิติว่า Windows แต่ละรุ่นโดนเจาะหรือติดมัลแวร์-ไวรัสต่างกันมากน้อยแค่ไหน (มีถึงเฉพาะ Windows 7)
ช่างมันฉันไม่แคร์
ผู้ใช้ Windows XP จำนวนไม่น้อย (โดยเฉพาะกลุ่มที่ใช้ของเถื่อน) ปิดการอัพเดต Windows เพื่อป้องกันปัญหา Windows Genuine Advantage (WGA) และไม่ได้แคร์เรื่องความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการอยู่แล้ว
ถ้าเป็นคอมส่วนตัวใช้เอง แบกรับปัญหาเองได้ รับผิดชอบเองเป็น (ซึ่งเวลาเกิดเหตุแล้วมักจะไม่เป็นเช่นนั้น :P) อันนั้นก็ถือเป็นเรื่องอิสระในการใช้ชีวิตของปัจเจกชน
แต่ถ้าเป็นคอมพิวเตอร์ขององค์กร ห้างร้าน หน่วยงานต่างๆ ความเสี่ยงพวกนี้ถือเป็นภาระความรับผิดชอบและ "หน้าที่" ของฝ่าย IT support ที่จะต้องป้องกันไม่ให้ปัญหาเหล่านี้เกิดขึ้น
คนใช้ Windows XP ยังมีเยอะแค่ไหนในไทย?
ในตลาดโลก สถิติล่าสุดจาก Net Applications ระบุว่ามีคนใช้ Windows XP อยู่ที่ 28.98% ของระบบปฏิบัติการของพีซี ซึ่งถือว่ายังเยอะมาก (นับเฉพาะเครื่องคอมที่ต่อเน็ต)
สำหรับในเมืองไทย ข้อมูลที่ผมหาได้มี 2 แหล่งที่มา
แห่งแรกคือ StatCounter บอกว่าสถิติล่าสุดของไทย มีคนใช้ Windows XP เหลืออยู่ 28.89%( มกราคม 2014 ) ส่วนกราฟสถิติช่วง 1 ปีย้อนหลังของผู้ใช้เน็ตไทย เห็นแนวโน้มชัดเจนว่า Windows XP ลดลงตลอดแต่ก็ยังเหลือผู้ใช้อยู่อีกเป็นจำนวนมาก
อีกเจ้าคนไทยคุ้นเคยกันดี สถิติของ TrueHits บอกว่าเดือนธันวาคม 2013 คนไทยใช้ XP ที่ 22.19%ซึ่งแนวโน้มก็ลดลงเรื่อยๆ เช่นกัน
ความเสี่ยงของการใช้ Windows XP ที่หมดอายุแล้ว
มีบทความ-รายงาน-บทวิเคราะห์จำนวนมากที่พูดถึงปัญหาของการใช้งาน Windows XP ที่หมดอายุแล้ว ผมขออ้างอิงรายงานของ Lenovo ที่พาดหัวไว้ซะน่ากลัวว่า Windows XP – A Compliance and Risk Nightmare in April 2014 ซึ่งแบ่งปัญหาออกเป็น 3 ข้อ
- ความเสี่ยงทางเทคนิคที่จะโดนโจมตีผ่านช่องโหว่ความปลอดภัย (ตามที่อธิบายไปแล้วข้างต้น)
- ความเสี่ยงที่จะถูกจารกรรมข้อมูล แล้วองค์กรโดนปรับหรือโดนฟ้อง (บางประเทศมีกฎหมายคุ้มครองข้อมูลของลูกค้า ทำหายแล้วโดนปรับ)
- ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาระบบไอทีในระยะยาวจะเพิ่มสูงมาก การบำรุงรักษาระบบปฏิบัติการเก่ามีต้นทุนระยะเวลาสูงกว่าระบบปฏิบัติการใหม่ๆ ที่มีความพร้อมกว่าในทุกด้าน
ผมเชื่อว่าของพวกนี้ไม่เห็นโลงศพไม่หลั่งน้ำตาครับ อีกไม่นานเราคงเห็น "การโจมตี Windows XP ครั้งใหญ่" ที่สร้างผลสะเทือนในวงกว้าง ซึ่งจะกลายเป็นจุดเปลี่ยน กระตุ้นให้หน่วยงานต่างๆ หันมาสนใจปัญหานี้ (แต่ระหว่างนั้นจะโดนลูกหลงด้วยหรือไม่ ก็ขึ้นกับความใส่ใจขององค์กรแล้ว)
ความเข้ากันได้ของซอฟต์แวร์และฮาร์ดแวร์
นอกจากปัญหาเรื่องช่องโหว่ความปลอดภัยแล้ว เราก็คงรู้กันดีว่า ยังมีเรื่องความเข้ากันได้กับฮาร์ดแวร์รุ่นใหม่ๆ ที่ไม่มีไดรเวอร์ของ XP แล้ว และซอฟต์แวร์ชื่อดังหลายตัวก็แทบไม่รองรับ XP แล้วเช่นกัน
ผมลองรวมข้อมูลแบบคร่าวๆ ดูว่า ซอฟต์แวร์อะไรบ้างที่รองรับหรือไม่รองรับ XP
- Chrome ใช้งานได้อีก 1 ปีไปจนถึงเดือนเมษายน 2015 ( อ้างอิง )
- Firefox ยังไม่มีแผนที่จะเลิกรองรับ Windows XP ( อ้างอิง ) ( แต่ทิ้ง XP SP1 )
- Opera ยังไม่มีแผนที่จะเลิกรองรับ Windows XP ( อ้างอิง )
- Office 2003 หมดอายุพร้อม Windows XP ในวันที่ 8 เม.ย. ( อ้างอิง )
- Office 2007 บนระบบปฏิบัติการทุกตัว หมดอายุปี 2017 ( อ้างอิง )
- อโดบีประกาศ Photoshop รุ่นถัดไปไม่สนับสนุน Windows XP แล้ว (CS6 เป็นรุ่นสุดท้าย)
- Microsoft Security Essentials จะหยุดอัพเดตพร้อม Windows XP
- Apple iCloud ไม่รองรับ XP แล้ว
ทางออก
คำตอบแบบกำปั้นทุบดินคือ อัพเกรดครับ เปลี่ยนไปใช้อะไรก็ได้ที่ใหม่กว่า Windows XP จะย้ายค่ายไปใช้แมคหรือลินุกซ์ก็ไม่มีปัญหา
คำตอบแบบละเอียดแยกตามกรณี
1. ผู้ใช้ตามบ้าน
สำหรับผู้ใช้ทั่วไปที่มีคอมพิวเตอร์ของตัวเองและรัน Windows XP แยกได้เป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ
1.1 ใช้ Windows XP เพราะคอมเก่า
ถึงแม้สเปกขั้นต่ำของ Windows แทบไม่เปลี่ยนแปลงเลยนับจาก Vista เป็นต้นมา แต่มันก็ยังมีช่องว่างของฮาร์ดแวร์ขั้นต่ำสำหรับ XP และ Vista ขึ้นไปอยู่
สำหรับคนกลุ่มที่ยังใช้คอมสเปกต่ำกว่า Vista (แต่ยังรัน XP ได้) ผมแนะนำว่า ซื้อคอมใหม่สถานเดียวครับ คอมสมัยนี้ถูกกว่าเดิมมากแล้ว เงินหลักต่ำหมื่นก็ซื้อคอมสเปกดีๆ ได้สบาย แถมคอมตัวเก่าก็น่าจะคุ้มการลงทุนแล้ว ถ้ายังอยากเก็บไว้ใช้จริงๆ ก็แนะนำให้เปลี่ยนเป็นลินุกซ์แทน (แต่เอาจริงแล้วลินุกซ์ที่รันบนฮาร์ดแวร์ต่ำขนาดนั้นได้ก็ไม่ค่อยมีอีกเหมือนกัน)
สำหรับคนที่ไม่ชัวร์ว่าคอมของเราจะย้ายไปรัน Windows 7 ได้หรือไม่ (Windows 8.x ใช้สเปกเท่ากัน) ไมโครซอฟท์มีโปรแกรมช่วยวิเคราะห์ชื่อ Windows 7 Upgrade Advisor สามารถดาวน์โหลดมารันกันเล่นๆ ได้
1.2 ใช้ Windows XP เพราะคุ้นมือ
ผู้ใช้กลุ่มนี้มีคอมพิวเตอร์ที่สามารถเปลี่ยนไปใช้ Windows รุ่นใหม่กว่าได้ แต่ไม่เปลี่ยนด้วยเหตุผลที่ต่างๆ กันไป (ส่วนใหญ่เป็นเพราะคุ้นเคยกับ XP) คำแนะนำคือ "ถึงเวลาต้องอัพเกรด" แล้วครับ
ทางเลือกเดียวที่เด่นชัดในตอนนี้คือ ควักเงิน 5-6 พันบาทซื้อ Windows 8.1 ของแท้ จ่ายเงินทั้งทีก็ควรเลือกซอฟต์แวร์ใหม่ที่สุด (แต่ถ้ายังเลือกจะอยู่ในเส้นทางสายมืด อย่างน้อยอัพเกรดเป็น Windows 7 เถื่อนก็ยังดีกว่า XP เถื่อนอยู่ดีครับ)
การอัพเกรดจาก XP เป็นระบบปฏิบัติการใหม่ๆ อย่าง Windows 8.1 ไม่สามารถอัพเกรดได้ตรงๆ จำเป็นต้องแบ็คอัพข้อมูลแล้วลงโปรแกรมใหม่ ซึ่งมีต้นทุนเรื่องเวลาและทรัพยากรเพิ่มเข้ามา แต่มันก็เป็นเส้นทางที่ต้องข้ามผ่านครับ
2. ลูกค้าองค์กร
สำหรับลูกค้าองค์กรที่มักใช้ระบบปฎิบัติการที่ติดมากับพีซี ตรงนี้เป็นหน้าที่ของฝ่าย IT ในองค์กรที่จะต้องผลักดันให้ CIO/CEO ขององค์กรเห็นความสำคัญของการ "อัพเกรดฮาร์ดแวร์ใหม่" ครับ
ส่วนจะซื้อพีซี Windows 7 หรือ Windows 8.x คงขึ้นกับนโยบายของแต่ละหน่วยงาน (ไมโครซอฟท์เองก็เคยพูดไว้ว่า ถ้ายังไม่พร้อมสำหรับ Windows 8.x ก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยก็ควรรัน Windows 7 ขึ้นไป)
นอกจากนี้ในองค์กรที่มีความซับซ้อนของแอพพลิเคชันไม่เยอะ หรือแอพพลิเคชันส่วนใหญ่เป็นเว็บเบส จะเปลี่ยนไปใช้ระบบปฏิบัติการอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นแมค ลินุกซ์ หรือ Chrome OS ก็คงไม่เป็นปัญหาอะไรมากนัก
อีกประเด็นที่สำคัญสำหรับการอัพเกรดคือ แอพพลิเคชันขององค์กร (ที่เขียนกันมาตั้งนานแล้ว สมัยพีซีเอื้ออาทร) ยังใช้ได้เฉพาะบน Windows XP เท่านั้น อันนี้ไม่มีทางเลือกนอกจากการจ่ายเงินเพื่อปรับปรุงแก้ไขหรือเปลี่ยนแอพพลิเคชันใหม่ เป็นเรื่องของ mindset ผู้บริหารว่านี่คือการลงทุนเพื่อระบบไอทีที่ก้าวหน้าขึ้นในอนาคต ไม่เป็นคอขวดหรือภาระขององค์กร มันไม่ใช่การสิ้นเปลืองซื้อคอมใหม่สเปกแรงหรือระบบไอทีแพงๆ ตามแฟชั่นแต่อย่างใด
ผมคิดว่าระบบไอทีภายในองค์กรที่สร้างขึ้นมาตั้งแต่ยุค 2000 ต้นๆ (โดยเฉพาะกลุ่มที่เขียนเองหรือจ้างเขียน ไม่ได้ซื้อสำเร็จ) น่าจะเริ่มล้าสมัยหรือเจอข้อจำกัดกันบ้างแล้ว บวกกับโลกไอทีปัจจุบันกำลังเปลี่ยนรอบของเทคโนโลยีพอดี (แอพที่เคยถูกสร้างมาสำหรับ IE6 คงไม่สามารถรันบน iPad ได้แน่ๆ) ดังนั้นก็น่าจะถือโอกาสยกเครื่องระบบไอทีหรือแอพพลิเคชันภายในให้ทันสมัยขึ้นไปพร้อมๆ กัน (อาจจะเป็นแอพพลิเคชันบนเว็บ หรือระบบเดสก์ท็อปแบบ virtualized/VDI ก็ได้)
ในรายละเอียดแล้ว การอัพเกรดระบบไอทีขององค์กรจากยุค XP มาเป็นยุค Windows 7/8 ไม่ใช่เรื่องง่าย มีเรื่องจุกจิกหยุมหยิมอีกพอสมควร (แล้วทวีคูณความยากลำบากด้วยจำนวนเครื่องที่มี) ซึ่งคงไม่สามารถลงรายละเอียดได้ในบทความนี้ แต่สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้จากลิงก์ข้างล่าง
- งานวิจัยของ IDC ถึงต้นทุน ROI เปรียบเทียบระหว่างการใช้ XP ต่อไป กับการอัพเกรด (ราคาต้นทุนเป็นดอลลาร์ตามเรตฝรั่ง แต่ใช้ดูเป็นแนวทางได้)
- Microsoft Deployment Toolkit รวมชุดเครื่องมือช่วยย้ายและอัพเกรดระบบปฏิบัติการ
- Retiring Windows XP เว็บรวมข้อมูลเรื่องการหมดอายุ Windows XP ของไมโครซอฟท์
- รวมข้อมูลทางเทคนิคสำหรับการอัพเกรดเป็น Windows 7
- รวมข้อมูลทางเทคนิคสำหรับการอัพเกรดเป็น Windows 8
บทสรุป: ความเจ็บปวดที่ต้องก้าวผ่าน
ผมเข้าใจคนที่ยังใช้ XP อยู่ในตอนนี้ว่า ใจจริงก็อยากเปลี่ยนแหละนะ แต่ติดขัดว่าต้องจ่ายเงินเพิ่ม (ซื้อคอมใหม่หรือไลเซนส์ใหม่ และอัพเกรดแอพพลิเคชันองค์กรใหม่ในกรณีคอมองค์กร) และต้องปรับตัวฝึกการใช้งานระบบปฏิบัติการใหม่ๆ อีกมาก
แต่มันไม่มีทางเลือกครับ ฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์คอมพิวเตอร์ไม่ใช่เครื่องใช้ไฟฟ้าแบบดั้งเดิมที่ใช้กันไปจนพัง แต่มันเป็นส่วนหนึ่งของ "โซลูชันทางไอที" ที่มีต้นทุนค่าบำรุงรักษาอยู่ตลอดเวลา วันนี้ได้เวลาควักเงินอีกก้อนเพื่อต่ออายุโซลูชันสำหรับอีก 5-10 ปีข้างหน้าแล้ว
นาฬิกานับถอยหลังไปเรื่อยๆ แล้วครับ
บทความเก่าที่เกี่ยวข้อง:
Comments
แอบกลัวว่าองค์กรบางทีจะเกิดเหตุการณ์ "เตือนแล้วไม่ฟัง แต่พังก็โทษผม" เนี่ยสิครับ...
Dream high, work hard.
กระทืบ like เจอแน่ๆ ตามนิสัยคนไทยวัวไม่หายตูไม่ทำคอก
ผมกระตุ้นเตือนหลายรอบจนมองเป็นคนก้าวร้าวไปแล้วครับ หาว่าสร้างเรื่องให้วุ่นวายบ้างอะไรบ้าง เจ้านายมักจะอ้างเรื่องค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนคอมฯ จนที่สุดไม่ยอมให้เปลี่ยน ของบปรับปรุงอะไรไม่ได้เลย จนต้องปล่อยให้ปัญหามันเกิดขึ้นเรื่อยๆ แต่ไอทีก็ต้องตามแก้ปัญหาเอง เขาบอกว่าเป็นหน้าที่ต้องทำให้โรงงานดำเนินธุรกิจต่อไปได้
เคสผม 70%ของออฟฟิศเป็นเครื่องเก่า เตือนไป2-3รอบแล้วว่าให้เปลี่ยน ก็โดนตัดงบตลอด จนปัจจุบันไม่มีงบให้....ก็ว่ากันตามเนื้อผ้า ถ้ามีปัญหาแล้วมาด่าผมก็จะเอาเมลล์ที่เคยแจ้งเตือนไปแปะwallpaperแต่ละเครื่องให้เห็นกันชัดๆ จะได้ไม่ต้องมาถามอีก :(
ดูทรงแล้ว ผู้ใช้งานในไทยส่วนใหญ่คงยังไม่เปลี่ยนจนกว่าจะ 2015 หรือไม่ก็เปิดไฟล์ไม่ได้ประมาณนั้น
หน่วยงานราชการ เพียบเลย -. -
98 ผมยังเห็นมาแล้วครับ และเชื่อว่ามีเก่ากว่านั้นอีก
เคยเจอกับตัว 3.x ตอนนั้นเหลือบไปเห็น screensaver พอดี
ม.ผมก็ยังใช้อยู่ ผมก็ได้ใช้อยู่ แต่ใน VM นะครับในวิชาเรียน :P
เคยเจอเวิร์ดจุฬา ที่กลาโหมด้วยครับ ถึงกับอึ้ง
เรื่อง Windows XP นี่ผมเคยบอกเพื่อนหลายหนแล้ว แต่ยังดีที่ยังเปลี่ยนไป Windows 7 หรือใหม่กว่านั้นครับ นอกนั้นก็จะเหลือตรงวิทยาลัยผมที่ยังไม่เปลี่ยนเสียทีน่ะครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
windows 9 จะมาปีนี้แล้วนี่ครับ รออัพที่เดียวเลยดีไหม
Happiness only real when shared.
แค่เปิดตัวครับ
ไม่มาปีนี้หรอกครับ พึ่งจะปล่อย Windows 8.1 เองครับ
ไม่แน่หรอกครับ Android ChromeOS Maverick เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เลย
ตัว Windows 8.1 สำหรับผู้ใช้ตามบ้านเนี่ย เวอร์ชั่นที่ราคาถูกที่สุดน่าจะเป็นตัว Single Language (SL) เห็นว่าอยู่ที่ราคาสามพันกว่าบาท รุ่นนี้ไม่ใช้ OEM นั่นหมายถึงว่าเราสามารถย้าย OS ได้ในกรณีที่มีการอัพเกรดเครื่อง ดังนั้นไม่ต้องกังวลว่าถ้าอัพเกรดเครื่องแล้วต้องซื้อ OS ใหม่อีกหรือเปล่า
(แต่ถ้าเป็น OEM ติดตั้งเวอร์ชั่นนี้มาจากโรงงานจะติดข้อบังคับข้างบนอัตโนมัติ)
ส่วน Linux นี่ ถ้ารักอยากจะใช้จริงก็แนะนำว่าให้เปลี่ยนเครื่องด้วยเหมือนกันครับ (ฮา) รันไม่ไหวหรอก ยกเว้นแต่จะใช้ Command Line เป็นหลัก
อยากถามในนี้ว่ามีใครใช้วินโดวส์เวอร์ชั้นใหม่กว่า ด้วยเหตุผลด้านความปลอดภัยมาเป็นอันดับหนึ่งไหมครับ
ถ้าใช้ตามบ้าน ดูหนัง ฟังเพลง ผมคิดว่าอาจจะมองไม่เห็นประโยชน์เท่าไหร่นัก แต่สำหรับการใช้งานในองค์กร ผมเคยเสนอให้เปลี่ยนเพราะเหตุผลนี้เป็นหลักเหตุผลหนึ่งครับ
แต่คนที่ผมเห็นว่า มักจะออกมาโวยวาย ร้องห่มร้องไห้ ว่าเครื่องติดไวรัส
ก็คนประเภทใช้ตามบ้าน ดูหนัง ฟังเพลง นี่แหละนะครับ
คือ ตัวเองป้องกันไม่เป็น ยังไม่คิดจะอัพเกรด หรือลงโปรแกรมที่ช่วยป้องกันน่ะนะ
โดนซะ
วินโดว์เวอร์ชั่นใหม่ความปลอดภัยคือผลพลอยได้
ผมคนนึงครับ หลักๆแล้วจะเป็นพวก Server เพราะข้อมูลการเงินสำคัญมาก และต้องการ Security Update ตลอดเวลาครับ Client ก็อัพหมดครับ (แท้ทุกเครื่อง ถึง BSA มาก็ยินดีให้ตรวจ)
ตอนนี้ที่เซ็งไม่หายคือหน้า Metro มากกว่า มันน่ารำคาญ(เลยลง Classic Shell ซะ)
Win8 license ถูกต้องเป๊ะ + KAV คีย์แท้ด้วย
เหตุผลด้านความปลอดภัยล้วนๆเลย ชอบใช้ธนาคารอินเตอร์เน็ต
องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญแห่งหนึ่ง คงไม่เปลี่ยนอะครับ ทุกวันนี้ยังใช้ฟอร์ม access อยู่เลย แถมทำงานบนวิน 7 ไม่ค่อยจะได้ซะด้วย
สถาบันการศึกษา ใช้ GPA50 ฟอร์มของ Access เหมือนกันครับ
ผมเคยทำผ่านมาด้านนี้ (ตอนนี้เปลี่ยนตำแหน่งใหม่แล้ว)
เครื่องที่แรมไม่พอ แล้วเค้าจะทำยังไง ซื้อใหม่เย้ๆ
แลปที่มหาลัยผมยังวินโดส์มิลเลเนียมด้วยซ้ำ... ขนาดเป็นมหาลัยชั้นนำของประเทศนะ
ส่วนผม XP ต่อไป 55+
คอมสเป็คไม่ถึง ใช้มา 8 ปีแล้ว เดี๋ยวมันคงจากไปเร็วๆนี้
PC ใช้ win8 อีกเครื่องก็ Surface OS ทันยุคทั้งคู่
หุหุผมแนะนำให้เจ้าของบริษัทเปลี่ยนแล้วอาทิตย์ต่อเปลี่ยนหมดยกแผงเลยทีเดียว ไม่ใช่เจ้าของที่เฉยเป็นหลักครับส่วนใหญ่ฝ่ายไอทีอย่างนั่งๆนอนๆกินเงินเดือนเฉยๆก็เยอะครับ
ผมเห็น ATM ยังใช้ Windows XP อยู่เลย ตอนระบบ มันแฮง เห็น wallpaper เป็น XP ของธนาคารหนึ่ง
อันที่จริงพวกตู้ ATM นี่ไม่ได้พัฒนาโดยธนาคารตรงนะครับ จ้าง Vendor ที่ผลิตและจำหน่ายพวกนี้เข้ามาอีกที ซึ่งถ้าจะอัพ Windows มันก็หมายถึงการเปลี่ยนเป็นตู้รุ่นใหม่ครับ และไม่ใช่แค่ OS กับ Software อย่างเดียวนะครับ มันรวมถึง Firmware, Driver และ Hardware IO ด้วยครับ เห็นตู้แบบนี้เหมือนจะไม่มีอะไร แต่ภายในคุยกับ Hardware หลายตัวครับ ตู้สมัยนี้ฟีเจอร์ภายในเยอะครับ
และอีกอย่าง Traffic ATM ที่วิ่งผ่าน ISP เจ้าต่างๆ ส่วนใหญ่เป็น VPN Curcuit ครับ ซึ่งครอบด้วย VPN Curcuit ของธนาคารอีกที โดย Traffic พวกนี้มันก็วิ่งตรงเข้าสู่ Network ของธนาคารที่มี Firewall, NAC, ACL และ Hardware เครือข่ายอื่นๆ คั่นระหว่าง Network ภายนอกเอาไว้อีกทีครับ
ถ้าคิดจะเจาะเข้ามาในตู้ Hardware ที่เป็นระบบปิดแบบนี้ นอกจาก เจาะรูเสียบ Thumbdrive แล้ว วิธีอื่นก็คงลำบากละครับกว่าจะฝ่า Network ของธนาคารเข้ามาได้
ความรู้ใหม่ครับ
ขอบคุณครับ
+XP
อันนั้นไม่ใช่ XP ปรกตินะคับ แต่เป็น Embedded Edition
ขอบคุณครับ
ลืมคิดไปว่ามี Embedded Edition
แต่ฮาตรง เจาะรูเสียบ Thumbdrive
มีอีกอัน ภัยใกล้ตัว เตือนภัยแก๊งค์ดูดเงินเอทีเอ็มรูปแบบใหม่
บูทโคตรนานด้วยครับ 15 นาที + .......
ถ้า Com เก่าจนวิ่ง Windows รุ่นใหม่ๆ ไม่ไหว ไหนๆ ก็ต้องซื้อใหม่ ผมว่าได้เวลามองหาทางเลือกอื่นๆ ได้แล้ว เช่น เปลี่ยนไปใช้ Mac แทน
ใช้ Mac อาจจะยากช่วงเปลี่ยนผ่าน แต่ถ้าผ่านมันไปได้ชีวิตจะดีขึ้นมากเลยทีเดียว :-D
+100 ถ้าไม่เน้นเกม ก็ไม่รู้สึกว่าขาดอะไรไปเลย
ผมว่าคนที่มีปัญญาซื้อแมคน่าจะมีแค่ชนชั้นกลางขึ้นไปมากกว่านะคับ
พยายามอยู่ 7 - 8 เดือน ไม่สำเร็จ กลับมาวินโดว์เหมือนเดิม
แต่ถ้าต้องทำงานเอกสารด้วย ms office ร่วมกับคนอื่นที่ใช้ windows ที่รูปแบบเอกสารต้องเป๊ะๆ
การใช้ mac ทำให้ชีวิตนี่รันทดมืดมนอนธการหม่นหมองประคองอารมณ์เลยครับ :P
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan ~
เม้นนี้ฮา..
เกือบวู่วามซื้อ Mac มาใช้ละ ดีนะอ่านเม้นนี้ก่อน ใช้ Windows ต่อไป :P
เชื่อเลยว่าวู่วามจริงๆ อ่านเม้นเดียวกลับใจ 180 องศาเลย 555
บ้านผมมีทั้ง Mac ทั้ง Windows นะฮะ บอกเลยว่าจริงๆมันก็ไม่ได้ดีกว่าขนาดนั้นนะฮะ คือผมใช้ๆไปกลับมองว่า Windows ข้อได้เปรียบมีมากกว่าซะอีก จากที่ตอนแรกแบบว่าหลง Mac มาก
แต่เครื่องหน้าก็จะซื้อ Mac ครับ สั้นๆคือ มันสวยกว่า(มาก) แล้วมันหุบถ่างสนุกกว่าครับ...
ใช้ทั้ง mac, windows, linux หลักๆ ก็ยังชอบ windows ที่สุด
mac ใช้เพื่อเขียน iOS เท่านั้น
ส่วน linux ส่วนใหญ่จะใช้กับ server
ตู้ ATM, เครื่อง POS
May the Force Close be with you. || @nuttyi
การมี Windows XP คือนรกของคนทำงานด้าน support ของ Windows Phone 8 (โดยเฉพาะผม)
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เริ่มคุ้นกับ 8.1 ... ลองใช้บนเครื่องของพ่อครับ ... คิดว่าถ้าเครื่องหมดอายุความ และมีเงินซักแสนสองแสนก็จะอัพเกรดคอมใหม่ละครับ แต่คิดจะไปทาง Laptop แทนครับ : )
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
เทียบกับ Mac สุดที่รักของท่านเป็นไงบ้างฮะ
ถึงแม้
Chrome ใช้งานได้อีก 1 ปีไปจนถึงเดือนเมษายน 2015-ถึงเวลานั้นใช้ Firefox กับ Opera แทนถ้าทั้งสองยัง Support อยู่นะ
Firefox ยังไม่มีแผนที่จะเลิกรองรับ Windows XP-เลิก Support เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
Opera ยังไม่มีแผนที่จะเลิกรองรับ Windows XP-เลิก Support เมื่อไหร่ค่อยว่ากัน
Office 2003 หมดอายุพร้อม Windows XP ในวันที่ 8 เม.ย.-ใช้ Libreoffice อยู่ครับ
Office 2007 บนระบบปฏิบัติการทุกตัว หมดอายุปี 2017-ใช้ Libreoffice อยู่ครับ
อโดบีประกาศ Photoshop รุ่นถัดไปไม่สนับสนุน Windows XP แล้ว-ใช้ Gimp กับ Inkscape อยู่
Microsoft Security Essentials จะหยุดอัพเดตพร้อม Windows XP-ตอนนี้ใช้ Ad-Aware Free Antivirus+ แทน
Apple iCloud ไม่รองรับ XP แล้ว-ไม่เคยสนับสนุนสินค้า Apple อยู่แล้ว
สรุป ใช้ Windows XP ต่อไป สำหรับผมในตอนนี้ เพื่อไม่ให้กระทบงานโดยรวม
แต่มีบางงานได้โอนย้ายไป windows 7 บน Laptop เครื่องใหม่ 2 เครื่องแล้ว พวกงานควบคุมของ NI และงานพัฒนาแกนกลางซอฟท์แวร์ Simulation แต่งาน Simulation บางงานยังขยับไม่ออก เพราะมีโครงการที่ต้องรันงานต่อเนื่องไปอีก 1-2 ปี เพราะฉะนั้นไม่อยากให้มองว่าคนที่ไม่ยอมละทิ้ง Windows XP เป็นพวกไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง ล้าหลัง อนุรักษ์นิยม ฯลฯ เหตุผลแต่ละคนมันต่างกันมากครับ
อารมณ์ว่า celeron 2.0 + ram 2 GB ลง win7 แล้วมันไปไม่รอดเนี่ยดิ ผมก็ไม่รู้จะทำไง เครื่องก็ไม่พังจริงๆซักที จะให้โยนเครื่องทิ้งก็ใช่เรื่องนา
เล่นได้ กับ เล่นลื่น มันคนละเรื่องกัน
เรื่องในบทความนี้คือ เล่นแล้วโดนแฮก เปิดเครื่องไว้เฉยๆ แล้วมีไวรัสวิ่งเข้า เข้าเว็บแล้วมีมัลแวร์โผล่
ส่วนเรื่องโยนเครื่องทิ้ง อันนี้แล้วแต่คุณครับ ถ้ารับรู้ความเสี่ยงแล้วยังจะใช้สุดท้ายคงไม่มีใครไปบังคับ
lewcpe.com , @wasonliw
กระทู้นี้มีส่วนกระตุ้นให้ผมคิดเรื่อง upgrade จาก Win 7 ไป Win 8.1 ขึ้นมาระดับนึง ปกติผมจะ upgrade OS ก็ต่อเมื่อ Aplication, Driver ที่เกี่ยวกับงานเริ่ม Support ครบหมด ไม่เคยมีปัญหาเรื่องเปลี่ยนผ่าน เพราะเป็นคนชอบอะไรใหม่ๆ อยู่แล้ว (จริงๆ อยากจะอัพมันตั้งแต่วันเปิดตัวนู่นแหละ) แม้ว่าผมจะใช้งาน Mac เป็นหลัก แต่ Computer ใน Office ส่วนมากยังเป็น Window อยู่นะ ผมจะจัดการอัพเกรดมันโดยไม่สนใจ (ออกแนวเผด็จการนิดๆ haha) ลูกน้องหรือคนที่มาทำงานให้จะแอบบ่นว่า ไม่คุ้น หรือไม่ชิน ทำให้ทำงานช้าลงบ้างล่ะ สารพัดเหตุผล แต่ผมเชื่อว่าทุกคนจะผ่านมันไปด้วยดีครับ
เครื่องใน Office มีแต่ XP ครับ ทำไงได้ ก็ได้เท่านี้ล่ะนะ อัพทีคงเป็นพันล้าน
//เครื่องส่วนตัวใช้ Ubuntu สบายใจ
ที่มีปัญหาก็คงจะเป็นองค์กรนี่แหละ
..: เรื่อยไป
เปลี่ยนไปใช้แมคไปแล้ว งานเอกสารก็รันบน VM เอง ฮ่าๆ
บน VM นี่อะไรครับ XP รึเปล่า :D
8.1 ครับ
XP ไม่ไหว ใช้ยากแล้วครับ ฮ่าๆ
ที่ทำงานผม (ราชการ) บางหน่วยงานยังใช้ xp อยู่เนื่องจากต้องใช้ระบบโปรแกรมที่ได้จ้างทำไว้เมื่อในอดีต ถ้าจะเปลี่ยนก็ต้องจ้างทำระบบใหม่ให้รองรับ winรุ่นปัจจุบัน เลยยังใช้ xp อยู่ละครับ เนื่องจากต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง
บอกตรงๆ โปรแกรมเครื่องราชอิสริยาภรณ์ (เหรียญ 25ปี) ยังต้องใช้ winME รันโปรแกรมอยู่เลย
มี firewall เทพๆ ขั้นไว้ก็ไม่น่ามีปัญหา
เทพขนาดไหนก็ทะลุครับ เอาไม่อยู่หรอก
ควรเปลี่ยนครับ ถึงไม่มีเรื่องความปลอดภัยแต่เครื่องที่ต้องใช้ ME ถ้าเกิดมันเสียไปนี่ชีวิตลำบากครับจะไปหาใหม่จากไหน รีบพัฒนาซอฟต์แวร์ใหม่ รีบย้ายข้อมูลไปดีกว่าครับ
องค์กรผมเจ้าหน้าที่ทนใช้คอมฯเก่าไม่ไหวรวมตัวยื่นเรื่องต่อ เจ้านาย ตอนนี้เปลี่ยน 7 และ 8 กันหมดแล้ว
อาจารย์ผมบอกโรงเรียนซื้อ 8 มาแล้ว แต่ไหงพี่แกยังไม่ลงซะที
อะไรดีๆเก็บไว้หลังกรุจบหมดเลยสินะ...
การที่องค์กรใหญ่ๆจะเปลี่ยนอะไรที่ ต้องวางแผนล่วงหน้า และ ตั้งงบประมาณรอเลยนะครับ
ไหนจะต้อง training คนให้ใช้เป็นอีก ผมใช้ XP มาเจอ 7 ยังเฉยๆ
แต่พอเจอ 8 เข้าไปมีเงิบครับ ใช้ยากมาก
share เรียบร้อยฮะ
ตอนนี้เครื่องนี้ใช้ XP อยูํ แตะแล้วเหมือนใช้ไม่เป็นเลยครับ ==" แบบพวกปุ่ม show desktop ไรงี้กลับหมดเลย ==" สมองย้อนไปห้าปี =="
โดยส่วนเริ่มเปลี่ยนตอน VISTA เปิดตัวเลยครับ :D
blog
จริงๆ ถ้าเป็นเครื่องพิมพ์เอกสารไม่ต่ออินเตอร์เน็ต หรือเอาไว้เล่นเกมเก่าๆ ก็ใช้ต่อไปได้นะอย่าเสียบแฟลชไดรว์
windows XP ปิด firewall เหลือแต่ port 80 พอไหวอยู่มั๊ย
เกรงว่ามันจะมาทางอื่นหนะสิครับ - -
ประกอบคอมเก่าๆ ลงXP ให้พ่อไว้ร้องคาราโอเกะอยู่ตัวนึงครับ ไม่ได้ต่อเน็ต เน้นเอนเตอเทนอย่างเดียว 555
OS X เปิดตัว 2001 ปจุบันก้อยังใช้ได้อยู่ไม่เห็นมีเปลี่ยนรุ่นใหม่เป็น OS XI...XV
เอ่อ มันก็เป็น OS X.1 X.2 ... X.11 นี่ไงครับ
โน๊ตบุ๊ครุ่นเก่าๆ ตอนนี้ยังใช้ Windows XP อยู่เลยแหะ ๆ :D