หนึ่งในความใส่ใจที่สะท้อนผ่านงานออกแบบเชิงวิศวกรรมในผลิตภัณฑ์ของ Apple ที่เพิ่งถูกค้นพบ คือการที่ iPhone 6 และ iPhone 6 Plus ต่างก็มีตัววัดอัตราเร่งอยู่ภายในถึงเครื่องละ 2 ตัว
เว็บไซต์ Chipworks ได้ทำการแยกชิ้นส่วนสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่สุดของ Apple และเป็นผู้สังเกตพบประเด็นน่าสนใจในงานออกแบบนี้
Chipworks เชื่อว่าเหตุผลของการที่ใส่ตัววัดอัตราเร่งมาถึง 2 ตัวในสมาร์ทโฟนก็เพื่อการสร้างประสบการณ์ใช้งานที่ดีให้แก่ผู้ใช้เป็นหลัก ตัววัดอัตราเร่งตัวแรกเป็นแบบ 6 แกนยี่ห้อ InvenSense รุ่น MPU-6700 ส่วนอีกตัวเป็นยี่ห้อ Bosch รุ่น BMA280 ซึ่งหากเทียบกันแล้วเซ็นเซอร์ InvenSense นั้นมีความแม่นยำสูงกว่า (16684 LSB/g เทียบกับ 4096 LSB/g) แต่ก็ใช้พลังงานมากกว่าตัวของ Bosch ในขณะที่เซ็นเซอร์ของ Bosch ไม่เพียงจะใช้พลังงานน้อยกว่าตัวแรก แต่มันยังใช้เวลาสตาร์ทเริ่มทำงานเพียง 3 ms เร็วเป็น 10 เท่าเมื่อเทียบกับเซ็นเซอร์ของ InvenSense ด้วย
ในการทำงานของบางระบบที่ต้องใช้ตัววัดอัตราเร่งโดยไม่เน้นความแม่นยำสูง (เช่น ใช้เพื่อการรับรู้ถึงการหมุนหน้าจอโดยผู้ใช้ หรือใช้เพื่อการนับก้าวเดิน) iPhone 6 และ iPhone 6 Plus จะเลือกใช้งานเซ็นเซอร์ของ Bosch ซึ่งเรียกใช้งานได้เร็วกว่าและประหยัดพลังงานมากกว่า ในขณะที่เมื่อต้องการใช้การวัดอัตราเร่งที่มีความแม่นยำสูง เช่นในขณะที่เล่นเกมบางประเภท ตัวสมาร์ทโฟนก็สามารถเลือกใช้การวัดด้วยเซ็นเซอร์ InvenSense ได้
นี่เป็นตัวอย่างหนึ่งที่บอกเราได้ว่า Apple ก็ไม่ได้กั๊กไปเสียทุกเรื่อง
ที่มา - MacRumors
Comments
เริ่มรู้สึกเหมือนเข้าเว็บแมคซะแล้วสิ
ช่วงกระแสเค้ามาน่ะครับ ต้องยึดพื้นที่ไปอีกซักระยะ:)
นโยบายของ Blognone ในเรื่องนี้ คือทำข่าวแอปเปิลให้ดีที่สุดในไทย โดยที่ไม่ต้องเป็นสาวกแอปเปิล
ช่วงนี้ข่าว iPhone6 รัวๆจริงๆ
InvemSense => InvenSense
อ่านหัวข้อข่าวนึกว่า ฝรั่งทำเกิน ที่แท้ใช้ทั้งสองตัวนี่เอง
อยากทราบว่าฟังก์ชั่นการใช้งานแบบไหนถึงต้องใช้ "การวัดอัตราเร่งที่มีความแม่นยำสูง" อะครับ
คงเป็นตอนเล่นเกมน่ะผมว่า
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
เกมขับรถ ขับเครื่องบิน หรือว่าการแสดงผลแบบ Parallax แล้วก็พวก แอพ Sport Tracking พวก Nike+running Endomondo อะไรพวกนี้ครับ
Digital/Optical Image Stabilization ครับ
อันนั้นน่าจะใช้ gyro นะครับ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
Accelerometer ถูกแล้วครับ การสั่นสะเทือนนะครับ
Gyroscope เอาไว้ตรวจจับการหมุนตัวของเครื่องครับ
สั่นนี่ภาพเปลี่ยนน้อยกว่าหมุนนะครับ หมุนเสี้ยวองศาภาพเปลี่ยนไปเยอะมาก Hyperlapse ของ Instagram ก็ใช้ gyro https://www.blognone.com/node/59845
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่ามันใช้ทั้งสองอย่างนะครับ เหมือนตอนเปิดตัว Lumia 920 นี่จะมีอธิบายอยู่อ่ะครับ แต่ผมขี้เกียจหาวิดีโอแล้ว - -"
งั้นต่อไปนี้เวลาเทสก็ต้องเทสทั้ง 2 sensors สินะเตรียมออก App ใหม่กันอีกแล้ว :3
น่าจะวัดแล้วคำนวนว่าโทรศัพท์กำลังตก แล้วสังให้โทรศัพท์เอาด้านปลอดภัยลงได้จะดีมาก ^__^
Apple เคย จดสิทธิบัตรนี้ ไว้นานแล้วครับ แต่ที่ยังไม่เห็นการ implement ผมเชื่อว่าติดข้อจำกัดเรื่องตัวควบคุมการพลิกเครื่องครับ (คาดว่ายังทำให้มันสั่งการได้ไม่เร็วพอก่อนที่เครื่องจะตกถึงพื้น)
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ว่าแล้วคุ้นๆ ขอบคุณครับตามจริงทำเหมือนขนเม้น ก็ได้นะครับ พอตกขนพุ้งออกมารอบต้ว 555
เห็นด้วยทุกประการครับ การเอามาปรับใช้จริง ค่อนข้างเป็นเรื่องยากนะ ในขณะแม้จะมีเซนเซอร์ตรวจจับการตกดีแค่ไหน แต่การสั่งพลิกเครื่องให่ลงปลอดภัย ผมว่ายากมากทางหลังฟิสิกส์ แถมยิ่งเป็นไปได้ยากกับดีไซน์สมัยใหม่ที่เครื่องบางลงๆ อย่างทุกวันนี้
ผมเป็นลูกคนเล็ก
ทำเหมือน air bag ได้ไหม ตกปุ๊บเป็นฟองน้ำพุ่งกางออกมารองเครื่องเลย
ใส่เนยไว้ข้างในเครื่อง เมื่อเซ็นเซอร์วัดได้ว่าเครื่องกำลังจะตกก็ทำการปล่อยเนยให้คลุมผิวเครื่อง (คงจะเป็นด้านฝาหลัง) เครื่องก็จะพลิกเอาด้านที่มีเนยอยู่ลงตลอด ตามหลัก Buttered toast phenomenon
เจ๋งอ่า
นึกว่าเอาไว้วัดความเร่งของเครื่องครึ่งบนกับครึ่งล่างแยกกัน เวลาองศามันไม่ตรงกัน...
อย่าไปคาดหวังอะไรมากนักดูจาก ผลทดสอบ iPhone 6 ยังไม่รองรับไฟล์เสียงความละเอียดสูง
iPhone haters gonna hate.
blog
ชิปตัวที่แม่นยำ แต่เปิดช้า กินไฟเยอะ
ชิปตัวที่เปิดเร็ว กินไฟน้อย แต่ไม่แม่นยำ
อยากได้ข้อดีทุกด้าน เลยใส่มาให้ทั้งสองตัวเลย
ประเด็นนี้น่าชมเชยนะครับ
เยี่ยมมากครับ
ดูแล้วแอนดรอยด์คงมีชิปที่ช้าแค่อย่างเดียว เวลาหมุนหน้าจออะไรถึงได้มีดีเลย์ตลอด
A smooth sea never made a skillful sailor.