กฎหมาย Religious Freedom Restoration Act ให้สิทธิ์กับร้านค้าต่างๆ สามารถปฎิเสธให้บริการลูกค้าที่มีความหลากหลายทางเพศ ทางรัฐอินเดียน่าเพิ่งผ่านเป็นกฎหมายรัฐเมื่อวันที่ 26 มีนาคมที่ผ่านมา ตอนนี้ทำให้บริษัทไอทีและงานอีเวนต์สำคัญเริ่มประท้วงกฎหมาย ด้วยการประกาศย้ายที่จัดงานไปจนถึงการงดเข้าร่วมงาน
Gen Con งานประชุมแฟนเกมและนิยายวิทยาศาสตร์ มีผู้เข้าร่วมงานถึงปีละเกือบหกหมื่นคน ประกาศพิจารณาย้ายงานไปจัดที่อื่นเพื่อประท้วงกฎหมาย พร้อมกับส่ง จดหมายเปิดผนึกไปยังผู้ว่าการรัฐ อย่างไรก็ดี Gen Con มีสัญญากับศูนย์ประชุมในรัฐอินเดียน่าไปจนถึงปี 2020
เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา Alan Saldich รองประธานของ Cloudera ก็ออกมา ทวีต ระบุว่าจะไม่เข้าร่วมงาน IndyBigData เพราะกฎหมายนี้ หลังจากนั้น Jeremy Burton ประธานบริษัท EMC ก็ออกมา ทวีต ระบุว่ากฎหมายของรัฐอินเดียน่าขัดกับวัฒนธรรมที่มีความหลากหลายของบริษัทและทางบริษัทจะไม่เข้าร่วมงาน IndyBigData ที่กำลังจะจัดเช่นกัน
ทิมคุกออกมาเขียนบทความแสดงความเห็นใน Washington Post ระบุว่ากฎหมายฉบับนี้ไม่ใช่เรื่องของการนับถือศาสนา แต่เป็นเรื่องของเพื่อนมนุษย์ที่ปฎิบัติต่อกัน เขาไม่เชื่อว่าศาสนาควรถูกนำมาเป็นข้ออ้างในการเลือกปฎิบัติ
ที่มา - The Register , Indy Star
Comments
ย่อหน้าที่สาม "ระบุว่ากฎหมายของรัฐอินเดียน่าจัดกับวัฒนธรรมที่มีความหลากหลาย"
"ขัดกับ" รึเปล่าครับ
อันนี้ตกลงเป็นทางเพศหรือทางศาสนะครับ
ชื่อกฎหมายเป็นศาสนาแต่เปิดทางให้กีดกันทางเพศได้ครับ
lewcpe.com , @wasonliw
การเป็นเกย์บาป ตามคำสอนของศาสนาคริสต์คาทอลิกครับ
อิสลามจับได้ฆ่าเลย
ส่วนพุทธเบาที่สุด ห้ามเกย์บวช
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ประเทศแห่งเสรีภาพก็ยังมีการละเมิดสิทธิมนุษย์ชนเป็นปกติ ทั้งเรื่อง nsa ดักฟังข้อมูล ทั้งเรื่องเหยียดสีผิว เหยียดเพศ
นี่ออกเป็นกฎหมายได้นี่หนักเลยชื่อกฏหมายมีคำว่า Freedom แต่กีดกันซะเอง
ต้องให้ทิม คุกจัดหนัก
กฎหมายให้เสรีภาพทางศาสนา แต่เปิดโอกาสให้ละเมิดสิทธิ์ด้วยการกีดกันทางเพศครับ
ก็ไม่ขัดกับชื่อนะ แต่อาจจะไปกระทบกับคนหลายกลุ่มที่ไปจำกัดสิทธิ์เขา
ให้เสรีภาพในการจำกัดเสรีภาพ?
คล้ายๆกับยอมรับเสรีภาพในการกำหนดข้อจำกัดต่อกลุ่มคนของศาสนามากกว่า
ยกตัวอย่าง ถ้ายอมรับข้อกำหนดของอิสลามที่ไม่ให้ทานหมู เลยห้ามขายเนื้อหมูทั่วประเทศยังงั้น (แต่ในพื้นที่ของศาสนานั้นๆ)
ซึ่งถือเป็นการปิดกั้นเสรีภาพของคนกลุ่มนั้นโดยปริยาย
ประมาณว่าปกป้องความเชื่อมั่นในศาสนาของตัวเองฟังดูดีมีเหตุผลชิมิ? แต่มันไม่ใช่แบบนั้น
ถ้ามีร้านขายอาหารแห่งนึงที่เจ้าของนับถือศาสนาคริสต์
เป็นคาทอลิคที่เชื่อมั่นในการครองคู่และแต่งงานระหว่างเพศชายกับเพศหญิง
ทีนี้… ถ้ามีลูกค้าคู่หนึ่งเดินเข้าร้านมา ไม่ว่าจะเป็นคู่เกย์ คู่เลสเบี้ยน
หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ผิดแปลกไปจากหลักคำสอนของศาสนาที่เขาเชื่อ
เจ้าของร้านก็มีสิทธิ์ปฏิเสธในการให้บริการได้โดยไม่ผิดกฎหมาย เพราะถือว่า หากให้บริการก็จะเป็น การสนับสนุนสิ่งที่ขัดกับหลักความเชื่อทางศาสนาของตัวเอง เป็นต้น
นี่แค่ร้านอาหารที่ยกตัวอย่างมา ถ้าลามไปอะไรที่มันใหญ่กว่านี่จะยุ่งยากวุ่นวายมากขึ้นไปอีกนะเออ (ไปรษณีย์ โรงพยาบาล อะไรเทือกนี้)
การถูกจำกัดเสรีภาพบางส่วน เพื่อความปลอดภัยในชีวิต ทรัพย์สิน เป็นสิ่งที่มนุษย์ทุกคนบนโลกให้การยอบรับ มันมีเส้นบางๆที่ยังคุยกันไม่จบว่าขอบเขตที่ควรถูกจำกัดมีแค่ไหน แต่มันเป็นเรื่องที่สามารถเข้าใจได้ การที่ NSA ดักฟัง เหตุผล ก็เพื่อความมั่นคง ปกป้องสันติภาพ มีผลงานป้องกันการก่อการร้ายหลายครั้ง เป็นสิ่งที่ยังถกเถียงกันไม่จบว่า เค้าทำเกินเลยขอบเขตที่เราสมควรยอมรับหรือไม่
แต่การละเมิดสิทธิ์ จำกัดเสรีภาพ ด้วยเหตุผลทางศาสนา เป็นสิ่งที่เรา ควรยอมรับได้จริงๆหรือ ในปี 2015 (หากเป็นในอดีต ที่เชื่อว่า เทพเจ้าจะทำให้เรา ถึงแก่ชีวิต ทรัพย์สินเสียหาย ซึ่งเป็นเหตุแห่ง ชีวิตและทรัพย์สิน)
ศาสนากับเพศนี่ไม่ควรกีดกันนะ
ประเทศแห่งเสรีภาพของการจำกัดสิทธิผู้อื่นอย่างภาคภูมิ
พอจะมีรายละเอียดกฏหมายนี่ไหมครับ
น่าจะลิงค์นี้นะ
http://www.prop1.org/rainbow/rfra.htm
ส่วนอันนี้ทำเป็นแยกแต่ละหัวข้อให้อ่าน อยู่ตรง tab US Code
https://www.law.cornell.edu/uscode/text/42/chapter-21B
"เสรีภาพในการกระทำเพื่อฟื้นฟูศาสนา" ฆ่ามันให้หมด!!
ยังดีกว่าข่าวนี้มากครับ อันนี้เข้าขั้นโครตเลว เหมือนพวกนรกส่งมาเกิด
สลดใจ คู่รักถูกรุมปาหินจนตาย ฐานมีเซ็กส์ก่อนแต่งงาน
http://news.mthai.com/hot-news/world-news/435186.html