MtGox ที่ ล้มละลายไป ตอนนี้ทางเจ้าหนี้ก็เข้ามาตรวจสอบว่าเกิดอะไรขึ้นกับบริษัท โดยทีมงาน WizSec จากญี่ปุ่นเข้ามาตรวจสอบบัญชีและพบว่าเงินหายไปจากบัญชี MtGox อย่างต่อเนื่องมานานนับปี
Mark Karpeles ผู้ก่อตั้ง MtGox แสดงบัญชีว่าบริษัทมีบิทคอยน์อยู่ 424242.42424242 BTC ครั้งแรกเมื่อปี 2011 หลังจากให้บริการแลกเปลี่ยนเงิน จนกระทั่งปิดให้บริการในปี 2014 บริษัทควรมีบิทคอยน์อยู่ทั้งสิ้น 950,000 BTC แต่กลับทำหายไปทั้งหมด ทีม WizSec เข้าตรวจสอบบัญชีพบว่าในช่วงปี 2011 มีข้อมูลสูญหายไปทำให้ไม่สามารถติดตามปริมาณเงินที่มีอยู่จริงได้ อย่างไรก็ตามในปี 2013 เป็นต้นมา มีเงินที่รั่วไหลออกจากระบบอย่างต่อเนื่องในอัตราที่ช้าลงเรื่อยๆ จนกระทั่งเงินหมดบัญชีในปี 2014
เส้นทางของเงินพบว่าเงินที่ถูกขโมยออกไปจากบัญชี MtGox นั้นถูกขโมยไปรวมกันที่บัญชีขนาดใหญ่บัญชีหนึ่ง แล้วแตกย่อยออกไปยังบริษัทแลกเงินต่างๆ รวมถึง MtGox เอง
ที่จริงแล้ว MtGox มีแนวคิดการใช้ cold storage เพื่อลดความเสี่ยงในการถูกแฮก เมื่อบัญชีมีบิทคอยน์เกินกำหนดจะโอนเงินเข้าบัญชีหนึ่งที่ไม่มีกุญแจสำหรับโอนออก และพนักงานจะต้องมาสแกนบาร์โค้ดเพื่อโอนเงินกลับเข้าบัญชีหลักเป็นรอบๆ ไป หากบัญชีหลักถูกแฮกจนเงินหมด เงินส่วนมากควรอยู่ในบัญชีสำรองนี้และมีช่วงเวลาให้ผู้ดูแลได้แก้ไขก่อนจะนำเงินกลับมาให้บริการอีกครั้ง
แต่ทีม WizSec เชื่อว่า MtGox ไม่ได้ตรวจสอบยอดเงินรวมว่ามีเงินหายหรือไม่ และเมื่อเงินจากบัญชีหลักใกล้หมด พนักงานก็แค่โอนเงินจากบัญชีสำรองเข้าบัญชีหลักโดยไม่ได้ตรวจสอบ การมีบัญชีสำรองจึงแทบไม่ช่วยอะไร
ที่มา - WizSec
Comments
เป็นไปได้ไงที่ไม่รู้ว่าเงิน (bitcoin) ในมือหายไป
บริษัทที่มีธุรกรรมผ่านมือวันละเป็นล้านเหรียญขนาดนี้ไม่มีการกระทบยอดบัญชีสิ้นวันเลยเหรอ? หรืออย่างน้อยทุกสิ้นเดือนก็ยังดี นี่ยังกะร้านอาแปะ เงินเข้าก็ใส่เก๊ะ เงินออกก็หยิบจากเก๊ะ เงินเยอะก็ย้ายไปใส่เก๊ะสำรอง เงินหมดก็ย้ายเก๊ะกลับ
แล้วยอด Diff ต่างกันเรื่อยๆ ก็ไม่สนใจ? ถึงไม่ได้โกงก็สมควรเจ๊งละแบบนี้.....
เขียนโปรแกรม ผ่าน API รายงานผล น่าจะง่ายด้วยนะ...
424242.42424242 BTC => 424,242.42424242 BTC (ให้เหมือนกับ 950,000 BTC)
ผมรู้สึกว่ามันจะสร้างเป็นหนังได้เรื่องนึงเลยรึเปล่าเนี่ย
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!