กูเกิลเปิดฉากสงครามราคาถล่มโซลูชันสำหรับตลาดองค์กรของคู่แข่ง โดยประกาศว่าถ้าหากอยากย้ายมาใช้ Google Apps แต่ยังติดสัญญากับเจ้าเดิม (enterprise agreement) กูเกิลจะเปิดให้ใช้งาน Google Apps ได้ฟรีๆ จนกว่าจะหมดสัญญาเดิม เรียกว่า "จ่ายเงินให้คู่แข่ง แต่ใช้บริการของกูเกิลแทน"
หลังจากหมดสัญญาเดิมแล้ว กูเกิลจะส่งสัญญาฉบับใหม่ให้ลูกค้าพิจารณา โดยกูเกิลระบุว่าอัตราค่าใช้งานจะถูกกว่าแน่นอน สำหรับลูกค้าบางรายสามารถประหยัดได้ถึง 70% เลยทีเดียว (กูเกิลไม่บอกชื่อคู่แข่งตรงๆ แต่เพื่อนร่วมวงการก็คือไมโครซอฟท์และไอบีเอ็ม)
โครงการนี้ยังรองรับเฉพาะลูกค้าในสหรัฐและแคนาดาเท่านั้น ส่วนลูกค้าในประเทศอื่นๆ ยังต้องรอต่อไปอีกสักพักครับ
ที่มา - Google for Work , TechCrunch
Comments
นี่สินะที่เรียกว่าการทุ่มตลาด
ทุ่มตลาดต้องมีส่วนแบ่งมากครับ
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ตรงนั้นน่าจะเรียกการผูกขาดครับ คือผมมองว่า การทุ่มตลาดคือแนวทางที่มุ่งไปสู่การผูกขาด ประมาณนี้ครับ แต่จริงๆ จะออกมาหน้าไหนก็คงขึ้นอยู่กับอนาคต
การทุ่มตลาด คือการกำหนดราคาเพื่อขจัดคู่แข่งขันครับ จะทำใด้ถ้ามีส่วนแบ่งเยอะหรือมีคนร่วมมือกันหลายเจ้าร่วมกัน กำหนดราคาต่ำกว่าที่เจ้าอื่นจะแข่งขันใด้
แต่ถ้าส่วนแบ่งต่ำกว่า แล้วเสนอ sample ให้ไช้ฟรีพักหนึ่ง และ/หรือ ลดราคา คงจะเรียกว่าทุ่มตลาดไม่ใด้ ออกจะเป็น marketing มากกว่า
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ต้องยอมรับว่าผมไม่ได้มีความรู้ทางด้านนี้เท่าใดนัก ซึ่งตามความเห็นคือการทุ่มตลาดไม่น่าจะเกิดขึ้นโดยดูเฉพาะส่วนแบ่งทางการตลาดเท่านั้น แต่สามาถดูในส่วนของอำนาจของการลงทุนด้วยได้เช่นกัน โดยยืนตำแหน่งราคาที่ตลาดเดิมสู้ไม่ได้และอาศัยเงินทุนที่หนานี้ต่อเวลาไปเรื่อยๆ จนสามารถครองตลาดได้สำเร็จ
ตรงนี้คงต้องรอข้อมูลจากท่านอื่นมาเสนออีกทีข้อมูลของผมอาจจะผิดก็ได้
การทุ่มตลาดมักใช้ในบริบทของการค้าระหว่างประเทศมากกว่าครับ ซึ่งการจะพิจารณาว่าทุ่มตลาดหรือไม่นั่น ภายใต้กฎของ WTO มักดูจาก ราคาสินค้านั้นๆ ในประเทศของผู้ที่ถูกกล่าวหาว่ามาทุ่มตลาดมีราคาสูงกว่าในอีกประเทศที่ทำการฟ้องร้องว่ามีการทุ่มตลาดหรือไม่ สำหรับในกรณีนี้ ผมจึงมองว่า การใช้คำว่าทุ่มตลาดนั้นไม่ถูกต้องนัก แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะใช้คำไหนจึงจะกล่าวได้ถูกต้องสมบูรณ์ เพราะโดยส่วนใหญ่ กรณีที่มักกล่าวถึง จะเป็นกลุ่มกลยุทธ์ที่เรียกว่า Predatory Pricing ซึ่งเป็นกลยุทธ์ของผู้ผูกขาดที่ใช้กำจัดคู่แข่งครับ
ขอบคุณครับ
ถ้าเป็นคำไทยๆ ก็ใช้คำว่า "ตัดราคา" ก็ได้ครับ ผมคิดว่าจุดต่างอยู่ที่ผู้ตัดราคาเป็นผู้เล่นซึ่งอยู่ในตลาดนั้นอยู่แล้ว หรือเป็นผู้เล่นอื่น เช่น มาจากประเทศอื่น ถ้าอยู่ในตลาดแล้วก็เรียกตัดราคา ถ้ามาจากที่อื่นก็คือมาทุ่มตลาด แต่เรื่องส่วนแบ่งตลาดเดิมไม่น่าเกี่ยวเลยครับ
เรื่องน่ารู้ เมื่อก่อนกุ้งแช่แข็งของไทยก็โดนหาว่าไปทุ่มตลาดที่ USA เพราะมันราคาถูกมากกก เลยโดนเก็บภาษี AD ไป แต่ก็ยังขายดีอยู่ดี เลยมาเล่นเรื่องค้ามนุษย์ต่อ (ซึ่งเราก็ผิดจริง)
ฉลาดที่จะเล่นมากเลยนะครับ ตลาดองค์กรถ้าถูกชะตาแล้วคบกันยาว ถึงจะไม่ฟรีเหมือนตอนแรกก็เถอะ
แถวบ้านเรียกว่าวิ่งไล่แจก
น่าจะเรียกว่า "ล่อ" มากกว่า
โหดได้ใจ
ถ้าได้มาถือว่าคุ้ม...กินยาวเลยน่ะ
คงไม่มีองกรไหนเปลี่ยนบ่อยยๆๆ
Don't be evil ?
อันนี้ evil ตรงไหนครับ? ถ้ากับคู่แข่งก็ไม่เกี่ยวรึเปล่า แต่คนที่ได้รับผลประโยชน์คือลูกค้านะครับ
บริษัททุนหนาน่ากลัวจริงๆ ยังดีที่คู่แข่งก็ทุนหนาเหมือนกัน
โหดได้ใจ แต่ใจยังไม่มากพอ แน่จริงฟรีตลอดชีพเลยสิครับผม55
เรียกว่าโปรย้ายค่าย
@iannnnn
+1
+1
+1
เด๋วค่ายเดิมก็ต้องมี "โปรเอาใจ"
The Last Wizard Of Century.
ลงใช้ฟรี ถูกใจแล้วค่อยจ่ายตังสินะ
/จะทำอย่างไร ให้องค์กร มีความเชื่อมันว่า เราใช้บริการนี้ได้โดยไม่ เสี่ยงต่อเรื่องความลับองค์กรครับขนาด google drive ยังเปิดไม่ได้เลย
ปกติถ้าเป็นระดับองค์กร มันต้องมีการทำสัญญาระหว่างกันซึ่งน่าจะครอบคลุมเรื่องการรักษาความลับของข้อมูลด้วยครับ ก่อนหน้านี้หน่วยงานผมใช้การส่งข่าวสั้นทาง Line พอใช้ๆ ไปสักพักเริ่มมีข้อมูลลับอยู่ด้วย เลยเปลี่ยนมาใช้ Yammer แทน เพราะมีสัญญากับ Microsoft ครอบคลุมเรื่องการรักษาข้อมูลด้วย แต่ผมก็ไม่ทราบว่าตัวเซิฟของ Yammer อยู่ที่ไหนนะ อาจจะอยู่ที่หน่วยงานเองก็ได้ เขาเลยวางใจกว่า
ส่วน Google Drive แบบส่วนตัว มันไม่ครอบคลุมเรื่องความลับนี้แน่นอนครับ เขาเลยห้าม ของผมก็ห้าม
ฟรีค่า consult ตอนย้ายระบบด้วยรึเปล่าครับ Google
ฟรีค่า support เพราะเจอแต่บอท
ผมใช้ตั้งแต่ Close Beta อ่ะครับ ตอนนั้นคนใช้ไม่มาก แล้วขออนุมติเพิ่ม จำนวน User ได้หากต้องการ ซึ่งผมเลยทำเรื่องขอไป 200 User ครับ ปรากฏว่าพอมันถอด Beta ออกดันให้ใช้ฟรีต่อแบบจำนวนเต็ม ความสามารถเต็มไม่ต้องจ่ายรายเดือน
พนักงานบริษัทผมมีแค่ 5 คนเอง มีโควต้าใช้มหาศาลเลยครับ (จำไม่ได้ว่าพื้นที่ Cloud ได้เท่าไหร่แต่ได้เยอะกว่าในโปรพอสมควรเลยครับ)
ก็เลยสบายดีครับ ใช้งานยาวจนถึงปัจจุบันครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
บางที Enterprise Software ราคาก็ไม่ใช่คำตอบเสมอไปครับ
หนึ่งในแผนการที่จะครองโลก
อย่างนี้ซื้อ Office 356 5ปี เราก็ใช้ Google Apps ได้ 5 ปี พร้อมกันทั้ง 2 อย่างไปเลยได้ไหม
ได้ครับ
ไม่กล้าเสี่ยง พี่แกยิ่งอินดี้อยู่ด้วยอยาก update อะไรก็ทำเลยไม่แคร์ลูกค้าที่สำคัญ support ก็เจอแต่ bot - -")
Google Apps ยังมีอีกหลายส่วนที่ไม่สามารถเทียบกับ Enterprise Software ได้เห็นง่ายๆ เลยก็เรื่อง Workflow ที่ Google Apps ไม่สามารถจะเข้ามาแทนที่ได้ในหลายๆ ธุรกิจ
รับทำเว็บไซต์ ออกแบบเว็บไซต์
โดยส่วนตัวไม่คิดว่าแอพของกูเกิลจะเทียบของไมโครซอฟต์ได้น่ะค่ะ (ฟีลลิ่งล้วนๆ)อย่างที่คอมเม้นบนหัวบอก ตลาดเอ็นเตอร์ไพรส์ราคาก็ไม่ใช่คำตอบเสมอไป
จะตัดราคากันยังไงไม่รู้ล่ะครับ ผมรู้แต่เวลานี้ถ้าจะทำเอกสารไว้คุยกับลูกค้ายังไงก็ต้องใช้ Office ของ MS จะใช้อย่างอื่น convert เป็น docx, xlsx ก็ไม่ได้เพราะแอบเพี้ยน เวลาไปเปิดกับ MS Office (เถื่อนๆ)