![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/fitbit.png?itok=zYX8Dh87)
เมื่อปลายปี 2019 กูเกิลประกาศ เข้าซื้อกิจการ Fitbit ผู้ผลิตสมาร์ทวอทช์และสายรัดข้อมือชื่อดัง และ เข้าซื้อกิจการเสร็จสิ้น เมื่อต้นปี 2021 จากนั้นก็เริ่มนำเทคโนโลยีของ Fitbit เข้ามารวมกับ WearOS และออกมาเป็น Pixel Watch
อย่างไรก็ตาม มีผู้พบว่ากูเกิลได้ปล่อยเอกสารประกาศเลิกทำตลาด Fitbit ในหลายทวีปทั่วโลก ทั้งในยุโรป, อเมริกา และเอเชีย ดังนี้
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/fitbit.png?itok=zYX8Dh87)
Fitbit เปิดตัวสมาร์ทวอทช์และสมาร์ทแบนด์รุ่นใหม่ 3 รุ่น ได้แก่ Inspire 3, Versa 4 และ Sense 2 ซึ่งเป็นรุ่นอัพเกรดจากรุ่นก่อนหน้าที่ทั้งหมด เปิดตัวเมื่อปี 2020
โดยสมาร์ทวอทช์ Sense 2ชูจุดขายด้านการตรวจจับข้อมูลสุขภาพ แบตเตอรี่อยู่ได้นาน 6 วัน รองรับการตรวจจับคลื่นหัวใจผิดปกติ ECG และอัลกอริทึม PPG, อัตราการเต้นหัวใจ, อุณหภูมิที่ผิวหนัง และฟีเจอร์ EDA ตรวจวัดระดับความเครียดจากการตอบสนองของร่างกาย ราคาขาย 299.95 ดอลลาร์
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/oneplus.png?itok=lD80riCY)
OnePlus เข้าวงการนาฬิกาฟิตเนสและเปิดตัวเป็นคู่แข่ง Xiaomi ด้วยการเปิดตัว OnePlus Band ในอินเดีย ราคา 34 ดอลลาร์ หรือราว 1,024 บาท สามารถนับจำนวนก้าวและแคลอรี่ที่เผาผลาญ รวมถึงตรวจสอบอัตราการเต้นของหัวใจ ติดตามการนอนหลับและวัดระดับออกซิเจนในเลือด รองรับโหมดการออกกำลังกาย 13 โหมด ได้แก่ วิ่งกลางแจ้ง วิ่งในร่ม Fat Burn Run ขี่จักรยาน พายเรือ ว่ายน้ำ โยคะและคริกเก็ต
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/oneplus.png?itok=lD80riCY)
บัญชี Twitter ของ OnePlus ประเทศอินเดียปล่อยภาพทีเซอร์ที่คาดว่าจะเป็นสายรัดข้อมือฟิตเนสชิ้นแรกของ OnePlus โดยใช้คำโปรยว่า ปีนี้เราจะช่วยให้คุณบรรลุเป้าหมายฟิตเนสทุกเป้า และทำให้ชีวิตง่ายยิ่งขึ้น พร้อมติดแท็ก #SmartEverywear
สำหรับสายรัดข้อมือของ OnePlus นี้มีข่าวลือมาสักระยะแล้ว โดย Android Central เคยรายงานว่าจะใช้ชื่อ OnePlus Band และ @ ishanagarwal24 ได้รายงานข้อมูลคร่าว ๆ ว่าสายรัดข้อมือฟิตเนสใหม่จาก OnePlus นี้จะมีตัววัดอัตราการเต้นของหัวใจตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมระบบมอนิเตอร์ระดับออกซิเจนในเลือด, ระบบติดตามการนอนหลับ, หน้าจอ AMOLED ระบบสัมผัสขนาด 1.1 นิ้ว, แบตเตอรี่อยู่ได้ 14 วัน, กันสภาพอากาศตามมาตรฐาน IP68 และมีโหมดในการออกกำลังกายถึง 13 โหมด
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/fitbit.png?itok=zYX8Dh87)
Fitbit เปิดตัวสายรัดข้อมือ Charge 4 โดยมาพร้อมกับฟีเจอร์ใหม่หลายอย่าง แต่จะยังคงลักษณะเหมือนกับ Charge 3
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ Fitbit Charge 4 ได้แก่ GPS ในตัว, ระบบควบคุมเพลง Spotify รวมถึงฟีเจอร์อื่น ๆ ที่พบได้ในสมาร์ทวอชของ Fitbit เช่น Fitbit Pay, การแจ้งเตือนจากแอป, smart wake และเซนเซอร์ SpO2
ฟีเจอร์ที่เด่นที่สุดในรอบนี้คือ GPS เพราะผู้ใช้ FItbit Charge 4 ไม่ต้องนำโทรศัพท์มือถือไปใช้งานขณะออกกำลังกาย โดยข้อมูลการออกกำลังกายจะถูกบันทึกลงแอป และนำมาเปรียบเทียบกับผลการออกกำลังกายในครั้งต่อ ๆ ไป
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/HUAWEI%20CBG%20logo_Vertical%2BTransparent.png?itok=pERhEvAQ)
HONOR เปิดตัว HONOR Band 5 สมาร์ทแบนด์เพื่อตรวจจับค่าต่าง ๆ ระหว่างออกกำลังกายรวมทั้งช่วยแจ้งเตือนสายเรียกเข้าและข้อความต่าง ๆ ได้อีกด้วย โดยรุ่นใหม่ล่าสุดนี้จะวางจำหน่ายตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคมนี้เป็นต้นไปผ่านทางเว็บไซต์ Lazada
ด้านสเปคของ HONOR Band 5 นั้นจะมีสเปคดังนี้:
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/Xiaomi_logo_%282021-%29.svg_.png?itok=9nPZYh63)
ช่วงที่ผ่านมาตลาด Smart Band หรือ Fitness Tracker กลับมาคึกคักอีกครั้ง เมื่อ Xiaomi เปิดตัว Mi Band 4 ด้วยคุณสมบัติที่จัดเต็มใกล้เคียงกับคู่แข่งที่ราคาหลายพัน แต่มาในราคาแค่ 1,290 บาทเท่านั้น หรือหากสั่งซื้อจากบนเว็บก็พอมีราคาต่ำพันขายด้วยซ้ำ
รีวิวนี้จะพาไปดูความสามารถของ Mi Band 4 ว่ามันคุ้มสมชื่อมันจริงหรือไม่
Disclaimer: บทความนี้ไม่ได้รับการสนับสนุนใดๆ จาก Xiaomi ผู้เขียนซื้อมาใช้เอง
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/Xiaomi_logo_%282021-%29.svg_.png?itok=9nPZYh63)
Xiaomi เปิดราคา Mi Band 4 ฟิตเนทแทรคเกอร์ในประเทศไทย ด้วยสเปคหน้าจอ AMOLED, กันน้ำ 5 ATM, วัดอัตราการเต้นของหัวใจ รองรับการควบคุมเพลง แบตเตอรี่อยู่ได้สูงสุด 20 วัน ตัวจับการเคลื่อนไหวเป็น accelerometer 3 แกนและ gyroscope 3 แกน
ส่วนราคาเปิดมาที่ 1,290 บาท ราคาเดียวกับ Galaxy Fit e ของคู่แข่ง
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/j8u2rhG1.jpg?itok=socnIh5Y)
ต้นเดือนที่ผ่านมา ซัมซุงเพิ่งเปิดตัวสายรัดข้อมือด้านสุขภาพ (Fitness Tracker) 2 รุ่นใหม่ในไทยอย่าง Galaxy Fit และ Galaxy Fit e โดยภาพรวมความสามารถของ 2 ตัวนี้คล้ายๆ กัน มีความแตกต่างกันบ้างเพราะถูกวางตัวทางการตลาดเอาไว้กันคนละตำแหน่ง โดย Galaxy Fit e เป็นรุ่นราคาถูก ฟีเจอร์จำกัดกว่า
บทความนี้จึงจะรีวิวในเชิงเปรียบเทียบระหว่างสายรัดข้อมือสุขภาพทั้ง 2 รุ่น
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/fitbit.png?itok=zYX8Dh87)
Fitbit เปิดตัวสายรัดข้อมือใหม่ในชื่อว่า Inspire และ Inspire HR โดยเป็นสายรัดข้อมือเวอร์ชันธรรมดา เพื่อจับตลาดกลุ่มองค์กรที่มีปริมาณการซื้อจำนวนมากเป็นหลัก
ตัวสายรัดข้อมือนี้ สามารถติดตามการนอนหลับ, กิจกรรม, การเผาผลาญแคลอรี, แจ้งเตือนโทรศัพท์/ข้อความ/ปฏิทิน, กันน้ำ, แบตเตอรี่อยู่ได้ 5 วัน และอื่น ๆ ส่วน Inspire HR จะมีฟีเจอร์เพิ่มเติม เช่น วัดอัตราการเต้นหัวใจ, การนอนหลับ, ติดตามการฟิตเนสแบบ cardio, คำนวณ pace และระยะทางด้วย GPS บนมือถือ
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/logo-idc.png?itok=tF_KS-eB)
IDC ได้ออกรายงานวิจัยตลาดอุปกรณ์สวมใส่ประจำไตรมาสสามของปีนี้ โดยในไตรมาสนี้ตลาดภาพรวมเติบโต 21.7% มีอันดับหนึ่งคือ Xiaomi เติบโตสูงถึง 90.9% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และทำให้ Xiaomi เป็นผู้ผลิตที่ครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในแง่จำนวนการส่งมอบสินค้า ตามมาด้วยอันดับสองคือ Apple และอันดับสามคือ Fitbit
การเติบโตของ Xiaomi ในไตรมาสนี้มาจากสองปัจจัยคือสายรัดข้อมือ Mi Band 3 และนโยบายการเริ่มรุกตลาดนอกจีนของบริษัท ซึ่งจากข้อมูลระบุว่ายอดส่งสินค้าในจีนเมื่อเทียบกับทั่วโลกของ Xiaomi นั้นอยู่ที่ 61% ลดลงจากเดิมที่จะอยู่ราว 80% ซึ่งทำให้ไตรมาสนี้ Xiaomi ครองอันดับหนึ่งของตลาดด้วยยอดส่งมอบสินค้า 6.9 ล้านยูนิต คิดเป็นส่วนแบ่ง 21.5%
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/withings.png?itok=8OEpHDiB)
Withings แบรนด์ผลิตภัณฑ์สุขภาพเปิดตัว Pulse HR สายรัดข้อมือฟิตเนสรุ่นใหม่ที่อัพเดตจาก Pulse รุ่นแรกซึ่งออกมาตั้งแต่ 5 ปีที่แล้ว โดยมาพร้อมแบตเตอรี่ที่อยู่ได้นานสุดถึง 20 วัน, กันน้ำในตัว และเพิ่มเซนเซอร์ต่าง ๆ เข้ามา
ตัวสายรัดของ Pulse HR นั้นเป็นซิลิโคน ส่วนหน้าจอเป็น OLED ที่สามารถแสดงข้อมูลการออกกำลังกายแบบเรียลไทม์ อย่างเช่น แคลอรี่ที่เผาผลาญไปแล้ว, เป้าหมายของกิจกรรม ไปจนถึงการแจ้งเตือนจากสมาร์ทโฟน ซึ่งตัว Pulse HR สามารถติดตามการนอนหลับได้ และปลุกผู้ใช้เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมโดยใช้การสั่นได้ด้วย
ระบบปฏิบัติการของ Pulse HR นั้นเป็น OS2 แบบเดียวกับ Steel และ Steel HR ในตัวเครื่องมี GPS สำหรับติดตามตำแหน่ง และยังมีเซนเซอร์วัดอัตราการเต้นของหัวใจด้วย
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/garmin.png?itok=wopshXYc)
Garmin เปิดตัวสายรัดข้อมือติดตามกิจกรรมหรือ activity tracker รุ่นใหม่ vívosmart 4 โดยในรุ่นนี้ Garmin ใส่เซนเซอร์ pulse ox2 oximeter สำหรับวัดค่าออกซิเจนในเลือดมาด้วย
ฟีเจอร์ที่น่าสนใจของ vívosmart 4 คือระบบตรวจวัดการนอนหลับแบบใหม่ โดยสามารถตรวจวัดสถานะการนอนได้สามสถานะคือ light, deep และ REM รวมถึงการเคลื่อนไหวตลอดทั้งคืน และจะสรุปข้อมูลต่าง ๆ ให้ในแอพ Garmin Connect
ฟีเจอร์ถัดไปคือ Boddy Battery เป็นระบบตรวจวัดระดับพลังงานในร่างกาย โดยข้อมูลนี้สามารถนำมาใช้เพื่อการกำหนดเวลาออกกำลังกาย, เวลาพักผ่อน และเวลานอนได้ รวมถึงจะมีสรุปด้วยว่ากิจกรรมต่าง ๆ ที่ทำไปไม่กี่วันก่อนมีผลอย่างไรบ้าง
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/fitbit.png?itok=zYX8Dh87)
Fitbit เปิดตัวสายรัดข้อมือฟิตเนสใหม่ Charge 3 อย่างเป็นทางการ สามารถใช้งานได้นานถึง 7 วันต่อการชาร์จ 1 ครั้ง รวมถึงมีการปรับปรุงในด้านอื่นทั้งตัวเครื่องและซอฟต์แวร์หลายประการ
Fitbit ได้ออกแบบ Charge 3 ใหม่ให้ตัวเครื่องบางลง ใช้อะลูมิเนียมเกรดยานอวกาศและหน้าจอ Gorilla Glass 3 จึงทำให้ตัวเครื่องแข็งแกร่งขึ้น ส่วนหน้าจอเป็น OLED แบบสัมผัสที่ขนาดใหญ่และสว่างกว่าเดิม และตัวเครื่องยังกันน้ำระดับที่สามารถใส่ว่ายน้ำได้ กันน้ำระดับ 50 เมตร
ส่วนฟีเจอร์ใหม่และการปรับปรุงส่วนอื่น เช่น
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/Xiaomi_logo_%282021-%29.svg_.png?itok=9nPZYh63)
ไม่เพียงแค่การเปิดตัว Xiaomi Mi 8 แต่ยังสานต่อตำนาน fitness tracker ราคาประหยัด กับการเปิดตัว Mi Band 3
สเปก Mi Band 3 มีดังนี้
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/fitbit.png?itok=zYX8Dh87)
Fitbit เปิดตัวสายรัดข้อมือฟิตเนสรุ่นใหม่ในชื่อว่า Fitbit Ace เน้นจับตลาดกลุ่มเด็กอายุ 8 ปีขึ้นไป โดยเด็กอายุ 12 ปีหรือต่ำกว่าจะไม่สามารถสร้างบัญชีเองได้ ต้องมีผู้ปกครองคอยควบคุมบัญชี
สำหรับ Fitbit Ace นี้จะออกแบบมาเพื่อเน้นการส่งเสริมให้เด็กทำกิจวัตรต่าง ๆ ทางกายภาพตั้งแต่อายุยังน้อย ผู้ปกครองสามารถใช้แอพ Fitbit เพื่อติดตามดูข้อมูลบุตรของตัวเองทั้งระดับกิจกรรมและการนอนหลับ โดยบัญชีที่ผูกกับ Fitbit Ace จะถูกจำกัดไม่ให้ใช้ฟีเจอร์ด้านโซเชียลอย่างเช่นการแชร์รูปภาพหรือแชร์สถิติการออกกำลังกายเหมือนกับบัญชีปกติของ Fitbit
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/garmin.png?itok=wopshXYc)
Garmin เปิดตัว vívofit 4 สายรัดข้อมือที่ทำหน้าที่เป็นเครื่องมือสำหรับติดตามกิจกรรมหรือ activity tracker โดยออกแบบมาสำหรับการใช้งานแบบตลอดเวลา และ หน้าจอสีแบบเปิดใช้งานตลอด (always-on) แบตเตอรี่อยู่ได้ประมาณ 1 ปีขึ้นไป
vívofit 4 รองรับการติดตามก้าวเดินตั้งแต่แกะกล่อง หรือสามารถเชื่อมต่อกับสมาร์ทโฟนเพื่อใช้ฟังก์ชันอื่น ๆ เพิ่มเติม อย่างเช่นติดตามการนอนหลับ, วิเคราะห์จำนวนก้าวต่อนาที และฟีเจอร์ตัวจับกิจกรรมอัตโนมัติ Move IQ สำหรับการติดตามกิจกรรมอย่างเช่นการเดิน, วิ่ง, ปั่นจักรยาน, ว่ายน้ำ
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/adidas.png?itok=Hx-PzyAu)
Adidas เตรียมถอนตัวจากการพัฒนาอุปกรณ์สวมใส่ฟิตเนสเอง โดยจากรายงานของ Portland Business Journal เผยว่าตอนนี้ทางบริษัทได้ปิดแผนกฮาร์ดแวร์ภายในแล้ว โดยจะเปลี่ยนไปเน้นที่ซอฟต์แวร์อย่างแอพ Adidas หรือ Runtastic รวมถึงการเป็นพาร์ทเนอร์กับบริษัทอื่นเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์ร่วมกันอย่างเช่น Fitbit Ionic Adidas ที่คาดว่าจะเปิดตัวในปี 2018
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/news-thumbnails/tomtom-logo.jpg?itok=W9gmoANe)
TomTom ประกาศปลดพนักงาน 136 คนเพื่อเป็นการปรับโครงสร้างของบริษัทไปเน้นงานในด้านแผนที่และการนำทางมากยิ่งขึ้น โดยจะมีพนักงานจำนวน 57 คนที่ถูกปลดจากสำนักงาน TomTom ในเนเธอร์แลนด์ ส่วนที่เหลือจะเป็นสำนักงานในสหรัฐฯ และไต้หวัน ซึ่งปัจจุบัน TomTom มีพนักงานทั้งหมด 4,700 คนทั่วโลก การปลดพนักงานครั้งนี้จึงคิดเป็นเพียงไม่ถึง 3% ของพนักงานทั้งหมดของ TomTom เท่านั้น
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/news-thumbnails/350x350bb_0.jpg?itok=Q1oSq3Km)
Strava แอพติดตามการออกกำลังกายยอดนิยม โดยเฉพาะในกลุ่มนักปั่นจักรยาน ประกาศเพิ่มรายการเสริมสำหรับผู้ซื้อแพ็คเกจ Premium นั่นคือประกันภัยอุปกรณ์หากได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นขณะปั่นจักรยาน
ประกันภัยดังกล่าวเป็นของ Sunday’s Insurance รองรับเฉพาะผู้ใช้ในอเมริกา, อังกฤษ และออสเตรเลีย โดยสามารถเบิกค่าเสียหายได้สูงสุด 600 ดอลลาร์ หากเกิดอุบัติเหตุจนทำให้อุปกรณ์เสียหาย ขณะใช้งาน Strava นอกจากนี้ยังสามารถเบิกค่าเดินทางด้วยรถแท็กซี่ กรณีจักรยานเสียหายจนไม่สามารถเดินทางต่อได้ ไปจนถึงประกันค่าเสียโอกาส หากป่วยหรือได้รับอุบัติเหตุจนไม่สามารถเข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันที่จ่ายเงินไปแล้ว
Strava Premium มีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 60 ดอลลาร์ต่อปี
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/wearables-2316471_640.png?itok=z-AqpeJW)
เป็นประเด็นกันมานานมาก ถึงความน่าเชื่อถือของอุปกรณ์สวมใส่ประเภท Fitness Tracker ในแง่ของความถูกต้องของข้อมูลด้านสุขภาพที่ตรวจจับและแสดงผลออกมา ซึ่งงานวิจัยล่าสุดจากนักวิจัย Stanford ก็ชี้ไปในทิศทางลบว่า ตัวเลขแคลอรี่ที่ Fitness Tracker แสดงนั้นไม่มีความแม่นยำเลย
งานวิจัยชิ้นนี้ถูกจัดทำขึ้นโดยศาสตราจารย์ด้านเวชศาสตร์เกี่ยวกับระบบไหลเวียน (Cardiovascular Medicine) จากมหาวิทยาลัย Stanford ซึ่งเก็บข้อมูลจาก Apple Watch, Basis Peak, Fitbit Surge, Microsoft Band, Mio Alpha 2, PulseOn และ Samsung Gear S2 กับอาสาสมัคร 60 คน
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/watch_s.jpg?itok=v8GeHbTl)
eMarketer บริษัทวิจัยตลาดเปิดเผยรายงานที่ชี้ว่า ยอดขายอุปกรณ์สวมใส่ในสหรัฐ ไม่เติบโตแบบปีต่อปี (YoY Growth) ตามที่เคยคาดไว้เมื่อปีที่แล้วว่าจะสูงถึง 60% ก่อนที่จะปรับตัวเลขลดลงเหลือเพียง 24.7% ขณะที่ปีหน้ายอดเติบโตจะเหลือเพียง 12.6% ตามด้วย 9.9%, 7% และ 5.1% ในปี 2018, 2019 และ 2020 ตามลำดับ
Nicole Perrin นักวิเคราะห์ของ eMarketer ระบุว่า ก่อนหน้า Apple Watch จะเปิดตัว ผลสำรวจผู้บริโภคชี้ว่าอุปกรณ์สวมใส่ด้านสุขภาพครองตลาดนี้ โดยสาเหตุสำคัญก็คือฟีเจอร์ด้านการตรวจจับสุขภาพและการออกกำลังกาย ขณะที่สมาร์ทวอทช์อย่าง Apple Watch นั้นทั้งราคาสูง แถมยังไม่มีจุดเด่นในการใช้งานเป็นของตัวเอง ถึงแม้จะมีฟีเจอร์ที่เหมือนกับอุปกรณ์ด้านสุขภาพ แต่ก็ทับซ้อนกับฟีเจอร์บนสมาร์ทโฟน
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/logo-idc.png?itok=tF_KS-eB)
IDC เปิดเผยรายงานยอดส่งมอบอุปกรณ์สวมใส่ประจำไตรมาส 3 ทั้งหมด 23 ล้านเครื่อง โตขึ้นจากปีที่แล้ว 3.1% โดยสัดส่วนกว่า 85% เป็นของ Fitness Tracker ที่เติบโตขึ้นเป็นตัวเลขถึง 2 หลัก
นักวิเคราะห์ของ IDC ให้เหตุผลที่ Fitness Tracker ครองตลาดว่ามาจากการออกรุ่นใหม่เรื่อยๆ ช่วยให้ขยายฐานผู้ใช้ ประกอบกับช่วงหน้าร้อนที่ผ่านมา มีคนออกกำลังกายกันมากขึ้น และที่สำคัญที่สุดคือความเรียบง่าย ที่บริษัทผู้ผลิต Fitness Tracker ส่วนใหญ่ออกผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายและตอบโจทย์สุขภาพ ไม่เน้นแฟชันเหมือนอุปกรณ์สวมใส่อื่นๆ ที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีและฟังก์ชันการใช้งานมาทีหลัง
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/fitbit.png?itok=zYX8Dh87)
ช่วงหลังมี งานวิจัย เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพมากขึ้นเรื่อยๆ แต่ล้วนแล้วแต่ยังไม่พบว่าอุปกรณ์เหล่านี้ช่วยทำให้สุขภาพดีขึ้นจริงเสียเท่าไหร่ มาวันนี้มีงานวิจัยอีกชิ้นเผยให้เห็นว่า อุปกรณ์ยี่ห้อดังอย่าง Fitbit นั้นมีไว้ใช้เฉยๆ ก็ไม่ได้ช่วยให้สุขภาพดีขึ้น
![Node Thumbnail](https://www.blognone.com/sites/default/files/styles/thumbnail/public/topics-images/watch_s.jpg?itok=v8GeHbTl)
อุปกรณ์สวมใส่เพื่อสุขภาพเป็นอุปกรณ์ที่มาแรงในช่วงหลังๆ จุดมุ่งหมายหลักๆ ของอุปกรณ์เหล่านี้คือนับปริมาณแคลอรี่ที่เผาผลาญไปในแต่ละวัน และเตือนผู้ใส่ว่าวันนี้เผาผลาญได้ตามเป้าหมายหรือไม่ จึงนิยมในผู้ที่พยายามที่จะลดความอ้วน แต่งานวิจัยชิ้นใหม่ชี้ให้เห็นว่าความคิดนี้อาจได้ผลไม่ดีอย่างที่เราเข้าใจกัน