MoneyGram บริการโอนเงินระหว่างประเทศรายใหญ่ของโลก ประสบปัญหาระบบล่มติดต่อกันหลายวัน มีรายงานปัญหามาตั้งแต่วันที่ 20 กันยายน ซึ่งกระทบลูกค้าของ MoneyGram ทั่วโลกที่ไม่สามารถโอนเงินได้ (ปัจจุบัน ณ ขณะที่เขียน หน้าเว็บของ MoneyGram ยังมีข้อความแจ้งว่าเกิดปัญหา)
ในแถลงการณ์ของ MoneyGram อธิบายว่าเจอปัญหาความปลอดภัยไซเบอร์ จึงตัดสินใจปิดระบบทั้งหมด เพื่อป้องกันปัญหาลุกลาม ตอนนี้บริษัทอยู่ระหว่างการสอบสวนในเชิงลึก ร่วมกับผู้เชี่ยวชาญและหน่วยงานภาครัฐต่อไป
ประกาศฉบับล่าสุดของ MoneyGram เมื่อประมาณ 3 ชั่วโมงก่อนหน้านี้ บอกว่าระบบบางส่วนกลับมาใช้งานได้แล้ว โดยเอเยนต์ของ MoneyGram สามารถกลับมารับและส่งเงินโอนข้ามประเทศได้บ้างแล้ว
Ripple ประกาศความร่วมมือกับบริษัทผู้ให้บริการโอนเงินข้ามประเทศ MoneyGram โดย Ripple จะเข้าถือหุ้นราว 8-10% ใน MoneyGram คิดเป็นมูลค่า 30 ล้านดอลลาร์ พร้อมออปชั่นซื้อหุ้นเพิ่มได้อีกมูลค่า 20 ล้านดอลลาร์ ภายใน 2 ปี คิดเป็นมูลค่าดีลนี้รวม 50 ล้านดอลลาร์
การเข้าลงทุนของ Ripple ใน MoneyGram เป็นการผลักดันให้มีการใช้บริการ xRapid ของ Ripple สำหรับการโอนเงินนั่นเอง ซึ่งก่อนหน้านี้ทั้งสองบริษัทก็ มีความร่วมมือ กันมาอยู่แล้ว เพื่อทำให้การโอนเงินข้ามประเทศมีค่าธรรมเนียมที่ลดลง และใช้เวลาในการทำธุรกรรมเหลือระดับไม่กี่วินาที จากเดิมต้องใช้เวลาหลายนาที
Ripple บริษัทผู้พัฒนาบล็อกเชนสำหรับการโอนเงินประกาศร่วมมือกับ MoneyGram ผู้ให้บริการโอนเงินของสหรัฐฯ
ภายใต้ความร่วมมือนี้ MoneyGram จะเริ่มทดสอบใช้ระบบ xRapid ของ Ripple เพื่อให้โอนเงินได้เร็วขึ้นและค่าธรรมเนียมต่ำ ซึ่งจะมีการใช้งาน XRP ด้วย โดยจากคำแถลงของบริษัทเผยว่า XRP เป็นสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพมาก ด้วยค่าธรรมเนียมต่ำเมื่อเทียบกับบิตคอยน์ที่มีค่าธรรมเนียมกว่า 30 ดอลลาร์ต่อธุรกรรม รวมถึงเวลาที่ใช้ทำธุรกรรมสั้นเพียง 2-3 วินาที เทียบกับสินทรัพย์ดิจิทัลอื่นที่ใช้เวลา 15 นาทีไปจนถึงระดับชั่วโมง