หลังจากที่ PewDiePie ครองแชมป์ในฐานะบุคคลที่มีผู้ติดตามผ่าน YouTube มากที่สุดมายาวนานเกือบ 10 ปี ในที่สุดตอนนี้ก็โดน MrBeast นักสร้างคอนเทนต์ชาวอเมริกันแซงหน้าไปแล้ว
ณ ขณะนี้จำนวนผู้ติดตามช่อง YouTube ของ MrBeast นั้นมีถึง 112 ล้านคน แซงหน้าช่องของ PewDiePie ซึ่งแสดงข้อมูลจำนวนผู้ติดตามอยู่ที่ 111 ล้านคน ทั้งนี้จำนวนผู้ติดตามที่แท้จริงนั้นอาจต่างกันในหลักไม่กี่พันหรือไม่กี่หมื่นคน
PewDiePie หรือ Felix Kjellberg ยูทูเบอร์ชื่อดัง ในที่สุดก็เซ็นสัญญากับ YouTube ทำไลฟ์สตรีมแบบเอ็กซ์คลูซีฟให้ YouTube หลังก่อนหน้านี้เขาบอกจะทำสัญญาไลฟ์กับแพลตฟอร์มไลฟ์แบบบล็อกเชน DLive
PewDiePie เองเคยมีปัญหากับ YouTube จนถึงขั้นต้องหยุดการทำดีลธุรกิจกับ PewDiePie ไปเมื่อสามปีที่แล้ว เนื่องจากเขาเล่นมุกตลกเหยียดสีผิว และสนับสนุนนาซี ซึ่งเขาออกมาขอโทษในภายหลัง ก่อนหน้านี้ไม่นาน PewDiePie ก็เคยเปรยไว้ว่าจะพักการทำคลิปบน YouTube สักพักเพราะรู้สึก burnout
PewDiePie ยูทูเบอร์ชื่อดังประกาศผ่านคลิปใหม่ล่าสุดของเขาว่า เขาจะหยุดทำคลิปลง YouTube สักพักช่วงต้นปี 2020 เขาบอกด้วยว่า เพราะเขาเหนื่อย
คลิปดังกล่าวเป็น Pew News ซึ่งเป็นรายการของเขาเอง มาในชื่อตอนว่า YouTube's New Update Has A BIG FLAW! พูดถึงนโยบายล่าสุดที่จะจัดการกับการคุกคามและความรุนแรงในวิดีโอบนแพลตฟอร์ม เขาพูดในตอนท้ายวิดีโอว่า มีเรื่องจะประกาศ คือเขาจะพักงานบน YouTube เขาตัดสินใจแล้ว และอยากบอกเรื่องนี้แก่ทุกคนก่อน เขาบอกด้วยว่าเขาเหนื่อย
PewDiePie หรือ Felix Arvid Ulf Kjellberg ยูทูเบอร์ที่น่าจะมีชื่อเสียงและมีฐานแฟนคลับแน่นที่สุดในเวลานี้เดินทางมาถึงหมุดหมายใหม่ มียอด subscribe เกิน 100 ล้านรายแล้ว โดยเจ้าตัวอัพคลิปฉลองสิ่งนี้ไปแล้วด้วยโดยบอกว่าเป็นสัปดาห์ที่ดีที่สุด (Best Week Ever) ซึ่งรวมถึงการแต่งงานของเขากับ Marzia Bisognin ด้วย
หากใครพอจำกันได้ถึงเหตุการณ์แฮกเกอร์นาม HackerGiraffe แฮ็กเข้าเครื่องปรินท์ ให้พิมพ์เอกสารโปรโมท PewDiePie ยูทูเบอร์ชื่อดังแห่งยุค ล่าสุดลามมาแฮ็กที่ Chromecast, Google Home และสมาร์ททีวีจำนวนรวมกันราว 5,500 เครื่อง
อุปกรณ์ที่ถูกแฮ็กจะปรากฎข้อความโปรโมทให้กดติดตาม PewDiePie บน YouTube และยังมีข้อความและลิงก์ที่ระบุวิธีตั้งค่าอุปกรณ์ใหม่เพื่อความปลอดภัยไม่ถูกแฮ็กได้ง่ายด้วย
ชาวทวิตเตอร์หลายรายโพสต์ภาพเอกสารที่พิมพ์ออกมาจากเครื่องปรินท์ระบุข้อความโฆษณาให้ติดตาม PewDiePie ยูทูเบอร์ชื่อดังทาง YouTube แทนที่จะไปติดตามผ่านช่อง T-Series โดยรายงานข่าวเผยว่าแฮกเกอร์ได้ปฮ็กเข้าเครื่องปรินท์ถึง 5 หมื่นเครื่องเลยทีเดียว
TheHackerGiraffe คือนามแฝงของแฮ็กเกอร์ เขาโพสต์ทวิตเตอร์บอกว่าในการแฮ็กเข้าเครื่องปรินท์ทั้งหมด เขาใช้เวลาเพียง 30 นาทีเท่านั้น และเขายังใช้ Shodan.io ในการค้นหาว่ามีเครื่องปรินท์ไหนที่เชื่อมต่อแบบเปิดบนอินเทอร์เน็ตบ้าง
ผลกระทบจากแบรนด์บอยคอต YouTube ไม่ลงโฆษณา ส่งผลรายได้บรรดายูทูบเบอร์หดหาย ส่งผลกระทบกันถ้วนหน้าทั้งคนทำเนื้อหาการเมืองไปจนถึงเนื้อหาตลกขำขัน แม้แต่ PewDiePie บล็อกเกอร์บนยูทูบที่ดังที่สุดยังได้รับผลกระทบ
PewDiePie โพสต์ วิดีโอ ใหม่วันนี้ เขาบอกว่าจากนโยบายการจัดการโฆษณาใหม่บนยูทูบทำให้เขาเสียรายได้ โดยหนึ่งในสามของวิดีโอทั้งหมดของเขาถูกถอนโฆษณาออกไป เขาจำเป็นต้องแก้ไขเนื้อหาใหม่ เพื่อให้รายได้กลับมาเหมือนเดิม
จากข่าว ดิสนีย์ยกเลิกสัญญากับ PewDiePie เหตุโพสต์วิดีโอสนับสนุนนาซีและต่อต้านชาวยิว และ YouTube ยกเลิก Scare PewDiePie ซีซัน 2 พร้อมถอดออกจากสมาชิกโฆษณาพรีเมียม ล่าสุด PewDiePie ออกมาขอโทษแล้ว
PewDiePie บอกว่า เขาขอโทษสำหรับสิ่งที่พูดออกไป ยอมรับว่าคำพูดของเขาทำให้คนโกรธ และมุกตลกของเขาก็ข้ามขอบเขตเกินไป ถึงเวลาที่ต้องพิจารณาตัวเองว่ายังไม่มีประสบการณ์มากพอ แนนอนว่าเขาเคยทำพลาดมาก่อน และประสบการณ์จะทำให้เขาเติบโต
ขณะเดียวกัน PewDiePie ก็ตัดพ้อด้วยว่า สื่อ (Wall Street Journal) ทำให้เขาดูเป็นผู้ร้าย มันดูไม่ยุติธรรมกับเขาเท่าไหร่ เพราะสื่อเอาเฉพาะส่วนเดียวไปตีแผ่ ไม่ได้มองดูภาพรวม ถ้ามุกตลกของเขามีคนจำนวนมากไม่ชอบ เขาก็ยอมรับ แต่ปฏิกิริยาสังคมดูมากเกินไปหน่อยสำหรับเขา ถ้าไม่ชอบมุกตลกของเขา ต้องเรียกเขาว่าเป็นฟาสซิสต์เลยหรือ สิ่งนี้มันช่วยอะไรใครได้หรือไม่
ข่าวสั้นต่อเนื่องจากข่าว " PewDiePie ที่มียอดคนติดตามกว่า 50 ล้านบน YouTube อาจปิดช่องตัวเองลง "
หลังจากที่ PewDiePie ประกาศว่าเมื่อ channel ตัวเองครบ 50 ล้าน subscriber แล้วจะลบ channel ตัวเองทิ้ง วันนี้เขาลบ Channel Jack SepticEye 2 ซึ่งเป็น channel ที่ 2 ของตัวเองที่เปิดไว้เมื่อเดือนตุลาคมแล้ว ในคลิปที่บันทึกการลบ channel ดังกล่าว เขากล่าวโดยสรุปว่าคำสัญญาที่ว่าเป็นเพียงแค่ Joke เท่านั้น
ท้ายวิดิโอดังกล่าวยังระบุด้วยว่า "Will delete PewDiePie at 100 million!" ซึ่งไม่รู้ว่าคราวหน้าจะมาไม้ไหนอีก
ไม่น่าแปลกใจเท่าไหร่ที่ทำแบบนี้ เพราะ PewDiePie เองก็เคยมีประวัติ troll ผู้ชมมาแล้วหลายครั้ง