จากข่าว Elizabeth Warren ผู้สมัคร ปธน. ปี 2020 เปิดนโยบายลดอิทธิพล Google, Facebook, Amazon ด้วยการจับแยกบริษัท ก็เกิดคำถามตามมาว่าเป้าหมายของ Warren มีเพียง 3 บริษัทนี้เท่านั้นหรือ
Warren ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมกับเว็บไซต์ The Verge ว่าเธอยังต้องการจับแยกบริษัทแอปเปิลด้วย โดยเฉพาะประเด็นเรื่อง App Store ที่แอปเปิลเป็นเจ้าของสโตร์เอง และเข้ามาแข่งขันกับบริษัทอื่นๆ ในสโตร์ของตัวเองด้วย (ประเด็นเดียวกับที่ Amazon ขายสินค้าแบรนด์ Amazon Basics ในตลาดของตัวเองแข่งขับคู่ค้า)
เธอบอกว่าสุดท้ายแล้วแอปเปิลจะเลือกได้อย่างเดียวเท่านั้น ว่าจะเป็นผู้จัดการสโตร์ หรือจะเข้ามาแข่งขันในสโตร์ เพื่อความเป็นธรรมกับผู้เล่นรายอื่นในตลาด
Warren เล่าว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เจ้าของแพลตฟอร์มลงมาแข่งขันบนแพลตฟอร์มตัวเองด้วย ตัวอย่างคือในอดีตสมัยยุครถไฟเฟื่องฟูในสหรัฐ บริษัทรถไฟใช้วิธีไล่ซื้อบริษัทผลิตเหล็ก เพื่อขึ้นราคาเหล็กที่ขายให้กับบริษัทรถไฟรายอื่นที่เป็นคู่แข่งกัน
ที่มา - The Verge , ภาพจาก Elizabeth Warren
Comments
ก็คือ App Store ห้ามมีแอพของ Apple ?
..
เจ๊อย่ามายุ่งกับสตีมผมนะ //กราบ
มีได้ แต่ AppStore ต้องเป็นของ บ. อื่น (ที่เป็นของ Apple อยู่ดี)
งง มากกว่าเดิม..
สภาพจะเป็นแบบนี้ครับappstore กับ app ของ apple จะต้องแยกออกจากกัน
ทำให้สิทธพิเศษที่เคยมี อย่าง apple music / apple book ที่ไม่ต้องจ่าย 30% ให้ appstore ต้องจ่ายและต้องมีกำไร (เชิงบัญชี) ผลคือคู่แข่งที่เสียเปรียบเพราะเจ้าของตลาดคิดค่าบริการไม่เท่ากัน (เช่น spotify) เสียเปรียบน้อยลง
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
ไม่น่ารอดถ้าได้ขึ้นมาจริงๆเราก็จะไม่ได้เห็น Dota3 , Half Life 3 , CSGO3 , PORTAL3
แยก บ. ส่วน dev ออกจากกันสิ้นเชิงไปทำ HL3 สิ
หรือไม่ก็ขาย title นี้ให้ บ.อื่น ไปทำซะ ดีกว่าดองเกมไว้เพราะกินเงินจากสตีมซะอ้วนกลมจนทำเกมไม่เป็นละ
มาลงสมัครที่ไทยเดี๋ยวผมเลือกให้
อ้างรถไฟแล้วรู้สึกแปลกๆ บริบทมันดูต่างกันมากเลย
แนวคิดน่าสนใจนะ แต่ขอความชัดเจนกว่านี้ดีกว่า
นึกถึงธุรกิจค้าปลีกหลายรายในไทย เมื่อเวนเดอร์เอาของมาวางในร้านแล้วขายดี สักพักบ.แม่ของธุรกิจค้าปลีกดังกล่าวจะเริ่มผลิตสินค้าที่ขายดีนั้นมาวางแข่งในราคาที่ถูกกว่า
แล้วใช้ discrimination ในรูปแบบต่างๆ กับเวนเดอร์ด้วย เช่น คิดค่าวางขายแพงขึ้น, ลดราคาสินค้าของตนเอง ซึ่งการลดราคามีหลายรูปแบบ เช่น ลดราคาสินค้าจริงๆ หรือขายในราคาเท่ากันแต่ให้ปริมาณมากกว่าเล็กน้อย
เหมือนเท่าที่ผมเห็นจะมีอยู่เจ้าเดียวนะครับ
หลายเจ้าอยู่ครับ อย่างน้อยๆ สองเจ้า
+1 ผมว่าผมเห็นทุกเจ้านะ ยังไม่เคยเจอเจ้าไหนไม่ทำ อันนี้ในระดับ Supermarket และ Hypermarket นะ
ส่วนร้านขายปลีกนี่ไม่ค่อยเห็น
ไม่เห็นทำ?
เปล่า ไม่เห็นเจ้าอื่นเลย เอาไปวางไว้ไกลหูไกลตาตลอด 555
+1
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
น่าสรรเสริญครับ ชงเอง กินเอง ครื้นเครงในตัว senior full stack comedian
aro, besico, คุ้มค่า, 7-selected
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
ก็บอกว่า 7-11 เอากันตรงๆ
ประเทศนี้เจริญอยู่ 2 เจริญ อิอิ
เศร้าใจครับ เดี๋ยวนี้หาฟาร์มเฮ้าส์ยากมากแล้วคุณภาพขนมปังของ"ตลาดครอบครัว"ก็กากใช้ได้เลย เลอแปงก็พอไหวแต่ยังไงผมก็ชอบของฟาร์มเฮ้าส์มากกว่า
เดี๋ยวนี้เข้า 7-11 แต่จะพยายามซื้อเจ้าอื่น ที่ไม่ได้ผลิตจาก 7-11 เอง
+1
ออกแบบและจัดวางได้ดี จนผมหยิบผิดตลอด
เช่นน้ำยาล้างจาน เล็งแล้วเล็งอีกนะ ซันไลท์ พอหยิบมาจ่ายเงินหยิบผิดเอายี่ห้อเถื่อนอีกละ
อยากให้ในไทยมีอะไรแบบนี้บ้าง
จะทำอุปกรณ์พวกนี้ มันต้องมีแอปหรือเกมส์ที่เป็นเรือธงหรือ killer application ของตัวเอง
เพื่อช่วยผลักดันให้ระบบนิเวศน์สมบูรณ์ ไปจับแยกกัน น่าจะทำให้กิจการอ่อนแอลง
แต่ก็ดีเหมือนกัน กิจการของประเทศอื่นจะได้เกิดบ้าง
หืม รู้สึกหวั่น ๆ ว่าจะได้รับผลกระทบ เหมือนอะไรต่าง ๆ ใน Apple จะแพงขึ้น การทำงานในระบบนิเวศน์จะไม่ไหลลื่น (จากที่ก็รู้สึกไม่ไหลลื่นในบางจุดแล้วนะหลัง ๆ) เอ หรือมันจะดีขึ้น? ก็ค่อยปรับตัวกันไปละกันถ้าเวลานั้นมาถึง ถ้าแพงขึ้นก็ขยันหาธุรกิจใหม่ ๆ มาทำ หาเงินให้ได้เยอะขึ้น ?
อันนี้มองในแง่นโยบายนะ ไทยก็กำลังจะเลือกตั้ง แต่เมื่อดูนโยบายแต่ละพรรคแล้ว ไม่ค่อยเห็นมีพรรคไหนมีแนวคิดในแง่ปรับปรุงระบบเศรษฐกิจอะไรทำนองนี้เลย ประมาณลดการผูกตลาด ซึ่งประเทศเราก็เห็นอยู่ว่ามี
นโยบายที่เล่นดูๆ แล้วบางพรรคก็เหมือนเล่นตามกระแสสังคมเพื่อเรียกเสียงโหวต บางพรรคก็วนเวียนอยู่กับเกษตรกรรม แต่ในเรื่องระบบเศรษฐกิจ การค้าขายแล้ว ยังไม่ค่อยเห็นเลย
ก็มีบางพรรคนะที่เล็งแก้โครงสร้างอยู่ แต่ส่วนใหญ่ก็เดิม ๆ เอาตัวเลขมาจับตรง ๆ
ตอนนี้ผมมองว่า ขืนไปกระด้างกระเดื่องกับนักธุรกิจ นั่นก็หมายถึงการขาดการได้รับการสนับสนุนพรรคในอนาคต ซึ่งพอจะทำอะไรก็จะไม่ค่อยมีพาวเวอร์เท่าไหร่ มันก็เลยไม่น่าแปลกใจที่ไม่ค่อยมีใครอยากไปแตะตรงนี้