หลังจากที่ Xiaomi เปิดตัว Xiaomi Mi Note 10 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการแล้ว ผู้เขียนมีโอกาสทดลองเล่นเครื่องโชว์ในงานเป็นเวลาสั้น ๆ และมีโอกาสเก็บภาพด้วยกล้องหลัง 108 ล้านพิกเซลที่ DXOMARK ให้คะแนนสูงถึง 121 แต้ม มาให้ผู้สนใจชมกัน

รุ่นที่ผู้เขียนทดลองเล่นเป็น Mi Note 10 รุ่นธรรมดา ส่วนสเปกกับจุดแตกต่างจากรุ่น Pro หลัก ๆ คือชิ้นเลนส์รุ่นธรรมดาจะมีเพียง 7 ชิ้นในขณะที่รุ่น Pro จะมี 8 ชิ้น ส่วนสเปกโดยละเอียดสามารถอ่านได้ที่ลิงค์ข้างบน

พอร์ตรอบตัวเครื่อง

ฝั่งซ้ายของ Mi Note 10 ไม่มีพอร์ตใด ๆ ติดตั้งอยู่

ฝั่งขวาของตัวเครื่องไล่จากด้านบนจะเป็นปุ่มเพิ่มลดเสียง, ปุ่มล็อคหน้าจอ มีช่องใส่ Nano SIM 2 ช่อง ไม่รองรับการเพิ่ม microSD

ด้านบนเครื่องเป็น IR Blaster ไว้คุมเครื่องใช้ไฟฟ้า

ด้านล่างของเครื่องเป็นลำโพง, USB-C รองรับชาร์จไว 30W (มีปลั๊กชาร์จ 30W แถมฟรีในกล่อง) และช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร เมื่อทดลองฟังเพลงผ่านหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร พบว่าเสียงดังทีเดียวจึงแนะนำให้เปิดความดังครึ่งหนึ่งเท่านั้น เสียงของเครื่องดนตรีกับนักร้องดังเสมอกัน, เบสชัดเจน ส่วนโทนเสียงออกไปทางเสียงต่ำมากกว่าเสียงสูง

ตัวเครื่องและการจับถือ

ตัวเครื่องของ Xiaomi Mi Note 10 มีหน้าจอขนาด 6.47 นิ้ว ขอบจอสองด้านโค้งลงพร้อมกับกล้องหน้าแบบติ่งอยู่ตรงกลางหน้าจอ ตัวเครื่องเป็นอลูมิเนียมทำขอบมนเอาไว้ ใช้กระจก Gorilla Glass 5 ปิดทั้งด้านหน้าและหลังเครื่อง

สัมผัสตอนจับครั้งแรกรู้สึกได้ว่าตัวเครื่องแข็งแรงและแน่นมาก งานประกอบตัวเครื่องสวยเรียบร้อยเกินราคาหมื่นกลางไปพอควร

ตอนทดลองถือเครื่อง น้ำหนัก 208 กรัมถือว่าหนักนิดหน่อย แต่การออกแบบให้ตัวเครื่องยาวและบาลานซ์น้ำหนักดีทำให้ถือเครื่องได้ง่ายไม่ล้นมือ สีสันหน้าจอจัดว่าสดสว่าง ตอบสนองการสัมผัสเร็วดี ส่วนขอบจอโค้งถึงจะกำเต็มมือก็ไม่เจอปัญหาหน้าจอลั่นระหว่างทดลองเล่นเลย

ระบบปฏิบัติการที่ติดตั้งมาใน Mi Note 10 เป็น MIUI 11 พัฒนาจาก Android 9 Pie

กล้อง 108 ล้านพิกเซลเก็บรายละเอียดดีมาก

กล้องของ Xiaomi Mi Note 10 มีความละเอียด 108 ล้านพิกเซล ทาง Xiaomi แจ้งไว้ในงานเปิดตัวว่าถ้าถ่ายภาพด้วยโหมด Photo ตามปกติ ระบบกล้องจะย่อไฟล์เหลือความละเอียด 27 ล้านพิกเซล แต่ตั้งให้ถ่ายเต็มความละเอียดได้

สำหรับกล้องทั้ง 5 ตัวของ Mi Note 10 จะมีดังนี้

โมเดลทดลองถ่ายภาพในงาน เป็นโมเดลบ้านที่มีข้าวของและรายละเอียดในภาพซับซ้อน ส่วนโหมดที่ทดลองมีสามโหมด ได้แก่โหมด Photo, Night mode, โหมดถ่ายเต็มความละเอียด 108 ล้านพิกเซล

เมื่อเทียบระหว่างโหมด Photo กับ Night mode จะเห็นว่าภาพที่ถ่ายด้วย Night mode กระจายความสว่างไปทั่วทั้งภาพ ทาง Xiaomi เคลมว่า Night mode ถูกปรับปรุงใหม่ ถ่ายภาพได้สวยขึ้น

โหมด Photo

Night mode

ส่วนโหมดถ่ายเต็มความละเอียด 108 ล้านพิกเซลถือว่าใช้งานง่ายขึ้นมากเมื่อเทียบกับโหมดถ่ายภาพเต็มความละเอียด 48 ล้านพิกเซลของ Xiaomi Mi 9 Lite และชิปเซ็ตของ Mi Note 10 ก็ประมวลผลภาพถ่ายเสร็จในหนึ่งวินาทีอีกด้วย

ภาพที่ได้จากโหมดถ่ายภาพเต็มความละเอียดจะคล้ายการถ่ายด้วย Night mode เก็บรายละเอียดได้ดีมาก ยิ่งเห็นชัดตอนซูมดูสิ่งของเล็ก ๆ เช่นโลโก้ของโคคาโคล่าและฉลากขวดโคคาโคล่าที่อยู่ในภาพก็สามารถซูมเห็นได้ชัดเจน

ถ่ายด้วยโหมดเต็มความละเอียด 108 ล้านพิกเซล

ซูมเข้าไปเห็นฉลาก Coke และภาพไม่แตก

เมื่อผู้เขียนลองเปิดดูรายละเอียดของไฟล์ภาพ พบว่าภาพที่ถ่ายด้วยกล้องของ Mi Note 10 มีความละเอียด 12,032x9,024 พิกเซล เป็นไฟล์ภาพที่มีความละเอียดมากกว่าความละเอียด 8K (7,680x4320 พิกเซล) เสียอีก ขนาดของไฟล์อยู่ที่ 11MB

ถ้าเทียบให้เห็นภาพระหว่างความละเอียด 12,032x9,024 พิกเซล จากกล้องของ Mi Note 10 กับความละเอียดระดับ 4K, 8K แตกต่างกันเท่าไหร่ จะเป็นดังภาพข้างล่างนี้

Xiaomi เคลมว่าความละเอียด 12,032x9,024 พิกเซล สามารถนำไปอัดเป็นผ้าใบได้สูง 4.24 เมตร กว้าง 3.18 เมตร

สรุป: เลือกรุ่นนี้ถ้าโจทย์คือการถ่ายภาพ

Xiaomi Mi Note 10 เป็นมือถือรุ่นใหม่ที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะกล้องที่ความละเอียด 108 ล้านพิกเซล เมื่อถ่ายก็ได้ภาพที่คมชัดและมีช่องหูฟัง 3.5 มิลลิเมตรติดมาให้อีกด้วย ส่วนราคาของ Xiaomi Mi Note 10 อยู่ที่ 16,990 บาท ได้แรม 6GB สตอเรจจุ 128GB เมื่อเทียบราคากับสเปกที่ได้แล้วถือว่าเป็นรุ่นที่น่าสนใจสำหรับคนที่กำลังจะซื้อมือถือใหม่สักเครื่อง