จาก ข่าวก่อนหน้านี้ ที่ Bill Gates ผู้ร่วมก่อตั้ง Microsoft ได้เปิดกระทู้ตอบคำถาม Ask Me Anything (AMA) บน Reddit ว่าเขาใช้สมาร์ทโฟน Samsung Galaxy Z Fold4 ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย
มีผู้ใช้คนหนึ่งถามว่า Gates คิดว่าขณะนี้มีเทคโนโลยีอะไรที่สำคัญมากๆ บ้าง โดยเขาตอบว่า AI เป็นสิ่งสำคัญและจะมาปฏิวัติวงการ (AI is quite revolutionary) ในขณะที่ Web3 นั้นไม่ใช่เรื่องใหญ่ รวมถึง Metaverse ก็ไม่ใช่ของที่จะปฏิวัติวงการ (I don't think Web3 was that big or that metaverse stuff alone was revolutionary) นอกจากนี้ยังมีผู้ใช้อีกคนถามว่า Gates คิดอย่างไรกับ ChatGPT ซึ่งเขาตอบว่านี่เป็นเพียงน้ำจิ้มของสิ่งที่กำลังจะมาในอนาคต และเขาประทับใจในความเร็วของการพัฒนา
อีกคำถามคือหาก Gates มีโอกาสย้อนไป จะเปลี่ยนแปลงอะไรระหว่างที่เขาเป็นซีอีโอของ Microsoft โดยคำตอบคือเขาอยากเปลี่ยนสองเรื่องคืออยากจริงจังกับระบบปฏิบัติการมือถือให้มากกว่าเดิม (Android เป็นผู้ชนะ) และอีกเรื่องคืออยากจบ คดีผูกขาด ให้เร็วกว่าเดิม
ยังมีประเด็นที่ Gates ตอบเสริมหลังพูดถึง Samsung Galaxy Z Fold4 คือปัจจุบันเขายังทำงานร่วมกับ Microsoft อยู่บ้างในด้านการวิจัยและแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และเขาชอบทำงานกับ Satya Nadella ซีอีโอคนปัจจุบัน
ภาพจาก @BillGates
นอกจากนี้เขายังโดนผู้ใช้หลายคนตั้งคำถามเชิงโจมตีว่าเขาไล่ซื้อที่ดินในสหรัฐอเมริกาเยอะมาก ทำให้คนรวยถือครองที่ดินไว้เยอะและเกษตรกรรายเล็กไม่มีที่ดินทำกิน โดย Gates ตอบว่าเขาเป็นเจ้าของที่ดินในสหรัฐฯ ไม่ถึง 0.025% ของที่ดินทั้งประเทศ และการซื้อที่ดินก็เพื่อให้มีผลผลิตมากขึ้นรวมถึงเป็นการสร้างงาน และเขาก็คิดว่าคนรวยควรเสียภาษีมากกว่านี้ด้วย
สุดท้ายยังมีคำถามสองสามประเด็นที่ถูกโหวตหลายพันโหวตแต่ Gates ไม่ตอบ เช่นความสัมพันธ์ของเขากับ Jeffrey Epstein นักการเงินที่ถูกดำเนินคดีฐานล่วงละเมิดเด็ก (Gates เคยพบกับ Epstein หลายครั้ง) หรืออีกคำถามที่โหวตเยอะแต่ไม่ได้ตอบคือเขามีอำนาจสั่งให้หา "คนที่ถูกต้อง" มาดูแลการพัฒนาเกม Halo Infinite หรือไม่
ที่มา - Reddit
Comments
ฟัง Gates และ Cook พูด ดูจะเห็นทางเดียวกันว่าจักรวาลเนรมิตของ Zuckerberg มันน่าจะเจ๊ง
ถ้าไม่สามารถทำให้คนฟังวาดภาพในหัวถึงสิ่งที่โฆษณาได้ก็น่าจะเจ๊งล่ะครับ
Meta มอง Metaverse ใหญ่เกินจริง สุดท้ายแล้วมันน่าจะไม่ต่างกับหนัง 3D ที่บางเรื่องก็ Wow ที่ได้ดู แต่คนส่วนมากดูแค่ 2D ปกติก็รู้สึกว่าเพียงพอแล้ว
เชื่อว่าถ้าต้องใช้คอมพิวเตอร์ไปอยู่ในโลกออนไลน์ทั้งวัน คนส่วนใหญ่ก็ยังอยากนั่งเก้าอี้ มองจอ ใช้เม้าส์ มากกว่าการใส่แว่น แล้วต้องแกว่งแขนไปมา หรืออาจจะต้องลุกยืนเดินด้วย แถมยังต้องซื้ออุปกรณ์เสริมราคาแพงอีก
ซัคเหมือนเด็กเพิ่งเคยดู SAO แล้วและเพิ่งเคยเล่นเกมออนไลน์
The Dream hacker..
sword art มัน VRMMORPG เป็นขั้นกว่ากับ VR โลกมันค่อยเป็น ค่อยไปดิ
ใส่แว่น vr เกิน 30 นาที ก็ไม่ไหวละคับ ถ้าจะเอาแบบ ready player one มีหวังอ๊วกพุ่งแน่นอน
อย่าเชื่อ Gate เยอะ ไปดูประวัติมาดิ มีหลายเรื่องที่ผิด และช้า
จริงแกทายผิดเยอะนะแต่คนชอบพูดถึงแต่อันที่ทายถูก พลาดทั้งยุคอินเตอร์เน็ตและมือถือ
เห็นด้วยกับแกนะ ทั้งสองอย่าง มีคนชอบหยิบมาเป็นกระแส
0.025% นี่คือถ้าถือพื้นที่เท่ากันหมด 100% จะมีแค่ 4,000 คนใช่มั้ยนะครับ
US = 9,826,675 km²
0.025% = 2,456.67 km²
เรื่องตัวเลขผมก็สนใจ (แต่ไม่ชัวร์เลยไม่ได้ใส่ไปในข่าว) และในกระทู้ก็มีคน คำนวณออกมา ว่าที่ดินที่ Gates ถือครองรวมกันนั้นใหญ่ประมาณเมือง Fort Worth รัฐ Texas (ประมาณ 920 ตร.กม.)
แต่เราใช้ตัวเลขที่คุณบอกมาไม่ได้ เพราะนั่นคือพื้นที่ทั้งประเทศ ไม่ใช่ "ที่ดิน" (farmland) ที่คนเป็นเจ้าของได้ ถ้ากูเกิลตัวเลข farmland จะอยู่ที่ 895 ล้านเอเคอร์ หรือประมาณ 3.623 ล้าน ตร.กม.
0.025% ของ 3.623 ล้าน ตร.กม. ก็คือประมาณ 905 ตร.กม. สอดคล้องกับที่คอมเมนต์บน Reddit บอกไว้ หรือเล็กกว่าจังหวัดอ่างทองอยู่นิดนึงครับ
ถ้าผมคำนวณผิดตรงไหน คุยได้ครับ
Pitawat's Blog :: บล็อกผมเองครับ
😲 ขอบคุณครับ
คือเค้าพูดเหมือน 0.025% นี่น้อยเลย 🤔 ทั้งที่มันคือแบ่งเป็น 4,000 ส่วน ทั้งที่ประชากรหลักร้อยล้าน
จริง ai นี้แหละตัวเปลี่ยนมาก เรื่องระบบมือถือคงเสียใจและเสียดายจริงๆ ไม่งั้นไม่โครคงครองทุกระบบเลยบ
เราอยู่ใน metaverse ชื่อ ragnarok มาเกิน 20 ปีแล้วนะ
เอ้า เพลงมา
เพลงมา!
Web3 = กาว
ใช่ครับ ถ้าบอกว่า web3 คือ มีความเป็นเจ้าของข้อมูล ไม่ใช่อ่ะ ไม่ว้าวพอ ถ้าบอกว่า web3 เพราะมี metaverse ยังว้าวกว่า
เป็นเพราะว่ามีคนบางกลุ่มพยายามดึง blockchain มาเกี่ยวข้องแล้วบอกว่านี่แหละมันจะเป็นพัฒนาการ web3 แต่ที่จริงเพราะนำมาปั่นเพื่อผลประโยชน์หรือเปล่าก็ไม่รู้
เอาจริง ๆ ไม่ต้องมีหรอก web3 กาวเปล่า ๆ
ไม่ถึงขนาดนั้นหรอกครับ เพียงแต่ยังไม่ถึงเวลาของมัน เวลาที่ Web 3.0 จะเริ่มมีความสำคัญก็เมื่อการพัฒนา Ai เริ่มนิ่ง ระบบสามารถเรียนรู้จากข้อมูลได้เองโดยไม่ต้อง code เพิ่ม ถึงเวลานั้น Web 3.0 ก็จะเริ่มมีความสำคัญ เพราะมันจะทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่ Ai นำมาใช้ในการ learning เป็นของเรา และเราสามารถควบคุม Knowledge เหล่านั้นได้ รวมถึงการจะแชร์หรือไม่แชร์ให้ใครนำไปใช้งาน
ถ้าในความเห็นส่วนตัว และความเข้าใจอันน้อยนิดของผม ตัวระบบ Ai ยังคงต้องรวมศูนย์ เพื่อให้ upgrade ตัวเองได้ แต่ข้อมูลส่วนบุคคลที่ใช้ในการ train จะถูกทำให้กระจายศูนย์โดยใช้หลักการ Web 3.0 บุคคลภายนอกหาก Hack ตัวระบบ Ai บนเครื่องแม่ข่ายได้ก็จะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลส่วนตัวของเราได้ เพราะข้อมูลถูกเก็บแบบเข้ารหัสกระจายไว้ในเครื่องที่เราแชร์ Knowledge ให้บุคคลเฉพาะที่เราอนุญาติให้เข้าถึง ดังนั้น priority การให้ความสำคัญของบริษัท Tech จึงควรให้ความสำคัญกับการพัฒนา Ai ก่อนในช่วงเวลานี้่
แต่บอกได้เลยว่าในช่วงเวลานี้หากคนที่พูดถึงเรื่อง Web 3.0 ไม่ได้มาจากคนที่อยู่ในแวดวงการเงิน จัดการข้อมูลส่วนบุคคล knowledge หรือ Ai ให้มองผ่านไปก่อน เพราะเขากำลังพยายามใช้คำเพื่อโปรโมทธุรกิจตัวเองเท่านั้น