ซัมซุงเปิดตัวสมาร์ทโฟนซีรีส์ Samsung Galaxy S25 ทำงานผ่านชิป Snapdragon 8 Elite for Galaxy (3nm) เพิ่มประสิทธิภาพ NPU 40% CPU +37% และ GPU +30% รวมทั้ง Vapor Chamber มีขนาดใหญ่ขึ้น 1.4 เท่า
Blognone ได้มีโอกาสชม Galaxy S25 โดยรวมยังคงเน้นฟีเจอร์ปัญญาประดิษฐ์ ซึ่งได้เพิ่มฟีเจอร์ผู้ช่วยส่วนตัวเข้ามาใหม่ และเป็นครั้งแรกที่ Gemini Live จะรองรับการใช้งานภาษาไทย (สมบูรณ์แบบ 7 ก.พ. 2025) ส่วนฟีเจอร์อื่น ๆ มีการอัปเกรดให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทั้งด้านการค้นหา ภาษา และการแก้ไขภาพ
- Image Searchค้นหาทุกอย่างที่อยู่บนหน้าจอเพียงแค่วงกลม
- Music Searchค้นหาเพลงด้วยการกดปุ่ม home ค้าง และป้อนคำสั่งที่ Gemini
- In-App Searchค้นหาข้อมูลและการตั้งค่าผ่านการป้อนคำสั่ง
- Action Searchทำ GIF แบบเร็ว ๆ และส่งให้เพื่อนได้เลย
- Homework Helpช่วยสอนการบ้านพร้อมวิธีทำแบบเรียลไทม์
- Best Faceแก้ไขรูปได้เมื่อเผลอหลับตา ไม่ได้มองกล้อง หรืออ้าปากค้าง
- Live Call Translationฟีเจอร์แปลภาษาระหว่างโทร เพิ่มเป็น 20 ภาษาแล้ว
- On-device Transcriptแปลงเสียงเป็นข้อความ สามารถแปลงเป็นข้อความเฉย ๆ หรือสรุปข้อความได้
- Now Briefให้ข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำประจำวัน
- Now Barเช็คการแจ้งเตือนและข้อมูลผ่านบาร์
Galaxy S25 Ultra ได้อัปเกรดกล้องหลัง ultrawide ที่ของเดิม 12MP มาเป็น 50MP และถ่ายวิดีโอ HRD ดีขึ้น 4 เท่า ส่วนกล้องตัวอื่น ๆ คือกล้องหลัก 200MP, telescope 10MP, periscope 50MP นั้นยังเป็นตัวเลขเดิม ในขณะที่รุ่น S25 และ S25+ ยังเหมือนเดิม
นอกจากนี้ยังมีฟีเจอร์สำหรับการถ่ายภาพเพิ่มเข้ามาด้วย ดังนี้:
- Virtual Apertureปรับรูรับแสงให้ภาพมีความคมชัด
- Log Videoปรับสีและความคมชัดของวิดีโอหลังถ่ายได้
- Nightography Videoถ่ายคลิปตอนกลางคืนที่มีคุณภาพเพิ่มขึ้นมาก
- Audio Eraserปรับหรือลบเสียงรอบข้างออกจากวิดีโอ
Galaxy S25 และ S25+ มาพร้อมกับตัวเครื่องน้ำหนักเบาลงเล็กน้อย เหลือ 164 กรัม และ 190 กรัมตามลำดับ ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกสี Silver Shadow, Mint, Icyblue (เฉพาะ S25), และ Navy (เฉพาะ S25+) ส่วนสี Blueblack, Coralred, และ Pinkgold มีเฉพาะทางออนไลน์
สำหรับราคาของ Galaxy S25อยู่ที่ 29,900 บาท (12/256GB) และ 34,900 บาท (12/512 GB) ส่วน Galaxy S25+อยู่ที่ 36,900 บาท (12/256 GB) และ 41,900 บาท (12/512 GB)
ส่วน Galaxy S25 Ultraมาพร้อมกับหน้าจอขนาดใหญ่ขึ้น 6.9 นิ้ว ตัวเครื่องน้ำหนักน้อยลงเล็กน้อย เหลือ 218 กรัม ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกสี Titanium Black, Titanium Gray, Titanium Silverblue, และ Titanium Whitesilver ส่วนสี Titanium Jetblack, Titanium Jadegreen, และ Titanium Pinkgold มีเฉพาะทางออนไลน์
ซึ่งมาพร้อมกับตัวเลือกความจุ 3 ขนาด ราคาอยู่ที่ 46,900 บาท (12/256GB), 52,900 บาท (12/512GB), และ 62,900 บาท (12/1TB)
Comments
พอเป็น Snap แล้วอยากได้เลยเอาะ
แค่เห็นคำว่า Snapdragon ก็สั่งซื้อทันที
ป้องคำสั่ง => ป้อนคำสั่ง
S24, S24+ ปีที่แล้วใช้ Exynos เห็นแล้วปิดทันทีมาปีนี้ S25, S25+ ใช้ Snapdragon ค่อยน่าสนใจหน่อย
ิอยากได้กล้องสุดต้องตัวท็อปสุดเลยเหรอเนี่ย
อยากดูรีวิวกล้องว่าต่างจาก 24U ไหม เพราะ 23U กับ 24U นี่แทบไม่ต่างกันเลยอะ
The Dream hacker..
จากใจคนใช้ Exynos
อยากรู้จังว่าเดี๋ยวนี้แค่ได้ยินชื่อก็หนีแล้ว และพอเห็นชื่อ Snapdragon กลายเป็นน่าสนใจเลยทันทีเลยเหรอ โดยที่ไม่ได้ดูว่าการใช้งานจริงเป็นอย่างไร
เพราะใน S21 รุ่น SD888 ถึงจะแรงกว่า Exynos 2100 ก็จริง แต่มันก็ร้อนเร็วไม่ต่างกันมาก
ใช่ครับ S21 ที่ผมใช้ก็ไม่ร้อน
ชูจุดเด่น Gemini มาขนาดนี้น่าจะแถมรายปีมาให้ด้วย
แถม Germini Advance มาให้ 6 เดือนครับ
รูปที่วาง S25 เรียงกันด้านบนDesign มือถือราคา 30,000++++ ได้แค่นี้เองหรอ
ไม่ได้เป็นแฟนบอย Samsung (ไม่เคยใช้เลย)แต่อยากเข้าใจว่า มือถือราคาสูง มันมีตัวอย่างการ display แบบไหนให้สมราคาเหรอครับ ถ้าต้องวางมือถือเรียงกันเฉยๆ
หามาเทียบช่วงต้นคลิปเลย ก็วางลอยๆ ไม่รู้ใครสวยกว่านะครับ แล้วแต่ชอบเลย แต่จริงๆ ในเม้นบนเขาน่าจะหมายถึงว่ามือถือแพงๆ แต่หน้าตาเฉยๆ ไม่ดูหรูไรงี้ คงเรียบๆ ไป ฐานกล้องไม่มีเลยมีแต่รูๆ กล้องเฉยๆ กับพื้นเรียบๆ พวกของจีนเหมือนจะเล่นตรงนี้เยอะกว่า
ขอบคุณครับ 🙏