สำนักข่าวรอยเตอร์สัมภาษณ์ Stephen Elop และพนักงานของโนเกียกลุ่มหนึ่ง มีประเด็นที่น่าสนใจ ดังนี้
- Elop เล่าถึงการประชุมเพื่อตัดสินใจ "ชื่อ" ของสมาร์ทโฟนตัวแรกของบริษัทที่จะใช้แพลตฟอร์มวินโดวส์โฟน ซึ่งเกิดขึ้นในเดือนสิงหาคม พ.ศ. 2554 ว่าบริษัทไม่สามารถตัดสินใจได้เสียทีว่าจะเอาชื่ออะไร จนกระทั่งเขาสั่งว่าต้องตั้งชื่อให้กับวินโดวส์โฟนของบริษัทภายในวันนั้นเลย ไม่ต้องผัดผ่อนพรุ่งนี้หรือสัปดาห์หน้าอีกต่อไป และในที่สุดจึงเกิดชื่อ Lumia ในที่สุด
- Elop ย้ำว่าบริษัทกำลังทำงานเร็วขึ้นกว่าแต่ก่อน โดยดูจากรุ่น N8 ที่บริษัทใช้เวลาพัฒนาถึง 22 เดือน แต่ปัจจุบันนี้บริษัทสามารถปล่อยวินโดวส์โฟนใหม่ได้ในทุก 6 ถึง 8 เดือน ส่วนพนักงานก็กล่าวว่า Elop พยายามเร่งให้พวกเขาตัดสินใจในสิ่งต่างๆ เร็วขึ้น ตั้งแต่การปรับโครงสร้างองค์กรจนถึงการพัฒนามือถือรุ่นใหม่ โดยระบุว่าโนเกียไม่มีเวลาเหลือให้ทิ้งขว้างอีกต่อไป
- Elop กล่าวว่า เมื่อก่อนโนเกียให้ความสำคัญกับคุณภาพและฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์แบบที่ต้องถึงเป้าก่อนจึงจะเสร็จสิ้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ แต่ละเลยในเรื่องเวลาที่บริษัทใช้เพื่อพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่เข้าสู่ตลาด
- พนักงานของบริษัทบางคนยังให้ความเห็นว่า การที่ Elop ตัดลดพนักงานลงหนึ่งในสามนั้นช่วยให้การทำสิ่งต่างๆ เสร็จสิ้นได้รวดเร็วขึ้น
- พนักงานกล่าวว่า Elop เป็นคนที่กระตือรือร้นมากจนเป็นที่รักของเพื่อนร่วมงานอย่างรวดเร็ว เขาเป็นคนหัวเราะง่ายและชอบปล่อยมุข และจุดนี้ก็คล้ายกับ Steve Ballmer และ Steve Jobs แต่ Elop ก็เป็นคนเถรตรงมาก ดังจะเห็นได้จากอีเมลถึงพนักงานทุกคนในพ.ศ. 2554 ว่าควรเลิกใช้แพลตฟอร์มซิมเบียนได้แล้ว นอกจากนั้นการตัดสินใจไปใช้แพลตฟอร์มวินโดวส์โฟนเป็นเรื่องช็อคความรู้สึกของพนักงาน แต่พนักงานหลายคนก็กล่าวว่า Elop ได้รับการสนับสนุนในการตัดสินใจนี้เพราะความเถรตรงนี่เอง
- Elop กล่าวว่า "การดื้อแพ่ง" เป็นปัญหาใหญ่ของโนเกีย ซึ่งเกิดจากการที่บริษัทเป็นผู้นำของตลาดมาหลายปี และเขาได้พยายามกระตุ้นให้พนักงานมี challenger mindset และอย่าเป็นคนหยิ่งยโสจนทำให้โนเกียไม่คิดจะตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นเพราะคิดว่าตัวเองรู้มากกว่า เพราะสิ่งนี้ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าส่งผลร้ายต่อบริษัทตลอดหลายปีที่ผ่านมา ส่วนพนักงานของบริษัทกล่าวว่า จากแนวทางของ Elop นี้ทำให้โนเกียถ่อมตัวต่อคู่ค้าของบริษัทอย่างผู้ให้บริการเครือข่าย ร้านค้า และนักพัฒนาแอพมากกว่าแต่ก่อน
รอยเตอร์เสริมว่า จนถึงวันนี้ Elop ก็ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าการตัดสินใจเลือกแพลตฟอร์มวินโดวส์โฟนนั้นถูกต้อง
รอยเตอร์ยังพูดถึงแอปเปิลกับซัมซุงว่า แอปเปิลต้องเร่งปล่อยผลิตภัณฑ์ใหม่ให้ทันและมีความหลากหลายเพื่อต่อกรกับซัมซุง (ซัมซุงมีผลิตภัณฑ์ออกสู่ตลาดแล้วเกือบถึง 40 รุ่น โนเกียนั้นประมาณ 20 รุ่น)
ที่มา: สำนักข่าวรอยเตอร์
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
Steven => Stephen
Coder | Designer | Thinker | Blogger
มึนได้อีก พอดีมีโทรศัพท์เข้ามา เลยแก้ช้า
ตัดลดพนักงานลดหนึ่งในสาม => ตัดลดพนักงานลงหนึ่งในสาม
ไม่หลงเหลือความยิ่งใหญ่อีกแล้ว แต่อย่างน้อยก็เป็นเบอร์หนึ่งในตลาดวินโดโฟน(ตลาดที่ไม่มีบริษัทไหนจริงจังกับการเล่นตลาดนี้)
โนเกีย:เราเป็นหัวหมาดีกว่าหางเสือ (จากเมื่อก่อนเคยเป็นหัวเสือแท้ ตอนนี้ยังไงก็ของให้เป็นหัวใว้ก่อน หัวอะไรก็ชั่ง)
Time is money .... เรียนรู้ช้าจริง คุณ เอลล็อป
เค้าเพิ่งเข้าไปเป็น CEO Nokia ตอนปลายปี 2010 นะครับ 2 ปีกว่าๆ ทำได้เท่านี้ผมว่าเร็วแล้วนะ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
+1
Blackberry ก็ตายภายในเวลาแค่ 2 ปี
ช้าตรงไหนอ่ะครับ ผมเห็นเขาดำเดินแผนที่ตั้งแต่ช่วงต้นที่เป็น CEO เลยนะครับคนที่ช้าน่าจะเป็น CEO คนก่อนนะ ที่ทำให้ Nokia เป็นอย่างงี้ คนปัจจุบันเลยเข้ามาแก้
Lumia เป็นชื่อที่ผมฟังแล้วมันเพราะดีนะ
เพราะมันฟ้องเสียงกับอะไรหรือเปล่าครับนี่ :P
พ้องเสียง *
รอดูว่าจะเป็น Blue ocean ไหม
แกนั่นแหละดื้อ
+1
ถ้าบริหารได้ถูกต้องจริง ทำไมปล่อยให้ samsung แซงได้
ทั้งที่ตัวเองก็มีทรัพยากรพร้อม ร่อแร่ขึ้นทุกวัน
nokia น่ะมีดีเยอะนะ แต่ถึงวันนี้แล้ว การขายมือถือมันไม่ได้จบในตัวอีกต่อไป
เขาขายกันเป็น ecosystem มี บ. เล็กทำ app ให้ด้วย
platform ที่ยิ่งทำกำไรให้ บ. app ไม่ได้ ก็จะยิ่งแย่ไม่มีใครสนใจ
Samsung เริ่มแซงตั้งแต่เค้ายังไม่มาอีกครับ
อย่างที่ บทวิเคราะห์ บอก ตอนเค้าเข้ามานี่โนเกียไม่เหลืออะไรรอจังหวะร่วงอย่างเดียว
ประโยคนี้เค้าก็เป็นคนแจ้งกับพนักงานโนเกียเองแหละครับ
+1
Samsung เป็นที่ 1 ได้อยู่แล้วครับขึ้นอยู่กับเวลาเท่านั้น
ตอนนี้ก็เป็นที่ 1 อยู่แล้วนี่ครับ
ในด้านปริมาณ? แน่นอน
ในด้านคุณภาพ? คริคริ
Nokia ก็ไม่ได่คุณภาพดีเว่อร์นะครับ
แต่ไม่มีรุ่นไหนที่คนใช้บอกคุณภาพแย่ครับ งานประกอบเยี่ยมตั้งแต่ขาว-ดำ ยันสมาร์ทโฟน ส่วน SS ก็ดีในตัวท๊อปอย่างเดียว (ผมเกลียดมากๆ ทั้งโทรศัพท์ สมาร์ทโฟน ไม่ท๊อปคือกรอบ ใช้มาละ- -*)
ในด้านปริมาณ? แน่นอน
ในด้านคุณภาพ? คริคริ (ก็ดีพอที่จะทำให้เป็นเบอร์1 ได้แล้วกัน คริคริ)
แต่ทำธรุกิจเค้าเน้นด้านกำไรกันนะ คริคริ
แหม เน้นกำไร ไม่ใส่ใจผู้บริโภค นีมันบริษัทในฝันของนักลงทุนเลยนะเนี่ย
"แกนั่นแหละดื้อ"+1 อ่านข่าวจบปุ๊บ คิดอย่างนี้ปั๊บเลย
หัวข่าวต้องแก้จาก "ยิ่งยโส" เป็น "หยิ่งยโส" นะครับ
เอ หรือหมายถึงยโสได้แต่อย่ายิ่งไปกว่านี้ครับ :D
แก้แล้วครับ
เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ตลาด Windows phone อาจจะยังไม่เท่า 2 กลุ่มนั้น แต่กำลังโตขึ้นเรื่อยๆ
จะบอกว่า กำแพงเพชร (ไกลปืนเที่ยง) ใช้ Windows Phone กันเยอะเด้อ กลุ่มราคากลาง-ล่างเนี่ย Lumia 5xx ถูกเลือกเยอะขึ้นแบบสังเกตุได้จากคนรอบตัวครับ
เพราะว่าเลือกสังเกตมากกว่ามั่ง
+1
สนับสนุนเต็มที่คับ windows phone
สถานการณ์บริษัทแบบนี้ยังยโสได้เรอะ...
เครดิตว่า Lumia เป็นโทรศัพท์ที่ดีมากนะครับ
แต่โดยส่วนตัว จะฟื้นโนเกียได้ แค่นี้ยังไม่พอ... (แต่ผมเองก็ยังหาหนทางไม่ได้เหมือนกัน)
และ โดยส่วนตัวเชื่อว่าการจับมือของ M$ กับ Nokia เนี่ย จริงๆ แล้วที่ได้ประโยชน์มากกว่าคือ M$
ผมเชื่อว่าไม่มี Lumia มาที่ตายคือ Windows Phone ในขณะที่มองในภาพรวม Nokia สถานการณ์ดีขึ้นมาบ้างแต่ไม่ได้เยอะเลย
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
+100
ปั้นไปเถอะ nokia เอ๋ย วันไหน WP8 -8.1 - 9 .. เกิดดังขึ้นมา Samsung ก็แค่ออก ATIV S4, ATIV pocket ATIV Mega , ATIV Note ATIV Tab 7-8-10.1 + ATIV book ถล่มแกเลียบ อาศัยใบบุญ Galaxy+กับถ้ากระแสจุดติดของ WP Lumia ยิ่งแข็งแกร่งมาก ก็เพราะ Nokia เลือกเข้าข้างฝ่ายเดียว ในสงคราม แต่ คนอื่น เค้ามีเส้นสายกับ อีกฝ่ายด้วย(android)
**ไม่ได้บอกว่า OS WP ไม่ดี แต่ทำแบบนี้ Nokia ไม่ดีแน่ ดื้อและยังปากดี(แต่สร้างกำลังใจให้ องค์กร ดี)
**แค่นึกก็มันส์..แล้ว Nokia ที่เป็น android มีแอพครบ กล้องดี แบรนด์แข๊ง วัสดุแน่นแต่คงเป็นไปได้ยากแล้ว ณ จุดนี้
+1 ผมเห็นด้วยเลย จะทำอย่างเดียวไปทำไม ไม่เข้าใจ
ไม่งั้นแบบนี้ ทุ่มสุดตัว เทหมดใจให้ WP ปั้นถ้าตายก็ตายด้วยกันแต่ถ้าหากติดขึ้นมา แบรนด์อื่นๆเค้าก็มาแย่งอยู่ดี คิดว่าจะผูกขาดได้เหรอไง ไม่ใช่ OS ตัวเอง
คิดดู Samsung เงินหนาขนาดนี้ ลงวิจัยหนักๆ จ้าง Dev เยอะๆก็ตาม Nokia ในสภาพร่อแร่แบบนี้ทันสบายๆ
พอวิจัยทัน ก็ส่ง ATIV ทั้งหลาย
โดยการ Clone มาจากเหล่า Galaxy ปรับแค่เล็กน้อย (เผลอๆ แม่พิมพ์ พลาสติกอันเดียวกัน)
S4, S4 Activ, S4 Zoom, S4 mini, Note 3, Note 8.0, Note 10.1
Tab 7.7, Tab ต่างๆ, Mega 5.8, Mega 6.3, Grand บลาๆๆ
แค่นี้ก็เยอะกว่า Lumia ทั้งครอบครัวแล้วมั้ง แค่คิดก็สยองละ
แถมการตลาด Samsung ที่เข้าขั้นล้างสมอง(ทุกตลาด ทุกสื่อ ทุกเวลา ทุกสถานที่)ไหนจะฐานลูกค้าเก่าที่โดนครอบงำไปแล้ว
หนำซ้ำ Samsung เป็นประเภท มีอะไรพี่แกใส่แบบไม่มีกั๊ก ไม่สนว่าใช้ได้จริงหรือเปล่าหรือมากเกินไปมั๊ย ขอให้ปั๊มมาขายแล้วได้กำไร พี่แกจัดให้หมด ซึ่ง Nokia แพ้ทางเต็มๆอีกต่างหาก
เท่านี้ก็เพียงพอให้ Samsung ครองโลก WP แล้ว ถ้าหาก WP จุดติดขึ้นมาจริงๆ
(อย่างน้อยไม่ครองโลกก็มหาอำนาจล่ะนะ)
วะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า
แต่ถึง Samsung จะครองโลกอย่างไร ก็อย่าลืมเรื่องบริการหลังการขายด้วยนะครับ
ระหว่างสองค่ายนี้ ถ้าให้เทียบแบบว่าใช้ Android ทั้งคู่ ผมให้ Nokia นะ เพราะบริการหลังการขายที่ดีกว่า Samsung เยอะ(โดยเฉพาะในไทย)และผมใช้มันทั้งคู่อยู่ด้วยครับ
และการที่ Samsung ทำมือถือมาหลายประเภทก็แน่นอน เกิดปัญหาแบบว่า ทำไมเครื่องฉันเกมเล่นไม่ได้ทั้งที่ใช้แค่ Galaxy Y/Pocket แต่โหลดเกม Asphalt 7/NFS Most Wanted/Minion Rush/Real Racing 3 เนี่ย ไปเช็คได้ในคอมเมนต์ของ Playstore เจอแทบทุกแอพที่เป็นแบบนี้และด่าแบบไม่สนใจผู้พัฒนาเลย /facepalm
ปล. Nokia มันเน้นทำทั้ง Asha OS[ที่ซื้อมาจาก SmarterPhone แล้วมาพัฒนาเพิ่มเติม] และ WP นะครับ ไม่ได้ทำอย่างเดียว
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
แล้วแต่ดวงมั้งครับ ผมเคยเอา 5800 เข้าศูนย์เพราะจอเสีย (อยู่ในประกัน) ก็รอเป็นอาทิตย์และต้องโทรจิก ส่วนซัมซุงโชคดีไม่เคยต้องเข้าศูนย์เลย
แล้วโนเกียทำ 2 OS แบบนี้จะไม่โดนบ่นหรือครับ ว่าเครื่องใหญ่ใช้ได้ แต่เครื่องเล็กใช้ไม่ได้ เผลอๆ ไม่มีแอพด้วย
เพราะถ้าคุณเชื่อว่ามีคนที่ไม่เข้าใจว่าทำไมเกมฉันเล่นไม่ได้บนโน่นนี่นั่น แล้วถ้าเขาย้ายมา WP/Asha แล้วเขาจะไม่มีปัญหานั้น? เขาจะเข้าใจดีว่ามันเป็นข้อแตกต่างด้านสเปค?
ซัมซุงไม่ได้ทำอย่างเดียว คุณบอกไม่ดี โนเกียคุณก็บอกว่าไม่ได้ทำอย่างเดียวเหมือนกันนะครับ ตกลงอะไรเป็นมาตรฐานสำหรับคุณครับ?
นั่นสิ ลืมคิดเลย แต่ผมเทียบเฉพาะตอนที่มันเป็น Android ด้วยกันครับ ไม่ได้คิดถึงส่วนอื่นนอกจากนี้เลยครับว่า Samsung ทำทั้ง Android,WP,Java,Bada,Tizen มาครับ แต่ที่บอกคือทำหลายรุ่นว่าดีไหมมันก็ดีที่เพิ่มทางเลือก ทุกเจ้าก็ทำหมด แต่ปัญหา Fragmentation ที่บางรุ่นสเป็คไม่เท่ากันทำให้เกมมีปัญหา มันเกิดตั้งแต่ยุค S40,S60 ละครับ
สุดท้ายนี้ผมก็ขออภัยในคอมเมนต์ที่ผมพูดไปแล้วมีปัญหานะครับ
แค่มนุษย์คนนึงที่อยากรู้เกี่ยวกับวงการไอที
เงินเนี่ยแหละครับถ้าโนเกียมีเงินเท่าซัมซุงก็ทำแบบเดียวกับที่คุณว่ามาสำหรับ Android ได้เหมือนกันครับอาจจะได้ผลกว่าด้วยนะ
Samsung คิดจะครองโลกจริงๆครับ ถ้าคุณเห็นโรงงานของเขาแล้วคุณจะเชื่อยิ่งกว่านี้
เข้าใจว่าในข่าวพูดถึงการสัมภาษณ์เล่าเหตุการณ์ต่างๆ สมัยที่มารับตำแหน่งว่าทำอะไรส่งผลอะไรมากกว่านะ
จากเนื้อหาข่าวนี้ ผมว่าเป็นข้อดีเกือบทั้งหมดเลยนะ
แค่เห็นรูป Tag ก็รู้แล้วว่าข่าวนี้เดือดแน่ 555+
อ่านความเห็นแล้วก็คล้อยตามครับ คุ้นๆ ว่าตอนที่มาเนี่ยสถานการณ์โนเกียก็ร่อแร่เพอสมควรแล้ว ยังเชื่อมั่นในแบรนด์ Nokia อยู่ครับ แล้วผมก็เชื่อว่าการจะยิ่งใหญ่ได้มันต้องมีความดื้อ ความมั่นใจ กล้าที่จะแตกต่าง กล้าที่จะเปลี่ยนแปลงเป็นองค์ประกอบ แต่จะทำสำเร็จหรือเปล่าคงต้องมารอดูกัน
ผมมองว่า WP ตอนนี้ขาดแค่แอพที่ชาวบ้านมีเท่านั้น เพรื่องประสิทธิภาพผมว่าดีอยู่แล้ว อาจจะคล้ายกับสมัย android ยุคแรกๆ แต่ตอนนี้OS ที่จะพอสู้ iOS ได้ก็มีแค่ Android นักพัฒนาเลยทุ่มกำลังเติมที่ในการคานอำนาจ iOS แต่ตอนนี้สำหรับ WP นักพัฒนาจะรู้สึกว่าไม่ค่อยอยากเสียเวลาพัฒนาให้ OS ที่มีส่วนแบ่งน้อยเกินไป ทำให้ MS เองออกเคมเปญจ์มาให้กระตุ้นนักพัฒนาเรื่อย แล้วอีกส่วนที่ทำให้ WP มีจุดยืนก็คงเพราะ Nokia แต่อนาคตผมว่า WP น่าสนใจขึ้นเรื่อยๆ
พอหมดปี 2016 สัญญาที่ nokia ไว้ทำกับ ms หมดลง
พอ nokia เริ่มทำ Android อนาคตของ wp ผมว่าน่าเป็นห่วงเหมือนเดิมนะ -*-
samsung ใหญ่แค่ใหน ?https://youtu.be/6Afpey7Eldo
รอถึง 2016 คงต่อสัญญากับไมโครซอฟท์มากกว่า ยากที่จะทำหุ่นครับท่านอิอิ
เดี๋ยวโผลพลิกไปทำ Firefox จะฮาเอา
"มุข" > "มุก"
วันนี้ยังมีโพสต์ประมาณนี้เกียวกับ Nokia อีกก็พลอยให้รู้สึกไปว่า WP ยังไปไม่ถึงไหน เพราะหาก win จริงความรู้สึกในโพสต์จะออกมาอีกทางแน่นอน ข่าวความเคลือบแคลงในตัวบุคลากรและแนวทางการบริหารก็จะไม่มีอีก ย้อนกลับไปสมัยนึง ดูแนวรบแนวต้านของ Windows ที่หลายๆคนไม่ต้องการให้เกิดการกุมตลาดเบ็ดเสร็จ เกิดกระแส Anti-MS จนเกิด Linux และ Open source รุ่นต่างๆ แม้จะไม่สามารถพบทางเลือกที่ต่อกรได้สมน้ำสมเนื้อจริงๆ แต่ในตลาดบางส่วนสามารถขี่คอ MS ได้เลยเช่น การมาของ Firefox และ Chrome
ความรู้สึกเดียวกันก็คิดว่าน่าจะเกิดกับ Nokia ด้วยในสมัยนั้น ที่ Nokia ปักธงเป็นเจ้าตลาดอยู่ จนได้อากู๋ Google อีกเช่นเคยส่ง Android มาทำทางไว้ให้เป็นใบเบิกทางที่ดีกับมือถือทุกค่าย ที่ต้องการตีคู่ทาบรัศมี Nokia หรือเลยไปหากระทั่ง iPhone
เวลานี้เมื่อ Windows รวมร่าง Nokia มาระยะหนึ่งแล้ว ถ้าตัดเรื่อง Ecosystem ไปก่อน ความรู้สึกชิงชังต่อทั้งคู่ วันนี้ไม่รู้ว่ายังมีอยู่อีกมากน้อยประมาณไหน?
ถ้ายังมีคนพูดถึงอยู่ก็แสดงว่ายังมีคนให้ความสำคัญ ความสนใจอยู่นะ มองในแง่ดีสุดๆ แต่ถ้าเมื่อไหร่ที่มีบทความส่งเข้ามาแล้วไม่มีใครสนใจตอนนั้นอาการน่าจะหนักมากๆ แล้ว
ต้องไม่ลืมว่าที่นี่สาวก Android เยอะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ที่บอกว่าเยอะนี่คือมีสถิติมั้ยครับ แต่ถ้าใช้ความรู้สึก ผมกลับคิดว่าน้อยกว่าสาวกค่ายอื่นนะ เพราะผมจำได้แวบๆ ว่าสถิติครึ่งปีบล็อกนันที่ผ่านมามีใครระบบปฏิบัติการมือถือตัวหนึ่งเยอะกว่าแอนดรอยด์ทั้งหมดรวมกันอีกนะครับ
แต่ผมว่าสาวก Android นิสัยเสีย ค่อนข้างโลดแล้นผ่านคีย์บอร์ดและคอมเมนต์มากกว่าก่อนนะครับ แถมพักหลังนี่ชอบเถียงข้าง ๆ คู ๆ นานวันก็มากขึ้นนะครับ จนเห็นสาวกแอปเปิลน้อยลงทันตาเลยครับ
และต้องไม่ลืมว่า การเปิดใช้งานอุปกรณ์ ไม่ใช่แค่สมาชิกใน Blognone นะครับ ยังมีคนอ่านข่าวทั่วไปด้วย
หมายเหตุ: ตอบคำถามของคุณ ใช้ feeling ล้วน ๆ ครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมว่าสาวกของอีกบริษัทนิสัยเสียกว่าสาวก droid เยอะครับ ผมเคยคิดจะซื้อมือถือเครื่องหนึ่งมาใช้ ปรากฎว่าเจอคำพูดของคนที่นี่ไปสองสามคนแล้วไม่กล้าซื้อเลย อะไรจะขนาดนั้น
ผมว่าการที่ระบบจะเด่นดังได้นี่มันมีอยู่ 3 ปัจจัยนะ 1. ตัวระบบเอง 2. ecosystem ของระบบนั้นๆ 3. community ที่เกี่ยวข้อง
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
เท่าที่ผมสังเกตในเว็บนี้นะครับ พักหลังฝั่งทาง Apple ยังไม่มีใครมาแสดงท่าทีเกรียนอะไรเลย ก็จะมีอีกฝั่งเริ่มจุดไฟแล้ว แนวๆ เดี๋ยวคอยดูนะว่าสาวกต้องออกมาอย่างนั้นอย่างนี้แน่ๆ
-0-;; ผมไม่ได้พูดถึง Apple นะครับ
"ยังไม่มีใครมาแสดงท่าทีเกรียนอะไรเลย ก็จะมีอีกฝั่งเริ่มจุดไฟแล้ว แนวๆ เดี๋ยวคอยดูนะว่าสาวกต้องออกมาอย่างนั้นอย่างนี้แน่ๆ" - เห็นด้วยครับ
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
+1
ผมว่าแล้วแต่ข่าวครับ เรื่องคนที่บอกว่า "นิสัยเสีย" เนี่ย
ถ้าไม่มีอะไรไปจี้จุดก็คงไม่แสดงตัวครับ แล้วก็คงไม่จำกัดแพลตฟอร์มด้วย
Dream high, work hard.
ทุกคนมีความคิด ความเห็นต่างได้ครับ
ถ้ายังคุยกันดีๆ ไม่คิดแทนคนอื่นไม่เรียกว่า "นิสัยเสีย"
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
เชิญชมสถิติครับ
Dream high, work hard.
พนักงานกล่าวว่า Elop เป็นคนที่กระตือรือร้นมาก"จนที่เป็นรัก"ของเพื่อนร่วมงานอย่างรวดเร็ว --> พนักงานกล่าวว่า Elop เป็นคนที่กระตือรือร้นมาก"จนเป็นที่รัก"ของเพื่อนร่วมงานอย่างรวดเร็ว
ผมอ่านอยู่สองรอบกว่าจะเจอที่ต่าง
กะว่าไม่เจอจะตะแคงจอมองเป็นสามมิติละ
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ผม 3 รอบ -..-'
my blog
ผมอ่านเองประมาณ 4-5 รอบได้ ก็ยังไม่เจอนึกว่าเค้าเล่นมุก กะจะเม้นต์แซวละ แต่กลัวหน้าแตก
พอมีเมนต์นี้เลยตั้งใจอ่านอีก 3 รอบ ถึงจะเจอ = ='
นี่มัน Photo Hunt ชัดๆ
5 รอบ
ตรงไหนอ่ะ
3 รอบ โอ้ยยย
โนเกียดีทุกอย่าง แต่คนใช้อิ่มตัวกับคำว่าโนเกียแล้ว ลองแอบยุบบริษัทแล้วบอกว่าเจ้ง แล้วแอบเปิดในชื่อใหม่ แต่ทำการขายเหมือนที่ทำอยู่ตอนนี้ทุกอย่าง(ตั้งชื่อใหม่ให้โดดเด่นหน่อย) หาจังหวะเปิดตอน Ms เปิดตัว wp9(สวยมาก) รับรองคนลืมไอโฟน .....จินตนาการสูง
รับรองกว่า คนลืมโนเกีย
ดื้อ และ self มั๊กๆ
Black Berry ยังหลงตัวเองคิดว่าเป็นเบอร์หนึ่ง หยิ่งด้วยผมว่าอาจไปก่อนNokia
Elop กล่าวว่า เมื่อก่อนโนเกียให้ความสำคัญกับคุณภาพและฟีเจอร์ของผลิตภัณฑ์แบบที่ต้องถึงเป้าก่อนจึงจะเสร็จสิ้นการพัฒนาผลิตภัณฑ์ได้ <-- แปลว่าเดี๋ยวนี้...
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมเข้าใจว่าให้ทันกำหนดขายและได้เงินกลับเข้ากระเป๋าตังค์ก่อน ฟีเจอร์อาจยังไม่ครบตามที่โนเกียต้องการตั้งแต่แรกก็ไม่เป็นไร
สมมติ ( มั่วๆ นะที่ยกตัวอย่างอาจผิดก็ได้) PureView ต้องการเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่และเลนส์ 6 ชิ้น หากรอแบบสมัยก่อนอย่าง N8 ที่ต้องรอถึง 22 เดือน ป่านนี้ Lumia 920 คงยังไม่ได้เกิด ก็เลยกลายเป็น Lumia 920/928 เลนส์ 5 ชิ้น (ลองเลนส์ก่อน จะได้พัฒนาต่อถูก ส่วนเซ็นเซอร์ขนาดใหญ่ยังไม่เสร็จ) => Lumia 925 เลนส์ 6 ชิ้น (เลนส์ตามที่ต้องการแล้ว เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เกือบเสร็จ) => Lumia 1020 เซ็นเซอร์ขนาดใหญ่เสร็จเรียบร้อย และบวกกับเลนส์ 6 ชิ้น จึงเกิด PureView
+1 ครับ
บางจะเข้าใจว่าอย่างนั้นก็ได้ หรือบางคนอาจจะเข้าใจว่าไม่กั๊กคุณสมบัติที่พัฒนาไปในแต่ละขั้นก็ได้
ผมว่าเมื่อก่อนของไม่เห็นดีเลย เหอๆ
ไม่หยิ่งยะโส แสดงว่าพร้อมใช้ Android เมื่อหมดสัญญากับ MS สินะ
ประโยคนี้ทำให้ Elop ดูไร้วิสัยทัศน์ชอบกล
ผมว่า Apple ไม่มีความจำเป็นจะต้องดันอุปกรณ์เป็นสิบ ๆ รุ่นลงตลาดในแต่ละปีเหมือน Samsung ที่ทำอยู่ปัจจุบันก็ดีอยู่แล้ว และ Apple เองก็ไม่เคยสนใจจะทำตลาดล่างแต่ก็อยู่มาได้ตลอดหลายปีที่ผ่านมา
Apple น่าจะวิจัยผลิตภัณฑ์ใหม่ลงมาต่อยอดผลิตภัณฑ์เดิมในตลาดดีกว่าจะไปสร้างผลิตภัณฑ์ประเภทเดียวกันมาแย่งตลาดกันเอง (ตอนนี้มีข่าวลืออะไรมั่งนะ ? นาฬิกา? โทรทัศน์? เครื่องเสียงรถยนต์ ?)
ผมว่ารอยเตอร์พูดหรือเปล่าครับ
เอ้อ จริง ผมมึน ขออภัยครับ
อย่าง ipad mini ผมว่าก็เข้าข่ายแย่งตลาดกันเองนะ ไหนจะ iphone low cost ที่น่าจะมีจริง ๆ ก็เข้าข่ายนะ
มันก็ทั้งสองทางแหละครับ ได้ทั้งลูกค้าใหม่ และ เสียลูกค้าเดิม ทั้งมีพวกสาวกจริงๆ ที่ซื้อทั้งสองอัน โดยส่วนตัวไม่น่าจะเลวร้ายมาก แต่ต้องวัดสถิติจริงๆ อีกทีว่า ย้ายจาก iPad ตัวใหญ่ไปเท่าไหร่
ยังไง Tablet นี่ Apple ก็ได้เปรียบเรื่อง Ecosystem (ยกเว้นคุณจะเล่น Surface 8 Pro ซึ่ง ผมคิดว่าควรจัดในหมวด Labtop มากกว่า)
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
เบื่อ แอปเปิล ... ใช้ หุ่นยนต์ กับ หน้าต่าง คู่กันไปเป็นที่หนึ่ง นานๆ มันน่าเบื่อ ขอที่ สอง ที่ สาม ผงาดบ้างนะ