IKEA ผู้จำหน่ายเฟอร์นิเจอร์และอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน ออกรายงานประจำปี Life at Home ซึ่งปีนี้เป็นปีที่ 3 ในรายงานเป็นการสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า 12,000 คนทั่วโลก ว่าพวกเขามีความต้องการอะไร ใช้ชีวิตอย่างไรในบ้าน เพื่อ IKEA จะได้นำผลการศึกษามาปรับพัฒนาสินค้าต่อ
ในผลการศึกษา ก็มีประเด็นน่าสนใจเกี่ยวกับเทคโนโลยีดังนี้
- กลุ่มตัวอย่าง 32% บอกว่า Wi-Fi ที่เสถียรสำคัญมากกว่าพื้นที่ส่วนกลางในบ้าน
- ตัวเลขนี้สูงถึง 49% หากเป็นกลุ่มตัวอย่างในเซียงไฮ้ ประเทศจีน
- กลุ่มตัวอย่าง 19% มองว่าการติดต่อเพื่อนผ่านสื่อออนไลน์ สำคัญกว่าการเชิญมาที่บ้าน
- แนวคิดการสร้างห้องดูทีวีร่วมกันในบ้าน พร้อมมีโซฟานั้นล้าสมัยแล้ว
ในรายงานยังมีมุมมองด้านอื่นที่น่าสนใจ อ่านรายงานฉบับเต็มได้ที่นี่
ที่มา: Co.Design
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
โห เก็บทั่วโลกเลยหรือนี่ แต่กลุ่มตัวอย่าง 12,000 นี่ดูไม่เยอะเท่าไรแฮะ
ดูยังไงว่าเยอะหรือน้อยเหรอครับ
อาจจะเทียบกับประชากรโลกนะครับ
ถ้าการสุ่มดีพอ มันสามารถบ่งบอกได้ครับ แม้ว่าจะจำนวนน้อยมากเมื่อเทียบกับประชากรโลก
เพราะในความเป็นจริงมันกำหนดว่าดีพอได้ยากไงครับ เค้าถึงพยายามเก็บให้เยอะที่สุดเท่าที่ทำได้
เค้ามีหลักการคิดตามหลักสถิติอยู่ครับ
มันไม่จำเป็นต้องถามทุกคน หรือถามตามสัดส่วน แค่ถามเยอะประมาณนึง ผลที่ได้ก็จะไม่แตกต่างแล้ว
12000 น่าจะเป็น n ของหลายๆประเทศด้วย
"This time, we dig into what actually makes a home for people. We have conducted a new quantitative survey in twelve cities around the world – resulting in more than 12,000 respondents. The survey was conducted in collaboration with Swedish business intelligence agency United Minds, using online panels in Berlin, London, Moscow, Mumbai, New York, Paris, Shanghai, Stockholm, Sydney, Toronto, Zurich and Madrid. We have dug into our own archives as well as looked at external studies in, for example, sociology, psychology, liberal arts, neuroscience and design. Not to mention talked to academic experts. But perhaps most importantly, we have talked to real people."
ไม่มีอะไรบอกว่าเป็น n ของหลายๆประเทศครับ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลครับ พอมาอ่านอันนี้ถึงเห็นว่าเก็บตัวอย่างแต่เมืองใหญ่ๆ แต่สงสัยว่าถ้าเก็บข้อมูลจากประเทศที่ใช้ Cellular เป็นหลัก อย่าง Tokyo หรือ Bangkok นี่จะยังมีผลเหมือนกันหรือเปล่า
บริบทของบทความก็น่าจะเป็นการเลือกเฉพาะเจาะจงกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายหลักของ IKEA ซึ่งถ้าเป็นแบบนั้นการเลือกเมืองที่ไล่มาก็อาจจะเพียงพอแล้ว
n ของหลายๆประเทศก็ได้ไม่ครบทั่วโลกนะครับ หรือถ้าได้ทุกประเทศจริงก็ตกเมืองไปหลายๆเมืองแน่นอน
น่าจะเข้าใจผิดกัน 12000 หมายถึง n รวมของหลายๆประเทศ
ประเทศนึงน่าจะ 1000และการสำรวจมันไม่ต้องทำทั้งโลกนะครับ แค่เลือกให้ดีก็พอ
อย่างกรณีนี้ segment ของคนที่สำรวจ ก็น่าจะต้องเป็นคนที่มีกำลังพอจะซื้อบ้านด้วย ซึ่งก็จะตัดกลุ่มประชากรที่รายได้น้อย กับช่วงอายุน้อย และเยอะออกไปได้
ครับ ผมอาจจะเข้าใจผิดไปเองที่เห็น 12,000 คนทั่วโลกเลยตีความไปว่ากระจายการสำรวจไปทั่วทั้งโลกจริงๆ
ผมว่าเขาก็คงสำรวจจากคนซื้อใน ikea นั้นแหละครับ ตรงกลุ่มเป้าหมายชัดเจนสุดๆ แถมยังสะดวกอีก
ไม่ใช่ครับ เค้าใช้ online panel (ในบทความด้านบนบอกไว้)
panel คือ บริษัทที่เค้าจะ recruit คนที่พร้อมทำแบบสำรวจมาไว้ โดยมี profile ต่างๆ
บริษัท research มีหน้าที่เตรียมข้อมูลที่จะ research เลือกกลุ่ม target (เช่นอายุ เพศ SES) และบอกจำนวน n ที่ต้องการ แล้วทาง panel จะจัดการส่งแบบสำรวจให้
WiFi ในบ้านไม่เสถียร์อาจโดนแม่ด่าได้
จริงครับ set networkที่บ้านดีพ่อแม่happy
แม่ : ทำไมดูไลน์ไม่ได้ ทำไมเล่น cookierun ไม่ได้
The Last Wizard Of Century.
โอ้ อันนี้จริงเลย แม่บ่นจนจนผมต้องไปซื้อ router ac มาติด เพราะ 2.4G เน่ามาก
แม่ด่าไม่เท่าไหร่ เมียด่าเซ็งมากกว่า
เซียงไฮ้ => เซี่ยงไฮ้