การตรวจสอบตัวตนของบริการต่างๆ ที่มีจุดหละหลวมอาจจะกลายเป็นช่องโหว่ให้มีการขโมยตัวตนเพื่อขโมยเงินจากเหยื่อ หรือใช้ตัวตนของเหยื่อไปก่ออาชญากรรมกับผู้อื่น ล่าสุดตำรวจจับสองพี่น้อง นายเอกลักษณ์ พ่วงสำเภา และนายไก่ (นามสมมติ) ในจังหวัดนครศรีรรมราช นำบัตรประชาชนผู้อื่นไปเปิดบัญชีได้สำเร็จสี่บัญชี เพื่อนำไปหลอกขายสินค้าในเฟซบุ๊กและเว็บอื่นๆ
เหยื่อของคดีนี้เป็นผู้ทำบัตรประชาชนสูญหายไปเปิดบัญชีธนาคารสี่บัญชีในสี่ธนาคาร เมื่อบัญชีถูกนำไปหลอกขายสินค้าและโอนเงินเข้าไปยังบัญชีโดยไม่ได้ส่งสินค้า เหยื่อจึงถูกหมายเรียกจากจังหวัดลพบุรี
ทางตำรวจสถานีอำเภอสิชล จังหวัดนครศรีรรมราช ตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนได้ภาพคนร้ายที่มาเปิดบัญชีจึงได้ตามจับคนร้ายในวันนี้
น่าสนใจว่ากระบวนการเปิดบัญชีทุกวันนี้มีความน่าเชื่อถือเพียงใด ผู้เสียหายในคดีนี้ถูกขโมยบัตรประชาชนไป แต่กลับต้องเดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาด้วยตัวเอง และยังระบุว่าบางธนาคารไม่ได้ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ธนาคารมีความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินมูลค่าสูงกว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก คงเป็นคำถามถึงธนาคารแห่งประเทศไทยว่าจะมีมาตรการอย่างไรต่อธนาคารที่หละหลวมทั้งสี่ธนาคารนี้
ที่มา - Bangkok Post , ไทยรัฐ
Comments
เพื่อสังคมดิจิตอลนะฮ๊าลฟ
ธนาคารไม่รู้ ไม่ชี้ ลอยตัวอยู่เหนือปัญหา
+1
เคสนี้ ไม่รู้จะโทษใครดี บางครั้งก็รู้สึกว่า รัฐเองก็ไม่มีโซลูชั่นที่สนับสนุนให้เกิดความเป็นมาตรฐานให้กับภาคธุรกิจ
id card ยื่นให้ธนาคารตอนเปิดบัญชี ทางธนาคารก็เอาไปถ่ายเอกสารอยู่ดี - -
ปล.แค่ความคิด
จะดูจาก chip ก็เท่านั้นล่ะครับ ดูแล้วไม่น่าจะปลอมยากเลย
เข้าใจว่าตอนนี้ยังปลอมไม่ได้นะครับ ? (หรือผมไม่ได้ตามข่าวเองหว่า?)
เคยทำกระเป๋าเงินหายเหมือนกัน มีทั้งบัตรประชาชน บัตรเครดิต เอทีเอ็ม ใบขับขี่ ฯลฯ
แถมเดี๋ยวนี้ทำบัตรประชาชนหายก็ไม่ต้องแจ้งความแล้ว แต่ก็แอบกลัวเหมือนกันว่าจะโดนพวกมิจฉาชีพเอาไปทำอะไรรึเปล่า (แต่ผ่านมา ๒ ปีแล้ว)
ข่าวข้างต้น ธนาคารเองก็ควรเช็คให้ละเอียดกว่านี้นะ
บัตรประชน > บัตรประชาชน
นครศรีรรมราช > นครศรีธรรมราช
onedd.net
น่าคิดครับ
คนที่ทำบัตรหาย ก็ไม่คิดว่า บัตรของฉันจะมีใครเอาไปทำอะไรได้ เลยไม่ใส่ใจอะไร (หรือใส่ใจแล้ว แต่เรื่องมันไม่ไปไกลถึงธนาคาร)
เจ้าหน้าที่ธนาคาร คงจะรู้สึกว่า เป็นการเสียมารยาทมั้ง ที่เอาบัตรประชาชนตัวจริงของลูกค้ามาเทียบกับใบหน้าของลูกค้า ณ ขณะนั้นที่ทำการเปิดบัญชี ทั้งที่จริงๆคนที่บริสุทธิ์ใจ ควรจะยืดอกยแสดงตนเลยด้วยซ้ำว่าฉันเป็นเจ้าของบัตรจริงและเป็นเจ้าของบัญชีจริง
คนที่โอนเงิน ก็เห็นว่ามีบัตรประชาชนแล้วคงตามได้ง่าย คิดว่าคงไม่โกงสมัยนี้มันไม่พอแล้ว
คำถามคือทำไมเจ้าหน้าที่ธนาคารยอมให้เปิดบัญชีได้จากหลักฐานแบบนั้นสงสัยอนาคตต้องมี device เพื่อเทียบลายนิ้วมือของคนเปิดบัญชี กับ เสียบบัตรประชาชนเพื่อ compare กันว่าเป็นคนเดียวกันจริงๆไหม
กรณีตามข่าวนี้ธนาคารผิดเต็มๆ และควรจะรับผิดชอบเรื่องพวกนี้ด้วย
เพื่อนผมทำงานธนาคาร เขาเล่าให้ผมฟังครับ
พนักงานหน้า Counter ต้องทำยอด ทั้งยอดเปิดบัญชี ยอดบัตรเครดิต ยอดประกันชีวิต ซึ่งมันมีผลถึงขั้นปรับออกหรือย้ายตำแหน่งเลยทีเดียวถ้าธนาคารพาณิชย์ยังต้องการยอดเหล่านี้เป็นอันดับหนึ่งอยู่ ยังไงระบบความปลอดภัยก็หละหลวมครับ
อันนี้จิตสำนึกธนาคารล้วนๆ ขนาดเพื่อผมยังโดนยัดพร้อมเพย์ให้โดยไม่รู้ตัว อยู่ดีๆก็ได้ SMS มาเฉยๆต้องไปยกเลิกเอง แต่ดูเจ้าตัวไม่ได้ทุกข์ร้อนอะไรเลย
ก็ระบบ KPI มันเน้นบีบคนในออกคนนอกเข้า จะได้จ้างถูกๆ
ระบบนี้แหละที่กำลังทำลายทรัพยากรคนอย่างร้ายแรงเลย
เคยอยู่ในแวดวงธนาคารสักพัก (ไม่ได้ทำสาขาหรือเป็น teller โดยตรง)
บอกได้เลยว่าที่เจ้าหน้าที่ระดับปฏิบัติการหละหลวม ปัจจัยหนึ่งที่สำคัญเลยคือคำสั่งปากเปล่าจากผู้ใหญ่ของธนาคารนั่นแหละครับ
สั่งมาแบบไม่มีประกาศคำสั่งหรือออกกฎ ถ่ายทอดลงมาตามสาย กระจายไปที่สาขา (และ Call Center)เพื่อให้บริการลูกค้าได้เร็วได้ดั่งใจ บางครั้งเจ้าหน้าที่ก็ต้องทำปล่อยๆเรื่องการยืนยันตัวตนที่ครบถ้วนไป เพราะนายสั่งมา (ไม่ได้สั่งให้ปล่อย แต่สั่งกว้างๆว่าต้องทำยอดให้ได้ ต้องไม่โดนคอมเพลนเรื่องความยุ่งยากของขั้นตอน)
พอเกิดเรื่องขึ้นมา นายที่สั่งน่ะค่อนข้างลอยตัวครับ รายงานผู้ใหญ่ก็รายงานเฉพาะความผิดพลาด ผู้ใหญ่ก็เป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้ามายื่นมือช่วยเหลือ ส่วนพนักงานระดับปฏิบัติการก็รับเคราะห์ไปเต็มๆ
ปัญหาคือมันเป็นความช้าจากระบบแล้วไปแก้ไขเอาหน้างาน กลายเป็นว่าไม่ได้ทำให้เร็วขึ้นมากมายแต่เกิดปัญหามากมายแทน
ควรมี web cam เพื่อ capture ภาพของผู้เปิดบัญชีไว้ด้วย และเมื่อถ่ายแล้ว เจ้าหน้าที่ก็สามารถเทียบกับภาพจากบัตรประชาชนได้โดยไม่ต้องยกมาเทียบกับหน้าลูกค้า
กสิกรมีนะ
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ผมเคยลืมบัตรประชาชน ไปถอนเงินธนาคาร (ไทยพาณิชย์) แต่พอดีว่าเอาพาสปอร์ตไปด้วย เลยขอใช้พาสปอร์ตแสดงตัว ธนาคารที่จำหน้าผมได้ คุ้นหน้าผมดี กลับไม่ให้เบิกเงิน เพราะบอกว่า ตามระเบียบใช้ได้เฉพาะ บัตรประชาชน ใบขับขี่ และบัตรข้าราชการเท่านั้น
ผมกลับไปเอาบัตรประชาชนที่บ้าน แล้วกลับมาปิดบัญชีทันที ด้วยหลาย ๆ เหตุผล
อีกเหตุการณ์ (เกิดก่อนหน้าเหตุการณ์แรก) กับธนาคารเดียวกัน ผมจะเปิดบัญชีนิติบุคคล ต้องยื่นเอกสารเยอะมาก แต่มีเอกสารฉบับหนึ่ง สำเนามาไม่ดี ชื่อกรรมการคนหนึ่งตัวอักษรเพี้ยนไปหนึ่งตัว ธนาคารปฏิเสธทันที ทั้งที่ผมคิดว่าเราสามารถ cross check ชื่อบุคคล และตัวบุคคล ด้วยเอกสารประกอบอื่น ๆ ได้ สุดท้ายเขาก็ไม่รับอยู่ดี
ผมเคยพูดกับพนักงานธนาคารหลายครั้งว่า ระบบการตรวจสอบด้วยเอกสารและกระดาษแบบที่ใช้ ๆ กันอยู่ มันกรองได้เฉพาะคนที่ต้องการทำให้มันถูกต้อง แต่ไม่มีประสบการณ์เท่านั้นและ พวกมิจฉาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญ ยังไงก็ผ่านระบบตรวจสอบด้วยเอกสารได้
การรักษาความปลอดภัยที่ดีควรเริ่มต้นด้วย common sense ไม่ใช่การตรวจสอบกระดาษที่ได้จากการสำเนา Smart Card
หลายแบงค์ถ้าคุ้นเคยกับพนักงานก็จะอลุ่มอล่วยกันได้นะครับ ผมเคยประมาณว่าลืมบันทึกเช็คตัดไป 1 ใบ แล้วเงินในบัญชีไม่พอ ต้องโอนจากอีกบัญชี ธนาคารโทรมาบอกแต่เช้าว่ามีเช็คตัด แต่เจ้าของบัญชียังไม่ตื่น เลยบอกว่าให้ทำการโอนเงินจากอีกบัญชีนึงไปก่อนเลย แล้วเดี๋ยวจะไปเซ็นต์ให้ แต่ผู้ช่วยที่ทำเรื่องให้ พูดบอกว่าไม่สบายใจเลยที่ทำแบบนี้ แล้วก็ย้ำอีกว่าถ้ามีไรผิดพลาด พี่โดนไล่ออกเลยนะ เล่นเอาแทบรู้สึกผิดเลยทีเดียว
แล้วก็มีอีกเหตุการณ์นึงเกิดกับอีกแบงค์ พอดีสมุดหมด แล้วไม่มีเวลาไปสาขาไปต่อเอง ก็เลยบอกพนักงานว่าฝากสมุดมาให้เซ็นต์ก็แล้วก็ แต่ปรากฏว่าดันทำหายระหว่างทาง ตอนหลังขอสมุดมาเซ็นต์พนักงานก็พูดนิดๆ หน่อยๆ ประมาณว่าผิดระเบียบแล้วก็บอกว่าวันเสาร์-อาทิตย์ในห้างก็เปิด สุดท้ายบอกไม่ว่าง อยากให้ต่อที่บ้านเลย พนักงานก็เลยเอาสมุดมาให้เซ็นต์ที่บ้าน ไม่กล้าฝากมาคงกลัวหายอีก
oxygen2.me , panithi's blo g
Device: HP Zbook, iPad Pro, iPhone 15PM, iPhone 16+, Nothing Phone 1
ยอดเยี่ยมระดับ 20
ตรงที่สามารถเปิดบัญชี 4 บัญชีใน 4 ธนาคาร
แปลว่า checkpoint ของแต่ละธนาคารก็คงคล้าย ๆ กัน
อยากรู้ชื่อธนาคารนั้นจัง บอกเป็นสีธนาคารได้ไหมนะ
ธนาคารแห่งประเทศไทยว่ายังไง มีกฎอะไร จะออกมาตอบโต้ไหม?
เปิดบัญชีต้อง เสียบบัตร สแกนนิ้วถ้าทำไม่ได้ไม่ให้เปิด หวังว่า ธปท จะเล็งเห็นความสำคัญกับสมาร์ตการ์ด และทะเบียนราชของรัฐบ้าง
ธ.กรุงศรีไงครับ หน้าบัตรไม่ชัด เสียบบัตรอ่านข้อมูลชิปไม่ได้ไม่สามารถทำธุรกรรมได้ แต่ยังไม่มีการแสกนนิ้ว
จริงๆ ระบบแบ็งก์ต้องเชื่อมกับฐานข้อมูลทะเบี่ยนราษฎร์ แล้วตรวจสอบลายนิ้วมือว่าตรงกันรึเปล่าแบบนี้แหล่ะถูกต้องละครับแต่ว่าก็เพิ่มต้นทุนแบ็งก์อีกคงไม่มีใครทำ
อันนี้ผมพูดเหมือนเดิมนะครับ ว่าจนตอนนี้ ยังไม่มีรายงานการปลอมบัตรประชาชน ซึ่งถ้าบัตรสภาพดี มันปลอมยากมาก โดยเฉพาะลายน้ำบนตัวบัตร
ปัญหาทั้งหมดที่ผ่านมาเท่าที่มีรายงาน คือการ ข้ามขั้นตอนการตรวจสอบปัญหาแบบนี้จะแก้ด้วยการเพิ่มการตรวจสอบอื่นที่เราคิดว่าปลอมยาก ทั้งลายนิ้วมือ DNA หรือจะอีกสารพัดที่คิดได้ หากไม่มีการแก้ปัญหาการ ข้ามขั้นตอนก็ไม่มีอะไรรับประกันทั้งสิ้นว่าจะไม่เกิดอีก เจ้าหน้าที่จะอ้างได้เสมอว่าวันนี้สแกนลายนิ้วมือไม่ติด, เครื่องตรวจ DNA เจ๊ง ฯลฯ
การแก้ปัญหาการข้ามขั้นต้อง ไม่ใช่ไปเพิ่มขั้นตอน (ซึ่งข้ามได้เหมือนเดิม) แต่ต้องเอาเรื่องกับการข้ามขั้นตอนเสียก่อนว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทำอย่างไรจะไม่มีการข้ามอีก
การเพิ่มการเข้าถึงข้อมูลไปเรื่อยๆ นอกจากจะไม่แก้ปัญหา (เพราะหน่วยงานที่ข้ามขั้นตอนไม่เคยถูกเอาเรื่อง) ยังเพิ่มความเสี่ยงข้อมูลรั่วไหลมากขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งข้อมูลมีมาก ความเสี่ยงก็มีมาก
lewcpe.com , @wasonliw
สโลแกน ทั้งชีวิตเราดูแล(ตัวเอง)
แล้วแบบนี้ใครคิดว่าการจ่ายเงินแบบติจิตัลมันปลอดภัยได้ ในเมื่อระดับ User ที่เป็นคนป้อนข้อมูลทำผิดพลาดได้ระดับนี้
ทุกอย่างก็มาจากแนวคิดแบบไทย ๆ คือ หยวน ๆ กันไป นั่นแหละครับท่านผู้ชม
เรื่องนี้น่าจะสอนให้พวกชอบหยวน ๆ กันไปได้คิดบ้างนะครับว่าผลจะเป็นไง
อยากรู้ว่า ถ้าบัตรประชาชนหาย แล้วจะแจ้งอายัดที่ไหน อายัดแล้ว จะมีข้อมูลส่งถึงหน่วยงานต่าง ๆ ทันทีเลยหรือไม่อยากรู้ว่า จะตั้งรหัสบัตรประชาชน เหมือนบัตร ATM ตอนไปกดเงินที่ตู้ได้ไหม น่าจะป้องกันคนเอาไปแอบอ้างได้นะ
รัฐบาล ตอบด้วยครับ
ไปแจ้งขอทำบัตรใหม่แค่นั้น
เพราะบัตรมันไม่มีเลขกำกับอายัดบัตรไม่ได้
ถ้ายกเลิกก็คงเป็นการยกเลิกเลชประจำตัวประชาชนของคนๆ นั้น
ตัวบัตรเหมือนจะมีไอดีแยกออกจากเลขประจำตัวประชาชนนะครับ ถ้าจะอายัดก็อายัดที่ตัวรหัสนี่ได้
แต่ถ้าการทำธุรกรรมไม่ได้เช็ค validity ของตัวบัตร (ดูแค่สำเนาอย่างเดียว) ก็จบ และการเช็คก็ต้องตรวจสอบกับระบบของทางราชการด้วย ซึ่งมีค่าใช้จ่าย ก็เลยไม่ค่อยมีคนอยากทำกันครับ
สุดท้ายแล้วสำเนาบัตรประชาชนมีเอาไว้แค่เป็นหลักฐานไว้ฟ้องกันเท่านั้นแหละ
พนักงาน เปิดบัญชี ก็ ละอ่อนประสบการณ์น้อย ไม่ทันคน
ปล่อยพวกนี้ ทำงานโดยไม่มี ใครคุม มัน ก็เละเทะ ได้ เรื่อยเรื่อยปีหน้า ก็มีเรื่องแบบนี้ อีก
ไม่จบสิ้นหรอกครับ
ธนาคารมีความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินมูลค่าสูงกว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก
ย่อหน้าสุดท้ายอ่านแล้วงงนิดหน่อย ตอนแรกอ่านไม่เข้าว่า คุณ lew หมายถึงอะไร
พออ่านเว้นช่วงเลยพึ่งถึงบางอ้อ :D
แต่ก็แปลกดีนะ ว่าพนักงานเข้าไม่ดูรูปบนหน้าบ้ตร เทียบกับตัวจริงหรือ?
หรือว่าคนร้าย มีหน้าตาคล้าย?
อันนี้แนะนำได้เลยนะครับ ว่าควรเว้นแบบไหนจึงอ่านไม่สะดุด
lewcpe.com , @wasonliw
กลับไปอ่านอีกรอบ เลยเพิ่งสังเกต น่าจะเป็นที่ประโยคนี้มั้งครับ"ธนาคารมีความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินมูลค่าสูงกว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก"
แต่ผมมองว่าเพิ่มคำขยาย คำแสดงความเป็นเจ้าของระหว่างทรัพย์สิน/มูลค่าก็จะไหลลื่นขึ้นครับเช่น "ธนาคารมีความรับผิดชอบต่อทรัพย์สินซึ่งมีมูลค่าสูงกว่าผู้ให้บริการโทรศัพท์มือถือเป็นอย่างมาก"