ทีวี 3 มิติไม่ได้รับความสำคัญและเน้นย้ำจากบริษัทผู้ผลิตทีวีมาสักระยะแล้ว หลังเคยเป็นกระแสประมาณปี 2011-2013 ก่อนที่ผู้ผลิตหลายรายก็ทยอยยุติการผลิตกันทีละเจ้า จนเหลือเพียง LG และซัมซุงเท่านั้น แต่ล่าสุดสองบริษัทนี้ก็ประกาศเลิกผลิตทีวี 3 มิติแล้ว เท่ากับว่าทีวี 3 มิติตายลงอย่างเป็นทางการ
ผู้บริหาร LG ให้เหตุผลกับทาง CNET ไว้ว่าทีวี 3 มิติไม่เคยประสบความสำเร็จในการเข้าไปอยู่ในห้องนั่งเล่นอย่างแพร่หลายเลย ผลสำรวจก็ชี้ว่าทีวี 3 มิติไม่เคยติดอันดับต้นๆ ในตัวเลือกการซื้อทีวี และถึงแม้จะซื้อไป โหมด 3 มิติก็ไม่ค่อยถูกเปิดใช้งานมากนัก เช่นเดียวกับผู้บริหารโซนีที่ชี้ไปในทิศทางเดียวกัน
Business Insider ได้วิเคราะห์สาเหตุสำคัญที่ทีวี 3 มิติไม่เคยติดตลาดเลย เนื่องจากคอนเทนท์ 3 มิติมีน้อยและมาพร้อมกับแผ่นบลู-เรย์เสียส่วนใหญ่ (ซึ่งก็ไม่ได้รับความนิยมมากนักเช่นกัน) รวมไปถึงทำให้เกิดอาการปวดตาและต้องปรับความคุ้นชิ้นของสายตาหลังใส่แว่น
ที่มา - CNET via Business Insider
Comments
ข้ามไป VR แทนเลยแล้วกัน
เรารู้สึกว่า gear vr ดูแล้วปวดตากว่าดู lg 3d tv
โรงหนังก็ไม่มีแล้วนะ มีแต่ imax
ผมอยากดู IMAX 2D แต่หาดูไม่ได้ T_T
หายากจริงๆ ครับ ปี 2017,2018 มี Dunkirk เรื่องเดียวที่เป็น IMAX2D แท้ๆ
ส่วนเรื่องอื่นๆ ถ้าจะฉายใน IMAX ทางค่ายกำหนดให้แปลงเป็น IMAX3D หมดเลย
ล่าสุด La La Land ก็ 2D นะครับ
ออ นึกว่าโดนทำ 3D หมดทุกเรื่องเข้าระบบ IMAX แล้วซะอีก ยังเหลือมา
จริงเรื่องนี้ไม่ใช่แนวที่อยากดู คงรอ dunkirk ฮ่าๆ
ก็ไม่รู้ว่าอะไรทำให้เทรน 3D มันเกิดขึ้นมาได้ ผมดูครั้งแรกก็รู้สึกได้เลยว่าไม่เวิร์คและไม่เคยคิดที่จะใช้
น่าจะหนัง อวตาร นั่นแหละ พอหลังจากนั้นหนังฟอร์มใหญ่ที่ถ่ายทำเสร็จแล้วมีระงับการฉายเพื่อไปเรนเดอร์เป็น 3D แม้แต่หนังเกรด B ก็พยามจะ 3D ตาม ทั้ง shark 3D, piranha 3DD นมตู้มๆๆ ทั้งหลาย
เสียดาย ผมชอบดูหนังแบบ 3D นะแต่หนัง 3D สนุกๆก็มีน้อยเรื่อง
จริงๆครับ เรื่องที่ดู 3D แล้วแจ่มๆ ทุกวันนี้ยังนับเรื่องได้เลย
ที่ผมชอบที่สุดก็มีแค่เรื่อง Gravity Avatar และ Guardian of the Galaxy มี 3 เรื่องนี่แหละที่ดู 3D แล้วอย่างกับดูหนังคนละเรื่องกับตอน2Dโดยเฉพาะเรื่อง Gravity ดู2Dแล้วโคตรเวียนหัว แต่ดู3Dแล้วสบายตากว่าซะงั้น ใช้ประโยชน์จาก3Dในการแยกแยะวัตถุในภาพ ให้ไม่งง ได้ดีมากเรื่องนึงเลย
ส่วนเรื่องที่เกลียดมากเวลาดู3Dก็คือเรื่อง Edge of Tomorrow ทำ3Dได้โคตรน่ารำคาญ Titanicที่Remasterเป็น3Dยังทำได้ดีกว่าเลย
ผมว่าน่าจะทำเป็น 3D Parallax Barrier แทนได้แล้วนะ ซึ่งมันก็ไม่ใช่ของใหม่อะไรเลยมีมานานแล้ว แต่ไม่เคยเห็นมันมาอยู่บน TV สักที เอามาพัฒนาให้มุมมองมันกว้างๆ 90-180 องศา ก็ยังมองได้ ขี้เกียจต้องมาใส่แว่น
เทรนมันน่าจะเริ่ม บูมๆๆๆๆ ตอนหนัง อวตาร นะคิดว่า แต่คนไอที ก็บอกเป็นเสียงเดียวกันเลยว่า ไม่นาน
ส่วนตัวชอบดูแบบ 3D แต่ให้ดูทุกเรื่องก็ไม่ไหว ไม่สบายตา
ซื้อของ LG มาเมื่อสามปีก่อน ยังใช้ไม่คุ้มเลยครับ คอนเทนท์มีน้อยมากๆ ภาพยนตร์ส่วนใหญ่ก็พุ่งไม่สะใจ (คลิปที่ภาพพุ่งเยอะๆ ให้พอประทับใจได้ก็คือคอนเทนท์ของ LG เอง)
จอยิ่งใหญ่ภาพยิ่งลอยครับ
โอ้วเราจะมีแรร์ไอเท็มอยู่ที่บ้านสิเนี่ยของ LG ไม่ปวดตานะครับมันเป็นคล้ายของโรงหนัง ส่วนตัวชอบมากดูแผ่นบลูเรย์3D แล้วพวกโปรเจ็คเตอร์จะได้ไปต่อไหมเนี่ย
จริงครับ ที่บ้านใช้ LG ความรู้สึกเหมือนดูในโรง 3D เลย ไม่มีอาการปวดตาหรืออะไรทั้งสิ้น ชอบมากๆแต่หนัง 3D มีน้อย
รอ tv 21:9 ครับ พร้อม ambient light
รอด้วย :D
คนไม่ค่อยดูทีวีผ่าน tv กันแล้ว เพราะสามารถดูทีวีผ่านอุปกรณ์สมาร์ทโฟน แทปเล็ต หรือคอมพิวเตอร์แทนทำให้ความอยากซื้อทีวีลดลง
ผมชอบนะ ผมใช้ home theatre 3D 86 นิ้ว มันโอสุดแล้ว
ใช้ตลอดด้วย เสียดาย คงต้องรอกลับมาเกิดใหม่สินะ 3D
พึ่งจัดทีวีมาไม่นาน ก็ยังแอบสงสัยว่าทำไมไม่มี 3D ในใบสเปกหว่าเจอข่าวนี้เก็ทเลย
ดูแล้ว เวียนหัว
ชอบ สมัยเด็กเด็ก ที่ เป็น หนัง2มิติ แล้ว บอกว่า ถ้าตัวแสดงใส่แว่น ก็ให้ ใส่ตาม
เป็น อะไรที่ ตื่นเต้นมาก
เคยดู 3มิติ ทั้งในโรงภาพยนต์ ทีวี โปรเจคเตอร์
ก็ ยอมรับว่า ภาพมันกระพริบ ดูรางเลือน เบลอ
ไม่สนุกเท่าไร
คนใส่แว่นสายตา ดูไม่สะดวกก็จบ
ผมซื้อทีวีใหม่หลายเครื่อง ก็เลือกไม่เอาที่มี 3D เลย
มาไว ไปไว ใครไปก่อนได้เปรียบกว่า
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เสียดายอ่ะ ผมชอบดูซะด้วยสิ
VR จะตามไปอีก 3-4 ปี
ยากครับ เพราะกลุ่มที่ใช้ประโยชน์จาก VR ได้ไม่ใช่แค่กลุ่มความบันเทิงอย่างเกมและสื่อต่างๆ แต่ยังรวมถึงกลุ่มอุตสาหกรรมด้วยครับ
VR ตายแน่นอนถ้าตัวแว่นยังใหญ่และหนัก มันใส่ไม่สบายครับ
ต้องรอดูแว่น AR คิดว่าคงเบาและใส่สบายกว่าคิดว่าไมโครซอฟท์มาถูกทาง เฟซบุ้คพลาดอย่างแรง
ถ้าแว่นยังใหญ่เทอะทะอย่างนี้ VR ตายแน่นอน
เอาแค่หูฟัง Full Size หนักประมาณ 2 ขีด ถ้าคนไม่เคยใส่ พอมาใส่สัก ชั่วโมงสองชั่วโมง ยังปวดคอเลยครับไม่ต้องสืบถึงVRเลย หนักซะขนาดนั้น กล้ามเนื้อคอรับไปเต็มๆ
ผมว่ายากครับ ที่มันตายในทีวีก็เพราะความยุ่งยากเกะกะของตัวแว่นเทียบกับประโยชน์ที่ได้รับมันดูไม่คุ้มค่าเลย ซึ่งแม้แต่ Google Glass เองก็ยังเข็นไม่ขึ้นในเรื่องนี้ แต่สำหรับ VR เมื่อเทียบประโยชน์ที่ได้รับแล้วมันตอบสนองต่ออุตสาหกรรมประเภทเกมส์ค่อนข้างมาก รวมถึงการใช้งานแบบเฉพาะเจาะจงในรูปแบบต่างๆ
แว่นเกะกะ หนักอีก คนใส่แว่นต้องใส่แว่นซ้อนอีกอัน ดูแล้วก้อเวียนหัว จบนะ
มีเทคโนโลยีฉายภาพโดยยิงแสงเข้าดวงตาของคนที่หันมามองอุปกรณ์แสดงภาพเลยไหม จะได้เป็น 3D ที่ไม่ต้องใส่แว่นหรืออะไรทั้งนั้น แถมอุปกรณ์ก็ไม่ต้องใหญ่ด้วย อาจเป็นอุปกรณ์ตัวเล็กๆ 5x5 cm เสียบปลั๊ก ตั้งไว้แทน TV จอใหญ่ๆ
ตรวจจับดวงตาเอา ใครหันไปมองก็ฉายแสงเข้าดวงตาให้เห็นภาพ ใครหันไปทางอื่น อุปกรณ์ก็ไม่ต้องฉายแสงใส่
ดูหนังโรง 3D ครั้งแรกแบบว่ามันไม่ชัดและก็เวียนหัว เลยไม่อยากดูอีกเลย
ชอบดู 3D แต่เหตุผลเดียวที่ไม่ได้ดู แฟนบอกปวดหัว