ในปัจจุบัน ภัยคุกคามในโลกไอทีมีอยู่มากมาย ลำพังเพียง Firewall และระบบป้องกันแบบเดี่ยว ไม่สามารถรองรับภัยคุกคามที่มักโจมตีแบบผสมผสานที่ยากต่อการติดตามตรวจสอบได้ การใช้ Unified Threat Management (UTM ) ซึ่งเป็นระบบที่ภายในรวบรวมซอฟต์แวร์ด้านความมั่นคงปลอดภัย (Security) ประเภทต่าง ๆ เข้ามาไว้ในแพ็คเกจเดียวกัน เพื่อช่วยให้การตรวจสอบภัยคุกคามมีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมยังบริหารจัดการได้ผ่านจุดศูนย์กลางเดียว
โดยปรกติ UTM นั้น จะประกอบไปด้วย
- Network Firewall
ทำหน้าที่ตรวจสอบทราฟฟิคต่าง ๆ ขององค์กรที่สื่อสารกับภายนอก พร้อมยังป้องกันการโจมตีแบบ DDoS ซึ่งช่วยให้ระบบขององค์กรไม่ล่มและให้บริการไม่ได้ - Network Intrusion Detection/Prevention (IDS/IPS)
ทำหน้าที่ตรวจสอบและป้องกันการโจมตีผ่านบริการที่เปิดไว้ในรูปแบบที่มักถูกโจมตีได้บ่อย ๆ - Content Filtering
ทำหน้าที่ต้องตรวจสอบและป้องกันการเข้าเว็บที่อาจไม่ปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ในองค์กร - Load Balancing
ทำหน้าที่ช่วยในการทำให้ระบบเครือข่ายที่เชื่อมต่อกับภายนอกสามารถสลับใช้งานไปยังการเชื่อมต่ออื่นที่ยังคงให้บริการอยู่ได้ ทำให้การติดต่อสื่อสารไม่สะดุดไป - Quality of service (QoS)
ทำหน้าที่จัดการแบนด์วิธของเครือข่าย โดยจัดลำดับความสำคัญของประเภทข้อมูลที่ผ่านเครือข่าย ช่วยเพิ่มความเร็วสำหรับบริการสำคัญๆ ที่ควรได้รับแบนด์วิธเพียงพออยู่เสมอ - Gateway AntiVirus
ทำหน้าที่ตรวจสอบมัลแวร์ที่มากับเนื้อหาภายในเว็บ หรืออีเมลต่าง ๆ ช่วยป้องกันเครื่องภายในองค์กรถูกโจมตี - Data Leak Prevention
ทำหน้านี้ช่วยป้องกันข้อมูลภายในองค์กรให้รั่วไหล่ออกสู่ภายนอก - Logging and On-Appliance Reporting
ระบบรายงานการใช้งาน โจมตี และป้องกันของระบบโดยภายรวม ช่วยสรุปและทำให้ดูแลระบบได้ง่ายสำหรับผู้บริหารระดับสูง
การติดตั้งและใช้งาน Unified Threat Management จึงมักจำเป็นต้องมีทีมงาน และผู้เชียวชาญเฉพาะ ที่สามารถติดตั้ง ดูแล และตรวจสอบ อย่างสม่ำเสมออยู่แล้ว แต่สิ่งที่ต้องชวนปวดหัวให้กับแผนกบัญชี คือ การลงทุนจัดซื้ออุปกรณ์ รวมทั้งค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษาอุปกรณ์รายปีที่มีราคาสูงอีก ก็คงไม่เหมาะกับธุรกิจขนาดเล็กที่ต้องการประหยัดค่าใช้จ่าย แต่ยังมีความสามารถรองรับที่เพียงพอต่อความต้องการ
การเช่าใช้ระบบ All@Secure จาก CAT cyfence จึงเป็นตัวเลือกที่ดี ที่ช่วยในด้านราคาเริ่มต้นที่ดี ค่าการดูแลรักษาที่เหมาะสมกับขนาดธุรกิจ
โดยบริการ All@Secure นั้นเหมาะกับธุรกิจในลำดับต่าง ๆ เช่น
- ธุรกิจ SME ที่อยากเพิ่มความปลอดภัยการใช้งาน Internet
- หอพัก หรือคอนโดมิเนียม ที่คนใช้งานเยอะ แต่อินเตอร์เน็ตที่มีอาจไม่เพียงพอ
- สถานศึกษา หรือโรงเรียน อยาก Block Web ที่ไม่เหมาะสม
ความสามารถหลักของ All@Secure มีดังนี้
- Firewall
- Intrusion Prevention System (IPS)
- Gateway Antivirus
- Content Filtering
- Virtual Private Network (VPN)
- Data Leak Prevention (DLP)
- Quality of service (QoS)
- Logging
ซึ่งจากความสามารถหลักข้างต้นนั้น สะดวกในการติดตั้ง และบริหารจัดการระบบ ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการจัดการระบบรักษาความปลอดภัยระบบไอทีโดยภาพรวมด้วย Firewall, Intrusion Prevention System (IPS), Gateway Antivirus และ Content Filtering ที่มาพร้อมกับการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานอินเทอร์เน็ตด้วย Quality of service (QoS) และเมื่อต้องทำรายงานและบันทึกการใช้งานของระบบ All@Secure ทาง CAT ยังช่วยจัดเก็บข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ โดยจัดเก็บข้อมูลที่อุปกรณ์จัดเก็บล็อกไฟล์ที่ CAT ให้อีกด้วย
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ