Tags:
Node Thumbnail

กลับมาพบกันอีกครั้งกับ Niche Review ครับ กับ gadget ที่ไม่รู้ว่าเพราะมันหาซื้อยากหรือไม่มีคนสนใจกันแน่ คราวนี้จะมารีวิว Google Daydream ให้ดูกัน

Google Daydream (ที่ไม่ใช่ screen saver) เปิดตัวออกมาเมื่อเดือนพฤษภาคมปีที่แล้ว โดยที่ Google วางไว้ให้เป็นมาตรฐานของ VR ที่จะมาแทนอันเดิมคือ Google Cardboard และในงาน #madebygoogle เมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว นอกจากจะเปิดตัว Pixel และ Pixel XL Google ก็เปิดตัว Daydream View ซึ่งเป็น headset ตัวใหม่ที่รองรับมาตรฐาน Daydream ออกมาด้วย โดยที่ช่วงแรกรองรับเฉพาะ Pixel และ Pixel XL

จนถึงบัดนี้ หกเดือนผ่านไป จำนวนโทรศัพท์ที่รองรับก็เพิ่มขึ้นมา อย่างน่าใจหายอีก 3 รุ่นหลักๆ ซึ่งก็คือ Moto Z, ZTE Axon 7 และ Huawei Mate 9 Pro (เห็นบนเว็บไซต์ยังขึ้นสถานะ Asus Zenfone AR ที่รองรับทั้ง Daydream และ Tango ว่ายังเป็นสถานะ Coming Soon อยู่) ที่อย่างน้อยก็ยังดี ที่มีขายในเมืองไทยหมดแล้ว แต่ตัวมันเองและ Pixel ก็ยังไม่มีขายอย่างเป็นทางการเหมือนเดิม อย่างไรก็ตาม ผมได้เอามาใช้งานอยู่สองสามเดือนแล้ว จะพาไปชมว่ามันเป็นยังไงบ้างครับ

เราเริ่มดูกันจากตัวกล่องและรูปร่างโดยรอบก่อนเลยครับ จริงๆแล้ว Daydream View จะมีทั้งหมดสามสี คือ เทา ขาว แล้วก็สีนี้ ซึ่งคงเป็นสีที่เหมาะกับคนเลือก Pixel สี Very Blue ที่สุด

alt=alt=alt=alt=alt=

ในส่วนที่ใช้สวมใส่ สามารถถอดออกมาทำความสะอาดได้ง่ายๆครับ

alt=

อันนี้เป็นการเปรียบเทียบระหว่าง MI VR Play ที่ต้องถือว่าเป็น Google Cardboard ที่ไฮโซประมาณนึง แต่เมื่อเปรียบกันชัดๆแล้ว Daydream View ก็สวยกว่าเยอะอยู่นะผมว่า Google Daydream View ใช้วัสดุที่เป็นผ้าโดยที่ Google บอกว่าออกแบบมาจากเสื้อผ้าที่คนใส่ในชีวิตประจำวัน แล้วก็มีตัวสายคาดหัวที่รัดเฉพาะด้านหลังหัวอย่างเดียว

alt=

ส่วนด้านหน้าจะเป็นที่ที่ไว้ใช้ใส่โทรศัพท์เข้าไป แล้วก็เป็นที่เก็บรีโมทด้วย โดยที่มีสายรัดอยู่

alt=

ตัว controller จะมี Touchpad อยู่บนสุด ถัดลงมาเป็นปุ่มที่เรียกว่าปุ่ม App (จริงๆ ก็ใช้งานเหมือนปุ่ม Back ล่ะครับ) และก็ล่างสุดเป็นปุ่ม Home ด้านขวามีปุ่มเพิ่มลดเสียง

alt=

เมื่อเริ่มใช้งานครั้งแรก จะต้องมีการเชื่อมต่อระหว่างโทรศัพท์กับ headset และอาจจะมีการอัพเดตตัว controller ซึ่งใช้เป็นส่วนเชื่อมต่อด้วย แต่หลังจากครั้งแรกแล้ว เพียงแค่เปิดส่วนที่ใช้ใส่โทรศัพท์ ปลดล็อกแล้วก็วางเครื่องเข้าไป ตัว NFC chip จะสั่งให้โทรศัพท์เข้าไปที่แอพ Daydream โดยอัตโนมัติ

alt=

หลังจากใส่โทรศัพท์ไปรูปร่างก็จะเป็นประมาณนี้

alt=

ครั้งแรก ก็จะมีเหมือนคำเตือนและคำแนะนำในการใช้ตามนี้ครับ

alt=

เมื่อเริ่มเปิดขึ้น ตัวแนะนำการใช้งานทำได้ดีมาก จะมีบอกว่าแต่ละปุ่มใช้ทำอะไร แล้วก็ตัว Daydream เนี่ย เมื่อใช้ไปสักพัก มันจะมีอาการหลงทิศ แต่เราสามารถที่จะปรับมันได้ โดยการหันไปทิศทางที่ต้องการแล้วกดปุ่ม Home ค้าง ด้านนั้นก็จะกลายเป็นด้านหน้า

หลังจากนั้น ก็จะมีฉากเล็กๆน้อยๆ เพื่อสร้างความคุ้นเคย เช่น ให้เราเปิดไฟฉายแล้วก็หันไปดูสัตว์รอบๆ มีให้โยนขอนไม้เล่นกับสุนัข แล้วก็เขย่าต้นมะพร้าวให้ลูกตกลงมา ประมาณนี้ครับ

alt=alt=alt=

หน้าจอหลักจะเป็นแบบนี้ ส่วนแถวบน ผมดูรีวิวต่างประเทศก็จะขึ้นปรกติ แต่ผมไม่แน่ใจว่าทำไมของผมไม่ขึ้น
แถวกลาง จะเป็นแอพล่าสุดส่วนแถวล่างก็จะเป็น Play Store และ Library ซึ่งใช้เข้าไปสู่แอพทั้งหมดที่มีในเครื่องแล้วก็ Settings ซึ่งไม่ได้มีอะไรให้ปรับได้เท่าไร
ถ้ามองลงมาข้างล่างจะเห็นตัว controller อยู่ด้วยนะครับ

alt=alt=alt=

แอพที่รองรับ มีเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็น แอพของ Google เอง อย่าง YouTube VR ที่มีคลิปต่างๆให้ดูเยอะมาก บางอันก็ทำดีมาก บางอันก็เฉยๆ ส่วน Google Street View อันนี้ พอเป็น VR เนี่ย มันทำให้รู้สึกใกล้ชิดกับสถานที่ขึ้นมากเลยครับ หวังว่าวันนึง Street View จะทำเป็นแบบให้เราเดินในถนนได้จริงๆเลย

แอพอื่นๆด้านบันเทิงก็มี ไม่ว่าจะเป็น Netflix ที่จะจำลองเหมือนเรานั่งอยู่ในห้องแล้วก็มีจอใหญ่ๆอยู่ด้านหน้า หรือแอพ NYT VR ที่เป็นเหมือนเรื่องราวให้เราเข้าไปชมได้ มีให้เลือกหลายเรื่องอยู่

ในส่วนของเกม ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ อย่างเช่น Fantastic Beasts and Where to Find Them ที่คนเล่น Harry Potter ก็จะคุ้นเคยดี อันนี้ เวลามองลงไปที่ Controller จะเห็นเหมือนมันเป็นไม้กายสิทธิ์ด้วยหรือเกมรถแข่งอย่าง VR Karts:Sprint ก็จะให้เราเปลี่ยนไปจับ Controller เหมือนเป็นจอย แล้วก็ใช้การเอียงมันในการเลี้ยว

ด้านล่างเป็นภาพตัวอย่างจากแอพนะครับ

Google Street View

alt=alt=

VR Karts:Sprint

alt=alt=

สรุปผมว่า การใช้งาน Daydream View เนี่ย มันให้ประสบการณ์ที่ดีขึ้นมากว่าการใช้ Google Cardboard พอสมควร แล้วตัว Controller เนี่ย ก็สามารถให้เราสั่งการตัวมันได้ดีว่า แล้วก็น่าจะทำให้ developer มีอิสระมากกว่าในการออกแบบตัวแอพด้วย

แต่ว่า ด้วยความที่ถึงแม้จะออกมาแล้วมากกว่าครึ่งปี และจำนวนแอพที่มีมากขึ้นเรื่อยๆ แต่จำนวนรุ่นของโทรศัพท์เนี่ย มันก็ไม่ได้มีเพิ่มขึ้นมาเยอะเท่าไรเลย คงต้องรอดูกันต่อไปครับ ว่าจะเป็นไง

ข้อดี

  • สายรัดหัว และ controller เป็นส่วนหลักที่ทำให้การใช้งานดีขึ้นกว่าเดิมมาก
  • ใช้งานง่าย
  • แอพที่รองรับ ผมว่าเยอะมากเลยนะ เล่นกันไปได้เรื่อยๆเลย
  • ตัวแอพหลายๆตัวมีความน่าสนใจดี
  • มันคือการได้เข้าไปลองใช้ VR แบบเริ่มต้นที่คุ้มค่าต่อการลงทุนที่สุด

ข้อไม่ค่อยดี

  • ไม่มีขายอย่างเป็นทางการในเมืองไทย
  • โทรศัพท์รุ่นที่รองรับยังมีน้อยอยู่
  • ราคาไม่ได้ถูกมาก
  • ใส่นานๆแล้วมีอาการล้าอยู่เหมือนกัน
  • ถ้าเป็นโทรศัพท์ที่ไม่ใช่จอ QHD น่าจะไม่ค่อยดีครับ ของผม Pixel XL เวลาเล่นจริงๆ ก็ยังเห็นว่ามันเป็นเม็ด Pixel

ถ้าอยากดูเพิ่มเติม ตามเข้าไปที่วิดีโอรีวิวด้านล่างเลยได้เลย เท่าที่เห็นคิดว่าน่าจะเป็นตัวแรกที่เป็นรีวิวภาษาไทยครับ

ขอบคุณครับ

Get latest news from Blognone

Comments

By: cittavuddho
iPhone Android Red Hat Ubuntu
on 18 April 2017 - 19:29 #980186
cittavuddho's picture

มีแอปสำหรับทำงานหรือเปล่าครับอย่างเช่่น RDP Textediter office

By: EngineerRiddick
iPhone Windows Phone Android Ubuntu
on 19 April 2017 - 08:37 #980213
EngineerRiddick's picture

VR นิเล่นนานๆ จะเสียสายตาไหมครับ แฟนบอกแสงมือถือยิงตรงใส่ตาเลยนะ เหมือนจ้องจอtvในที่มืดใกล้ๆ?ผมก็แอบเนียนๆเล่นเกมดูหนังตอนแฟนไม่เห็น คือผมสายตาสั้นอยุ่แล้วเลยไม่รู้ มันสั้นลงหรือป่าว?

By: hisoft
Contributor Windows Phone Windows
on 19 April 2017 - 11:16 #980235 Reply to:980213
hisoft's picture

สรุปสั้นๆ ถ้าปรับถูกต้องไม่ต้องห่วงครับ

แบบยาว ผมแยกเรื่องนะครับ

เรื่องแรก เหมือนจ้องจอ TV ใกล้ๆ เกรงจะสายตาสั้นอีก การที่จ้องอะไรใกล้ๆ นานๆ แล้วส่งผลให้สายตาสั้นมันเกิดจากกล้ามเนื้อที่รั้งเลนส์ตามันเคยชินกับการทำตัวให้อยู่ในระยะนั้นนานๆ บ่อยๆ จนมันยืดค้างๆ อยู่ระยะนั้นครับ แต่พวกแว่น VR, AR นี้จะมีเลนส์นูนที่คำนวณระยะโฟกัสมาแล้วทำให้เราสามารถมองภาพใกล้ๆ ได้โดยที่เลนส์ตานั้นปรับระยะโฟกัสไกลๆ (ซึ่งผมเข้าใจว่าน่าจะเป็นระยะไกลกว่าระยะหน้าจอคอมพิวเตอร์ปกติด้วย แต่ผมยังไม่ได้ลองนะครับ) ดังนั้นอย่าไปคิดว่ามันใกล้ครับ ดวงตาเราทำงานเหมือนมันไกลนี่แหละแต่เราต้องปรับระยะโฟกัสให้เหมาะสมครับ

เรื่องสอง เหมือนจ้อง TV ในที่มืด อันนี้ผมเคยพูดถึงคร่าวๆ ไว้ ในนี้ ครับ เอามาเล่าในกรณีนี้อีกทีแล้วกัน
ดวงตาคนเรามีระบบปรับปริมาณแสงเข้าสู่ดวงตาหลักๆ อยู่สองตัวครับ ตัวแรกนึงคือความล้าของจอตาเรา เจอแสงสว่างสักพักมันจะล้ากว่าส่วนที่ไม่เจอแสงครับ แต่ตัวนี้ต้องใช้เวลาพักนึงกว่าจะมีผลทำให้ถ้าเรากลอกตาไปมา (ซึ่ง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่จะนิ่งสนิท) มันก็จะไม่มีผล อันนี้ส่งผลกระทบที่รู้จักกันดีสองอย่างครับ อย่างแรกคือการปรับ white balance ของเราเอง พอแสงมันเป็นสีนึงทั้งหมดตาเราก็จะล้าจนมองสีนั้นเป็นขาวไปเอง อีกอย่างคือคือการมองภาพ negative ที่ให้มองจุดนึงค้างไว้แล้วไปมองผนังขาวๆ ครับ เนื่องจากมันล้าแยกตามเซลล์สีด้วยดังนั้นส่วนที่เรามองเห็นเป็นสีแดงทีแรกนั้นเซลล์รับสีแดงมันล้าไปแล้วจนรับรายงานค่าออกมาน้อยลงส่วนเซลล์รับสีเขียวกับน้ำเงินรับแสงได้ปกติ พอไปมองพื้นขาวๆ ที่ทุกสีมีค่าเท่ากันนั้นเราเลยมองเห็นสีแดงน้อยลงไปกลายเป็นสีฟ้าแทน แต่อันนี้นี่ไม่น่ามีผลกระทบในกรณีนี้
ตัวปรับแสงที่เป็นตัวหลักอีกตัวคือม่านตาครับ เวลาที่แสงน้อยกล้ามเนื้อม่านตาจะหดทำให้รูม่านตาขยายและรับแสงได้มากขึ้น ซึ่งส่วนนี้จะปรับแสงแบบค่าเฉลี่ยของแสงที่เข้ากระทบจอตา (เรตินา) ถ้าเรามองไปข้างนอกกลางวันแสกๆ มันจะสว่างทั่วไปหมดรูม่านตาก็จะแคบ ถ้าเรามองไปในห้องมืดๆ รูม่านตาก็จะกว้าง แต่ถ้าเรามอง TV ในที่มืดๆ ล่ะ? รูม่านตาจะปรับครึ่งๆ กลางๆ ครับมองที่มืดไม่ค่อยเห็น แล้วก็มองเห็นภาพหน้าจอสว่างเกินไป
ซึ่งในกรณีของ VR นี้ ภาพมันครอบคลุมพื้นที่มากกว่า TV มากครับ น่าจะเกิน 80-90% ของเรตินาเลย ทำให้ส่วนมืดมีน้อยและกระทบกับการปรับรูม่านตาค่อนข้างน้อยครับ กระทบบ้างแต่ไม่มาก ซึ่งอันนี้ก็ขึ้นอยู่กับการปรับอีกเช่นกัน เราต้องปรับให้เลนส์ของแว่น VR อยู่ใกล้ลูกตาเราให้มากครับ ยิ่งใกล้มากภาพจะยิ่งครอบคลุมมุมกว้างขึ้น แต่ก็ต้องระวังไม่ให้มันใกล้จนส่งเชื้อโรคมาเข้าลูกตาเราได้เหมือนกัน (ซึ่งคงไม่มีใครปรับจนลูกตาโดนเลนส์นะครับ ฮาาา)

By: EngineerRiddick
iPhone Windows Phone Android Ubuntu
on 19 April 2017 - 12:02 #980243 Reply to:980235
EngineerRiddick's picture

โอ้ววววว ขอบคุณครับ

By: worawee.b
Contributor Android
on 19 April 2017 - 12:28 #980251 Reply to:980213

ตามที่คุณ hisoft ตอบไป อันนี้ ลงลึกเกิน ผมไม่มีความรู้เหมือนกันแฮะ

แต่ที่ตอบได้คือ ถ้าใส่นานๆ มึนแน่นอน เพราะตอนทำวิดีโอรีวิวนี่ เล่นซะเกือบขย้อนเลยครับ


ช่อง Youtube ของผมครับ รีวิวและชวนคุยนู่นนี่

By: Witna
Contributor iPhone Android Windows
on 19 April 2017 - 20:24 #980374 Reply to:980213

ตาไม่เป็นไร

แต่เมาครับ

มึนอ๊วกแตกอ๊วกแตนเลยทีเดียว

By: churos
Contributor Android Windows
on 19 April 2017 - 09:53 #980224

หน้าจอหลักแถวบนไม่ขึ้นเพราะยังไม่รองรับประเทศไทยครับ
ทางแก้คือไป Clear Data ของ Daydream และ Google VR Services แล้วเข้าไปใช้ใหม่โดยไม่ Login ครับจะเข้าไปดูได้ แต่ห้าม Install Application ผ่านทางนี้นะครับ ไม่งั้นจะเป็นเหมือนเดิม
ให้ดูผ่าน VR แต่จะลง App อะไรให้มาลงผ่าน Play Store นอก VR เหมือนเดิม

By: panurat2000
Contributor Symbian Ubuntu In Love
on 19 April 2017 - 10:23 #980229
panurat2000's picture

จยถึงบัดนี้ หกเดือนผ่านไป

จยถึง => จนถึง

เห็นบนเวบไซต์ยังขึ้นสถานะ

เวบไซต์ => เว็บไซต์

ที่ไฮโซประมาณนีง

นีง => นึง / หนึ่ง

ด้านขวามีปุ่มเพื่มลดเสียง

เพื่ม => เพิ่ม

อาจจะมีการอัพเดทตัว controller

อัพเดท => อัพเดต / อัปเดต

จะมีบอกว่าแต่ละปุ่มใช่ทำอะไร

ใช่ => ใช้

ในส่วนของเกมส์ ก็มีมากขึ้นเรื่อยๆ

หรือเกมส์รถแข่งอย่าง VR Karts:Sprint

เกมส์ => เกม

ที่คุ้มค้าต่อการลงทุนที่สุด

คุ้มค้า => คุ้มค่า

ถ้าเป็นโทรศัพท์ที่ไม่ใช้จอ QHD

ไม่ใช้ => ไม่ใช่

By: worawee.b
Contributor Android
on 19 April 2017 - 12:26 #980250 Reply to:980229