เป็นครั้งแรกที่ผมได้ใช้ ThinkPad EDGE Series อย่างจริงจัง ส่วนใหญ่จะจับๆ เล่นๆ ตาม Shop เสียมากกว่า แต่ครั้งนี้ผมได้นำมาใช้งานก่อนงานเปิดตัวในวันที่ 27 ตุลาคม 2553 ถึง 4 วันด้วยกัน
ท้าวความก่อนว่า Lenovo ได้เปิดตัว ThinkPad EDGE Series และ X100e (e ที่ผมคิดว่ามาจากคำว่า EDGE นั้นเอง) โดยเป็นการแยก Class ออกมาเป็น 2 ส่วนคือ EDGE Series และ Classic Series โดยที่ EDGE Series ออกมาเพื่อรองรับในกลุ่มตลาดธุรกิจที่เน้นความสดใส ออกแนววัยรุ่นมากกว่า Classic ที่หลายๆ คนมองว่าแก่และดูล้าสมัย (อันนี้ผมก็เฉยๆ นะ แต่ EDGE มันก็สวยไปอีกแบบ และไม่ได้มีแต่สีดำที่หลายๆ คนบอกเชย)
โดยใน ThinkPad EDGE 11” Type 0328-23U ตัวนี้แม้จะมีขนาดเล็ก เบา แต่ขุมพลังด้านในไม่ได้เล็กตาม และแน่นอนว่ามันไม่ใช่ Netbook แต่คือ Notebook ขนาดเล็ก
โดย EDGE Series นั้นออกแบบมาโดยที่ไม่ได้เอาทุกความสามารถของ Classic Series มาทั้งหมด เนื่องจากคิดใหม่ทำใหม่ EDGE เน้นสวยและดูทันสมัยมากกว่า ไม่ได้อนุรักษ์นิยมแบบรุ่นพี่ซึ่งแน่นอนว่ามันมีแตกต่างหลักๆ คือ…
- รูระบายน้ำด้านล่างคีย์บอร์ด
- บานพับไม่ใช่แบบเหล็กกล้า
- ไม่มีโครงเครื่องสุดแกร่งด้วยแมกนีเซียม Roll Cage
- ไม่มีไฟส่องคีย์บอร์ด
- ไม่มี Ultrabay
- คีย์บอร์ด Layout 7 แถว
- จอภาพแบบ Glossy
- การปิดจอภาพใช้แม่เหล็กแทน
- ไม่ใช่สีดำอย่างเดียว
ThinkPad EDGE 11” ตัวที่ผมนำมาทดสอบในวันนี้ เป็นรุ่นที่ใช้ CPU ของ Intel รุ่น Intel Core Processor i3-380UM (1.33GHz) ที่เป็นแบบ Dual Core + Hyper Threading ทำให้เวลาเราดูจำนวน Processsor ใน Task Manager จะเห็นแบบ 4 Processor ไปเลย จากการทดสอบนั้นสามารถเล่นไฟล์ภาพยนตร์ระดับ HD ได้สบายๆ
โดยเครื่องนี้ให้สเปคมาในระดับที่นำไปใช้ทำงานได้สบายๆ เหมาะสำหรับคนที่ทำงานและเดินทางบ่อยๆ สบายๆ มาพร้อมกับ RAM 2GB ซึ่งเป็นมาตรฐานของ Notebook ในปัจจุบัน แต่ผมแนะนำให้เพิ่มเป็น 4GB หรือมากกว่า แต่อาจจะต้องเปลี่ยนรุ่น Windows 7 เป็น 64bit เพื่อให้ใช้งาน RAM ได้ครบ 4GB หรือมากกว่า
ผมจะพาไปดูตัวเครื่องกันครับ
ตัวเครื่องนั้นเน้นความเงามันที่ฝาหลังเครื่อง แน่นอนว่าไม่ได้มีเพียงสีดำเท่านั้น ตัวที่ผมได้รับมานั้นเป็นสีแดงสดขอบสีเทาเงิน สวยงาม สาวๆ เห็นแล้วยังอยากได้เป็นทิวแถว
เมื่อเปิดฝาเครื่องมาก็พบกับพื้นที่ดำด้านตามแบบฉบับ ThinkPad Classic เช่นเดิม แต่เส้นขอบเครื่องยังคงความเป็นสีเทาเงินตลอดทั้งเครื่องเช่นเดิม โดยตัวปุ่มคีย์บอร์ดออกแบบมาเป็นแบบ ชิคเคล็ทคีย์บอร์ด (Chiclet Keyboard) แตกต่างจาก ThinkPad Classic ชัดเจน พร้อมจำนวนแถวของคีย์บอร์ดที่น้อยกว่าที่ 6 แถวแทน 7 แถวแบบในรุ่นพี่ๆ แต่เมื่อได้ทดสอบลองพิมพ์และใช้งานนั้นพบว่าการตอบสนองของการกดไม่แตกต่าง จาก ThinkPad Classic แม้ว่าตัวเครื่องจะเล็กแต่ตัวคีย์บอร์ดไม่ได้ถูกบีบและออกแบบให้เล็กตาม ยังคงระยะห่างและขนาดปุ่มที่ง่ายต่อการพิมพ์อยู่มาก โดยผมพิมพ์งานและทวีตข้อความอย่างรวดเร็วบน twitter และ facebook พบการพิมพ์ผิดน้อยมาก แม้จะไม่มีการสกรีนตัวภาษาไทยมาให้ แต่ผมก็ยังคงพิมพ์ภาษาไทยบนคีย์บอร์ดตัวนี้ได้อย่างสะดวกสบายและไม่ผิดบ่อย ครั้งนักครับ
แต่จุดที่อาจจะดูขัดๆ สำหรับผมคือการใช้งานปุ่ม Function Key F ต่างๆ ที่ต้องการ ต้องทำการกดปุ่ม fn ค้างไว้แล้วจึงกด Function Key F ได้ ตรงนี้สำหรับคนที่ใช้ปุ่ม Function Key F บ่อยๆ แบบผมนี่ไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่ เพราะผมใช้งานปุ่มพวกนี้บ่อยมาก
ตัวเครื่องหนักประมาณ 1.75 กิโลกรัมโดยประมาณ ถ้าร่วมสายชาร์จก็เกือบๆ 2 กิโลกรัม
แน่นอนว่าจอภาพแบบผิวมัน (Glossy) ด้านบนจอภาพมีกล้อง Webcam ความละเอียด 0.3Mbpx พร้อมไมค์ในตัว โดยที่จอภาพมีขนาด 11.6” มี Resolution ขนาด 1366×768 pixel แบบ LED Backlit และจากที่นำมาใช้ดูภาพยนตร์แล้วให้สีสันที่สดใสมากๆ ทีเดียว
จอภาพของ ThinkPad EDGE 11” ตัวนี้นั้นให้ ความกว้างของ Gamut RGB color space ที่อยู่ในมาตรฐานของ Notebook ทั่วไป เพราะฉะนั้นนำไปใช้งานได้หายห่วงและไม่ต้องกลัวว่าการแสดงผลของสีบนจอขนาด เล็กแบบนี้จะแสดงสีแพ้รุ่นใหญ่ โดยจอของ ThinkPad ทุกรุ่นปรกติจะติดสีอมฟ้าอยู่พอสมควร ถ้านำไปใช้งานด้านกราฟฟิกอาจจะต้อง Calibrate Monitor เสียก่อน
ตัวเครื่องมาพร้อมกับ UltraNav (TrackPoint + TouchPad) โดยที่ TouchPad มีขนาดความกว้างเทียบกับ Ratio ของจอภาพเลยทีเดียว และจะเห็นว่าไม่มีช่องเกียวยึดจอภาพแบบ ThinkPad Classic
ตัวบานพับนั้นมีความลื่นในการเปิดและปิดกว่า ThinkPad Classic อยู่พอสมควรเลย ทำให้ถ้านำไปใช้บนรถหรือสถานที่ที่มีการสั่นสะเทือนมากๆ อาจจะต้องจับจอภาพไว้สักหน่อยเพื่อไม่ให้จอภาพพับไปมา เดี่ยวบานพับจะหักเสียก่อน
- 3 USB (2 Standad, 1 Always On USB)
- 1 HDMI Port
- 1 External VGA Port
- 4-in-1 card reader (MS, MS Pro, MMC, SD)
- 1 Port 10/100/1000 Gigabit Fast Ethernet
ซึ่งตัวเครื่องนั้นถือว่าไม่ได้บางเท่าไหร่นัก หนาประมาณ 1.1 นิ้วเห็นจะได้ แต่ก็ทำให้จับถือได้สะดวกและเบาทีเดียว
ภายในมาพร้อมกับ …
CPU Intel Core i3 U380 1.33GHz และ VGA Intel Graphics Media Accelerator HD ซึ่งสามารถเล่น File ภาพยนตร์ HD 720p และ Full HD 1080p ได้สบายๆ
Battery มีให้เลือก 2 ขนาดคือ 4 cell และ 6 cell แต่เครื่องที่ผมได้มานั้น มาพร้อมกับขนาด 4 cell เมื่อผมนำไปใช้งานสามารถใช้ดูภาพยนตร์ DVD ได้ประมาณ 1 เรื่อง (หรือเปิดได้ประมาณ 2 ชั่วโมง) และใช้ทำงานทั่วไปที่ประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่งโดยประมาณ แต่ถ้าเป็นแบบ 6 cell ที่ขายกันน่าจะได้เยอะกว่านี้
RAM ขนาด 2GB RAM DDR3 และเหลือช่องสำหรับใส่เพิ่มอีก 1 ช่อง
- HDD ขนาด 320GB 5400rpm จาก WD
- WWAN Qualcomm Gobi 2000
- ช่องใส่ SIM
- Intel Centrino Wireless-N 1000 (802.11b/g/n)
- Bluetooth
โดยที่ WWAN Qualcomm Gobi 2000 เป็น WWAN Card ที่ได้รับความนิยมสูงมาก โดยรองรับเครือข่ายดังต่อไปนี้
- GSM/GPRS/EDGE (850, 900, 1800 & 1900MHz)
- HSPA/UMTS (800, 850, 900, 1900 & 2100MHz) Up to 7.2Mbps download, 5.76Mbps upload (HSPA/UMTS) and Up to 3.1Mbps download, 1.8Mbps upload (EV-DO)
- มี GPS และ AGPS ในตัว
การต่อ WWAN สามารถใช้ Utility ชื่อ ThinkVantage Access Connections ได้ทันที โดยผมทดสอบผ่านเครือข่าย DTAC ผ่าน EDGE/GPRS และ 3G พบว่าทำงานได้ดีและสะดวกสบายมาก
คะแนนที่ตัว Microsoft Windows 7 ให้กับเครื่องตัวนี้นั้นถือว่าไม่เลวเลยทีเดียว (เยอะกว่า Lenovo ThinkPad Z61t ผมอีก ;P)
กล่าวโดยสรุปแล้วนั้น
ข้อดีของเครื่องนี้แน่นอนคือขนาดที่เล็กน้ำหนักเบาเพราะไม่ต้องมี แมกนีเซียมให้หนักเครื่องโดยใช่เหตุ จอภาพขนาดเล็ก เน้นพกพาไปไหนมาไหนแบบสบายๆ โดยมุ่งเน้นเรื่องประสิทธิภาพในการทำงานระดับปานกลาง เหมาะกับคนที่ต้องการเพียงเทคโนโลยีเพียงบางส่วนของ ThinkPad Classic ในราคาค่าตัวที่ถูกกว่า ThinkPad X Series อยู่หมื่น-สองหมื่นบาท พร้อมกับความสามารถในการเชื่อมต่อ Internet ได้ทุกช่องทางในปัจจุบัน ถือว่าเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมมากทีเดียว
ฝากสำหรับ ThinkPad Fan รุ่นเก๋า แต่อยากได้ ThinkPad EDGE 11” ต้องบอกคุณอีกครั้งว่า
-
ถ้าคุณไม่แคร์ว่าจะมีรูระบายน้ำด้านล่างคีย์บอร์ดหรือไม่ เพราะปรกติก็ไม่ได้ทานน้ำหรือกาแฟแถวๆ เครื่องคอมพิวเตอร์
-
ไม่ค่อยสนใจว่าบานพับจะไม่ใช่แบบเหล็กกล้าที่ทนทานกว่า และบานพับของ ThinkPad EDGE ที่ออกแบบมาเพื่อผู้หญิงมากกว่าผู้ชายอย่างเราๆ ผมคิดว่าก็ดูจะเหมาะสมกับตัวเครื่องที่ทำออกมาให้ดูสวยใส
-
ไม่ได้เอาไปใช้งานสมบุสมบัน แบบเอาเครื่องมาโยนเล่น ก็คงไม่จำเป็นต้องมีโครงเครื่องสุดแกร่งด้วยแมกนีเซียม เหมาะกับใส่ในเป้หรือกระเป๋าเอกสารทั่วๆ ไปก็พอไหว (อย่างน้อยๆ ก็ใส่ softcase กันรอยสักหน่อยก็พอ)
-
คิดว่าส่องคีย์บอร์ดมันไม่ค่อยจำเป็นเท่าไหร่
-
CD/DVD Drive ไม่ได้มีความจำเป็นอะไร นั้นทำให้ Ultrabay หมดความหมายไปในทันที
-
เฉยๆกับคีย์บอร์ด Layout เดิมๆ และคิดว่า Layout 6 แถว ก็ทำงานได้ดีไม่แพ้รุ่นเก๋า แถม chiclet keyboards ก็ดูดีไปอีกแบบ
-
อยากได้จอภาพแบบ Glossy เกลียดขอเกียวจอแบบเดิมๆ
และสุดท้ายน่าจะเหมาะกับคนที่ไม่อยากได้สีดำ ผมเชื่อว่า ThinkPad EDGE 11” เป็นตัวเลือกที่ดีทีเดียวครับ
ขอบคุณ Lenovo Thailand สำหรับ ThinkPad EDGE 11” ที่นำมาให้เราทดสอบกันในครั้งนี้ครับ
บทความต้นฉบับ Review – Lenovo ThinkPad EDGE 11” [Full Story]
Comments
mflv = ทดสอบ ครับ
แก้ไขแล้วครับ
ปล. ตอนเขียนบททดสอบนี้ก็ตี 3 กว่าๆ T_T เบลอครับเบลอ -/-
รอดูราคาเปีดตัวอย่างเป็นทางการ :)
ของมีขายก่อนงานเปิดตัวเสียอีกครับ ราคาที่ทราบมาประมาณ 22,xxx บาทครับ (ยังไม่รวม vat)
ราคาใกล้ X200si เลยนิต่างกันน้อยกว่าหลักหมื่นอีก
ราคาต่ำสุดของ X201i ตัวล่างสุดประมาณ 28,9xx ก็ไม่ห่างกันมาก ประมาณ 6-7,000 บาท แต่ EDGE 11 ตัวนี้ผมไม่แน่ใจว่าจะมี CPU AMD เข้ามาไหม ถ้ามีราคาน่าจะถูกลงไปอีกครับ
โห ค่อนข้างแพงนะเนี่ย ดูรีวิวจาก engadget ตัว core i3 U380 549$ ตัว AMD ราคา 449$ เอง หรือตัวเข้าไทย เค้าปรับปรุงอะไรรึ? หรือมี Gobi มาให้ด้วย?
รุ่นขายในไทยมี Gobi มาให้ด้วยครับ ซึ่งไอ้ตัวนี้ตัวเดียวก็ 4-5 พันบาทแล้วครับผม
อยากให้มีรุ่น ที่ไม่มี Gobi บ้าง. จะเอามาเป็นเครื่องที่ 2 เพราะจะเอามาต่อเน็ทผ่านมือถืออยากจะแค่เช็คเฟสบุกกับทวีทนิดหน่อยเอง ที่เหลือก็ทำงาน อด T.T
เดี่ยวจะฝากบอกทาง Lenovo ให้ครับ แต่เค้าตั้งให้รุ่นเล็กนั้นเด่นในเรื่องการสื่อสารได้ทุกช่องทาง ราคามันเลยแรงขนาดนี้ -_-'
ผมเกือบซื้อไปแล้วนะเนี่ยตัวนี้
มีแรงผลักตรงไหนที่ตัดสินใจไม่ซื้อครับ
x200si ราคาใกล้เคียงกัน สเปกดีกว่ามากครับ
ถ้าราคาไม่เกินหมื่น5 โบนัสออกปีหน้าจะซื้อสักหน่อย
ใส่ซิมได้ด้วยเจ๋งเลยครับ ชอบ ใช้ 3G สบายดี
เคยเห็นสาย EDGE ที่เป็นสีดำ งามมาก
ผมชอบจริงๆ โน๊ตบุ๊คสันเหลี่ยมเนี่ย
สีแดงเหรอ
สเปคยังผิดอยู่นะครัฟ
Core i3 ไม่มีตัวไหนใช้ GMA X4500 แน่แน่เน้อ
ตรวจสอบข้อมูลแล้วเป็น Intel Graphics Media Accelerator HD ครับผม แก้ไขแล้วนะครับ ขอบคุณครับ
"จากที่นำมาใช้ดูภาพยนต์แล้วให้สีสันที่สดใสมากๆ ทีเดียว" ภาพยนตร์ครับ"โดยเครื่องนี้ให้เสปคมาในระดับที่นำไปใช้ทำงานได้สบายๆ" สเปคครับ
twitter.com/exfictz
แก้ไขแล้วครับผม ขอบคุณครับ
เป็นโน้ตบุ๊คที่ขี้เหร่มาก
สีสันแสบตาไม่เหมาะกับผู้ชายเส้นสายแข็งที่อไม่เหมาะกับผู้หญิง
ดีไซน์เนอร์ควรไปทำงานขับรถไฟฯ
แรว๊งงงงง!!!
สาย EDGE สีอื่นก็มีขายนะครับ ไม่ได้ขายสีเดียวแบบบางค่าย :)
ส่วนตัวผมว่าสีดำสวยดี
เสน่ห์
ผมชอบสีดำดั้งเดิมมากกว่า ส่วนสีแปร๋นๆ นี่อย่าไปแข่งกับซัมซุงเลยตราบใดที่ดีไซน์ยังทื่อๆ แบบนี้
แต่ผมว่าดีไซน์ตัวนี้คนที่ชอบก็น่าจะมีอยู่ไม่น้อยนะครับ ผมก็เป็นหนึ่งในนั้น
ลองบอกมาซิว่า notebook ตัวไหนที่ดีไซน์ถูกใจ
+1
ว้ายโอครับ ผมว่าดีไซน์สวยสูสีกับแมคบุ๊ค แต่ดีไซน์ก็ส่วนดีไซน์ครับ สเปคอีกเรื่อง
ความคุ้มค่านี้ผมไม่ค่อยพอใจเท่าไร เห็นมีแต่เพื่อนบ่นเกี่ยวกับปัญหาหลายๆอย่าง
โดยส่วนตัวผมไม่ชอบคีย์บอร์ดเลยครับ รู้สึกว่าพิมพ์ยาก แต่เรื่องดีไซน์ผมไม่เถียงเลย
ขี้เหร่มาแต่เดิม และความขี้เหร่นี้แหละที่เป็นของดีที่ทำให้ขายได้
ผิดกับสวยแต่เอาใจยาก ขี้ประชดประชัน น่าเบื่อ
สีแดง แรงเป็น 3 เท่า ถ้ามีเขาก็แหล่มไปเล้ย
** สงสัยได้เวลาปล่อยเทิร์นพี่ดำบึก R61 ของผมแล้ว
สีนี่แสบจริงๆ
ผมคิดว่านะจะเปลี่ยนชื่อเป็น ThinkPad'Lite
เพราะต่อจากนี้ถ้าได้ยินว่า ThinkPad คงต้องถามต่ออีกว่า... มี/ไม่มีอะไรบ้างจะบอกต่อใครๆ คงต้องบอกต่อด้วยว่าต้องดูรุ่นดีๆ
จากใจ ส่วนตัว.. ไม่ค่อยปลื้มเลยที่จะพาแบรนด์ ThinkPad ไปแนวนี้
ไม่ค่อยชอบ ThinkPad เพราะปุ่ม fn นี่แหละครับ
ใช้ของเพื่อนที่ไรกดผิดทุกทีครับ
ถ้าเป็นเจ้าของคงจะชินเองม้างครับ
ทำไมเขาเอาปุ่ม fn ไว้ด้านข้างสุดมีเหตุผลอะไรหรือป่าวครับถึงทำแตกต่างจากชาวบ้านเขา
ผมใช้ 2 เครื่องเวลาทำงาน เครื่องนึงเป็น Think Pad (IBM รุ่นเก่าเลย) สลับเครื่องไปมากดผิดบ้างกดถูกบ้าง T-T
ถ้าไม่ชอบใจ สลับได้ใน BIOS ครับถ้าจำไม่ผิด ปุ่ม F1-F12 ก็เช่นกัน
แรก ๆ ปุ่ม fn ยังอยู่ซ้ายสุดครับ
"สีแสงสด" เป็น "สีแดงสด" รึเปล่าครับ?
แก้ไขแล้วครับผม ขอบคุณครับ
ไม่มีอักษรไทยมาให้ตามเคย แบบนี้ใช้งานยากจัง ผมล่ะไม่ชอบเลย notebook ของ ibm
ที่รีวิวนี้เป็นของส่งมาให้เทสก่อนชิมิ ตัวขายจริงต้องมีอักษรไทย
รุ่นนี้เป็นรุ่นก่อนตัวขายจริง ตัวขายจริงๆ เห็นว่าไม่มี Windows OEM มาให้ด้วยและแบตไม่ใช่ 3 cell แบบที่ผมได้มา แต่เป็น 6 cell ตัวนี้เปิดฝามาใส่ sim ของ DTAC ยังมี sim เป็น AT&T ค้างอยู่เลย -_-" ผมคิดว่าน่าจะสกรีนภาษาไทยมาเหมือนรุ่นก่อนๆ เช่นกันครับ
น่าจะมีอักขระไทยบนแป้นพิมพ์ ล่ะครับ
ไม่อย่างนั้น ก็ไม่ควรจะเข้ามาขายให้กับคนไทยนะครับ ...
น่าจะให้เลือกว่าไม่เอา wwan ตัวนี้ได้แล้วราคาถูกลง
ผมซื้ออันนี้มา สเปคดีกว่านิดนึงครับ
Samsung R478
ราคาประมาณ 25,900 ไม่รวม Vat
ข้อติคือไม่มี Driver ของ XP มาให้ ต้องไปดาวน์โหลดเอง แถมยังไม่ Fully Functional ด้วยเช่นปุ่ม FN ต่างๆ ทำงานได้ไม่ครบเหมือนกับ Driver ที่ใช้บน Windows 7
ข้อดี ถูก แถมสเปคจัดว่าไม่เลว
"การต่อ WWAN สามารถ Utility ชื่อ" << "สามารถใช้" ครับ
แก้ไขแล้วครับ ขอบคุณครับผม
" จอขภาพ ขนาดเล็ก เน้นพกพาไปไหนมาไหนแบบสบายๆ"
อยากรู้ว่าแบตอยู่ได้นานเท่าไหร่ครับ
ตัวนี้ให้มา 3 cell อยูได้ประมาณ 2 ชั่วโมงครับ ถ้าเป็นตัวแบต 6 cell ผมกะๆ ไว้ประมาณ 4 ชั่วโมงครับ
ไปดูที่ร้าน soft world เซนทรัล-แจ้งวัฒนะมาเห็นโชว์ไว้ 2 ตัว งามทีเดียว keyboard ก็สกรีนไทยแล้ว แต่เห็นแค่สีดำ
พนักงานบอกว่าเอามาขายแต่ตัวไม่มี WWAN ราคา 22900 ครับไม่รู้มั่วรึเปล่า
ตัว 22,900 มันมี Gobi 2000 นะครับ
ผมเช็คกับร้าน Blue Shop ที่ Fortune มาได้มาตามนี้ครับ
Intel i3-380UM(1.33GHz)
RAM 2GB RAM DDR3
HDD 320GB 5400rpm
11.6in 1366x768px
Intel HD Graphics
Intel 802.11bgn wireless
WWAN, Bluetooth, 1Gb Ethernet, Camera
6c Li-Ion
มาพร้อม USB DVD-RW Lenovo / กระเป๋า ThinkPad / Mouse
สเปคตามนี้ ราคาตามนี้
น่าสนใจมากครับ ...น่าซื้อมาไว้หอบหิ้งทำงานและใช้แทนเครื่องดูหนังจริงๆ ครับ ...
^_^
แต่อยากได้แบตเตอรี่ที่ 4 เซล เบาลง ไม่มีหางยื่นออกมา น่ะ
น่าจะมีสีฟ้านะ
รุ่นนี้ดูดีจัง
อยากให้รีวิวเรืื่องอุณหภูมิเครื่องอะครับสนใจเครื่องเล็กๆ แต่กลัวร้อน
อยากได้ PC เล็กๆแรงๆ จับใส่ Ubuntuกลัวว่าลง Ubuntu แล้วจะยิ่งร้อนไปใหญ่้
ทำไมตรง "รูระบายน้ำด้านล่างคีย์บอร์ด ..." ถึงไม่ขึ้น bullet หว่า???
เข้าศูนย์ IBM หรือเปล่าครับ
ลายเซ็นยาวเกินไปครับ