สำนักข่าว Bloomberg รายงานว่าหน่วยงานของปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ได้กำหนดแผนงานว่าภายในปี 2020 จะเริ่มใช้ระบบให้คะแนนเชิงสังคมประชาชนเป็นรายบุคคล (Social Rating) กับคนในปักกิ่ง 22 ล้านคน โดยระบบดังกล่าวจะเพิ่มหรือลดคะแนนจากข้อมูลพฤติกรรมความประพฤติต่าง ๆ ซึ่งหากคะแนนดีก็จะได้สวัสดิการผลประโยชน์มากขึ้น ขณะที่คนที่คะแนนต่ำก็จะร้องขอสิ่งต่าง ๆ ยากขึ้น
หากแผนงานใช้งานคะแนนเชิงสังคมของปักกิ่งได้ผลลัพธ์ออกมาน่าพอใจ ก็จะมีการนำไปใช้ในเมืองอื่นของจีนต่อไป ซึ่งในการประเมินคะแนนนั้น จะใช้ข้อมูลจากหลายหน่วยงานมาประกอบกัน ซึ่งในจีนนั้นข้อมูลการใช้สื่อออนไลน์ก็ผูกกับบัตรประชาชนอยู่แล้ว อีกทั้งเทคโนโลยี จดจำใบหน้าในจีน ก็มีการใช้ที่แพร่หลาย
ก่อนหน้านี้เมืองหางโจวได้เริ่มใช้งานระบบคะแนนรายบุคคลไปแล้วตั้งแต่ต้นปี โดยบวกคะแนนให้สำหรับคนที่เข้าร่วมงานอาสาสมัคร หรือบริจาคโลหิต ขณะที่คนมีประวัติผิดกฎจราจรหรือทำความผิดก็จะถูกตัดคะแนน ส่งผลให้ไม่สามารถจองตั๋วเครื่องบินหรือรถไฟล่วงหน้าได้เป็นต้น
ที่มา: Bloomberg
Comments
นึกถึงตอนนึงของซีรี่ส์ Black mirror
คนที่คะแนนน้อยจะโดนคนที่คะแนนเยอะรังเกียจ
ระบบทาส และ ละเมิดสิทธิส่วนตัว
ระบบ คะแนนนี้เกลียดสุดแหละ
ทำ sibyl system ไปเลยครับ แหม่
อีกไม่นานมีฝัง RFID หรือ Microship ตั้งแต่เกิดเลยละมั้งเนี่ย ควบคุมแบบเข้มข้นเหมือนเด็กนักเรียนในโรงเรียนประถม หรือนักโทษในคุกยังไงอย่างนั้นเลย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ดีจัง
Psycho Pass...
"Those who make peaceful revolution impossible will make violent revolution inevitable." JFK.
แล้วก็จะมีผลต่อคะแนนของการเลือกตั้ง เดี๋ยวๆๆ
มันมีข้อเสียตรงไหนหรอครับ ทำไมเห็นมีแต่คนไม่ชอบ
มันสามารถถูกนำมาใช้งานเพื่อเล่นงานฝ่ายตรงข้ามรัฐบาลจีนได้ครับ โดยเฉพาะนักประท้วงเพื่อประชาธิปไตยในจีนก็โดนจับไปเยอะนะ หรือบางคนแค่ไปมีเรื่อง หรือไม่เห็นด้วย กับรัฐบาลก็ถูกมองเป็นเป้าหมายของรัฐบาลจีนได้ครับ
ถ้ามีระบบนี้ขึ้นมาใช้จริง ก็สามารถหาผู้ที่ไม่เห็นด้วยและฝ่ายตรงข้าม แล้วสร้างหลักฐานเท็จ + แก้ไขข้อมูลคะแนนให้อยู่ในระดับต่ำสุดให้ถูกรัฐบาลเพิ่งเล็งและสามารถอ้างเหตุผลในการจับกุมและสอบสวนอย่างไม่เป็นธรรมได้ครับ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมเห็นด้วยถ้าระบบคะแนนมันโปร่งใส เช่นคนทำผิดกฏหมายก็โดนลดไป ไม่งั้นก็ไม่รู้สึกถึงผลเสียของการแหกกฏ
แต่พอเป็นจีนทำ ก็อาจจะเดาได้ว่า เจอนักข่าวออกข่าวที่ 'ส่งผลเสียต่อความมั่นคง' ก็จับลดคะแนนซะ ทีนี้จะซื้อตั๋วเครื่องบินออกไปนอกประเทศก็ไม่ได้ หนีไม่ได้
คือระบบมันถึงขั้นตามดูทุกอย่างในชีวิตแล้วครับ เช่น ถ้าคุณไปซื้อเหล้ามากินที่บ้านมาก ๆ ระบบก็สามารถประเมินได้ว่าคุณเป็นพวกขี้เมา ไม่น่าเชื่อถือ แล้วปรับลดคะแนนลงไป
บทสัมภาษณ์จากคนที่ได้ทดสอบระบบมาแล้ว
ผมว่าน่ากลัวมากนะ ผลดีได้ไม่คุ้มเสียเลย แม้จะปลอดภัยจากอาชญากร แต่ทางรัฐบาลสามารถเล่นงานประชาชนได้ แม้แต่การนินทาก็โดนด้วย อย่างในลิงก์ นักสืบโดนปิดหูปิดตาอย่างแท้จริง แม้จะทำหน้าที่และทำเพื่อความถูกต้องก็ตาม แค่มี Social Score ต่ำ ทุกอย่างไร้ความหมายทันที
กลานเป็นเครื่องมือเล่นงานฝ่ายตรงข้ามดีๆ นี่เอง แต่คงอีกนานหรือไม่มีโอกาสเลยที่จะมีคนมาแก้ไขและเปลี่ยนแปลงจีนให้เป็นเหมือนอิสระและประชาธิปไตย ปลอดจากการถูกคุกคามจากรัฐบาล แม้แต่คนจีนเองก็ไม่รู้ถึงผลที่ตามมาหรือภัยใกล้ตัวด้วยซ้ำ มองเห็นแต่ด้านดีอย่างเดียว
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
คุ้นๆว่า ระบบนี้ คนที่มีคะเเนน ดีดี แล้วไป คบค้าสมาคมกับคนคะแนน แย่ๆ จะถูก ฉุดคะแนนลงด้วย...
มีหลักประกันหรือมีวิธีการอะไรรองรับมั้ยว่า คนที่คะแนนแย่ๆ จะมีโอกาสหรือสามารถกลับมามีคะแนนดีได้อย่างสมเหตุสมผล เกรงว่ามันจะกลายเป็นแบบระบบวรรณะในอินเดีย
ต่อไปมีระบบ ranking และการแบ่งกลุ่ม
มันไม่ง่ายเลยที่จะทำ GIF ให้มีขนาดน้อยกว่า 20kB
Citizen scoring
เป็นระบบที่มีด้านแย่กว่าด้านดีครับ ไปลองดูในซีรี่ส์ชื่อ Orville ได้