เปิดตัวกันไปแล้วกับเรือธงต้นปีของ Huawei กับ P30 และ P30 Pro ที่ยังคงความโดดเด่นเรื่องกล้องเอาไว้เช่นเคย ดีไซน์ภาพรวมไม่ต่างจากเดิมมากนัก ด้านหน้ากล้องติ่งหยดน้ำ ด้านหลังกล้อง Leica 3 ตัว พร้อมความสามารถซูมได้สูงสุด 50 เท่า และความสามารถกล้องก็ยังคงโหดเช่นเดิมด้วย DxOMark อันดับ 1 แซงงรุ่นพี่ P20 ทำเอาไว้ปีที่แล้วและยังไม่มีใครล้มแชมป์ได้
ในแง่สเปค Huawei P30 และ P30 Pro ต่างกันแค่หน้าจอ กล้องและแบตเตอรี่ โดยรุ่นเล็กมีหน้าจอ OLED ขนาด 6.1 นิ้ว รุ่น Pro 6.47 นิ้วความละเอียด FHD+ สัดส่วนจอ 19.5:9 ชิปเซ็ต Kirin 980 ขนาด 7nm แรม 6GB/8GB ความจุรุ่นเล็ก 64GB/128GB/256GB รุ่น Pro 128GB/256GB/512GB กันน้ำกันฝุ่น IP53 และ IP68 ตามลำดับ แบตเตอรี่รุ่นเล็กขนาด 3,650 mAh ชาร์จไวสูงสุด 22.5W ส่วน Pro 4,200 mAh ชาร์จไวสูงสุด 40W และชาร์จไร้สาย 15W รัน Android Pie ครอบด้วย EMUI 9.1
เรื่องกล้อง P30 กล้องหลักความละเอียด 40 ล้านพิกเซลเลนส์ไวด์, กล้องที่สองความละเอียด 16 ล้านเลนส๋อัลตร้าไวด์ และสุดท้ายเลนส์ซูมความละเอียด 8 ล้านพิกเซล รองรับการซูมออพติคัล 3 เท่า ซูมไฮบริดได้ 5 เท่าไม่เสียความละเอียด (lossless zoom) และซูมแบบดิจิทัลไกลสุด 30 เท่า กล้องหน้า 32 ล้านพิกเซลเลนส์ไวด์ เร่ง ISO ได้สูงสุด 204,800
กล้อง P30 Pro กล้องหลักเหมือนกันที่ 40 ล้านพิกเซลเลนส์ไวด์, กล้องที่สองความละเอียด 20 ล้านอัลตร้าไวด์และเลนส์ซูม 8 ล้านพิกเซล รองรับการซูมออพติคัลได้ 5 เท่า ซูมไฮบริดได้ 10 เท่าแบบไม่เสียความละเอียดและซูมดิจิทัลไกลสุด 50 เท่า เร่ง ISO ได้สูงสุด 409,600 มี OIS ให้ทั้งเลนส์หลักและเลนส์ซูม พร้อมเซ็นเซอร์วัดระยะ ToF โดย P30 Pro สามารถถ่ายวิดิโอจากกล้องหลักและกล้องซูมได้พร้อมกันด้วย
ด้วยความโหดของกล้องทำให้ P30 Pro ได้คะแนนจาก DxOMark ไปที่ 112 คะแนนรวม แบ่งเป็นภาพนิ่ง 119 และวิดิโอ 97 แซง P20 Pro แชมป์เก่าที่ทำไว้ตั้งแต่ปีที่แล้วที่ 109 คะแนน
Huawei P30 และ P30 Pro มี 5 สีคือ Amber Sunrise (สีส้ม), Breathing Crystal (สีฟ้า), Pearl White (สีขาวนวล), Aurora (เขียวอมฟ้า) และสีดำ ส่วนราคาก็มีดังนี้
- Huawei P30 (6GB/128GB) ราคา 799 ยูโร (ราว 28,500 บาท)
- Huawei P30 Pro (8GB/128GB) ราคา 999 ยูโร (ราว 35,700 บาท)
- Huawei P30 Pro (8GB/256GB) ราคา 1099 ยูโร (ราว 39,000 บาท)
- Huawei P30 Pro (8GB/512GB) ราคา 1249 ยูโร (ราว 44,600 บาท)
Comments
ไม่ได้อันดับ 1 ก็แปลกละจากที่ดูรีวิวคร่าว ๆ เลนส์ซูมเขาสุดจริง ISO สูงใช้ได้จริง
น่าสนใจว่า ทั้ง P30 Pro และ Mate 20 Pro กลับได้คะแนนวิดีโอน้อยกว่ารุ่นที่ออกก่อนหน้านี้ คือ P20 Pro อยู่ 1 คะแนน โอเคตัวเลขนี้อาจน้อยมากจนไม่มีนัยยะสำคัญ แต่อาจชี้ให้เห็นว่า กล้องมือถืออาจมาแทนที่กล้อง DSLR ได้ง่ายกว่าการมาแทนที่กล้องถ่ายหนัง
ไม่หรอกครับ อันที่จริงแล้ว ถ่ายรูปกับถ่ายวิดิโอมันยากจะไปให้ดีที่สุดทั้ง 2 ทางครับ
สาเหตุหลักเลยคือ กล้องวิดิโอมันประมวลผลหนักกว่ากล้องถ่ายรูปมาก ทำให้ถ้าคุณภาพรูปดีขึ้น การประมวลผลวิดิโอก็จะหนักขึ้นเช่นกัน และนั่นก็จะมีปัญหาอื่นๆตามมา เพราะงั้นในอุปกรณ์พกพาที่มีข้อจำกัดหลายอย่าง จะเน้นถ่ายรูปหรือถ่ายวิดิโอต้องเลือกอย่างใดอย่างหนึ่งครับ
ซึ่งในกรณีกล้องมือถือที่มีข้อจำกัดที่เซนเซอร์เล็ก ถ้าจะทำจริงๆมันมาแทนที่กล้องถ่ายหนังได้ง่ายกว่ากล้องถ่ายรูปอีกครับ แต่แนวโน้มตลาดมือถือตอนนี้เน้นไปพัฒนาที่การถ่ายรูปแทน
ปล. เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการที่ P20 Pro คะแนนวิดิโอสูงกว่าแต่อย่างใด
อยากทราบพอดีถ้าเน้นถ่ายวีดีโอมือถือตัวไหนเหมาะสุดครับ
iPhone
เห็น sony เค้าโฆษณาด้านนึัเยอะ แต่ไม่รู้ประสิทธิภาพเป็นไง
iPhone Samsung Sony ตามลำดับ
สำหรับผมนะ
ทำไมกล้อมมือถือเหมาะถ่ายวิดิโอแทนกล้องถ่ายวิดิโอมากกว่ากล้องถ่ายภาพครับ
The Last Wizard Of Century.
เพราะกล้องมือถือมีข้อจำกัดที่ขนาด ทำให้ไม่สามารถใส่เซนเซอร์ใหญ่อันเป็นปัจจัยสำคัญของคุณภาพรูปได้ครับ
ในทางกลับกัน ปัจจัยของคุณภาพวิดิโอนั้น ไม่ได้ขึ้นอยู่กับขนาดเซนเซอร์อย่างเดียว แต่ขึ้นกับความสามารถในการประมวลผลด้วย ซึ่งมือถือไม่มีปัญหาในการพัฒนาหน่วยประมวลผลและการระบายความร้อน อีกทั้งการที่เซนเซอร์เล็กและความละเอียดน้อยทำให้สามารถประมวลผลได้มีประสิทธิภาพดีกว่าอีกด้วย
สรุปก็คือ... การเพิ่มคุณภาพของวิดิโอในมือถือง่ายกว่าคุณภาพรูปครับ
จริงๆหลายคนที่ทำ VLOG นี่บางช่องใช้ DSLR นะครับ เพียงแต่ชุดเลนส์จะต่างจากช่างกล้องบางตัวครับ เช่น อย่างเวลาถ่ายวิดีโอด้วยเลนส์ Tele จะมีเลนส์ที่ใช้กันสองตัวหลักถ่ายรูป(ขอใช้เลนส์ค่าย Canon นะ) จะต่างที่มอเตอร์ที่หมุนชิ้นเลนส์ตอนโฟกัส
70-200 f/4 IS USM55-250 f4-5.6 IS STM
สองตัวนี้ถ่ายวิดีโอได้นะฮะ เพียงแต่ USM เนี่ยมันเสียงดังรวมถึงโฟกัสที่เร็วเกิ๊น เวลาทำวิดิโอมันเลยแบบภาพไม่ Smooth แต่เวลาถ่ายรูป 70-200 ดีกว่าฮะ เก็บสีได้ดีกว่า
ผมก็ยืนยันคำเดิม มันแทนกันไม่ได้แบบ 100% หรอกครับ ทุกวันนี้ผมใช้ทั้งคู่นะ มันก็แทนกันไม่ได้ ถามว่าเพราะอะไร
1. กล้องเปลี่ยนเลนส์ทั้งหลายไม่ว่า DSLR หรือ ML(Mirrorless) มันเป็นกล้องที่เรียกว่าคุณ Optimize lens ได้ อยากถ่าย Tele, Portrait ก็ถ่ายไป(เวลาไปถ่ายก็แบกเลนส์ไปเยอะๆ) แต่กล้องมือถือมันถูกบีบด้วยเลนส์ชุดที่ทำมา ลองไปดูสิฮะ หลังๆกล้องมือถือใส่เลนส์นี่ไม่ต่ำกว่าสองเพื่อแก้ปัญหานี้ กล้องมือถือมันดีมากสำหรับเคสที่เน้นเร็ว ถ่ายละขิงเพื่อนเลย
2. งานบางงานมันไม่เหมาะจริงๆ เช่น งาน Tele ยกตัวอย่างง่ายๆก็รูปนี้
向井地 美音 - AKB48 Team A(総監督)
รูปนี้ต้องใช้ระยะโฟกัส 191 mm นะครับ ขณะที่กล้อง P30 ระยะโฟกัสแค่ 125 mm นะครับ แถมความละเอียด 20 ล้านกับ 8 ล้าน ต่างกันเยอะนะ ที่กล้อง DSLR แย่ส่วนนึงเพราะ ML นะ อย่าง EOS R หรือ Sony นี่มาตี DSLR ตรงๆเลย โดนเต็มๆ ต้องดูงานด้วยนะ มันแทนกันไม่ได้หมดนะ แค่บาง Segment เอง
ปอลิง เรื่องถ่ายคลิป อยากจะบอกว่า Lens อย่างตระกูล L(บ้องขาว) ของ Canon ไม่ค่อยมีคนเอามาถ่ายคลิป เพราะเลนส์ตระกูล L เสียงดัง
จุดยืนของผมคือความห่างระหว่างกล้องมือถือกับกล้องถ่ายหนังมีมากกว่ากล้องมือถือกับกล้อง DSLR ครับ ซึ่งผมอาจจะผิดก็ได้ แต่การจะแย้งให้ผมผิด ต้องมีข้อมูลฝั่งกล้องถ่ายหนังมาเสนอด้วย การเน้นย้ำความห่างชั้นระหว่างกล้องมือถือกับกล้อง DSLR เพียงอย่างเดียวไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไร
มีกล้องถ่ายหนัง กับกล้องมือถือ แต่คลิปนานแล้ว ก็พอเทียบได้ อยู่นิดหนึง
มองผ่านๆ ไม่ค่อยเท่าไร แต่ถ้าดู Detail จะชัดเจน มือถือจำกัดที่ขนาด Sensor เป็นทาง Physical เลย อันนี้ใช้ software ก็ช่วยไม่ได้ ทำ blur หลังยังมีหลุด แต่เบลอดูแบนๆ ด้วย
เอางี้ครับ ปีที่แล้วเองนะครับ ของบางค่าย Click
อย่างที่บอกคำว่าเทียบผมคือ เทียบอะไรละ ถ้าทำขำๆ ก็ Approximate ว่ามันแทนได้ แต่บางงานมันจริงจังไงครับ อย่างเคสเราเนี่ยถ่ายรูป Tele เรื่องระยะต้องได้ อย่างถ่ายหนังเฟรมเรทก็มีผล ถ้าเกิดไปเบลอๆในโรงนี่คนบ่นแน่
ถ้ากล้องมือถือมันถ่ายรูปได้ละแทน DSLR พวก Canon นี่ออกมือถือละครับ ไม่ออก Mirrorlesss มาหรอก เอาที่ชัดสุดก็ Sony ไงฮะ ออกมันทั้ง Mirrorless และมือถือเลย สุดท้ายอย่างที่บอกว่าคุณจริงจังกับมันเบอร์ไหนอะมันจะเป็นคำตอบว่าแทนกันได้ขนาดไหน
sensor กล้องคนละเบอร์เลย DSLR กับมือถือเนี่ย
แบบ Mirrorless กับ DSLR ดั้งเดิมยังแทนที่กันได้มากกว่า จะมีแบบสายโหดๆ สถานการณ์สุดขั่วที่คงต้อง DSLR ดั้งเดิม
ติดอย่างเดียว ไม่ชอบ UI
oxygen2.me , panithi's blo g
Device: ThinkPad T480s, iPad Pro, iPhone 11 Pro Max, Pixel 6
แรกๆยังโอเค หลังๆจงใจเหมือนเกินไปหน่อย ทั้งไอคอนทั้ง ui ทั้งๆที่น่าจะทำเอกลักษณ์ของตัวเองได้แล้ว
ผมไม่ชอบ ui และการห้าม unlock เนี่ยแหละครับ
ดูคลิบที่ถ่ายดาว ทางช้างเผือก แล้วอายแทนกล้องโปรเลย
อาจจะเป็นภาพจากเอากล้องโปรถ่ายจริงๆ ก็ได้นะ
ค่ายนี้ยิ่งชอบทำอะไรแบบนี้อยู่บ่อยๆ ไม่รู้ว่าเค้าคิดอะไรอยู่
ถ้าจำไม่ผิดใช้วิธีเร่ง ISO เอาครับ เพราะมันดันได้ถึง 409600 นะฮะ
ตั้ง ISO แบบ manual ได้ถึงขนาดนั้นหรือยังอะครับ เห็นตัวเก่าถ้า manual มันตั้งได้ไม่ถึง 3200 หรือ 6400 นี่ละ ที่เหลือไม่รู้ใช้ ISO ของ AI หรือไงก็ไม่รู้
ดูคลิปใช้งานจริงดีกว่าครับ
ตัวโปร ชอบขนาดจอ แต่จะขอบโค้งทามม๊ายยยย
ใช่ครับ ผมนี่เซงเลย ถ้าขอบไม่โค้งนี่ให้เป็นที่ 1 ตอนนี้เลย
ได้แรมเยอะกว่าเซิร์ฟเวอร์เสมือนที่ซิสแอดมินส่งมอบให้ผมซะอีก และแพงกว่าโน้ตบุ้คที่ผมใช้ทำงานตัวหลักด้วย
เหอ เหอ
ไม่รู้ว่า sensor เท่า p20 pro หรือใหญ่กว่า
แต่อยากให้เจ้าอื่นอย่าง ss xiaomi ฯลฯ ใช้ sensor ใหญ่แบบค่ายนี้บ้าง ไม่ค่อยชอบค่ายนี้เป็นการส่วนตัว จากพฤติกรรมที่ผ่านมา
Digital zoom (ขยายภาพด้วย software) นี่เค้าเอามานับเป็นซูมจริงด้วยหรอครับ
สมัยก่อน กล้อง compact ก็ทำกันแบบนี้ โปรโมท Digital zoom จนเลิกทำไปหมดแล้ว ขายขนาด sensor กะคุณภาพภาพ บ้องเลนส์ดีกว่า
แต่สมัยนี้อาจจะต่างออกไปนะครับ โดยส่วนตัวผมไม่เกี่ยงว่ามันจะได้มาด้วยวิธีอะไร จะ native ไม่ native ถ้าปลายทางสามารถทำให้ได้รูปที่มีคุณภาพดีแค่นั้นผมก็พอใจแล้ว ที่พูดแบบนี้เพราะเริ่มเห็นมีการใช้ AI อะไรมาคำนวณแล้วชดเชยรายละเอียดซึ่งดูแล้วมันพัฒนาไปในทิศทางบวก ไม่เหมือนกับ Digital zoom สมัยก่อนที่เป็นการเอารูปมาขยายกันดื้อๆ เลย
เท่าที่ผมดูรูปตัวอย่างที่เค้ารีวิวมา คุณภาพก็ถือว่าโอเคดีขึ้นมากสำหรับ digital zoom แต่มันก็ยังไม่คมชัดอยู่ดีครับเห็นหลายคนชอบเอาไปเทียบกับกล้อง DSLR ผมว่ายังไงก็เทียบไม่ได้ การเอาซูมไกล(แบบ len*digital) เรื่องชัดตื้นชัดลึกก็ยังทำไม่ดีเท่าอยู่ดี (ใช้ software มี AI ณ ปัจจุบันก็ยังดูหลอกตาอยู่ดี) อีกเรื่องคือ การ crop ภาพและขยายภาพ มันไม่ได้ perspective เหมือนกล้อง DSLR ครับ เอาแค่กล้อง DSLR ด้วยกัน กล้องที่มีต้วคูณ กับกล้อง Fullframe คุณภาพที่ได้ออกมาก็ต่างกันเยอะมากแล้วครับ
มือถือบางรุ่นเริ่มมี Optical Zoom ละครับ แต่อย่างที่บอก Tele เป็นเลนส์ที่ความยาวยาวมาก(หนักมากด้วย) อย่าง 70-200 IS นี่เลนส์สิบกว่าชิ้นนะครับในกระบอกอันนึง มันเลยทำได้ดีกว่าครับ
เรื่อง DOF ตรงนี้ผมก็เห็นพัฒนาการเหมือนกันนะครับ ช่วงยุคกล้องตัวเดียวหรือสองตัวอาจจะยังดูไม่ค่อยเนียนเท่าไหร่ แต่พอเริ่มมีกล้องสามสี่ตัวนี่ผมว่ามันก็เนียนขึ้นเรื่อยๆ แล้ว
เสริมนิดหน่อย เรื่อง Perspective นี่หลายคนชอบเข้าใจผิดมันเกี่ยวกับระยะเลนส์ แต่จริงๆแล้วมันเกี่ยวกับระยะยืนครับ
หรือก็คือถ้าเอาเลนส์มุมกว้างมาครอปเทียบกับเลนส์เทเล ถ้ายืนห่างเท่ากัน Perspective ก็เหมือนกันครับ เพราะงั้นแล้ว Digital Zoom ในมือถือก็ได้ Perspective แบบเดียวกับเลนส์เทเลบนกล้องหากยืนห่างเท่ากันครับ
ในความเป็นจริง กล้องมือถือที่ใช้เลนส์ 3-4mm นั้น Perspective ก็ไม่ได้ต่างอะไรกับกล้องที่ใช้เลนส์ 28mm ครับ
ต่างกันนะครับ
เอาแค่กล้อง DSLR ตัวคูณ กับ full frame นี่เห็นเลยอย่าง x1.5 ถ่ายที่ 12mm จะเทียบเท่า full frame ใช้ 18mm องค์ประกอบรอบๆเก็บหมด ระยะแบบเท่ากัน แต่ฉากหลังจะเห็นว่ากล้องตัวคูณที่ฉากหบังระยะไกลเท่ากันกับ full frame จะเล็กกว่า ถ้าเทียบภาพจะรู้สึกเลยครับ
ยิ่งลองเอาไปถ่ายวิวกว้างๆจะเห็นชัดเลยว่ากล้องตัวคูณ(เอา 12mm มา crop นั่นแหละครับ) ภาพ perspective จะไม่สวยเท่า full frame
กรณีมุมกว้าง อาจจะมีความแตกต่างด้วยสาเหตุอื่นเช่น Distortion ครับ แต่ถ้าเรื่อง Perspective ยืนยันว่าระยะของเลนส์ (Focal length) ไม่มีผลทั้งนั้นครับ ขึ้นอยู่กับระยะห่างล้วนๆครับ
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ตากล้องหลายคนมักจะเข้าใจผิดกัน (ผมเองก็เคยเข้าใจผิด) เพราะเวลาเราเปลี่ยนไปใช้เลนส์เทเล เราจะมักจะถอยออกมาถ่ายไกลกว่าปกติอยู่แล้ว ก็เลยเข้าใจผิดว่าที่ Perspective มันเปลี่ยนเพราะระยะเลนส์ แต่จริงๆคือระยะยืนต่างหาก ผมเคยทดสอบไว้ที่ https://pantip.com/topic/36387899 ครับ
ปัจจุบันผมก็ใช้ทั้ง M4/3 และ FF ก็ยืนยันครับว่าไม่ต่างกัน
ไม่ชอบขอบโค้ง ไม่ชอบราคา...จบข่าว!อ้อ แต่เอาจริงๆ โดยรวมมันก็สวยอ่ะนะ
กล้องมือถือจะมาแทนdslrรุ่นเก่าได้แน่นอนครับ
แต่dslrก็ต้องหนีไปเรื่อยๆสิครับ ราคาต่างกันนะ แล้วเลนส์ซูมนะต้องเพิ่มเงินอีกเยอะ ถึงจะบอกว่าเก็บเลนส์ไว้ใช้ได้ แต่เลนส์ใหม่ๆก็ทำมาขายตลอดเวลา
แค่ต้องคิดว่าจะซื้อdslrใหม่ทุกสามสี่ปีรึเปล่า ถ้าความต้องการขนาดนั้นแล้วเงินถึงก็ว่ากันไป ไม่ผิดไม่ผิด
ถ้าความนิยมมือถือยังเป็นอย่างนี้ อีกไม่เกินสามสี่ปีข้างหน้า มือถือรุ่นท็อปจะมีกล้องคุณภาพใกล้เคียงdslrรุ่นท็อปทุกวันนี้
กล้องcompactยิ่งไม่ต้องพูดถึง ผมซื้อcannonรุ่นท็อปเมื่อสามสี่ปีก่อน gอะไรจำไม่ได้ ตอนนี้โดยรวมสู้โทรศัพท์จีนราคาสี่ห้าพันตอนนี้ไม่ได้เลย ยกเว้นซูม
ญาติกันซื้อFuji x-t10 ใช้ได้ไม่ถึงสองปีเก็บแล้ว iPhone Xสะดวกกว่าเยอะ