ขนส่งมวลชนสิงคโปร์เปิดรับบัตรวีซ่าวันที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านตามแผนการที่ ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ ทำให้บัตรแบบไร้สัมผัส (contactless) ส่วนใหญ่สามารถใช้งานได้แล้ว รวมถึงบัตรที่ออกจากธนาคารไทยด้วย
สำหรับบัตรในไทยหลายธนาคารก็ใช้งานได้แล้ว โดยเฉพาะบัตร Krungthai Travel Card ก็ใช้งานได้เช่นกัน ( หาก KTC ไม่ล่มไปอีก ) โดยไม่ต้องลงทะเบียนใดๆ
เว็บ SimplyGo ระบุว่าหากต้องการดูประวัติการใช้งานก็สามารถลงทะเบียนได้ ผมทดสอบลงทะเบียนพบว่าไม่สามารถลงทะเบียนด้วยหมายเลขโทรศัพท์ไทยได้เพราะล็อกความยาวไว้ที่ 8 หลัก
ป้ายประชาสัมพันธ์ SimplyGo ที่สนามบินยังคงระบุว่ารองรับเฉพาะบัตร Mastercard แต่ถ้าใครไปสิงคโปร์ช่วงนี้ก็ให้รู้กันว่าใช้บัตร Visa ได้แล้ว
Comments
มาเร็วมาก ตามแผนเป๊ะๆเลย
ต้องพยายามให้ธนาคารในไทยเข็นบัตรเดบิต/เครดิต Paywave ออกมากันเยอะ ๆ ตอนนี้เห็นที่ให้มาเป็นค่าพื้นฐานในบัตรเดบิตมีอยู่ 3 ธนาคารเอง กสิกรไทย กรุงไทย กรุงเทพ อีกอย่างก็น่าจะลดค่าธรรมเนียมบัตรเดบิตลงหน่อยเหลือซักปีละ 100 บาท ตัวต่ำสุดเหมือนจะปีละ 250 บาท… เอาดอกเบี้ยมาโป๊ะต้องมีเงินในบัญชีเท่าไหร่ละนั้นเห็นรัฐมีบัตรเดบิตประชารัฐไม่เก็บค่าธรรมเนียมรายปีแล้วช้ำใจมาก เพราะเรามองว่าบัตรเดบิตมันควรเป็นอะไรที่พื้นฐานทุกคนควรมีเพื่อรองรับกับสังคมไร้เงินสดในอนาคต
บัตรเติมเงินที่กรุงไทยทำกับขสมก. เป็น PromptCard Contactless อยู่แล้วครับ (ข้างในน่าจะ EMV Contactless API เหมือนกัน) ตัวบัตรแทบจะฟรี ช่วงแรกแถมเงินนิดหน่อยด้วย
บัตรไม่ใช่ปัญหาครับ ปัญหาคือการ "กำกับดูแล" พวกนี้หน่วยงานกำกับดูแลต้องลงไปดูว่าจะบังคับให้เขารับหรือไม่รับอะไร ถ้าสัญญาไม่ระบุไว้ต้องลงไปเจรจา (ยืดอายุ, ลดค่าธรรมเนียม, ให้สิทธิ์ขึ้นค่าโดยสาร ฯลฯ)
กทม. ผู้กำกับดูแลของ BTS เพิ่งต่อสัญญา BTS ไปเมื่อปี 2012 ในสมัยคุณสุขุมพันธ์ พรรคประชาธิปัตย์ โดยไม่เพิ่มเงื่อนไข ตัว BTS ก็ไม่มีพันธะอะไรต้องรองรับบัตรอื่น
lewcpe.com , @wasonliw
ตก TMB นะครับ TMB ออกเป็นธนาคารแรกเลยเมื่อต้นๆ ปีที่แล้วครับ
ต่างจังหวัดยังต้องใช้เงินสดอยู่ เช่น รถเมล์ ไม่ได้ใช้
ร้าน Tesco Lotus Express ใช้ Contactless ไม่เป็น เสียบอย่างเดียว จบกัน PayWave บัตรเดบิต มีแต่ร้านใช้ไม่เป็น
ส่วนเรื่องค่าธรรมเนียม ยังไงก็ต้องมีเรื่อง ต้นทุน+กำไร อยู่แล้ว
รถไฟฟ้าบ้านเขา แพงหรือถูกกว่าไทยอ่ะครับ เห็นผช. คมนาคมบอกไทยไม่แพง
ถูกกว่าไทยเยอะเลยครับ แต่หลังๆ ผมไปสิงคโปร์เลือกจะนั่งรถเมล์นะ มันไม่ต้องเดินไกลด้วย เปิด google map ไปได้ทุกที่เลยแถมถูกกว่ารถไฟฟ้าอีก
นั่งจากสนามบินไปเกือบสุดสาย ใช้เวลานั่งบนรถไฟเกือบหนึ่งชม.ค่ารถไฟราวๆสองเหรียญอะครับ ก็ราวๆห้าสิบบาทไทย
ประมาณ 40-50 บาทแต่รายได้บ้านเค้า แค่เงินเดือนพนักงานทำความสะอาดก็เดือนละประมาณ 25,000 บาทแล้ว...
ของไทยเรา รมต.บอกว่า ราคานี้ ถูกต้อง เหมาะสม และยุติธรรม ดีแล้ว
ตรงไหนวะ ถถถถถถถถถถ
ดีเลยครับ หวังว่าจะให้ในไทยเอาไปทำบ้างจริงๆ
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
แน่นอนว่าแอพตระกูล Pay ทั้งหลายก็ใช้งานได้เหมือนกัน
แต่ของผมลงทะเบียน SimplyGo ได้นะ
ดูประเทศเค้าแล้วดูประเทศเราจะไม่ให้สิ้นหวังได้อย่าางไร 5 ปี แลล้วก็ยังเหมือนเดิมได้ตู้ที่ใช้การไม่ได้มา 1 ตู้
ฝันถึง transit ยาก ยังมองไม่เห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงเลยครับ
อีกอย่างร้านค้าในไทยก็ยังไม่ค่อยรองรับ Contactless เท่าไหร่ เท่าที่เห็นหลักๆเลยก็ McDonalds, ห้างเครือเดอะมอลล์ ที่ใช้ได้ บางร้านมีเครื่องรองรับเช่น Starbucks, KingPower แต่ Software ของเครื่องไม่อัพเดตให้ใช้ Contactless ได้ก็เปล่าประโยชน์
บัตรที่เป็น contactless ก็มีแต่พวกบัตรเครดิตใช่ไหมครับ บัตรเครดิตคนไทยก็ไม่ค่อยใช้กันเท่าไหร่ หรือจะไปพวก QR code โอนเงินผ่านธนาคาร เดี๋ยวนี้คนก็เริ่มกลัวรัฐจะตรวจสอบการโอนเพื่อเก็บภาษีกัน
เรื่องบัตรเครดิตไม่รู้คนกลัวมากไปเองหรือเปล่า
คนรุ่นเก่าๆ ขี้กลัวก็ปล่อยไปครับ คนรุ่นใหม่ๆ ยอมรับบัตรเครดิตขึ้นเยอะนะ ผมมีบัตรเครดิตใช้มาเป็นสิบปีแล้ว ชีวิตดีจริงๆ เวลาใช้บริการยุคใหม่ๆ อะไรทั้งหลายมีไรผมตัดบัตรอย่างเดียว grab agoda จองตั๋วอะไรงี้สะดวกมาก แถมได้แต้มมาเต็มๆ ด้วย ใช้แลกอะไรไปก็ตั้งเยอะแล้ว ถ้าเทียบกับจ่ายเงินสดที่เราไม่ได้อะไรกลับมาเลย จนผมนึกไม่ออกว่ากลัวอะไรบัตรเครดิตกัน ถ้ามีวินัยในการใช้จ่ายก็ไม่ต้องกลัวดอกเบี้ย (มีแต่เราที่จะได้ประโยชน์) แถมตรวจสอบประวัติการใช้จ่ายง่ายด้วย ส่วนเรื่องโดน fraud นั้นมองว่าเป็นเรื่องปกติของบัตรเครดิต เท่าที่ใช้มาสิบปี ผมโดนเองมาสามรอบแล้วแบงค์ก็เคลียร์ให้ไม่ต้องกลัวอะไร เปลี่ยนบัตรใหม่ก็แค่นั้น
จริงๆ เรื่องภาษีผมก็ว่าเป็นปัญหาเหมือนกันนะ รัฐปล่อยให้หลายคนอยู่นอกระบบภาษีมานาน พอจะเริ่มเก็บจริงจังคนที่เค้าอยู่นอกระบบมานาน จะให้เข้าระบบต้นทุนก็เพิ่มแล้วมันจะไม่คุ้มทุน ระบบภาษีก็ยังไม่ค่อยยืดหยุ่นเท่าไหร่ แต่ครั้นจะแข็งไม่ยอมยืดหยุ่นตรงนี้ ผมว่าผู้ค้ารายเล็กตายหมดเลยนะ มองว่าควรจะชำระล้างระบบภาษีใหม่ (แบบค่อยเป็นค่อยไป) ใหม่ได้แล้ว โดยอยู่ในหลักว่าทุกคนต้องเข้าระบบ แต่จะเสียมากเสียน้อยก็ต้องมาร่างระบบใหม่ให้มันทันสมัยและยืดหยุ่นรองรับความหลากหลายกว่าเดิม ให้จ่ายอย่างแฟร์ๆ ผู้ค้ารายย่อยไม่เจ็บตัว ผู้ค้าในระบบเดิมที่เสียภาษีก็ไม่เสียเปรียบ แต่ไม่ใช่ว่าอยู่ดีๆ คิดจะเก็บภาษีจากพวกนอกระบบ แล้วก็เอากฎหมายเดิมๆ เก่าๆ ไปครอบเค้าเนี่ย เจ๊งกันพอดี
ขอร่วมไม่เข้าใจด้วยคนครับ ผมเองก็ใช้บัตรเครดิตมาเป็นสิบปีเหมือนกัน แต่เพิ่งเริ่มใช้จริงจัง แบบใช้จริงๆเลยก็เพิ่มซักปีสองปีนี่เอง ทุกวันนี้ 5 บาท 10 บาท ก็ใช้ตลอด ตรวจสอบย้อนหลังการใช้งานได้ทันที หรือตรวจสอบย้อนหลังได้ทั้งจาก app และสลิปที่เราใช้ที่
เรื่องดอกเบี้ย และหนี้บัตร มันขึ้นกับระเบียบการใช้เงินของแต่ละคนเองนั้นแหละ
ส่วนเรื่อง Contactless เห็นว่าบัตรเดบิตก็เริ่มมีแล้วนะครับ เห็นมีกสิกรที่โปรโมทอยู่นะ
หลังๆ มีใช้บ้างครับ โดยเฉพาะเวลาไปเที่ยวไกลๆ ไม่อยากพกเงินสดไปเป็นปึกใหญ่ๆ ก็จะใช้บัตรเครดิต พอเสร็จก็กลับมาจ่ายแบงค์ตัดบัตรทันที มันก็รู้สึกไม่มีอะไรครับ หรือไม่บางทีซื้อของราคาสูงๆ ก็รูดบัตรเอา พกเงินสดไปเป็นปึกใหญ่ๆ ก็ไม่สะดวก บางคนบอกว่ามันจะรูดเพลิน แต่ปกติก็ใช้ซื้อของตามปกติอยู่แล้ว
บางทีก็รู้สึกว่าคนเราระแวงกันไปเอง อาจจะเพราะมีข่าวด้านลบมาเป็นระยะแล้วพอเป็นเรื่องเงินคนก็จำฝังใจด้วยมั้งครับ
ไปช่วยกันพัฒนาประเทศอื่นกันครับ ไม่รู้ติดอะไรนักหนา ช่วยเท่าไหร่ก็ไปไม่ถึง
ตะเตือนไต T__T