แอปเปิลเปิดตัว iPad Pro รุ่นใหม่แบบเงียบ ๆ การเปลี่ยนแปลงที่สำคัญคือมาพร้อมเซ็นเซอร์ LiDAR (Light Detection and Ranging) แบบเดียวกับที่ใช้ในรถยนต์ไร้คนขับสำหรับระยะห่างระหว่างเซ็นเซอร์และวัตถุ เพื่อนำมาเสริมประสิทธิภาพของ AR ร่วมกับกล้องและเซ็นเซอร์ตรวจจับการเคลื่อนไหว
ตัวอย่างการใช้งาน LiDAR กับแอป Measure คือสามารถวัดส่วนสูงคนได้รวดเร็ว โดยนักพัฒนาสามารถเข้าถึงเซ็นเซอร์นี้ได้ด้วย Scene Geometry API บน ARKit
การอัพเกรดอื่น ๆ ก็มีชิปเซ็ตที่เป็น A12Z Bionic มีซีพียู 8 แกนรองรับ Neural Engine และจีพียูอีก 8 แกน หน้าจอ Liquid Retina 120Hz มีสองขนาดเหมือนเดิมคือ 11 นิ้วและ 12.9 นิ้ว พร้อมไมโครโฟน 5 ตัวที่แอปเปิลบอกว่าคุณภาพระดับสตูดิโอและลำโพงอีก 4 ตัว ส่วนกล้องหลัง 2 ตัวเป็นกล้องเลนส์ไวด์ 12 ล้านพิกเซลและอัลตร้าไวด์ 10 ล้านพิกเซล
iPad Pro ใหม่มาพร้อม iPadOS 13.4 ที่รองรับ Trackpad ในตัวแล้ว นอกจากนี้ยังมีอุปกรณ์เสริมใหม่อย่าง Magic Keyboard รุ่นใหม่ที่มี Trackpad ในตัว รองรับการเชื่อมต่อด้วยแม่เหล็กกับ iPad Pro เป็นคีย์บอร์ดแบบฟูลไซส์พร้อมไฟ backlit ใช้กลไก scissor ที่มีระยะการกดที่ 1มม. ปรับมุมได้สูงสุด 130 องศา พร้อมพอร์ท USB-C สำหรับชาร์จไฟ ส่วน Apple Pencil ยังไม่มีรุ่นใหม่ออกมา
ราคาของ iPad Pro ขนาด 11 นิ้ว เริ่ม 27,900 บาทสำหรับรุ่น Wi-FI และ 32,900 บาทสำหรับรุ่นเซลลูลาร์ ส่วน 12.9 นิ้วเริ่มที่ 34,900 บาทสำหรับ Wi-Fi และ 39,900 บาทสำหรับเซลลูลาร์ ความจุเริ่มต้น 128GB ส่วนราคา Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้วอยู่ที่ 299 เหรียญ (ราว 9,300 บาท) และ 12.5 นิ้วอยู่ที่ 349 เหรียญ (ราว 11,000 บาท) ขณะที่วันพรีออเดอร์และจำหน่ายในไทยก็ยังไม่ระบุ
ที่มา - แอปเปิล
Comments
ดูคลิปก็หวั่นใจราคา Keyboard แล้ว พอเปิดเข้าไปดูราคาในเว็บ Apple ก็ อื้อหือ ราคาเกือบได้ iPad อีกเครื่อง แต่ยังดีใช้กับรุ่นเก่าได้
เซ็นเซอร์ LiDAR นี้มันเล็กขนาดยัดใส่ใน tablet ได้เลยหรอครับ
หน้าจอก็ทัชสกรีน เราจะมีทัชแพดเพื่ออะไรครับ...
เพื่อความเฟี้ยว
เพื่อขยับนิ้วโป้งเป็นจบ ไม่ต้องยกมือออกจากคีย์บอร์ดไปจิ้มจอแล้วกลับมาวางบนคีย์บอร์ดใหม่
ถ้าใช้กับพวก Remote Desktop หรือ VDI ได้เนียนๆ ก็น่าสนอยู่นะ
หน้าจอสูงขนาดนั้นยกมือไปกดไม่สนุกนะครับ จริงๆ มันไม่สนุกตั้งแต่ยกมือไปกดครึ่งบนของจอแล้วครับ
งานที่ใช้นิ้วแตะได้ดีกว่าก็มี ผมใช้ Surface ผมก็ทั้งทัชแพดทั้งแตะจอครับ
ผมว่า ใช้ทัชสกรีนมันเมื่อยมืออ่ะครับ โดยเฉพาะตอนพิมพ์
ว่ากันตามตรงนะครับ ตอนนี้สำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ใช้งานโน๊ตบุ๊คแค่เช็คเมล ทำงานเอกสาร รายงาน เปิดเว็บแอพ เล่นเกมนิดหน่อย ซึ่งด้านเอกสารตอนนี้ iPad ยังค่อนข้างยาก กว่าจะ Touch ลากแถบดำ จัดเอกสารโน่นนี่นั่น คือถ้าจะ Replace โน๊ตบุ๊คสำหรับผู้ใช้งานทั่วไป ยังไงก็ต้องทำให้รองรับการทำเอกสารให้ง่ายขึ้น ก็ต้องการ Trackpad หรือเม้าส์ นี่แหละครับ ซึ่งเราเห็นเทรนค่อยๆ ขยับไปละ ซึ่งถ้าทำให้สามารถใช้งานได้ง่าย ทำเอกสารรายงานได้สะดวก เล่นเกมได้ คนทั่วๆไปทำไมต้องซื้อโน้ตบุ๊ค
ทฤษฎ๊ control system ใน engineering
1st-order control คือ เอาส่วนของร่างกาย ออกแรงโดยตรงกับเครื่องจักร เช่น โม่แป้ง เข็นรถใส่ปูน ไม้พายเรือ นิ้วจิ้มหน้าจอ ฯลฯ เป็นต้น
อัตราการออกแรง:ระยะขจัดที่เคลือนที่ = 1:1
2nd-order control คือ เอาส่วนของร่างกาย ออกแรงโดยตรง แต่ผ่านอุปกรณ์ "ทดแรง" เช่น ถีบจักรยาน มีเฟืองใหญ่ไปหมุนเฟืองเล็ก (ถ่ายแรงผ่านโซ่) ที่ล้อหลัง พวงมาลัยรถสมัยโบราณ (ผ่านเฟืองทด) เป็นต้น
อัตราการออกแรง:ระยะขจัดที่เคลือนที่ = 1:N (มีการทดแรงแบบเส้นตรง)
2nd-order control คือ ส่วนของร่างกายไม่ได้ผ่านแรงโดยตรงเพื่อไปการควบคุม แต่ผ่านระบบขั้นกลาง ที่สามารถ "ทดแรง" "ทดระยะขจัด" เช่น พวงมาลัยเพาเวอร์ fly-by-wire ในเครื่องบิน เมาส์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
อัตราการออกแรง:ระยะขจัดที่เคลือนที่ = 1:M:N (มีการทดแรงแบบไม่ใช่เส้นตรง)
trackpad สามารถตั้งค่าความเร็วในการเคลือนได้ และหากใช้ร่วมกับปุ่มอื่น สามารถปรับอัตราทดมากน้อยได้ทันทีทันใด ช่วยให้ทำงานได้รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ แม่นยำ ในงานบางประเภท สามารถสร้าง short-cuts ผ่านการใช้ trackpad ได้
ข้อด้อยของการใช้ นิ้วจิ้มลงไปบนจอ ( UI แบบ direct manipulation ) คือ ต้องเสียเวลา ทุกครั้งในการเลื่อนมือจาก home position (วางที่แป้นพิมพ์) ไปยัง screen position (หน้าจอที่ต้องการ)
รวมถึงการออกแรงเคลื่อนแขนทั้งแขน ยกมือให้ไปถึงหน้าจอ เพื่อให้นิ้วจิ้มได้ เทียบกับเพียงแค่ขยับขัอมือ และลากนื้วไปบน trackpad สะดวกกว่ามาก "ทั้งลดและป้องกันความเมื่อย"
บทความ usability study
ขอบคุณที่แปลให้นะครับ อ่านแล้วพวก wacom ที่เป็นจอคงต้องออกทัชแพดเสริมแล้วล่ะครับ 5555
แล้วพวกวินโดว์เอามาเทียบไม่ได้นะครับ เพราะเขาไม่พัฒนาเป็นทัชทั้งหมดตั้งแต่แรก
Wacom มี remote สำหรับช๊อตคัตขาย (พร้อมล้อหมุน) ครับ แล้วคอมที่ใช้ wacom ปรกติก็ต่อเมาส์+คีย์บอร์ดปรกตินะ
ที่สำคัญคือหลาย ๆ คนปิด touch screen ด้วยครับ ใช้แต่ปากกาอย่างเดียว
wacom เวลาวาดต้องปิด touch screen ครับ ไม่งั้นจะป่วนมาก
เลือกไม่ถูกเลยจะเอา MacBook Air ก่อนดี หรือ iPad ก่อนดี ยังไม่เคยมีใช้สักตัว
ก็ถ้าง่ายๆก็เรามีแท็บเล็ตหรือโน็ตบุ้คอยู่ ถ้ามีโน็ตบุ้คก็ซื้อ ipad จะได้ความรู้สึกใหม่ๆ
มีโน้ตบุคอยู่ครับแต่เป็น windows จอ TN แบบความละเอียดต่ำ สว่างน้อย
อันนี้ความเห็นของผมตอนจะซื้อนะครับ ก่อนอื่นต้องตอบตัวเองก่อน เอามาเน้นทำงานหรือเปล่า ถ้าทำงานเป็นหลัก ผมว่า MacBook Air ก็ดีนะครับ
แต่ตอนผมเริ่มเข้ารีด Apple เรื่องเงินมันบังคับ เพิ่งเรียนจบ รายได้ไม่เยอะ ก็จัด Notebook ทั่วไปก่อน เอามาทำงาน ทำงานสักพักก็เริ่มที่ iPhone ต่อด้วย iPad ไว้อ่าน journal ต่าง ๆ ถึงจุดนึงเงินไม่ใช่ปัญหาก็จัด MBP ครับ ไม่เคยคิดกลับไป Notebook ยี่ห้ออื่นอีกเลย เจ็บแต่จบครับ
ไม่ได้ใช้ทำงานทั้งคู่ครับที่ทำงานใช้ Windows PC ที่บ้านก็มี Windows Laptop แล้วอารมณ์อยากได้เฉยๆ อ่ะครับ หลักๆ เลยก็ใช้แค่เปิดเว็บ ตอบเมล์ ท่อง Social Network ทั้งหลาย ไฮไลท์เลยก็ YouTube กับ Netflix 2 อย่างหลังนี่หนักมากๆ ไม่ต่ำกว่า 4 ชม. (ดูจาก Screen Time)
จอ Laptop นี่แย่มาก ใช้ไปนานๆ แล้วตาล้า หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาโอ้โหทำไมภาพสวยเนียน สบายตา ทุกวันนี้เลยใช้โทรศัพท์เป็นส่วนใหญ่ laptop ถ้าไม่ได้พิมพ์งานแทบไม่ได้เปิด แต่โทรศัพท์มันก็จอเล็กไป เลยมองหาพวกจอใหญ่มาทดแทน iPad Pro 12.9 สี่หมื่น แต่ MacBook Air สามหมื่นต้นๆ แต่จอแย่กว่าหน่อย แต่ความเป็นคอมพิวเตอร์ก็มากกว่า เลยมีความลังเล เอาจริงๆ เคยมี iPad Air 2 ใช้อยู่ไม่ถึง 2 เดือนขายขาดทุนทิ้งไปเพราะตอนนั้นมันคือ iOS และตอนนั้นเน็ตมือถือแพงมาก และผมไม่เล่นเกมเลย
เรื่องงบประมาณบ้านก็ต้องผ่อน รถยนตร์ก็ต้องผ่อน ซื้อทีละ 2 อย่างไม่ได้ รูสึกอุ่นใจกว่าถ้ามีเงินสำรองอยู่กับตัวหน่อยนึง
ทฤษฎี ‘เจ็บแต่จบ’ ไม่น่าใช้ได้ผลกับผลิตภัณฑ์ของ Apple มั้งครับ ขนาด Apple Watch ที่ผมมองว่าเป็นผลิตภัณฑ์ไร้สาระ แต่เห็นคนรอบข้างใส่เยอะยังอยากได้เลย เหมือนโดนสะกดจิต
เก็บเงินครับ ถ้าจะเอาจอสวย ๆ ดูหนังสบายตา MBP จบเลยครับ, เจ็บแต่จบ คือจบแบบไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยครับ Apple Watch ผมใช้มาตั้งแต่ Gen 2 เพื่อนที่ซื้อยี่ห้ออื่นพร้อมกัน พังและเปลี่ยนไปหลายเรือนแล้ว ผมยังเรือนเดิมอยู่เลย นี่คือเจ็บแต่จบในความหมายผม แต่หลัง ๆ ราคายี่ห้ออื่นก็ไม่ได้ถูกกว่า Apple Watch ละนะ ?
งั้นรอ MacBook Pro ตัวอัพเกรดคีย์บอร์ดละกัน ถ้างั้นตอนนี้สอย iPad Pro ก่อนละกัน ขอบคุณสำหรับข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ
ไป iPad เลยครับ
รอมานานละ Trackpadเป็นอีกเหตุผลนึงที่ผมไม่เคยใช้คีย์บอร์ดกับ iPad ไม่ชอบการยกมือไปแตะจอ และลงมากดแป้นพิมพ์ ทำนานๆมันเมื่อย
หนึ่งในเหตุผลที่ iPad เป็นได้แค่เครื่องที่สองหรือเครื่องสำรองสำหรับผมก็คือเรื่องเมาส์/ทัชแพดนั่นแหละ ถ้าทำงานแปปๆก็ได้อยู่ ถ้าทำงานนานๆมันเมื่อยกว่าใช้เมาส์พอสมควรเลย ถึงตอนนี้จะรองรับแต่มันก็ไม่ได้ใช้งานได้ดีเท่าไหร่
ตอนนี้มีทัชแพดมาให้ และซอฟแวร์ก็คงปรับให้รองรับ pointer มากขึ้นด้วย คนอื่นไม่รู้ยังไงแต่ผมว่ามันทำให้การแทนที่คอมด้วย iPad มันเข้าใกล้ไปอีกก้าวแล้วล่ะครับ
ค่อยๆ merge iOS กับ macOS เข้าด้วยกันสินะ
ถ้าทำงาน Dev ได้ ก็จะเอามาแทน macbook air เลย
บทจะมาก็มาเงียบๆ เลยแฮะ - -"
ดู spec บลา บลา แล้ว จากที่ใช้มาทั้ง Macbook Pro 2011 กับ iPad Air3 สรุปรอบนี้จะอัพเกรดไป Macbook Air 2020 ดีกว่าiPad ถึงจะดีขึ้นยังไงมันก็ยังไม่เวิร์กอยู่ดี แค่เปิดใช้ Spreadsheet พร้อมกันกับ Line ยังไม่มีความสะดวกเลย
ผมว่าตอนนี้ใช้สะดวกแล้วนะครับ แค่ ซ่อน line ไว้ด้านข้างพอจะใช้แล้วค่อยดีดออกมา พิมเสร็จดีดกลับไปแล้วทำ Spreadsheet ต่อ ผมใช้งาน Spreadsheet กับ line บ่อยมาก
ใช้วิธีเดียวกันครับตอนนี้ผมติดแต่ อยากเปิด Excel 2 file คู่กัน บางทีต้อง copy ข้าม file กัน อันนี้ iPadOS support รอแค่ MS update Excel
มันกำลังกลับมาแล้ว แล็ปท็อปจอ 4:3 ;-D
ไปๆมาๆ กลายเป็นทับ line labtop LOL
มันไม่ได้กลายเป็นทับไลน์ครับ มันจงใจให้ทับไลน์เลย มันวางโพชิชั่นมาเป็นคอมพิวเตอร์มา 2-3 ปีละครับ ถ้าให้เลือกระหว่างซื้อ Laptop ธรรมดาสักเครื่องราคา 2x,xxx หรือเลือกมาเป็น iPad เลยดีไหม ทำงานเอกสาร ทำรายงาน ค้นหาข้อมูลได้เหมือนกัน เพิ่มเติมจดโน๊ตได้ในตัว จดใหญ่ดูหนังสบายอะไรงี้ ถ้าไม่ใช่โค้ดดิ๊งจ๋าหรือเล่นเกมหนักๆ ผมว่าหลายคนลังเล
รอ iOS 14 ฟีเจอร์เม้าส์นี้น่าจะเห็นภาพชัดเจนขึ้นใช้ CPU A12Z คงพัฒนามานานแล้วแต่หาเวลาปล่อยไม่ได้ชัวส์ มันน่าจะอัพเดทไลน์ตั้งแต่ปลายปีที่แล้วแล้วด้วย
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
เจอโค้ดแอบซ่อนอยู่บนหน้าเว็บ www.apple.com/th/ipad-proเขียนว่า "iPad Pro จะเริ่มวางจำหน่ายในวันที่ 25 มีนาคม"
ส่วน Magic Keyboard รุ่น 11 นิ้ว ราคา ฿9,990 และ 12.9 นิ้ว ราคา ฿11,690 ครับ
Magic Keyboard รองรับ iPad Pro gen 3 นะ ใครมีอยู่ไม่ต้องซื้อใหม่ แค่อยากรู้ว่าตัว trackpad มันคลิกลงไปได้รึเปล่า ลุง Craig ก็ไม่ได้กดให้ดูใน the Verg ด้วยแหะ
มาแต่ iPad เหรออุตส่าห์รอ se
นี่คิดว่า type cover ของ surface pro แพงแล้วนะ เจอของแอปเปิลเข้าไป...
It's a MAGIC
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
ครั้งแรกรึเปล่า กับ LiDAR Scanner บน mobile device?
มีความเห็นจากข่าวนี้ บอกว่ามันคือ "ของปลอม" โดยอ้างอิง บทความนี้
ถ้าเป็นจริง ตามที่ความเห็นนั้นได้อ้าง ก็ไม่แปลกใจเท่าไหร่ เพราะ Apple ชอบเล่นคำใหญ่โต
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
นึกถึงคำใหญ่โตแล้วชอบคิดถึงค่ายกระบะเจ้านึง เล่นคำเวอร์วังมาก ต้องมีคำว่าเกี่ยวกับโลกเสมอ (ผลิตจากต่างดาวรึไงเนี่ย)
คงไม่ใช้แค่ความเห็นแล้วครับ เพราะลงใน เว็ปไซต์แอปเปิ้ล เองเลย
มันก็คือ ToF sensor เหมือนๆกับ samsung huawei
ผมเข้าใจคำจำกัดความของ LiDAR มันก็แค่ระบบวัดระยะทางด้วยแสง ส่วน ToF มันก็เป็นแค่เทคนิคหนึ่งในการวัดระยะทางด้วยแสง ไม่ได้บ่งบอกว่ามันแม่นยำหรืออะไรแค่ไหนนะครับ
Smartphone ยุคนี้หลายๆตัวก็มีใช้เซนเซอร์วัด ToF กันแล้ว และของ iPad เองก็วัดได้ระยะ 5 เมตร (จากเว็บของ apple เอง) ผมว่ามันก็ไม่ได้หวือหวากว่าค่ายอื่นเท่าไหร่ เผลอๆจะเทคโนโลยีเดียวกับค่ายอื่นด้วย แค่ apple ชอบเล่นคำให้มันว้าวแค่นั้นเองครับ
ผมเองก็รู้จักเทคนิค LIDAR มาบ้าง รู้สึกว่ามันเป็นของใหญ่ เอาใส่เครื่องบิน ใส่ดาวเทียม เพื่อทำแผนที่และสำรวจแหล่งโบราณคดีต่างๆ พอมาเจอ LiDAR ในนี้เลยรู้สึกว่า เฮ้ยย มันเล็กจนเอามาใส่ในอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้แล้วเหรอ ดูว้าวมากๆ แต่ก็นั่นแหล่ะ Apple คงเล่นคำ หรือไม่ก็เอาระบบมาย่อส่วนให้ใช้ได้จริงๆ(รึเปล่านะ)
ไปอ่าน spec ดู cpu เป็น A12Z bionic ยังไม่ขึ้น A13 แสดงว่าไม่ได้แรงขึ้นมากเท่ากับรุ่นก่อน ๆ ถ้าแบบนี้ซื้อตัวเก่าที่ราคาน่าจะถูกกว่าก็ได้มั้ง
ใส่ตัววัดระยะมาให้ด้วย น่าจะมีอะไรสนุกๆ กับ AR มาให้เล่น เช่น พวก Avatar ที่ตอบสนองกับการเคลื่อนไหวของผู้ใช้ได้ แต่ที่อยากเห็นที่สุด คือ สิริมีตัวตนตอบสนองคนใช้งานได้ เสียดายระบบพวกนี้มันมีเรื่องความปลอดภัยอยู่ ถ้าตัววัดระยะทำงานตลอดเวลา คนเดินผ่านแล้วทักทายได้น่าจะสนุก
คอมพิวเตอร์เครื่องต่อไปของคุณ ที่ไม่ใช่คอมพิวเตอร์
เหมือน Router เครื่องต่อไปของคุณ ที่ไม่ใช่ Router แต่เป็น Plash Speed
55555555555555555ลั่น