ตั้งแต่ปี 2018 เป็นต้นมา Microsoft ซื้อสตูดิโอพัฒนาเกมไปแล้ว 7 แห่งเพื่อควบรวมเป็น Xbox Game Studios ประกอบด้วย Compulsion Games, Double Fine, InXile, Ninja Theory, Obsidian Entertainment, Playground Games และ Undead Labs และล่าสุด Phil Spencer รองประธานด้านเกมมิ่งของ Microsoft และหัวหน้าทีม Xbox ให้สัมภาษณ์กับเว็บไซต์ gameindustry.biz ว่า Xbox Game Studios ยังไม่มีแผนที่จะหยุดซื้อสตูดิโอพัฒนาเกมแต่อย่างใด
Spencer ให้สัมภาษณ์ว่าทีม Xbox Game Studios ยังคงมองหาสตูดิโอพัฒนาเกมอื่นอยู่เสมอ และจะซื้อแน่นอนเมื่อมีโอกาสที่เหมาะสม พร้อมทั้งกล่าวว่าทีม Xbox ได้รับการสนับสนุนเต็มที่จากทั้ง Satya Nadella ซีอีโอ และ Amy Hood ซีเอฟโอของ Microsoft และยังไม่มีสัญญาณว่าเขาควรหยุดซื้อสตูดิโอใหม่ๆ แต่อย่างใด
นอกจากนี้เขายังเน้นว่าแม้ Xbox จะยังไม่หยุดซื้อสตูดิโอใหม่ แต่การผนวกรวมสตูดิโอที่เพิ่งซื้อมาเป็นส่วนหนึ่งของบริษัท ก็สำคัญเหมือนกัน เขาต้องการให้การควบรวมเป็นไปอย่างราบรื่น ให้สตูดิโอรู้สึกว่าได้รับการสนับสนุนอย่างเต็มที่ และเป็นส่วนหนึ่งของทีม Xbox มากที่สุด
เห็นได้ชัดว่าแนวทางที่ Xbox กำลังมุ่งไปในอนาคต คือการพัฒนาเกมแบบ first-party ที่มีคุณภาพ เพื่อให้ผู้ที่เตรียมซื้อ Xbox Series X ช่วงปลายปีนี้ มั่นใจได้ว่าจะมีเกมดีไว้เล่น หลัง Sony ครองตลาดด้วยเกม first-party ดีๆ บน PS4 มากมายในยุคก่อนหน้านี้ และคงทำให้การขับเคี่ยวของสองค่ายนี้ เป็นผลดีต่อผู้บริโภคมากขึ้นไปอีก
ที่มา - gameindustry.biz via DualShockers
Comments
ซื้อ studio ญี่ปุ่น เพื่อทำ jrpg ดีๆ มาป้อน xbox ดีกว่า
มันเป็น feedback loop นิดนึงอ่ะครับ Microsoft ยังไม่ค่อยกล้าลงทุนกับตลาดญี่ปุ่น เพราะเจ็นที่แล้วนี่แทบไม่มีใครซื้อเครื่องเลย แต่พอยิ่งไม่ลงทุน ไม่ซื้อสตูมาทำเกมลง คนก็ยิ่งไม่ซื้อเครื่อง เลยวนๆ ลูปๆ ตีตลาดญี่ปุ่นไม่ได้สักที แถม PlayStation กับ Nintendo ก็เป็นแบรนด์ญี่ปุ่นเองด้วย ได้พลังญี่ปุ่นทำญี่ปุ่นใช้ช่วยหนุนอีก
จริง ๆ Phil Spencer แกให้ สัมภาษณ์ มาว่า แกเองก็สนใจตลาดญี่ปุ่น และวางแผนหลาย ๆ อย่างที่จะเปลี่ยนแปลงส่วนนี้ในตลาดญี่ปุ่น เมื่อมีคนถามเรื่องเกม exclusive ที่ไว้สำหรับตลาดญี่ปุ่น Phil Spencer ไม่ได้เปิดเผยรายละเอียดส่วนนี้ แต่เขารู้ว่ามันเป็นส่วนสำคัญมาก
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ตอนสมัย Xbox 360 ก็มี exclusive JRPG เยอะเหมือนกัน ทั้ง Star Ocean, Tales คนซื้อเยอะด้วยนะ แต่ก็ไม่ได้ทิ้งขาดอะไร ส่วนนึงเพราะช่วงนั้น Sony ก็แย่เองด้วย
พอตอนหลัง Sony เริ่มตั้งตัวได้ เกมดีๆ เริ่มลงเยอะ เกมขาประจำเริ่มมา เกมที่เคย Ex บน 360 ก็มาลง (แถมดีขึ้น เพิ่ม content อีก) ทั้ง Tales, Star Ocean, Im@s 2 ก็หลุด Ex
สุดท้าย MS JP ก็ถอดใจ เหมือนว่าลงเงินไปเยอะ ก็ได้กลับมาแค่ตอนลงเงิน แต่ภาพลักษณ์ไม่ได้ดีขึ้น
ฝรั่งเขาก็ชอบ rpg แบบฝรั่งครับ
ซื้อ Capcom โลด
ข้างบนเล่นมุข
แต่ผมก็แอบอยากเห็น Microsoft ซื้อธุรกิจเกมจาก Konami มานะ น่าจะช๊อคโลกพอสมควร
ถ้าดูจาก บ.ที่ซื้อๆไป เป็นบ.ขนาดเล็กไปกลางหน่อยๆ เอาเงินที่ซื้อบ.ทั้งหมดมารวมกันก็น่าจะยังไม่พอซื้อส่วนเกมของ Konami เลยผมว่า ถึงหลังๆจะไม่ค่อยทำเกมลงคอนโซล แต่ก็มีส่วนปาจิงโกะกับตู้เกมที่ยังทำเงิน
ตลาดญี่ปุ่นเป็นตลาดชาตินิยมนะครับ แบรนด์จะไปทำตลาดต้องมั่นใจว่า มีในสิ่งที่คนญี่ปุ่นทำไม่ได้ครับ ไม่งั้นก็เตรียมตัวเจ๊งครับ อย่าง PS กับ Xbox เนี่ย ก็เห็น ๆ อยู่แล้วว่า ใครจะเป็นเบอร์ 1 ตอนนี้อยู่ที่ว่าไมโครซอฟท์จะยอมรับกับยอดขายได้ไหมเท่านั้นครับ...
น่ามาซื้อ Konami น่าจะช่วยให้บริษัทดีขึ้นและสามารถตีตลาด XBOX ในญี่ปุ่นได้ ตอนนี้ก็เอาแต่ขายตู้ปาจิงโกะ Theme เกมค่ายตัวเองไปวันๆ และจะได้ลบภาพเสียได้ด้วย
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เกมส์ของเขาไม่เหนียวแน่นพอ ผมคิดว่าอ่ะนะ ไม่ค่อยมีเกมส์ดึงดูดนอกจาก Gears กับ Fable เกมส์ดี ๆ ที่เคยทำเช่น Blue Dragon, Infinite Undiscovery, Lost Odyssey, etc... ก็หายไปแล้ว
พูดชื่อ Microsoft Game Studio คนต้องนึกก่อนมีเกมส์อะไรบ้าง อย่าง Scalebound ก็น่าเสียดาย กลับกลายเป็นว่าถ้าพูดถึง Sony Interactive Entertainment คนแทบจะแย่งกันพูดเลยก็ว่าได้
ซื้อ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ ๆ
ซ้ำ
ลองถามตัวเองดูก่อนว่าทำไม Minecraft ของตัวเองถึงตีตลาดญี่ปุ่นล้านแตกได้
ไม่ใช่ว่ามันตีแตกก่อน MS ซื้อ Mojang เหรอครับ
ตอนเกมขายได้หลักล้านแรกบน vita (2016)ms น่าจะซื้อไปเรียบร้อยแล้ว (2014-2015)
มาล้านแตกที่ญี่ปุ่นอีกรอบกับ switch ปีที่แล้ว 2019
ในบทความต้นฉบับมีคำตอบอย่างละเอียดมากครับ ว่าจัดการ Mojang ยังไง