ในสหรัฐฯ มีประเด็นสำคัญเรื่องข้อมูลคนไข้ COVID-19 คือ รัฐบาลโดนัลด์ ทรัมป์ สั่งให้โรงพยาบาลไม่ต้องส่งข้อมูลคนไข้ให้ C.D.C หรือศูนย์ควบคุมโรคสหรัฐฯแล้ว แต่ส่งไปให้ HHS หรือ Health and Human Services ซึ่งมีศูนย์ข้อมูลที่วอชิงตันแทน
สิ่งที่เป็นประเด็นคือความโปร่งใส เนื่องจากข้อมูลของ C.D.C นั้น นักวิจัยและนักข่าวสามารถเข้าถึงได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการวิจัยและการรายงานสถานการณ์ แต่ศูนย์ข้อมูล HHS นั้นไม่เปิดเป็น public ทำให้ผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพกังวลว่า ข้อมูลที่ได้ไปจะถูกทำให้เป็นเรื่องทางการเมืองหรือไม่
ในเอกสารที่ตีพิมพ์ในเว็บไซต์ของ HHS ระบุว่า HHS จะรวบรวมรายงานประจำวันเกี่ยวกับผู้ป่วยที่โรงพยาบาลแต่ละแห่ง, จำนวนเตียงและเครื่องช่วยหายใจที่มีอยู่รวมถึงข้อมูลอื่นๆ ที่จำเป็นต่อการติดตามการระบาดใหญ่ของ COVID-19 เพื่อให้ภาครัฐสามารถจัดสรรอุปกรณ์จำเป็น เช่นยา, ชุดป้องกัน เป็นต้น
Jen Kates ผู้อำนวยการหน่วยงานสุขภาพ Kaiser Family Foundation บอกว่า ที่ผ่านมา C.D.C มีบทบาทสำคัญ เพราะเราสามารถรู้ความเคลื่อนไหวในสถานการณ์โรคระบาด น่ากังวลว่าจากนี้ไปบทบาทของ C.D.C จะเป็นอย่างไร และข้อมูลที่ได้ไปจะได้รับการกำกับดูแลอย่างไร ด้าน Michael R. Caputo โฆษก HHS ระบุว่าทุกวันนี้ C.D.C มีความล่าช้าในการรายงานสถานการณ์อย่างน้อย 1 สัปดาห์ ซึ่งอเมริกาต้องการการทำงานแบบเรียลไทม์ ถึงจะสามารถเอาชนะโรคระบาดได้
Dr. Nicole Lurie ผู้ช่วยเลขานุการเคยทำงานในสมัยบารัก โอบามา บอกว่าการรวมศูนย์การควบคุมข้อมูลทั้งหมดเพื่อเป็นเครื่องมือทางการเมืองนั้นเป็นอันตราย ก่อให้เกิดความไม่น่าไว้วางใจ และลดทอนความสามารถของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรงอย่าง C.D.C
ที่มา - The New York Times
Comments
ยอดผู้ติดเชื้อมันโกหกไม่ได้งัย เลยสั่งปิดบังเลย ไม่ได้โกหก แต่ไม่บอก 555
จะทำอะไรก็ทำ ไม่ว่าแต่อย่าส่งทหารบังคับให้ประเทศอื่นเปิดบ้านรับเชื้อเลย แถมบังคับให้ให้คนต้อนรับใส่หน้ากากอีก
จร้าาา กร่างมาก บังคับไม่ให้คนต้อนรับใส่หน้ากาก แต่ตัวเองต้องมานั่งโดนแยงจมูก โดนนักข่าวถ่ายรูปเนี่ยนะ 5555555 ก็ช่างคิดเนอะ