Craig Federighi หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมซอฟต์แวร์ของแอปเปิล ให้สัมภาษณ์ Ars Technica ในประเด็น Apple M1
เขาตอบคำถามที่หลายคนอยากรู้เรื่องการรัน Windows บนชิป Apple M1 ว่าในทางเทคนิคแล้ว M1 สามารถรันระบบปฏิบัติการอื่นๆ ที่รองรับ ARM ได้ และแอปเปิลก็มีเทคโนโลยีพื้นฐานในการรันระบบปฏิบัติการ ARM ที่รองรันแอพพลิเคชันแบบ x86 ให้หมดแล้ว ที่เหลือขึ้นกับการตัดสินใจของไมโครซอฟท์แล้วว่าจะทำหรือไม่
เขายังพูดถึงแผนการซัพพอร์ตเครื่องแมคที่ใช้ซีพียูอินเทล ว่าจะยังทำต่อไป ในมุมมองของแอปเปิลไม่ได้แยก macOS เวอร์ชัน x86 และ ARM แต่ใช้โค้ดเดียวกัน มองเป็นโครงการเดียวกัน ในปีหน้า แอปเปิลจะออก macOS ที่เป็น universal รองรับทั้งสองระบบไปอีกนาน (years to come)
ที่มา - Ars Technica
Comments
???
Microsoft คงยินดีทำเลยแหละ เพราะทำเองแล้วล่มตลอด
ผมว่า window on M1 น่าจะจะเร็วกกว่าปกติแน่ๆ เลย (หวังว่างันนะ)งี้อนาคตก็จะมีชิพแบบนี้มาขายเปล่าหว่า น่าสนใจมากเลย เร็วขึ้นเยอะ จับมารวมกันให้หมด ชีวิตสบาย ชอบอะไรเร็วๆ
การจะมา ARM ตัว operating system ต้องดีไซน์มาในเรื่องการใช้พลังงานมาด้วยครับ ประเด็นคือ windows ไม่ได้ดีไซน์ให้ประหยัดพลังงานมาตั้งแต่ต้นครับ ดังนั้นการขยับมา ARM น่าจะเร็วพอสมควร แต่เรื่องการกินพลังงานนั้นก็น่าห่วง
อ่อนั้นสิครับ การประหยัดพลังงานก็สำคัญเหมือนกัน
M$ มี Windows ARM แล้วนี่ แต่เข็นไปไม่รอด ถ้า Apple ลงเล่นแล้ว M$ เล่นตามก็น่าจะจุดตลาด ARM ได้บ้าง ขอแต่ออก ARM มาเหอะ เชื่อว่าเรื่องทำ Bootcamp ไม่น่ามีปัญหา
Windows on Arm จะได้เกิดจริงๆ ซะที
MS : นายเห็น Pro X ของเรามั้ย
ขอ unlock bootloader ลง Linux ได้ก็พอ
ยุคนี้ใครจะไปรู้ อีกไม่นาน Windows อาจจะเปลี่ยนไปใช้ Linux Kernel ก็ได้
ถึงเวลานั้นเราก็แค่สลับ userland ระหว่าง Windows, Ubuntu, Fedora
เข้า Bootloader ได้แต่ไม่มีคนพอร์ด Linux มาลงก็เท่านั้นด้วยหน่วยประมวลผลย่อยต่างๆที่ใส่เข้าไปใน Arm ถ้า Apple ไม่เปิดก็ยากที่ใครจะทำ ถึงจะมี kernel Opensorce ออกมาให้แกะ กลายเป็นใช้ได้แค่คอร์ CPU Arm แต่ส่วนอื่นๆใช้ไม่ได้เพราะรู้แค่ ตำแหน่งแต่ไม่รู้ว่าทำงานยังไง ก็เป็นปัญหาเดียวกับ Android ที่ARM ไม่มีมาตรฐานกลางเลยกำหนดชั้นของมาตราฐานกลางออกมาแต่สุดทัายก็ยังมีปัญหากับบางโมดูลที่มีมากกว่ามาตราฐานหรือเฉพาะเจาะจงอยู่ดียังไงก็ต้องได้ความร่วมมือทั้งสองฝ่าย แต่ด้วยนิสัย Apple ยังไงก็กักบางอย่างไม่ให้ Windows ดีกว่า Mac อยู่แล้ว คิดว่าเป็นไปได้ยากที่ Microsoft จะเอาด้วย
รองรับสองระบบไปอีกนาน แต่ใครจะอยากซื้อintel ในเมื่อราคาไม่ต่าง
ข่าวนี้มา วันจันทร์หุ้น Intel ตกแน่ๆ
ไม่ใช่แค่ MS จะทำไหม มันต้องต่อด้วยว่า MS จะทำได้ดีไหมด้วยขนาด Surface pro x ที่ MS ทำ Hardwareเอง ประสบการณ์ใช้งานยังไม่ดีเลย
ว่าแต่ ลง Android ได้ไหม
ประสบการณ์การใช้มันไม่ได้ต่างกับ Windows 10 ปรกตินะครับ ผมใช้มาก็ยังมองความต่างไม่เห็นเลย
ถ้าจะบอกว่าประสบการณ์ไม่ดีเพราะ App ไม่ Support ก็ไม่เกี่ยวกันนะครับอย่าง M1 เองก็ต้อง Compile ให้ใหม่ด้วย ต่อให้มี x86 emulator มาก็ตาม
แล้วถามว่า Pro กับ Pro X ประสบการณ์การใช้งาน ไม่ต่างครับ ผมว่า Pro X ทำมาดีกว่า Pro ด้วยซ้ำ แน่นอนว่าช่วงแรกยังมีปัญหาอยู่บ้างตามของใหม่ แต่มันก็มีการปรับแต่งให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ จนตอนนี้ทำงานได้ลื่นไหลพอกับ Pro ธรรมดาด้วย
ไม่ใช่ทุกคนที่ชอบ Pro X ก็จริง แต่คนที่ใช้ Surface มาทั้ง Pro 3 / Book 2 / Go / Pro X มาประสบการณ์ใช้งานคือดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับ Pro 3 ที่ผมส่งต่อให้คนอื่นใช้ก็ยังทำงานได้ดีอยู่
ประสบการณ์ใช้งานยุคนี้มันไม่ได้มีแค่ เร็วกว่า ช้ากว่า หรือใครทำอย่างเดียวแล้วครับ มันขึ้นกับว่าคนใช้สามารถทำงานอย่างมีความสุขกับมันหรือเปล่า ผมลอง Apple Pencil แล้วผมชอบนะครับ มันสุดยอดมาก แต่ว่าผมก็ยังชอบตระกูล Surface มากกว่าในเรื่องของการใช้งานที่เหมาะกับผมทั้งวาดรูป จดโน๊ตแล้วก็เล่นเวปไปเรื่อย ๆ ดู Netflix ก็ง่าย ขาดอย่างเดียวก็คือ Hardcore Gaming เท่านั้นเอง ในส่วนการทำงานปัจจุบันผมไม่ได้ใช้ก็จริง แต่ชีวิตทั่ว ๆ ไปพกเครื่องนี้เครื่องเดียวคือ 90% ของวันธรรมดาผมแล้วนะ
การที่บอกว่า SPX มีประสบการณ์การใช้งานที่ไม่ดีเพราะว่าไม่รับ App ก็ไม่ได้ผิดนะครับ แต่ก็อดรู้สึกไม่ได้ว่ามันไม่ค่อยเป็นธรรมกับ MS ซักเท่าไหร่นะครับเพราะ Product มันก็ต้องพัฒนาไปเรื่อย ๆ ไม่มีอะไรที่ออกใหม่มาแล้ว Perfect 100% หรอก แต่ทำไมพอ MS ทำทุกคนนี่จับผิดระดับต้องเอาให้ร่วงไปต่อไม่ได้ หรือไม่ยอมให้โอกาสเขาพัฒนาอะไรเลย ลองอะไรใหม่ ๆ เลยเหรอ
การ Transition ของ MS คราวนี้มันเหมือน Experimental มากกว่าครับ รันแอปไม่ได้นั่นแหละครับปัญหา คนซื้อวินโดวส์ใช้เค้าก็ต้องการรันแอพเก่าๆที่เคยใช้กับวินโดวส์ได้ จะให้มาทำความเข้าใจมันไม่ใช่อ่ะครับในฐานะผู้บริโภค มันต้องทำให้การ Transitionมัน Smooth ที่สุดApple ทำตรงนี้ได้ดีกว่าครับ แค่นั้นเลย สร้างชิพให้แรงกว่า Intel แบบมาก ๆ เพื่อที่ตอน Emulate x86 จะได้ไม่มีปัญหา และถ้า Native ก็แรงทะลุไปเลย (เทียบกับเจนเก่า)
M1 อาจจะ Emulate ไม่ได้ทุกแอพ แต่ว่ามันมีสัดส่วนที่รันได้เยอะมากครับ และรันได้เป็นอย่างดีด้วย ประสิทธิภาพเทียบกับของเดิมนั้นดีกว่าด้วย
ผิดกับฝั่งวินโดวส์ รันได้แต่ 32 bit (ตอนเปิดตัว) แถมใช้งานจริงแทบไม่ได้ (เช่น Photoshop)
ส่วนคำถามที่ว่าลองได้มั้ย ลองได้ครับ ลองเลย อย่างแอปเปิ้ลเค้าก็ลองครับ ลองมาหมายปีมากจนมันพร้อมแล้วเค้าถึงเอามาขาย (ข่าวว่าแอปเปิ้ลพัฒนา OSX on Arm มามาตั้งแต่สมัย 10.9) อันนี้ยังไม่พร้อมเลย เอาออกมาขายคนลองแล้วก็ยี้ครับ สุดท้ายก็พับโครงการไปเพราะไม่มีคนสนับสนุน แล้วก็ตายไปแบบ Windows RTอย่าเข้าใจผิดผมอยากเห็น Windows on arm ประสบความสำเร็จนะครับเพราะแอปเปิ้ลพิสูจน์แล้วว่ามันเวิค มันมีโอกาสสำเร็จ แต่ต้องทำให้ดีกว่าของเดิมครับ ไม่ใช่ลุ่ม ๆ ดอน ๆ แบบนี้
ปัญหาเรื่องการความเข้าใจของผู้บริโภค มาจากตัว MS แน่นอนครับอันนี้ผมเห็นด้วยเต็ม ๆ ว่าสัญญาเร็วไปหน่อยหรือเปล่าว่า Run ได้
ในส่วนของ Windows RT ผมคิดว่าตายตั้งแต่ออกมาแล้วครับ เพราะเนื่องด้วยความสามารถมันไม่สามารถเทียบเท่ากับ Windows 8 ที่มีความสามารถเป็น Full Windows แล้วก็มีแอปรองรับเยอะกว่าอย่างเห็นได้ชัดมาก
แต่พอมาเป็น Windows 10 ARM ที่ผมเห็นคือมันคือ Windows 10 ครับ แต่คนจะบอกว่ามันคือ Windows ไม่เต็มเพราะ Run App "ทุก App" ไม่ได้ ตอนที่ผมได้ยินว่าฝั่ง Apple กำลังทำ M1 สิ่งแรกที่คิดคือมัน Run ทุก App ไม่ได้แน่นอน จนอยากจะพูดว่ามันคือ macOS ไม่เต็ม แต่ก็คิดว่ามันคงไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องหรอก
จุดที่ผมอยากจะพูดก็คือ มันไม่ใช่ทุกคนที่จะบอกว่า Windows 10 ARM มันแย่ เพราะมันมีคนที่ใช้อยู่แล้วก็โอเคกับ System นี้ แล้วก็มันยังสามารถไปได้หลายทางมากกว่าล้มเหลวทางเดียวคือ
1. Software MS เองรอรับ Windows ARM Full support แต่สำหรับ Software อื่น ๆ รองรับผ่าน Emulator
2. Software เป็น Native กับ ARM
3. หรือไม่ก็ Windows 10 ARM อาจจะเป็นแค่ส่วนนึงของการพัฒนากลุ่ม Linux ARM ในอนาคตก็ได้ เพราะมีทั้ง WSL / Visual Studio Code ARM
4. ทั้งหมดรวมกันไปเลย
แต่เท่าที่อ่านผ่าน ๆ มาคือมันมีแต่เชียร์ให้ล้มครับ ซึ่งมันก็ทำให้ผมไม่ชอบเท่าไหร่เพราะผมใช้งานอยู่แล้วมันโอเคกว่าที่คิดก่อนหน้าด้วยแล้วเห็นการปรับปรุงเยอะมาก (ส่วนนึงผมเชียร์ MS ยุคนี้ด้วยแหละ ?) ถ้าล้มเพราะ MS ทำตัวเองนี่คือผมก็ปล่อยเลยตามเลยนะแถมต่าซ้ำด้วย แต่เท่าที่เห็น MS เอาจริงจังเยอะกับ Windows 10 ARM เลยล่ะ เลยอยากให้มันขึ้นเป็นทางเลือกได้ ส่วนตัวผมเองก็พูดตลอดนะว่าถ้า MS จะดัน Windows ARM จริง ๆ แค่ Software ตัวเองก็น่าจะสามารถดันได้แล้วเพราะคนใช้แค่ Office หรือคนใช้ชีวิตแบบประจำวันก็น่าจะพอ แล้วตอนนี้ก็ดันออกมาเรื่อย ๆ ด้วย
ส่วนตัวของ Apple เองผมอยากให้มีทางเลือกทั้ง M1 กับ x86 นะครับเพราะมันดีต่อผู้ใช้งาน แล้วหวังว่ามันคงเป็นอย่างนี้ต่อไปนะ
ในความคิดนะ ยังไง software ก็สำคัญครับ
Windows ARM ไม่รุ่งเพราะ MS ทำเป็นทางเลือก และไม่ได้ทำให้มันชัดเจน ทำให้ dev มองว่า ไม่คุ้มที่จะลงทุน develop code เพื่อให้ support ARM
แต่มองมุม Mac ARM ทาง Apple บอกเองว่ายังไงก็จะไปทาง ARM ทำให้ dev บนฝั่ง macOS จะทำให้ software ตัวเองเป็น ARM version ในสุดท้าย และ Xcode ฝั่ง Apple ที่แค่เอา code เดิมมา compile ก็เป็น native ARM แล้วด้วย (ที่เหลือก็แค่ test ว่า work 100% ไหม) ยิ่งทำให้ dev ทำง่ายขึ้น
เอาง่าย ๆ ครับ MS ทำ Windows ARM มาหลาย version แล้ว แต่ Photoshop ก็ยังไม่ทำ ARM สักที (run บน Windows 10 ARM ด้วย 32 bit emulator) จน Apple ทำ Mac ARM ทาง Adobe เลยเริ่มทำ Photoshop ARM รุ่น beta ทั้ง Windows และ macOS ออกมา
ผมว่าเคส Adobe น่าจะเป็นการรอจริง ๆ แหละครับ เพราะว่าแทนที่จะเร่งทำเฉพาะ Windows ARM ก็รอทั้งคู่มี ARM แล้วค่อยทำน่าจะ Smooth กว่าเยอะ
ในส่วน Windows 10 ARM เป็นทางเลือก ผมก็มีความคิดแบบนี้ครับเลยรู้สึกว่ามันไม่ดีเลยที่จะบอกว่าล้มเหลว 100% ไม่เหมือน RT ที่คิดจะดันออกมาแต่ตัวเองบอกให้ Dev อื่น Support ดังนั้นการที่ผมเห็น MS ทำ Emulator ออกมาผมคิดว่ามันคือการสร้างทางเลือกแก่ผู้ใช้ครับ เพราะ MS เก่งเรื่อง Backward Compatible (จริง ๆ อาจจะไม่ได้เก่งหรอก โดนบังคับทำ ?)
อีกอย่างนึงคือ Windows 10 ARM น่าจะอยู่ในเรื่องของ Cloud First / Mobile First ของ MS ครับเพราะเท่าที่ผมตาม Product ตระกูล Windows 10 ARM มาคือเหมือนเกือบจะทุกตัวสามารถใส่ SIM ได้หมด ดังนั้นมันจึงเป็นส่วนนึงของเป้าหมาย MS อยู่
ในส่วน Software สำคัญนี่คือจริงครับ แต่ MS เองก็มี Software Office x86 ของตัวเองแล้วก็สามารถ Run ได้ใน Windows 10 ARM ของตัวเองแล้วด้วย แถมตอนนี้ยังปล่อย Team กับ VSCode ที่เป็น Native ของตัวเองอีก ปัญหาของ MS คือไม่ค่อยกล้าพูดว่า เออ ฉันรับ Software ของฉันเกือบ 100% นะ ของคนอื่นก็อาจจะนิด ๆ หน่อย ๆ (แหมใครจะกล้าพูด ?)
ในส่วน Apple ที่จะบอกว่าไปทาง ARM ผมอยากให้มี x86 เป็นทางเลือกนะครับ ประมาณว่ากลับด้านกับ MS ที่มี Windows 10 ARM เป็นทางเลือก
ยังไงผมก็ยังยืนยันเหมือนเดิมครับว่า ไม่อยากให้บอกว่า Windows 10 ARM จะตายเหมือน RT เพราะมันต่างกันที่ MS สมัยนั้นไม่ Support ซึ่งต่างจากสมัยนี้คือดัน ARM ออกมาเป็นทางเลือก แล้วมันก็ดีขึ้นเรื่อย ๆ ครับเพราะผมใช้ตั้งแต่มีปัญหาด้าน Firmware, Run x86 อยู่ดี ๆ ค้างเฉย จนตอนนี้คือค่อนข้าง Smooth แล้วครับ ถ้าจะติดก็ติดที่ตัว CPU มีความสามารถเท่าไหร่แล้วตัว Windows 10 เองรีดความสามารถได้มากขนาดไหน
สัดส่วนผู้ใช้ Mac กับ Win ต่างกันมหาศาล จะบอกว่า adobe รอให้ Mac มีระบบ on Arm มาถึงลงมือทำ Photoshop arm native นี่ไม่ make sense เลย
ถ้าให้ถูกคือ M1 + Big Sur มันใช้งานได้จริงมากกว่า และ Apple มีท่าทีที่ “เอาจริง” ส่วน Win Arm ที่ผ่านมา (Win RT) เป็นแค่ experiment system และ microsoft ทำแบบ “กล้าๆ กลัวๆ”
ก็ไม่ Make sense จริง ๆ เรื่อง Adobe แหละครับ เพราะอ่านมาว่าพอ M1 ออกเลยทำออกมาทั้ง 2 OS ส่วน MS ทำแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ก็จริงอยู่ ผมจึงมองว่า RT ไม่รอดเพราะตอน RT 2 ออกมาก็ไม่เห็นความตั้งใจเลย
ลองดูรีวิวดูครับ Photoshop กับ Lightroom บน ARM รันผ่าน Rosetta2 ลื่นมากครับ แรงกว่า MB Air Intel เดิมอีกครับเรนเดอร์ ตัดต่อวีดีโอ 4K ชิว ๆ แรงกว่าเดิมไม่ต้องรอ Native ครับ Premier pro ลื่น ๆ Hardware Softwareเค้าพร้อมจริง ๆ
ยิ่ง Native แบบ Finalcut pro ไม่ต้องพูดถึง Codec ใหม่ ๆ อย่าง Canon Raw ของ EOS R5 10Bit 422 ลื่นกว่า MacPro อีก (มีตัวถอดรหัสใน m1) ตัดต่อ 4K สบาย ๆ 8K ก็พอได้แต่ต้องปรับนิดนึง
https://youtu.be/GMzT3bajoPs
ในขณะที่ surface pro x อ่อม เปิดรูปยังกระตุก อย่าว่าแต่ทำงาน
ตอนนี้ตัว beta ของ Photoshop รองรับ ARM64 แล้วนะครับ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ดูแล้วครับ เรื่องประสิทธิภาพยกให้เขาเลยจริง ผมคิดแหละว่ายังไงก็ Apple ก็ทำ Optimize ได้ดีกว่าเพราะเขาคุมอยู่ทั้งหมดจริง ๆ แต่เคสนี้คือเกินกว่าที่ผมคิดไปมาก ถ้าเป็นไปได้ก็อยากให้ MS มาถึงขั้นนี้เหมือนกันนะครับ แต่น่าจะยากอยู่เพราะ MS ไม่ได้คุมการผลิต CPU เองแบบเดียวกับ Apple หรือไม่ก็อาจจะเป็นไปไม่ได้เลยมากกว่าแต่ถามว่าจะไปใช้ Mac ไหม ไม่ล่ะครับ ?? ผม Happy กับ Hardware / Software MS อยู่มากกว่า แต่ก็คงได้อะไรเยอะแหละครับ ขอบคุณมาก ๆ แล้วก็ถ้ามีคนอยากเล่น Windows 10 ARM ผมคงพูดเหมือนเดิมแหละว่า "อย่าเลยถ้าไม่มั่นใจ"
ถ้าจะอวย ms ไม่ว่าครับ แต่ขอให้มันพอดีหน่อยครับ เพราะเท่าที่ตามข่าวมาเหมือนว่า WIndows on ARM มันห่วยจริง ตามรีวิว https://www.blognone.com/node/113526
คือขนาดแอพของ ms เองยังไม่มี ARM เลย จะให้ผู้พัฒนาอื่นทำได้ไง แต่กับ apple os base on x86/arm และแอพของตัวเองน่าจะ support arm เกือบครบ ผู้พัฒนาอื่นก็เลยมั่นใจ
สิ่งที่ผมพูดคือ ในฐานะคนใช้จริงคือมันไม่ได้แย่ขนาดนั้น ผมใช้ในชีวิตประจำวันมันคือโอเค แต่ว่าผมก็ไม่เคยแนะนำว่าสามารถย้ายมา Windows 10 ARM ได้อย่างสบายขนาดนั้น คนส่วนใหญ่ผมยังอยากให้อยู่กับ x86 ไปจนกว่า Windows 10 ARM จะพร้อมจริงครับ หรือไม่ก็หายไปเลยก็อีกเรื่องนึง
ส่วน App ของ MS ไม่มี ARM มันก็ไม่ได้หมายความว่า App MS ทำงานบน ARM ไม่ได้ทุกตัวนะครับ Word / Powerpoint ผมก็ใช้งานปรกติ Netfix ก็ปรกติ App หลายๆ App ผมก็ทำงานปรกติ แต่ว่ามันไม่ใช่ App ที่เป็นที่รู้จัก แต่ผมจะไม่บอกว่ามันดีสุดยอดเพราะผมใช้ App แล้วโอเคเพราะสิ่งที่ผมใช้มันก็แค่ส่วนของผมแหละ
จะบอกว่าผมอวยก็ได้ครับ เพราะอวยจริงแหละ แต่ว่าใช้จริงครับ เลยกล้าพูดว่ามันไม่ได้แย่ แล้วก็รับได้ครับว่า MS เองตาม Apple หลายอย่างมากเพราะมันก็คือความจริงแหละครับ
แสดงว่าไม่คิดจะพัฒนาตัวเองเลยสิน่ะ
มายืนยัน ใช้ GO อยู่ ตอนซื้อมาแรก ๆ ค่อนข้างช้าไม่ลื่นแถมจอเสียด้วย เอาไปเปลี่ยน หลังจากนั้นมาอัพใหญ่ทุกครั้งจะรู้สึกได้เลยว่าดีขึ้นเรื่อย ๆ ล่าสุดอัพตุลา ลื่นขึ้น ดีขึ้นไปอีก (แต่ยังมีความรู้สึกอยู่ว่า CPU รุ่นนี้ช้า ทำให้ไม่น่าจะลื่นไปกว่านี้)
หรืออาจจะทำแล้วจงใจให้ออกมาแย่
ตอนนี้รอ x86-64 emu ของ MS ออกมาให้ใช้งาน มันจะดีหรือเปล่า ถ้าแก้ไขแล้วมันดีขึ้น ก็ไม่น่ามีปัญหากับการลงในเครื่องที่ใช้ชิป M1 หรือแม้แต่ Surface Pro X จะได้ขายดีขึ้นมาเสียที
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
years to come คงไม่ได้หมายถึงสองปีตามรูปพหูพจน์แบบพอดิบพอดีนะ ?
เป็นไปได้ครับ เพราะ Apple มักจะซับพอร์ตอย่างน้อย 2 รุ่น หรือ 2 ปี
Apple ยังไงก็ต้อง support เครื่อง Mac Intel ที่ขายในปีสุดท้ายไปจนหมดอายุ อย่างเร้วคือ 5 ปี หลังเครื่อง lot สุดท้ายขายไป อย่างนานสุดผมว่าไม่เกิน 7 ปีนับจาก lot สุดท้ายขายไป แต่ผลการทดสอบใช้งานดีขนาดนี้intel mac รุ่นสุดท้ายอาจจะออกที่ปลายปีหน้าก็เป็นได้
จะจริงเหรอ ที่จะซัพ ทั้งสองอัน ไปยาวๆ ถ้าระบบมันเข้าทีคง ตัดอินเทลทิ้งไปแล้ว ทำเองอะไรก้ดี
ก็ควรจะซับยาวๆ แหละครับ เพราะเครื่อง Intel ก็ยังขายอยู่ จะเลิกซับคนเพิ่งซื้อไปโวยแย่
Support อยู่และครับคนใช้ Intel กี่ %แต่อนาคตตัดออกอยู่และ แค่ว่าเครื่อง intel มันจะ Obsolete Products ทั้งหมดเมื่อไหร่นั่นเอง (ประมาณ 7-8 ปีหน้าเครื่อง intel คงตกรุ่นหมด )
มือใหม่!! ใหม่จริงๆนะ
มองที่ windows บน Surface pro x แล้วอยากจะส่ายหน้า ทำเองยังไม่ดีเลยแล้วจะทำบนฮาร์ดแวร์คนอื่น
ถ้าเปิดขายชิปเลยผมจะโล่งใจขึ้นมาเยอะมาก ถ้าเปิดให้ลง OS อื่นได้ก็จะสบายใจขึ้นมาระดับนึงเลยครับ
เหมือนให้ยูสเซอร์กดดันไมโครซอฟท์ยังไงก็ไม่รู้แฮะ เราพร้อมเสมอนะ เธอล่ะ จะทำให้เรารึเปล่า ดูสิ คนอยากใช้ตรึมเลย
เห็นบทความทีแรก ความคิดแรกที่โผล่มาคือ "โยนขี้" นี่นา ฮ่าๆ แม้ Apple จะไม่ผิดในเรื่องนี้ และอยู่ฐานะที่พูดเช่นนี้ได้ แต่การที่พูดเหมือนกับว่า Microsoft สามารถออก Windows on Arm มา แล้วผู้ใช้สามารถติดตั้งบนเครื่อง MAC ได้เลยโดยไม่ต้องมีพิธีกรรมอื่นใด มันชวนให้หมั่นไส้ในความมั่นหน้าเสียจริง (ความเห็นนี้ Bias)
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
สำหรับ Ms Windows Arm มันคุ้มกับการลงทุน ในระดับเดียวกับที่ Apple ลุงทุนรึยัง
ฐานลูกค้า Ms บน Arm ยังไม่รู้เลยว่าจะมีมากน้อยแค่ไหนแต่ Apple ต่างกันมาก Ms อาจจะไม่คุ้มตอนนี้ที่จะทุ่มทรัพยากร ไปกับ Windows Arm เพราะเอาทรัพยากรไปลงทุนกับ Cloud , AI ได้ประโยชน์กว่า
Opensource - Hackintosh - Graphic Design - Scriptkiddie - Xenlism Project
ผมสงสัยว่าในระดับ desktop cpu ของ apple สู้กับ intel ได้ไหมถ้าได้หรือหนือกว่า แล้ว intel ไม่ตายเลยเหรอครับ? เจอศึกทั้ง amd, apple
ผลอย่างไม่ทางการ
M1แรงกว่า i7 ปีล่าสุด
แต่ขายราคาพอๆกับตัว i3
ตัวmacbook airนี่ดูคุ้มค่ามากเลย
ผล Geekbench M1 Single core แรงกว่า R9 5950X ของ AMD ครับ ( 1730 VS 1701) แน่นอนว่าแรงกว่า i9 Desktop ด้วย (1400) อันนี้คือชิพ Mobile 10W นะครับต้องไม่ลืมตรงนี้ (R9 105W แต่คอร์เยอะกว่า)
อยู่ที่ Apple เองแล้วแหละครับ ว่าจะทำ CPU Desktop มาตบใครให้ร่วง ถ้าอยากเอาชนะ Multi ก็เอา Core เยอะ ๆ มาสู้
แต่แอปเปิ้ลคงไม่ทำในเร็ว ๆ นี้ น่าจะทำตอนออก Mac Pro มากกว่า
ผมว่าทำตอนออก MacBook Pro 16 นิ้วกับ iMac มากกว่า ส่วน Mac Pro ก็อัพขึ้นไปอีกระดับนึง
geekbench ใช้เป็นตัววัดผลความแรง/มาได้จริงครับ อีกอย่าง แรงกว่าบน geekbench ไม่ได้แรงกว่าชีวิตจริง
ช่วยยกตัวอย่าง CPU ที่ห่วยบน geekbench แล้วแรงในชีวิตจริงให้หน่อยสิจ๊ะ
เพราะ CPU ที่แรงกว่าบน geekbench เนี่ย ในชีวิตจริงมันก็แรงกว่าจริงๆ แทบจะทุกตัว
ผลเทสตอนนี้ก็เห็นอยู่เกลื่อน ไปอยู่ไหนมาคะ
แหม่ คุณก็พูดตรงเกิน 555 ผมก็คิดแบบนี้แหละแต่ไม่กล้าไฟว้ 55
Disclaimer นิดนึงครับ คือผมบอกแค่ว่า m1 มันแรงกว่าแค่ Single core ส่วนในชีวิตจริง R9 Core มันเยอะกว่า ก็อาจจะรัน Software ส่วนใหญ่และภาพรวมอาจจะทำได้ดีกว่าแหละครับ
แต่ที่ผมยก Single core performance มาพูดเพราะมันทำยากกว่า Multicore ที่ถม Core ลงไปเยอะ ๆ ก็แรงกว่าแล้ว (ส่วนจะไปลิ้ง core ให้ทำงานร่วมกันได้ดีแค่ไหนก็ต้องมาคิดกัน)
AMD แพ้ intel เรื่อง Single core มานาน เลยต้องถม Core มาเยอะ ๆ เพื่อมาสู้ พึ่งจะมามีเจนล่าสุดที่ Single core ชนะได้สักที แต่เจ้ากรรม ยังไม่ถึงเดือน โดน Apple แย่งไปเฉย สงสาร AMD เลย
ผมยังไม่ค่อยอยากฟันว่า M1 เร็วกว่า R9 ใน single core นะครับ
อย่างน้อย Cinebench R9 ยังชนะไปร้อยกว่าแต้ม (และ M1 ได้คะแนนเท่า Intel ตัวล่าสุดนะ)
TDP ต่างกันกี่เท่าคับ ตัวนึงจิบไฟเล็กๆ จริงๆถ้าพื้นฐานคอร์เดี่ยวมันดี อยากจะอัดไป 64 คอร์ก็อาจจะแรงกว่าเป็นทุ่งก็เป็นได้
ผมคิดว่าผมเทียบแต่ single-core performance นะครับ (ไม่ได้เทียบ performance/watt) ซึ่งผมว่าแอปเปิ้ลเองก็ไม่ได้ตั้งใจจะมาวัดกันตรง performance ตรง ๆ หรอก ไม่งั้นคงเปิดตัวด้วย Mac Pro ละ
ถ้าจะวัดชิพที่ TDP ใกล้ ๆ กัน ก็ได้ครับ Intel 1165G7 (28W TDP) ได้คะแนนสูงกว่า M1 อยู่ 10 คะแนนครับ
เหมือนมีคนบอกว่าการสอบไม่สามารถวัดคุณค่าความเป็นคน ผมเห็นด้วย 100% ครับ
แต่มันก็วัดผลได้ในระดับนึงแหละครับ ส่วนในชีวิตจริงก็น่าจะขึ้นอยู่กับงานที่ทำมากกว่า แต่ขึ้นชื่อว่าแอปเปิลแล้ว การ optimize softwareให้ดึงศักยภาพ Hardware ของตัวเองได้เต็มที่ผมว่าเรื่องนี้เค้าถนัดแหละครับเพราะงั้นผมว่า m1 แอปเปิ้ลทำออกมาได้เหมาะกับเค้าจริง ๆ แหละครับ Task บางอย่างอาจจะแรงกว่า R9 ได้จริง ๆ นะครับ อิอิ เช่น Render งาน ผ่าน Finalcut แรงกว่า R9 ที่ใช้ Premier pro
มีชีวิตจริงให้เห็นเต็มบน Youtube เลยครับตอนนี้ โดยเฉพาะพวกระดับโปร เอา Mackbook Air M1 ไปทดสอบกันสนุกสนาน เริ่มต้นจากเม้นท์นี้ก่อนก็ได้ครับ แล้วคุณก็ไปหา relaterd video เอาเอง มีเยอะ
M1 Entry Level แต่ทำวงการ x86 เครียดเลย ถ้าตัว High Performance มาจะเป็นยังไงนะ
Apple โฆษณา cpu ตัวเอง ใน iphone และ ipad เป็น cpu desktop class มานานหลายปีแล้ว และโฆษณาว่า cpu ที่ใช้กับ ipad แรงกว่า notebook ทั่วๆไปมานานแล้วเหมือนกันเพียงแต่ตอนนั้นมันยังไม่เห็นภาพ ว่ามันแรงกว่ากันยังไง
MS เคยพูดประมาณว่าเวอร์ชั่น ARM ไม่มีขายแยก
ดังนั้นคิดว่า MS คงสวนกลับไปว่า "เราก็รอ Apple มาซื้อไป" เหมือนกัน
Apple M1 SoC ยังมีปัญหาเรื่อง Ram บนตัว Chip Upgrade ไม่ได้อยู่นะครับ ถ้า 16GB ไม่พอใช้ ก็ไม่มีทางเลือกอื่นให้เลือกเลย แล้วก็ในเมื่อ Office ไปอยู่บน Cloud แล้ว คือไม่ต้องลง x86-x64 บนเครื่องก็ได้ ใช้ Office.com เปิด Files บน Onedrive ได้เลย ... ยังจะ Boot Camp ไปทำไม ? ยกเว้นเสียแต่ว่า macOS มันยังไม่ดีจริง บางอย่างมันยังสู้ Windows ไม่ได้
Mac รุ่นหลังๆรู้สึกว่าก็จับ RAM ยัดบน board ครับ เพิ่มไม่ได้เหมือนกันครับ ดังนั้นที่ว่าข้อเสีย M1 เพิ่ม RAM ไม่ได้ก็ไม่ถูกซะทีเดียว เพราะแต่เดิม Apple ก็ไม่ให้เพิ่มเองอยู่แล้วครับ
ก็ต้องบอกว่ามันเป็นจุดอ่อนที่มีมานานแล้วและแอปเปิ้ลก็ไม่ได้อยากแก้ซะด้วยครับ
เป็นสาเหตุนึงที่สายโปรย้ายกลับมาฝั่งพีซีเหมือนกัน
ตอนนี้ผู้ใช้เพิ่มได้เองบางรุ่นคือ iMac 27 นิ้ว และ Mac Pro ครับ มันก็เป็นไปได้ว่าอนาคตผู้ใช้งานอาจเพิ่มแรมเองไม่ได้ ซึ่งนั่นจะทำให้ผู้ใช้สาย Mac Pro มีปัญหาแน่
Mac รุ่นหลังๆ ที่ว่า มันสั่งเพิ่มแรมได้เกิน 16GB ตอนซื้อไงครับ แต่เครื่องที่ใช้ M1 ตอนนี้มันได้เท่านี้
iPAtS
ใช่ครับ ที่ผมพูดถึงเพิ่มเองไม่ได้คือซื้อมาแล้ว จะมาเพิ่มที่หลังเองไม่ได้ส่วน max ของ M1 ตอนนี้ที่ 16GB ก็ต้องดูต่อไปว่าอนาคตจะ custom ได้เพิ่มหรือเปล่า
ต่อไป เวลาจะซ์่อ ก็ต้องพิจารณาดีๆนะ ว่าจะเอามาทำอะไร ทำงานหนักไหม แล้วก็จัดไปหนักๆ ถ้าซื่อมาแล้วสเปคมันน้อยก็ต้องรอรุ่นต่อไป หรือไปซื้อใหม่
เพราะ office บน mac มันห่วยไงครับ
กิน resource เยอะ หน่วง (spec เดียวกัน bootcamp ใช้บน windows ลื่นๆ ใช้บน macOS หน่วง)
macro vb interface ยังเป็นแบบเก่า ใช้แล้วพังๆ
แต่เห็นมีคน post ผล test กับ office แล้วนะ ผมเพิ่งดู อันนี้ ไปอันเดียว
Microsoft พลาดอยู่อย่างคือ ออก Win ARM มา แต่ไม่ให้ตัว transition มาด้วย ใครอยากใช้โปรแกรมก็ต้องหา native ARM เช่น office ไป ต่างกับ Apple ที่ออก macOS ARM แล้วออก Rosetta 2 มา transition ให้เนี้ยะ มันแสดงถึงความจริงจังกับความแตกต่างของการตลาดเป้าหมายมากๆเลยนะ
ผมก็ว่าอย่างนั้นเหมือนกัน แต่ก็อาจเป็นที่ระบบของ Apple ค่อนข้างปิด จำกัดในหลายอย่าง แลกกับการควบคุม พัฒนา และผลักดันระบบใหม่ของตัวเองให้ลูกค้าใช้งาน โดยเฉพาะ MacOS และ iOS ที่ลงเครื่องอื่น (แบบถูกกฎหมาย) ไม่ได้นอกจากของ Apple เอง
ส่วน Microsoft Windows เป็นระบบเปิดชนิกที่ว่าต้องลงได้หลายรูปแบบการตั้งค่าของอุปกรณ์และระบบของผู้ใช้งาน ที่แม้จะมีเครื่องตัวเองออกมาก็ตาม แต่ก็ไม่มีมาตรฐานกลางที่ควบคุมเรื่อง Driver และ Hardware เหมือน Android ที่มีปัญหาแบบนี้เหมือนกัน พอเป็น WoA ยิ่งแล้วใหญ่ แค่ Driver อุปกรณ์ทั่วไปอย่าง Wireless Ethernet USB Dongle ก็ยังไม่มีเลย
ที่แย่กว่าก็ Software ที่มีออกมาหลายเจ้า ก็ยังทำให้ใช้งานบน ARM ทั้งหมดไม่ได้ เพราะ MS ตอนนี้มีแค่ x86 emu และแอพ ARM native (ที่ยังมีน้อยเอามากๆ จากเจ้าอื่น แม้จะมี SW ของ MS ก็ตาม) ที่ใช้งานได้บน WoA แต่ x86-64 ซึ่งตอนนี้ยังใช้งานไม่ได้ มีแต่ข่าวจาก MS ว่าจะมาเร็วๆ นี้ ก็ได้แต่รอวันที่จะได้ใช้งานจริงจังเสียที
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
ผมเชื่อว่าที่ Rosetta2 ทำได้ดีขนาดนี้เพราะ framework ที่ apple ทำไว้ได้ดีและเตรียมการมานานพอสมควร