ธนาคารไทยพาณิชย์รายงานถึงการโจมตีของกลุ่มแฮกเกอร์ที่ส่ง SMS ล่อให้ลูกค้าเข้าเว็บ phishing เพื่อหลอกเอารหัสผ่านและ OTP สำหรับบริการแอป SCB Easy เพื่อไปขโมยเงิน โดยตอนนี้ทางธนาคารได้รับเรื่องร้องเรียนรวมกว่า 200 ราย คิดเงินความเสียหายรวมกว่า 30 ล้านบาท และธนาคารประกาศชดเชยความเสียหายทั้งหมด
ทางธนาคาร งดบริการให้ลูกค้าติดตั้งแอปใหม่ด้วยตัวเองตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว โดยระหว่างนี้หากต้องการติดตั้งแอปลงบนโทรศัพท์เครื่องใหม่จะต้องเดินทางไปยังสาขาธนาคารเสมอ
ทางธนาคารยังเตือนว่าไม่มีนโยบายส่งข้อความทั้ง LINE, SMS, หรืออีเมลล์ เพื่อขอข้อมูลส่วนตัวหรือรหัสผ่าน และขอให้ลูกค้าเพิ่มความระมัดระวัง
ที่มา - จดหมายข่าว SCB
Comments
รู้สึกเหมือนมาหักหน้ากับอีก บ. ที่เป็นข่าวอยู่
ดีใจกับผู้เสียหายด้วย ขอให้ได้เงินคืนโดยเร็ว
ความเสียหายยังไม่มาก รับผิดชอบไปเลยน่าจะง่ายกว่านั่นแหละ
น่าจะทำประกันไว้แล้วด้วยมั้ง เดาอ่ะนะ แม้จะไม่น่าเกี่ยวก็เถอะ
จริงๆ ไม่ได้เป็นความรับผิดชอบของ SCB หรือเปล่าครับในเคสนี้?
[S]
นั่นสิครับ ทำไมต้องรับผิดชอบแทนด้วย ไม่เข้าใจ?
ในมุมมองของบริษัท มันอาจจะคุ้มก็ได้ครับ อย่างน้อยภาพลักษณ์เชิงบวกก็มาแล้ว กับ 30 ล้าน มันอาจจะถูกกว่ากว่างบ PR ในแต่ละปีก็ได้
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
หลายคนก็คงมีท.สมคบคิดครับ ถ้าไม่ผิดแล้วจะรับผิดชอบทำไม ยกเว้นมีส่วนได้ส่วนเสียอะไรก็ว่าไป
ไม่ใช่ให้ท้ายประชาชนเหรอครับ แบบนี้เกิดโดนโจรกรรมไปเรื่อยๆเราก็เรียกร้องกับธนาคารได้
แต่การชดเชยให้ลูกค้า ไม่ได้แปลว่าธนาคารจะไม่ติดตามผู้ก่อเหตุนี่ครับ การกระทำของธนาคารเพื่อลดผลกระทบต่อลูกค้าในฐานะผู้ให้บริการไม่ใช่เหรอ ธนาคารเป็นผู้เสียหายด้วย และไม่ใช่เจ้าหน้าที่ด้วย ไม่น่าพูดเชิงกล่าวโทษ และโยนเป็นความรับผิดชอบของธนาคารนะครับ
ไม่น่าพูดเชิงกล่าวโทษ และโยนเป็นความรับผิดชอบของธนาคารนะครับ
target คือประชาชนที่ไม่ศึกษาข้อมูลก่อนใช้งานครับ
คือต้องการลงโทษเหยื่ออีกรอบว่างั้นเถอะ
รู้จัก victim blaming มั้ยครับ ผมเห็นด้วยนะว่าคนต้องเรียนรู้การใช้งาน แต่กลโกงมีสารพัด พัฒนาตามยุคสมัย หลายคนที่โดนก็ไม่ใช่คนที่อยู่ในแวดวงเทคโนโลยีครับ และแม้แต่ในโลกแห่งความจริงก็มีคนโดนหลอก โดนต้มสารพัด
อย่าโทษเหยื่อเลยครับ
มันไม่ใช่ว่าธนาคารจ่ายเงินให้คนแล้วจบไง เค้าไม่ได้มีเงินไว้โปรยแจกแบบนั้น ฝั่งธนาคารก็ต้องไปหาตัวคนทำแล้วเล่นงานต่อ คือโจรไม่ใช่ว่าขโมยเงินได้แล้วเอาไปใช้สบายใจ ปล่อยให้เหยื่ออย่างธนาคารรับกรรมไป
การที่ธนาคารออกมารับผิดชอบเพราะเค้าเป็น "ธนาคาร" ซึ่ง policy เค้าควรจะดูแลเงินในคลังของลูกค้าอยู่แล้วไง
ถ้ามีโจรกรรมเรื่อยๆ ก็เรียกร้องกับธนาคารได้ครับ แล้วธนาคารบ้าอะไรจะปล่อยให้ชื่อตัวเองเอาไปใช้หลอกลวงคนอื่นได้เรื่อยๆ ตัวธนาคารเองเป็นผู้ให้บริการ ก็ต้องปรับตัวหาวิธีเอาตัวรอดจากการโจรกรรมไปเรื่อยๆเหมือนกัน ไม่ใช่ตั้งมาตรฐานไว้ทื่อๆแล้วบอกให้คนใช้ไปแก้ปัญหาเอง
ลองถามตัวเองดูสมมติประเทศไทยมีธนาคาร 2 เจ้า เจ้านึงเจอกรณีแล้วชดเชยให้ กับอีกเจ้านึงให้ประชาชนไปจัดการเอง คุณจะเอาเงินฝากไว้ที่เจ้าไหน?
อาจจะมองเป็นเหมือน service นึงก็ได้ครับ ไม่ว่าจะความผิดใคร แต่สุดท้ายมันก็เป็นอุปสรรคให้ลูกค้าไม่มั่นใจ ไม่เข้ามาใช้งาน ยอมเสียเงินสร้างความมั่นใจเพื่อดึงลูกค้าเข้ามาใช้งานระบบพวกนี้ซึ่งเป็นระบบอัตโนมัติหรือ self service อาจจะคุ้มกว่าระยะยาวลูกค้าใช้บริษัทตามสาขา ซึ่งต้องมีค่าเช่า ค่าจ้างพนักงาน ได้ภาพลักษณ์ดูแลลูกค้าด้วย
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
จริงๆแล้ว มันก็เหมือนเป็นหน้าที่นะ อย่าง
บัตรเครดิต บัตรเดบิต โดนดูดตังไปถ้าเจ้าไหนบอกไม่ใช่ความผิดธนาคาร
ลูกค้าหายหมดแน่นอน
การเป็นเจ้าของบริการ ต้องจัดการความเสี่ยงต่อลูกค้า เราว่าเป็นหน้าที่ ที่เขาต้องจัดการ และดูแลต่อ
เช่น grab ได้อาหารไม่ครบ หรือลูกค้าเท riderการรับ refund ในระบบต่างๆ
ผมเดานะ
1. เป็นการ PR อย่างหนึ่ง
2. รักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ คือมันไม่ใช่ทุกคนจะเข้าใจเหมือนกันว่าธนาคาารไม่ผิดอะครับ คนไม่เข้าใจเลย และพร้อมจะย้ายออกมันมีอยู่ครับ เชื่อว่าธนาาคารไม่ยอมเสี่ยงว่ามันจะมีอยู่น้อยหรือเยอะ ไม่เหมือนดีแทคที่เมียประธานของออกมาไล่ลูกค้า ตอนนี้ลูกค้าคงลดไปเรื่้อย ๆ (ผมก็จะเป็นหนึ่งในนั้น)
3. ธนาคารไม่ได้เสีย 30 ล้านเต็ม ๆ หรอก เพราะเชื่อว่าเดี๋ยวก็มีทางให้จับได้ คงได้คืนมาบ้าง
4. ดีกว่าให้ลูกค้า 200 คนไปฟ้องเอาเอง ซึ่งสุดท้ายธนาคารก็มาปวดหัวกับการที่ลูกค้าและตำรวจติดต่อมาขอโน่นนี่นั่นเป็น case by case (case นึงอาจติดต่อไปหลายรอบอีก) สู้ธนาคารรับผิดชอบให้ลูกค้าเอง แล้วธนาคารเป็นคนฟ้องเอง ย่อมจัดการเอกสารหลักฐานได้ง่ายและเร็วกว่า รวบตึงส่งหลักฐานก้อนเดียว มีอยากได้อะไรเพิ่มบอกมาทีเดียว แบบนี้น่าจะดีกว่าเยอะ
เทคโนโลยีไม่ผิด คนใช้มันในทางที่ผิดนั่นแหละที่ผิด!?!
เพราะบริษัทเขามีคุณธรรมจริยธรรมที่ดี เมื่อมองว่าสามารถช่วยเหลือลูกค้าที่เสียหายได้โดยส่งผลกระทบต่อบริษัทในขอบเขตที่รับได้
ลองนึกถึงใจคนที่เขาเสียเงินเก็บที่มีค่ามากสำหรับบางคน คนไทยหลายๆคนมีน้ำใจเพราะเป็นเรื่องที่ช่วยคนอื่นได้ไม่จำเป็นต้องเกี่ยวข้องได้ๆ แต่นี่เกี่ยวข้องโดยตรงถึงไม่ผิดแล้วไม่ควรช่วยหรือ?
ส่วนบริษัทที่ปล่อยให้ลูกค้าตามมีตามเกิดฟ้องร้องเพราะทีม กม ก็มีปล่อยให้เขาทำไป ก็เป็นสิทธ์ของบริษัทนั้น ก็คงว่าอะไรเค้าไม่ได้แบบนี้หลายๆคนชอบก็ไม่ได้ว่าอะไร
โดนเยอะมาก
ธนาคารไม่ผิดนะแบบนี้
ถ้าเป็นแบบนี้ เวลาสาขาธนาคารลดลงคนจะลำบากขึ้น ยกเว้นให้ใช้ วีดีโอคอลยืนยันตัวตนได้
30ล้าน/200 เฉลี่ยรายละ 150,000฿
ไม่น้อยเลย
อาจมีลูกค้ารายใหญ๋ที่ดึงค่าเฉลี่ยอยู่? ?
เข้าไปเจอเงินน้อยๆ คงกดผ่านๆ ไป...
ธนาคารไม่ผิดและไม่จำเป็นต้องรับผิดชอบ
แต่ถ้าเหตุการณ์นี้ทำให้ลูกค้าธนาคารลดลง ยังไงก็ต้องทำอะไรซักอย่างนั่นแหละ
จิตวิทยา + ภาพลักษณ์ + Covid 19เทียบกับเงินที่เสียไป ก็คุ้มแล้ว