Ming-Chi Kuo นักวิเคราะห์สินค้าแอปเปิล ที่มีประวัติให้ข้อมูลสินค้าใหม่แอปเปิลได้ค่อนข้างแม่นยำ ออกรายงานล่าสุดว่าด้วย iPhone ที่จะวางขายในปีนี้ซึ่งตอนนี้เรียกกันก่อนว่า iPhone 13 ไปจนถึง iPhone รุ่นที่จะขายในปีต่อ ๆ ไป มีรายละเอียดดังนี้
iPhone 13หรือ iPhone รุ่นที่จะออกมาในปีนี้
- มี 4 รุ่นย่อย หน้าจอเท่ากับ iPhone 12 ทุกประการ ได้แก่ iPhone 13 mini, iPhone 13, iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max
- ทุกรุ่นใช้พอร์ต Lightning เหมือนเดิม
- รอยบากด้านบนหน้าจอ (notch) มีขนาดเล็กลง
- รุ่น Pro หน้าจอ 120Hz เทคโนโลยี LTPO
- รุ่น Pro อัพเกรดกล้อง Ultra-wide เป็น f/1.8 และ Autofocus
- ยังไม่มีแผนนำ Touch ID ใส่กลับเข้ามา
- แบตเตอรี่ความจุเพิ่มขึ้น ทำให้เครื่องมีน้ำหนักมากขึ้น
Kuo ยังให้ข้อมูลเกี่ยวกับ iPhone รุ่นจะวางขายในปี 2022 เป็นต้นไปด้วย
- iPhone SE 5G ใช้ดีไซน์จอ 4.7 นิ้ว แบบเดิม เพิ่มเติมคือรองรับ 5G วางขายปี 2022
- iPhone 14 รอยบากหน้าจอจะเปลี่ยนเป็นกล้องหน้าแบบเจาะรู (punch hole) เหมือนซัมซุง Galaxy
- อาจออก iPhone หน้าจอพับได้ในปี 2023 ขนาดจอ 7.5-8 นิ้ว
- iPhone รุ่นปี 2023 จะเป็นหน้าจอเต็มเครื่อง ไม่มีรูกล้องหน้าแล้ว
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ลือมา 2 ปีแล้วมั้งหน่ะ
555555555
Lighting Port....เห้อ
งั้นรอ 2023 ค่อยเปลี่ยน iphone 11 ละกันงั้น O-o
iphone 14 มีรูกล้องหน้าปี 2023 ไม่มีรูกล้องหน้า
iphone 14 = ออกปี 2023 ?
ถ้าจากปีืที่เปิดตัวน่าจะเป็น Iphone 15 พอดีครับ
แต่จริงๆ มาแบบนี้่ 14 ก็อาจจะน่าใช้ละ แต่ผมรอพวก touch ID กลับมาขี้เกียจ
กดรหัสตอนใส่ mask มากช่วงนี้
เปิดตัวสิ้นปี ผมนับผิดจริงๆ 555
เห็นว่า Jon Prosser บอกว่า notch ที่เล็กลงนั้น ไม่ใช่เล็กลงในด้านยาวนะ แต่เป็นด้านกว้าง อันนี้ไม่ชัวร์ว่าสุดท้ายเป็นยังไง
Coder | Designer | Thinker | Blogger
น่าจะประมาณนั้นครับ แบบเลื่อน ear piece ขึ้นไปตรงขอบ แล้วขยับกล้อง กับ dot projector เข้ามาแทน
น่าจะประมาณนั้นครับ แบบเลื่อน ear piece ขึ้นไปตรงขอบ แล้วขยับกล้อง กับ dot projector เข้ามาแทน
Lightning forever!
รายได้จาก Lightning คงเยอะมาก จนยากจะตัดออกเลยสินะ
ตอน MBP บรรยายสรรพคุณ USB-C ไว้อย่างดี แต่ iPhone ก็ยังไม่เปลี่ยนไปใช้ซักที
Lightning ยังอยู่สินะ
???
lightning ไม่ดีตรงไหน... ถ้าจะผิด ผิดตรง iphone ไม่ทำ controller usb3 ให้ port ligtning มากกว่า
จากประสบการณ์ที่ใช้ usb-c มา ไม่ชอบ ลิ้นมันเลย กับ port เวลาเสียบมืดๆ นี่ชอบขูดเครื่องจริงเชียว กลัวเครื่องจะถลอก
อีกอย่าง สาย lightning นี่เต็มบ้าน usb-c เปลี่ยนที่ต้องหาเพิ่มอีกหลายเส้นเลย
สาย usb c ดี ๆ ถูก ๆ หาง่ายกว่านะครับ
สาย Lightning มักจะแพงกว่าสาย USB-C ครับ เนื่องจากค่าลิขสิทธิ์ที่แอปเปิลเก็บกับผู้ผลิตสาย แถมเอาจริง ๆ ตอนนี้หาสาย USB-C ได้ง่ายกว่าแต่ก่อนเยอะมาก (เผลอ ๆ อาจจะง่ายกว่า Lightning ด้วยซ้ำ) เพราะโทรศัพท์หลายยี่ห้อก็เริ่มย้ายมาใช้ USB-C กันหมดแล้ว
ส่วนประเด็นสุดท้ายที่เขียนมาเนี่ย เอาจริง ๆ มันก็ไม่ต่างกับตอนสมัย iPhone 5 เปลี่ยนจากพอร์ต 30-pin ที่ใช้ใน iPod เป็นต้นมามาเป็น Lightning คนก็โวยวายแบบนี้เหมือนกันแหละ แต่สุดท้ายเขาก็ซื้อสาย Lightning มาใช้อยู่ดี
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ข้อดีกว่าคือ compatibility ครับ
ผมซื้อ iPad มาใช้เพราะมันเปลี่ยนมาใช้ Type C ครับ ผมขี้เกียจหาสายชาร์จแยกครับ ปัจจุบันมีสาย 10 กว่าเส้น วางทุกจุดที่มีมักหยิบใช้อุปกรณ์อื่นๆรอบตัวเราทุกวันนี้ มีแต่ Type C ทั้งนั้นแล้วครับ (ยกเว้นอุปกรณ์เก่าจะมี microUSB อันนี้ก็รำคาญเหมือนกันอยากเปลี่ยนทิ้ง กำลังทยอยโละทิ้ง)
ไม่ว่าจะ PC หรือ Mac ก็ใช้ Type C ทำไมเราต้องมีสายแปลกแยกที่ใช้กับอย่างอื่นไม่ได้ทั้งที่มันมีคุณสมบัติไม่ต่างกันด้วยล่ะครับ หาซื้อก็ง่ายกว่า ราคาก็ถูกกว่า
USB 3 เคยทำใน iPad Pro รุ่นเก่าๆ แล้วก็ลาจากไป USB-C เลย ไม่เข้าใจทำไมไม่ยกมาใช้ในไอโฟนด้วยนะ
ผมชอบการออกแบบและตัวหัว lightning มากกว่าจริงๆ นั่นแหละครับ แต่มันใช้อยู่เจ้าเดียวแบบงงๆ ด้วยไงครับ
แล้วก็ ผมไม่แน่ใจว่าหัว lightning มันจะเหมาะกับแรงดัน 20 V ไหมด้วยนี่สิ
เวลาไปไหนมาไหน อยากพกแค่ usb-c เส้นเดียวครับ แบบ powerbank เปิดมาเป็น usb-c หรือสายชาร์จ nb เป็น usb-c พอมือถือแบตจะหมด ก็ถอดมาเสียบแทนเลย อะไรงี้
แต่จริงๆ ผมก็ชอบหัว lightning นะ มันเสียบง่ายกว่า usb-c ที่ต้องเล็งให้ตรงหน่อย
เอาจริง ๆ นะผมก็ใช้มือถือหลายเครื่องทั้ง Android และ iPhone
iPad Pro เปลี่ยนมาใช้ USB-C ละผมไม่ชอบเลย แต่ยังเข้าใจได้ว่ามันเป็น device ใหญ่ อาจจะต้องต่ออุปกรณ์ที่ต้องการ transfer rate สูง
แต่ผมว่าการออกแบบ Lightning ดีกว่าสำหรับ smartphone นะ ไม่ต้องกลัวทำแท่งตรงกลางหักแบบ USB-C port (ใช่ ผมเคยทำหัก) มันเป็นแค่แท่ง เสียบรู แท่งพังเปลี่ยนแท่ง ไม่ใช่เอาท่อไปเสียบท่อที่มีแท่งอยู่กลางท่อแบบ USB-C
+1
เป็นจุดแข็งของ lightning เลย
อีกเรื่องคือแน่นไม่หลวม
เครื่องเก่าเก่า เอาไม้จิ้มฟันแคะฝุ่นออก
ก็เชื่อมต่อดีเหมือนเดิม
ฝั่ง USB ตั้งแต่ทำมาคือมีแท่งอยู่ข้างในเสมอ ซึ่งผมว่าเค้าก็ทำเพื่อปกป้องหน้าสัมผัสนั่นแหละครับประเด็นหลักที่ผมชอบความแน่นและแข็งแรงของ Lightning แต่ยังไม่รู้ว่ามันดีสุดหรือยังก็เพราะตัวนั้นแหละ แบบ ถ้ามันเป็น 20V (ที่ USB-C รองรับ) แล้วมันอันตรายแค่ไหน แม้ว่าจะพยายามให้ระบบมันจ่ายแค่ 5V ตลอดเวลาจนกว่าจะคุยกับอุปกรณ์ที่รับไฟว่าจะใช้ 20V ก็เถอะครับ
iPad Air ผมใช้ USB-C Adapter แบบแปะติดตัวเครื่องโดนเคสดันนิดหน่อย Adapter หลุดอย่างง่าย
ช๊อตนี้แบบภาพพอร์ต Lighning ลอยมาในหัวเลยครับ แน่นๆ แบบนั้นคงไม่หลุดง่ายๆ
นี่ถ้าเอาเรื่อง lightning ใส่ในหัวข้อข่าวแต่แรก ไม่จำเป็นต้องเปิดอ่านต่อเลย 55
ถ้ายังมีอยู่มันไม่ใช่เรื่องแปลกไง แต่ถ้าไม่มีมันจะแปลก และจะเป็นข่าวใหญ่อย่างกับเป็นนงัตกรรมใหม่
อยากได้มากแต่ไม่มีเงิน เศร้า
Touch ID เอากลับมาได้แล้วนะ ใส่ที่ปุ่ม Power ก็ได้ที่ Apple California ไม่มีคนใส่ Mask หรือไง
ใส่ Mask ตอนนี้ก็ Pay-2-Win ครับ ซื้อ Apple Watch มาเพื่อปลดล็อค iPhone เอา (รอ Update หน้าเมื่อไรจะมาซะที)
น่าจะในเดือนนี้แหละครับ เพราะเห็นว่าจะมี iPad Pro ตัวใหม่เปิดตัวเดือนนี้
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ผมมีครับ
แต่ Unlock Watch ครั้งแรก ก็ต้อง Unlock ที่หน้าจอ iPhone ก่อนอยู่ดีครับ ยังไงก็หนีไม่พ้นถกหน้ากาก หรือไม่ก็กรอก Passcode ที่โทรศัพท์ หรือไม่ก็ Watch
ผมก็ unlock watch ครั้งแรกแค่ก่อนออกจากบ้านหนะครับ ใส่ข้อมือปุ๊บก็ unlock ไปก่อนเลย หลังจากนั้นออกจากบ้านก็ไม่ต้องถกหน้ากากแล้วครับ
Type C ล้วงข้อมูลง่าย
iPad Air และ iPad Pro ใช้ USB-C นะครับ แล้วคุณคิดว่ามันล้วงง่ายหรือไม่มีกระบวนการทางซอฟต์แวร์ในการเข้ารหัสการส่งข้อมูลระหว่างกันได้หรือยังไงครับ?
Coder | Designer | Thinker | Blogger
ทฤษฏีอะไรครับเนี่ยย 555
ชอบ lighting มากกว่า usb-c
คิดเหมือนกันครับ หายืมง่ายกว่าด้วยสำหรับผม
สงสัยรอ type-d
รอ touch id + usb-c ซึ่งความหวังก็ยังห่างไกล เป็นไปได้หรือเปล่าก็ไม่รู้ T_T
ชอบ lightning มากกว่าเหมือนกัน เล็กและแน่น แต่ก็นั่นแหล่ะ ใช้อยู่เจ้าเดียว