Kosta Eleftheriou ผู้สร้างแอปคีย์บอร์ด FlickType ที่ออกแบบมาสำหรับคนที่มีปัญหาด้านการมองเห็นหรือตาบอด ประกาศหยุดพัฒนาคีย์บอร์ดบน iOS หลังแอปเปิลบล็อคอัพเดตโดยให้เหตุผลว่าแอปของเขาต้องขออนุญาต full access จากผู้ใช้ถึงจะใช้งานได้ ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะแอปของเขาออกแบบมาให้ใช้งานในโหมด VoiceOver ได้ และต้องใช้สิทธิ์ full access สำหรับการพิมพ์แบบ tap typing ซึ่งแอปจะคาดเดาคำที่ผู้ใช้ต้องการพิมพ์จากตำแหน่งที่ผู้ใช้สัมผัสหน้าจอเท่านั้น
Eleftheriou ระบุว่าผู้ทดสอบแอป คงไม่ได้ทดสอบด้วยการเปิด VoiceOver เลย เขาพยายามติดต่อทีมช่วยเหลือของ Apple ถึง 9 ครั้ง แต่ก็ไม่สามารถขอกลับคำตัดสินแม้ว่าเมื่อ 3 ปีก่อนเขาก็เจอปัญหาเดียวกัน และยื่นคัดค้านจนสามารถปล่อยอัพเดตได้
Eleftheriou เองมีปัญหากับ Apple หลายครั้ง ก่อนหน้านี้เขาเคยร้องเรียนว่า มีแอปเลียนแบบแอปของเขา รวมถึงแอปปลอมอื่นๆ เต็ม App Store ไปหมด แต่ Apple ก็ไม่จัดการสักที
บริษัท Kpaw ของเขายัง เพิ่งยื่นฟ้อง Apple เมื่อเดือนมีนาคม ที่ผ่านมา โดยกล่าวหาว่าปัญหาต่างๆ ที่แอปเขาต้องพบ มาจากการที่เขาไม่ยอมขายแอปให้ Apple ทำให้ Apple ตั้งใจไม่แก้ปัญหา เพื่อหวังให้เขายอมขายแอปให้ในราคาถูก
เขาระบุเพิ่มเติมว่าสุดท้ายแล้ว แค่กลับคำตัดสินในเรื่อง full access ให้กับแอปเขา คงยังไม่พอที่จะแก้ปัญหาทั้งหมด แต่ Apple ควรออกมายอมรับสักทีว่าสร้างปัญหาให้กับนักพัฒนามากมาย ซึ่งการยอมรับความผิดพลาด น่าจะเป็นก้าวแรกที่ดีในการลดและแก้ไขปัญหาที่คล้ายคลึงนี้กันต่อไปในอนาคต
ที่มา - ArsTechnica
Comments
ผมว่าไม่น่าเป็นเพราะ apple จงใจหรอกนะ ปัญหาเรื่อง app ไม่ผ่าน review ขนาดว่าเป็นการ update version แล้วก็ยังเจอ reject ด้วยเหตุผลเดิมก่อนหน้านี้ ผมว่าน่าจะเจอกันหลายคน
แล้วก็ติดต่อยาก พอคุยอธิบาย email เสร็จ พอแก้แล้วส่งไปใหม่ ก็ติดเรื่องเดิมบ้าง เรื่องใหม่บ้าง (เพราะเจอคน review ใหม่) ต้องมานั่งอธิบายใหม่หมดตั้งแต่ต้น แล้วส่งใหม่ แล้ววนลูป จนไปเจอพวกขี้เกียจสักคนปล่อยผ่าน ก็จะผ่านแบบงงๆ
(บางครั้งเคยไม่แก้อะไรเลย แก้คำอธิบายแล้วส่งไปใหม่ ผ่านเฉย)
เคส Kpaw น่าจะแตกต่างจากเคสนักพัฒนาทั่วไป เพราะตามข่าวเคยมีเรื่องที่ Apple สนใจจะซื้อแอปนี้ถ้า Kpaw จะระแวง Apple ก็คงไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะก็ยื่นตั้ง 9 รอบนี่เนอะ
ส่วนตัวแล้วเชื่อว่า จากมุมมองของ Apple เอง คงมีผู้พัฒนา "ส่วนน้อย/บางส่วน" เท่านั้นที่มีปัญหา
คนขี้ลืม | คนบ้าเกม | คนเหงาๆ
"เลิกทำ" ซ้ำครับ
ผมนึกว่าจงใจเล่นคำแบบ เลิกทำของเลิกทำ
แล้วเดี๋ยวความสามารถของ FlickType ก็จะมาอยู่ใน iOS Version ถัดไป ....
บล็อคอัพเดทเพื่อกดราคา เจอสวนด้วยท่าจูงใจให้ซื้อด้วยการฟ้องแม่งเลย
ถ้า Apple กล้วทำจริงก็เข้าข่าย Hostile buyout เต็ม แต่น่าจะฟ้องได้แค่เรื่องบล็อคอัพเดตเพื่อหวังผลมากกว่า
ความล้มเหลว คือจุดเริ่มต้นสู่ความหายนะ มีผลกระทบมากกว่าแค่เสียเงิน เวลา อนาคต และทรัพยากรที่เสียไป - จงอย่าล้มเหลว
เหมือนกรณีร้านขายปลีกรายใหญ่กลั่นแกล้งบีบผู้ผลิตที่มีอำนาจต่อรองต่ำให้ขายไม่ออกจนเจ๊ง แล้วก็เข้าเทคโอเวอร์
ไม่รู้ Apple คิดแบบนี้จริงมั๊ย แต่ถ้าจริงนี่ ...สุดอะ