Satya Nadella ซีอีโอไมโครซอฟท์ให้สัมภาษณ์กับ The Verge เนื่องในโอกาส เปิดตัว Bing โฉมใหม่พลัง AI ซึ่งเขามั่นใจว่าจะช่วยให้ Bing แข่งขันกับกูเกิลได้อย่างสูสีมากขึ้น และชิงส่วนแบ่งตลาดมาจากกูเกิลได้
Nadella ยอมรับว่ากูเกิลครองตลาด search ด้วยส่วนแบ่งที่เยอะมาก เปรียบได้กับเป็นลิงกอริลลาตัวใหญ่ ตัวเขาทำเรื่อง search มาตั้งแต่ 20 ปีก่อน (Nadella เคยอยู่ในฝ่าย Online Services ของไมโครซอฟท์) และรอจังหวะนี้มานานมาก หลังจากเขาได้ลองใช้ OpenAI เขาก็พบว่ามันมาถึงแล้ว และคิดว่านวัตกรรมของ Bing รอบนี้จะช่วยชิงส่วนแบ่งตลาดจากกูเกิลได้
Nadella ยังยืนยันว่าโมเดลของ Bing เป็น "เวอร์ชันใหม่" (next-generation) แต่ไม่ยอมเรียกมันว่า GPT-4 โดยบอกว่าต้องรอ OpenAI แถลงข้อมูลเอง แต่ไมโครซอฟท์เรียกมันว่า Prometheus ที่ปรับแต่งให้เหมาะกับการค้นหามากขึ้น
เขายังเล่าถึงการปรับตัวของไมโครซอฟท์ในอดีต ว่าต้องยอมกัดฟันทิ้งธุรกิจเดิมที่ทำกำไรสูง เพื่อเข้าสู่ธุรกิจใหม่ที่ใหญ่ขึ้น แม้มีอัตรากำไรน้อยกว่าก็ตาม เขายกตัวอย่างว่าไมโครซอฟท์หันมาทำคลาวด์เพราะต้องปรับ Exchange server ให้เป็น Exchange service หรือธุรกิจเซิร์ฟเวอร์ที่กำไรสูง ก็ต้องหันมาเป็นคลาวด์ที่กำไรน้อยลง 4 เท่า การปรับตัวของ Bing ที่มีส่วนแบ่งตลาดน้อยแต่อัตรากำไรดี มาสู่ยุค AI ก็เป็นแบบเดียวกัน
ในประเด็นว่าการที่ Bing เปลี่ยนจาก search engine มาเป็น answer engine จะมีผลให้ส่องต่อทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ต่างๆ น้อยลงหรือไม่ เขายังตอบได้ไม่ชัดเจนนัก เขาบอกว่าทุกคนในวงการคงต้องเรียนรู้ไปด้วยกันว่าโมเดลธุรกิจใหม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร
Nadella ยังตอบคำถามเรื่องแบรนด์ Bing ว่าจะยังใช้แบรนด์นี้ต่อไป แม้ตอบแบบติดตลกว่าจริงๆ แล้วเราอยากเรียกมันว่า Azure Search 2023 ก็ตาม
ที่มา - The Verge
Comments
เห็นชื่อสั้นๆ แล้วขัดใจสินะ ถถถถถถ
อยากแนะนำ Satya ว่าBING+AZURE = บิงซู
555 อร่อยเลยครับ
จะมีผลให้ส่งต่อทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์
ใจเย็นน้า ใช่ว่าทั้งโลกจะใช้ภาษาอังกฤษ
ถูกต้องเลยครับ 55
WE ARE THE 99%
ภาษาอังกฤษก็มากกว่า80%ของตลาดเสิร์ซแล้วครับ
รอดูกันต่อไป
ดูท่าเขาไม่รู้ตัวเลยว่าบิงมันค้นหาในภาษาอื่นได้ห่วยแค่ไหน
ข่าวต่อไป และแล้ว Google ที่พัฒนา AI มานาน แต่รอจังหวะเปิดตัวก็....
เรื่องนี้ก็เป็นไปได้นะครับ
+1 เป็นไปได้ครับ ส่วนตัวผมคิดว่า บ. ที่น่าจับตาจริง ๆ คือ Google กับ Meta ครับ ทั้งสองบ.ทำ multilingual เก่งกว่า openai มากครับ อย่าง Google ปล่อย BERT ซึ่งต่อมาก็มีภาษาไทยด้วย รวมถึงโมเดลกับชุดข้อมูล และ Meta (Facebook) ก็เหมือนกันครับ ของเด็ดอย่าง fastText, RoBERTa, LASER Language-Agnostic SEntence Representations ที่ตอนนี้ยังเอาชนะโมเดลอื่น ๆ ได้สบาย
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
Meta ผมว่าห่วยแตกนะ แค่ search ของตัวเองยังไม่ค่อยเจอสิ่งที่ต้องการเลย
That is the way things are.
search ช่องค้นหาของ Facebook แย่จริงครับ แต่ในฝั่งวิจัยด้าน NLP ทั้ง Google กับ Meta แข่งกันดุเดือดมากครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
เปิดตัวได้ดีลงทะเบียนไปแล้ว ใช้จริงขอให้มันดีๆด้วยนะชิงส่วนแบ่งได้แน่ๆ
answer engine งั้นเหรอ? รู้สึกมองเห็นภาพอนาคตเลาๆว่าเวปต่างๆจะหาทาง block ai ไม่ให้เข้ามาหาข้อมูลไปตอบผู้ใช้แน่เลย เพราะไม่เกิดประโยชน์ต่างตอบแทนใดๆกับเวปเหล่านั้น หรือไม่ก็จะเกิดการฟ้องร้องอุตลุตแน่นอน
เห็นด้วยครับ ในมุมเจ้าของคอนเทนต์ ถ้าเปิดเว็บมา แล้ว search engine ไม่นำพาทราฟฟิคเข้าเว็บเลย แค่มาปาดข้อมูลไปตอบยูสเอง หลายเว็บไม่ยอมแน่ๆ
WE ARE THE 99%
"ทุกคนในวงการคงต้องเรียนรู้ไปด้วยกันว่าโมเดลธุรกิจใหม่จะมีหน้าตาเป็นอย่างไร" = จ้างคนเข้ามาทำ พอไม่workก็ปลดคน&ยุบทีม
โมเดลธุรกิจหมายถึงจะหาเงินจากบริการยังไงการจ้างคนมาทำนั้นทำกันทุกเจ้าอยู่แล้วเพราะไม่มีใครทำงานใหญ่คนเดียวได้
ดูเดโม่แล้ดว้าวเลยครับ มันเป็นเทคโนโลยีที่เปลี่ยนวิธีการทำงานของคนส่วนใหญ่ได้เลยนะ
ปกติเวลาทำวิจัยสักหัวข้อหนึ่ง กว่าจะค้นหา กว่าจะหาเว็บที่น่าเชื่อถือ กว่าจะ paraphrasing สรุปใหม่ แล้วแปะ source ใช้เวลานานมากทีละเว็บ ๆ
แต่ bing นี่คือสแกนเนื้อหาเป็นสิบ ๆ เว็บพร้อมกัน เรียบเรียงใหม่ แล้วแปะอ้างอิงให้เราเลย โคตรเทพ! น่าจะลดเวลาการทำงานเราได้เป็นวัน ๆ เลย
แต่ปัญหาคือมัน confidently lie นี่แหละ ข้อมูลบางอย่างก็มั่วแหล่งข้อมูลก็ไม่น่าเชื่อถือ ถ้าเราใช้แบบไม่มีวิจารณญาณตรวจงานมันอีกทีหนึ่งนี่เละแน่ ๆ
ผมนึกถึงสุภาษิตจีนอันหนึ่งเลย ที่บอกว่า"คนโง่แต่ขยันให้เอาไปตัดหัวทิ้ง"
เมือก่อน เท่าที่จำได้ ก็เหมือนจะนำกูเกิลอยุ่นะ ทำไมตกไปได้ขนาดนั้น yahoo ด้วย
ChatGPT สายมโนอะนะ ระวังเจอคำตอบแบบมโนล่ะ เคยลองเล่นแล้วแบบเหมือน copy บทความมาให้อ่านเลย คิดเองไม่เป็น ไม่รู้ก็คือตอบแบบมโน มั่วมา