Twitter ได้รีแบรนด์จากนกสีฟ้า มาเป็นอักษร X สีดำ แต่ Elon Musk ก็ยังไม่ได้บอกเล่าที่มาที่ไปมากนัก ล่าสุดเขาได้ ทวีตตอบ Jon Erlichman พิธีกรของ Bloomberg TV ถึงเหตุผลของการรีแบรนด์นี้
Musk บอกว่าเขาใช้บริษัท X Corp ที่ มีเป้าหมาย สร้างแอปใช้งานได้กับทุกเรื่องในชีวิตประจำทุกวันหรือ Everything App มาซื้อกิจการ Twitter เพื่อต้องการสร้างพื้นที่เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น การทำให้สองอย่างนี้ไปด้วยกันได้จึงต้องเปลี่ยนชื่อ
เขาบอกว่า Twitter เป็นชื่อที่ดี หากบริการนั้นเป็นการส่งข้อความความยาว 140 ตัวอักษรอย่างในอดีต ที่สั้นเหมือนคำว่าทวีตที่หมายถึงเสียงนกร้อง แต่เมื่อตอนนี้แพลตฟอร์มสามารถโพสต์อะไรก็ได้ เป็นข้อความยาวมากกว่านั้น หรือจะวิดีโอยาวหลายชั่วโมง แล้วในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า จะมีการเพิ่มเครื่องมือสื่อสารวิธีใหม่ ๆ เข้ามาอีก ไปจนถึงฟีเจอร์ด้านการเงิน ทั้งหมดที่เพิ่มมานี้ทำให้ชื่อ Twitter ไม่เหมาะสมอีกแล้ว โลโก้นกสีฟ้าจึงต้องถึงจุดจบ
นอกจากนี้ Axios ได้สัมภาษณ์พิเศษ Walter Isaacson ผู้เขียน หนังสือชีวประวัติของสตีฟ จ็อบส์ ซึ่งกำลังจะมีผลงานล่าสุดคือหนังสือชีวประวัติ Elon Musk กำหนดขายเดือนกันยายนนี้ จากการติดตาม Musk เป็นเวลาหลายปี โดยเขาเปิดเผยว่าไอเดียการเปลี่ยนชื่อ Twitter เป็น X นั้น มีมานานแล้ว ก่อนที่เขาจะ ลงนามซื้อกิจการ Twitter อย่างเป็นทางการเสียอีก Musk บอกว่า X มีโอกาสเป็นบริษัทใหญ่ระดับล้านล้านดอลลาร์ เขาคิดถึงไอเดียนี้มากว่า 25 ปีแล้ว โดยเป็นแพลตฟอร์มที่คนสามารถหาเงินได้จากการสร้างคอนเทนต์
Isaacson ยังบอกว่า Musk ยืนยันกับเขาเป็นการส่วนตัวก่อนซื้อ Twitter อย่างเป็นทางการ ว่าจะเปลี่ยนชื่อเป็น X.com ในวันแรกที่ เขาถืออ่างล้างมือไปสำนักงานใหญ่ Twitter วันนั้นเขาก็เปรยถึงการกำจัดโลโก้นกสีฟ้า โดยบอกว่าที่นี่มีนกเยอะเกินไป เนื่องจากชื่อห้องประชุมเป็นชื่อเกี่ยวกับนกทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็น Aviary, Tern, Bluebird, Canary หรือ Mallard
รายงานล่าสุดยังบอกว่าห้องประชุมในสำนักงานใหญ่ Twitter ตอนนี้เปลี่ยนชื่อเป็นธีม X หมดเรียบร้อย เช่น eXposure, eXult และเอ่อ.. s3Xy
Twitter removed half its HQ sign — then the police arrived https://t.co/8vpTZZS8Uc pic.twitter.com/tTeVSP3VO4
— The Verge (@verge) July 24, 2023
Comments
เอาตังค์จ่ายค่าเช่ามาทำอะไรแบบนี้
สื่อว่า X ลงได้ ไม่แบน
พูดแบบตัดความหมั่นไส้อีลอนออกไป มองแบบคนนอกวงการ ผมชอบในความที่แกมาแล้วมีอะไรแปลกใหม่ แม้จะฉีกตำราการบริหารแบบ conventional หลายเล่ม ว่าต้องทำยังงี้นะ ทำยังงั้นไม่ได้นะ "เค้า"ไม่ทำกัน
เราก็คอยดูแบบห่างๆ ว่าพี่แกจะไปจบที่ตรงไหน สุดท้ายอาจจะลงเหว กลายเป็นตัวตลกในประวัติศาสตร์ หรืออาจจะได้ตำราธุรกิจบทใหม่ก็ยังไม่มีใครรู้
คือมองไป Meta อันนั้นครั้งล่าสุดที่ทำให้เราหันไปมองแล้วรู้สึกว่าบริษัทนี้กล้า กล้าแหก norm หรือทำอะไรใหม่ๆ คือเมื่อไหร่ (เราไม่นับ Metaverse ใช่มั้ย) แต่ที่เห็นชัดๆ คือลอกการบ้านเก่งง
คนอ่านข่าวมันก็สนุกแหละ เพราะทั้งปั่นทั้งทำอะไรบ้าๆเต็มไปหมด ไม่มีใครเค้าทำกันแค่เห็นข่าวว่าอีลอนทำอะไรวันนี้ก็สนุกละ ส่วนเรื่องการบริหารนั้นก็ตามที่เห็นเสี่ยงสูงไม่น่าทำตามถ้าไม่เงินถุงเงินถังเจ๊งมาทีนี่ชิบหายแน่นอน
นึกถึงไอเดียชื่อห้องนึง ขาดไปได้ไง 🙃
X ที่เป็นความผิดพลาด
Xวิดีโอ น่าจะใช้ไม่ได้เพราะมีเจ้าของแล้ว
Xแฮมสเตอร์ด้วยครับ
เอาเข้าจริงๆ การ rebrand จาก Twitter เป็น X นี่มันเหมือนการทิ้ง brand ที่มีคุณค่าไปดื้อๆ นะ เพราะทั้งคำว่า Twitter tweet และ retweet มันแทบจะเป็นคำทั่วไปแล้ว เหมือนที่ Google = ค้นหาข้อมูลในอินเตอร์เน็ต หรือ มาม่า = บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปครับ