Jeffrey Katzenberg ผู้ร่วมก่อตั้งสตูดิโอ DreamWorks กล่าวในงานสัมมนา Bloomberg New Economy Summit ที่สิงคโปร์ โดยพูดมุมมองของเขาต่อ AI มีผลกับอุตสาหกรรมบันเทิง
Katzenberg บอกว่าประวัติศาสตร์ที่ผ่านมาของเครื่องมือในการเล่าเรื่องตั้งแต่ ปากกา พู่กัน แท่นพิมพ์ กล้องถ่ายภาพนิ่ง กล้องวิดีโอ สิ่งเหล่านี้ช่วยขยายความคิดสร้างสรรค์ วิธีเล่าเรื่องในแบบใหม่ ๆ มาโดยตลอด ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามาเปลี่ยนแปลงวงการสื่อหลายอย่าง เขามองว่า 10 ปีข้างหน้าก็จะเห็นการพัฒนาไปอีก 10 เท่า และบอกว่าเขาไม่แน่ใจว่ามีอุตสาหกรรมใดที่ได้รับผลกระทบจาก AI มากเท่าธุรกิจสร้างสรรค์สื่อบันเทิง
เขาพูดถึงผลกระทบต่อแรงงานว่า ในอดีตถ้าเขาทำภาพยนตร์แอนิเมชั่นคุณภาพสูงหนึ่งเรื่อง จะต้องใช้ศิลปิน 500 คน ผลิตผลงานระยะเวลา 5 ปี แต่ด้วยเทคโนโลยี AI ทรัพยากรและต้นทุนอาจใช้ไม่ถึง 10% เท่านั้นแล้วได้ผลลัพธ์เท่ากัน แต่เขาก็ไม่คิดว่าเราจะเห็นภาพนั้นอย่างน้อยใน 3 ปี ข้างหน้า
แต่สุดท้ายเขามองว่างานสร้างสรรค์ พัฒนาไอเดียตั้งต้น ในการทำโครงการภาพยนตร์ AI ก็ไม่สามารถเข้ามาแทนที่ได้ ยังต้องใช้กระบวนการคิดสร้างสรรค์ของคนเหมือนเดิม
ที่มา: Hollywood Reporter
Comments
“In the good old days when I made an animated movie, it took 500 artists five years to make a world-class animated movie. I think it won’t take 10 percent of that. Literally, I don’t think it will take 10 percent of that three years out from now.”
ไม่กลัว Model Collapse กันเลยสินะ
ถ้าพัฒนาหมวกอ่านคลื่นสมองซ้ำเข้าไปอีกกลายเป็นสร้างคนเดียวได้เลย
ใช้ ai อัพสเกลกับเพิ่มเฟรมเรท ลดตั้นทุนทำหนังการ์ตูนได้เยอะ
เมื่อ AI ใช้งานในวงการนี้ได้จริงจะไม่เห็นงานเผาในอนิเมะญี่ปุ่นแล้วใช่ไหม