ประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DE) อัปเดตการดำเนินงานระยะเวลา 3 เดือน หลังได้ร่วมมือกับพันธมิตรทั้งในกระทรวงฯ หน่วยงานรัฐและภาคเอกชน กระทรวง DE ประกาศความสำเร็จ 9 ผลงาน โดยผลงานเด่นๆ มีดังนี้
- กระทรวง DE ศูนย์ต่อต้านอาชญากรรมออนไลน์ AOC 1441
รูปแบบ One Stop Service แก้ปัญหาออนไลน์ให้บริการ 24 ชม. และใช้ติดตามสถานการณ์ สั่งการ ปฏิบัติการป้องกันปราบปรามโจรออนไลน์อย่างบูรณาการและทันเวลา ซึ่งระบบนี้ จะทำงานเชื่อมโยง กับ Central Fraud Registry ของสมาคมธนาคารและ Audit Numbering ระบบแลกเปลี่ยนข้อมูลของ กสทช.
- การปิดกันเว็บไซต์ที่ผิดกฎหมายและเว็บพนัน
ใช้เทคโนโลยีร่วมกับโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์ม ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.-10 ธ.ค. 2566 มีการปิดกั้นเว็บไซต์หรือเพจผิดกฎหมายโดยรวมทุกประเภท สูงถึง 25,061 เว็บไซต์/เพจ และมีการปิดกั้นเว็บพนันออนไลน์ ถึง 4,592 เว็บไซต์
- การลงทุนและพัฒนากำลังคนด้าน AI และ Cloud
ร่วมมือกับบริษัทระดับโลกและประเมินว่าจะสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจกว่า 300,000 ล้านบาท จากความร่วมมือ 3 บริษัท
- Huawei ร่วมมือการตั้งศูนย์เพื่อพัฒนาบุคลากรไทยด้าน AI & Cloud ผลิตคนด้าน AI และ Cloud ปีละ 10,000 คนหรือ 50,000 คน ในระยะเวลา 5 ปี
- Google และดีอีจะร่วมกันศึกษาแนวทางการใช้ Generative AI และใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยี Google Cloud เพื่อสร้างผลประโยชน์ต่อภาคธุรกิจไทย
- Microsoft : นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ร่วมพบปะหารือกับไมโครซอฟท์เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล
- Global Digital Talent แก้ปัญหาขาดแคลนกำลังคนดิจิทัล
ดึงดูดกำลังคนด้านดิจิทัลต่างประเทศผ่านการตรวจลงตรารูปแบบใหม่ Global Digital Talent Visa (GDT Visa) แบ่งเป็น 2 ประเภท ผู้ที่จบการศึกษา/กำลังศึกษาด้านดิจิทัลจากมหาวิทยาลัยชั้นนำ 600 แห่งทั่วโลกที่ได้รับการรับรอง (Digital Talent) และ ผู้ที่ทำงานโดยใช้เทคโนโลยีเป็นหลักในอุตสาหกรรมดิจิทัล และสามารถทำงานได้ทุกที่ที่มีอินเทอร์เน็ตและอุปกรณ์เครื่องคอมพิวเตอร์ (Digital Nomads)
GDT Visa จะได้สิทธิดังนี้
- สิทธิในการพำนัก
- สิทธิทำงานพร้อมวีซ่าเป็นระยะเวลา 1 ปี
- สามารถให้คู่สมรสและบุตรได้รับวีซ่าผู้ติดตามไปพร้อมกันได้
- สามารถเดินทางเข้าและออกประเทศไทยได้ไม่จำกัดจำนวนครั้ง (Re-Entry permit)
- สิทธิให้ใช้ช่องทางพิเศษ (Fast Track) ในการเข้าออกราชอาณาจักร ณ ท่าอากาศยานระหว่างประเทศที่มีให้บริการช่องทางพิเศษ
- World Competitiveness Centerจัดอันดับความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัล โดยกระทรวง DE ยกระดับความสามารถด้านดิจิทัลปี 2023 ไทยขึ้นมาอยู่เป็นอันดับที่ 35 จากเดิมอันดับที่ 40 ในปี 2022
ที่มา: ข่าวประชาสัมพันธ์กระทรวง DE
Comments
To be fair นโยบายถือว่าพัฒนามาจากน้องไข่ต้มเยอะนะ แต่เราก็ทำได้แค่รอดู
รอดูแต่อย่างน้อยก็ไม่ได้บ้งเหมือนตอน น้องไข่ต้ม
อ่านข่าวเห็นมี GDT Visa แล้วมีโครงการสนับสนุน GDT ภายในประเทศสำหรับ sme หรือstarup ที่กำลังตั้งไข่ไหมครับ?
ตอนนี้ที่ต้องป้องกันอย่างเร่งด่วนคือพวก เพจปลอมหลอกลงทุน หลอกจองที่พักโดยปลอมเป็นเจ้าของโดยด่วน
โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน facebook ทุกวันนี้ไถวิดีโอ แล้วเจอพวกนี้ยิงแอดตลอดเวลา การพนันยังมีกลุ่มของเขา
แต่พวกหลอกลวงนี่ยิ่งหนัก ประชาชนธรรมดาเดือดร้อนกว่าเยอะเลย
อันนี้คนที่แก้ปัญหาได้มันไม่สนใจนี่สิ DE ทำเต็มที่ก็ได้แค่สั่งกับเตือนให้ประชาชนระวังกันครับ
ถ้าระดับรัฐก็น่าจะเชิงนโยบายได้นะผมว่า เรื่องเร่งด่วนเข้าไปคุยกับทางบริษัทโดยตรง น่าจะไวกว่าส่วนตามาร์ครับค่าโฆษณาอย่างเดียวไม่ได้ รีพอร์ทไปร้อยรอบสรุปยังอยู่เเหมือนเดิม
เคยเข้าไปคุยแล้วนี่นา แต่เป็นสาขาที่ไทยนะ เขาตอบมาเองว่าไม่ ถ้าอยากให้ลบก็ให้ผู้ใช้งานกด report ให้ ai มันเรียนรู้เอง...
ใน x ก็ไม่ได้ต่างกันครับ
อันนี้เขาพยายามจะทำแล้วแหละครับแล้วสิ่งที่เขามีคือ แบน ถ้าเกิดไม่ยอมทำตาม
แต่ก็ที่เห็น แค่ประกาศยังไม่ทันแบน ก็โดนด่าแล้ว
ผลงานมีแค่นี้ ? เอาจริงๆไม่ควรเรียกว่ามีผลงานด้วยซ้ำ
ใจเย็นพี่3 เดือน ไม่ใช่ 8 ปี
ลบ
เห็นพวก Tiktok แม่ค้าขายดีแล้วโดนล็อคเงิน กระทรวง DE ช่วยไรบ้างไหมนะ แบน Tiktok ได้ไหมเนี่ย
ไหนบอกจะแบน facebook ถ้ายังมีเฟจปลอม แถลงการการเอาเท่