จากกรณี Insomniac โดนแฮ็ก และข้อมูลภายในถูกเผยแพร่ต่อสาธารณะ เอกสารชิ้นหนึ่งที่ถูกพูดถึงกันมากคือ เอกสารของบริษัทแม่ Sony Interactive Entertainment (SIE) ประเมินความเสี่ยงจากกรณีไมโครซอฟท์ซื้อ Activision Blizzard (ในไฟล์ใช้ตัวย่อ ATVI ตามตัวย่อหุ้น)
เอกสารนี้ประเมินว่าอุตสาหกรรมเกมกำลังเปลี่ยนแปลงใหญ่ (industry major shifts and threats) ปัจจัยสำคัญคือไมโครซอฟท์เป็นเจ้าของ Call of Duty แล้ว สิทธิพิเศษของเกมเวอร์ชันคอนโซล PlayStation (เช่น อาวุธพิเศษ) จะหายไป, ไมโครซอฟท์จะดันเกมลง Game Pass และส่งผลกระทบต่อ PlayStation Plus ที่เป็นคู่แข่งกันโดยตรง
นอกจากนี้ โซนี่ยังประเมินว่า Activision Blizzard มีจุดแข็งทั้งด้านเกมแนว live services, เกมบนมือถือ และร้านขายเกมบนพีซี (Battle.net) ที่ไมโครซอฟท์สามารถใช้ประโยชน์ต่อได้ ซึ่งจะทำให้ไมโครซอฟท์เติบโตอย่างก้าวกระโดด (leapfrog) เมื่อเทียบกับแกนหลักของโซนี่ที่ยังเน้นการขายเกมบนคอนโซล ที่เริ่มล้าสมัยและตามหลังคู่แข่งแล้ว (เอกสารใช้คำว่า dated and behind)
Breaking News: Internal Sony documents show absolute fear of Microsoft and Gamepass post-Activision acquisition. OMG! pic.twitter.com/dzeheS2GEb
— Post Up (@PostUp_SOG) December 19, 2023
Comments
แสดงว่า Sony ก็รู้ตัวเองแต่ไม่พยายามปรับยังคงเน้นผลกำไรอย่างเดียวไม่สนใจผู้บริโภคดูได้จาก PS5 ว่าเป็นยังไง
มาลงตลาด handheld ก็ได้นะครับ
🙏 PSP3 pls
PSVita 2 slim ยังเป็นไปได้ไหม
ผมสงสัยมานานแล้ว ถ้าเป็นเรื่องเกม sony JP หรือ sony US ใครเป็นคนคุมเกมที่แท้จริงผมคิดเอาเองว่า การตัดสินใจผ่านนายญี่ปุนอะไรแบบนี้หรือป่าว? (ตระกูลที่ก่อตั้งsony?)
ก็รู้จุดอ่อนตัวเองดีนี่นา
เปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่
เมื่อเรารู้จุดอ่อนของเรา และรู้จุดแข็งของคู่แข่ง
เราเลยเลือกการเตะตัดขา แทนที่จะหันมาพัฒนาตัวเอง 555
ปล...ผมว่าว่าทางญี่ปุ่นทีปัญหาเรื่องผู้บริหาร ระดับสูงที่หัวรั้นแล้วไม่คิดจะทำอะไรใหม่ๆ เหมือนวงการรถยนต์ที่ไม่ยอมหันไปทาง ev เต็มตัว
เคส ev นี้น่าจะค่อยๆปรับครับ ทีแรกผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน จนไปคุยกับคนญี่ปุนที่บ.เขาทำชิ้นส่วนประกอบรถที่ตจว.
เขาเล่าว่าระบบธุรกิจญี่ปุนเป็นแบบZaibatsu ถึงจะแพ้สงครามโดนจับแตกบ.ย่อยๆแล้ว แต่ บ.เหล่านี้ก็ยังคงอุดหนุนเกื้อกูลกันอยู่จนปัจจุบัน
เช่น บ.นี้ทำน๊อตมาแล้วตั้งแต่รุ่นปู่ รุ่นปัจจุบันก๊ยังคงวิจัยทำน๊อคที่ดีที่สุด เรื่อยๆ และมีคำสั่งซื้อมาเรื่อยๆครับ
ถ้าเปลี่ยนเป็นevเลย กิจการที่คอยช่วยเหลือกันมา ก็จะเจ๊งไปเลย เขาบอกคนญี่ปุนจะไม่ทำกัน สัญญาคือสัญญา และถ้าหากรถญี่ปุน เปลี่ยนเป็นevหมดทันที โรงงานที่จ้างแรงงานทั้งญี่ปุ่นทั้งที่ไทย ก็จะมีปัญหาครอบครัวและสังคมตามมา
ผมฟังแล้วอ้อออออ มันกระทบเป็นลูกโซ่
คนที่คุยด้วยน่าจะเพ้อนะ...เอาไว้หลอกเด็กก็คงพอได้
บางอย่าง มันทำไปพร้อมกันได้ แต่นี่เล่นแทบไม่ทำเลย มองจากดาวอังคารด็ดูออกว่า เค้าไม่เอาทางนี้จากนโยบายของผู้บริหารหัวเก่า
ไม่ใช่เพราะเรื่องโม้เหม็นที่เค้าเล่ามาหรอก มันแค่เอามาโยงกันเท่านั้น เพราะถ้าเป็นเรื่องนั้น มันมีทางแก้มากมาย
แล้วตอนนี้ก็อยู่ในสถานะกลับตัวก็ไม่ได้ จะไปก็ไปไม่ถึงแล้ว กินบุญเก่าอยู่เท่านั้นแหละ
ผลที่จะเกิดคือ เค้าไม่เจ๊งหรอก แต่ไม่โต และจะหดตัวลงเรื่อยๆ
บ.แม่ เค้ารวยไปแล้ว ไม่เดือดร้อน เงินเยอะ หันไปทำอย่างอื่นใหม่ๆก็ได้
ที่เดือดร้อนก็คือบ้านเรา เดี๋ยวมีโละคน โละโรงงาน
เค้าไม่สนหัวพวกสาวก หรือพวกพนักงาน ที่ช่วยแก้ตัวเรื่องไม่ไป EV แทนเค้าหรอก
แล้วก็อย่าคิดว่าแรงงานในอุตสาหกรรม ice จะย้ายไป EV กันหมด เพราะ EV ใช้คนและสิ่งรอบข้างน้อยกว่าเดิมมาก
เอาเป็นว่า คนและโรงงาน ice ที่สามารถมูฟไป EV จะถึง 20-30% หรือเปล่าก็ไม่รู้
ที่เหลือก็กลับบ้านเช่าที่นายทุน ปลูกผักทำนาหากินกันตายต่อไป
ผู้บริหารปัจจุบัน woke เซ็นเซอร์เกมส์หนักกว่า xbox อีก
วันนี้ต้องมาถึง เพราะการสร้างเกม ใช้ทุนมากขึ้นเรื่อยๆ เลยไม่ยอมลงเครื่องเดียวแน่ๆ
พอเริ่มลง Steam ปุ๊บ จากที่ขาดตลาด ก็มีพอขายแล้ว เพราะรอได้ลง Steam แน่
ยิ่งแต่ละคนเก็บเกมไว้เยอะ ก็เล่นรอไปก่อน
Sony ก็รวมกับ Nintendo ซะสิ