ไมโครซอฟท์ออก Windows 11 Insider Preview Build 26058 รุ่นทดสอบ Canary/Dev Channels มีฟีเจอร์ที่น่าสนใจด้าน UI หลายอย่าง
- เมนูคลิกขวาหรือ context menu ของ File Explorer ปรับเล็กน้อย โดยเพิ่มข้อความอธิบายปุ่ม เช่น Cut, Copy, Rename เมื่อเทียบกับของเดิมที่มีแต่ไอคอนเพียงอย่างเดียว
- เพิ่มฟีเจอร์ Pointer Indicator เพื่อบอกว่าเคอร์เซอร์เมาส์อยู่ตรงไหนให้มองเห็นง่ายๆ ช่วยให้คนที่มีปัญหาด้านการมองเห็น สามารถเลือกสีของเส้นนำทางได้ด้วย
- เพิ่ม widget แสดงสภาพอากาศในหน้าจอ lock screen
- Widgets Board เพิ่ม "แท็บ" หรือหมวดหมู่ของชุด widget ได้แล้ว โดยแสดงเป็นขอบ navigation pane ที่ด้านซ้ายมือสุด
ฟีเจอร์เหล่านี้ส่วนใหญ่น่าจะได้ใช้งานกันจริงใน Windows 11 24H2 ที่จะออกช่วงปลายปีนี้
ที่มา - Windows Insider Blog , Neowin
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
ปรับยังไงก็ได้อย่าเอา Show More ได้ไหมทุกวันนี้ต้องกลับไปใช้ classic context menu ถ้าอยากสวยหน่อย ก็ลง Nilesoft Shell เอา
ผมสงสัยขอสอบถามผู้รู้ว่า ทำไม Microsoft ไม่รอทำ UI กับ UX ให้เสร็จค่อยปล่อย Windows 10 / 11 ไม่ทำเหมือน Windows 8/8.1/7 ครับ เหมือนผู้ใช้ปัจจุบันเป็นหนูทดลองเลย
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
เหมือนเกมสมัยนี้ ชอบปล่อยแบบ early access กันซะเยอะ
ข้อดีคือได้ฟังเสียง user/player จริงๆ ว่าชอบ ไม่ชอบยังไง ควรมีอะไรเข้ามา ควรตัดอะไรออกไป
ข้อเสียคือคนใช้งานทั่วไปจะงง เปลี่ยนนั่น เปลี่ยนนี่ นั่นหายไป อยู่ดีๆ มีอะไรเพิ่มมา
windows เดี๋ยวนี้ก็แบบเดียวกันเลย ตั้งแต่มีระบบ insider แค่ไม่ขึ้นว่า Early access
คนจริงเค้าเทสบนโปรดักชั่นเท่านั้น!!
คนจริงเทสบนโพรดักชันครับ 😁 หยอกๆ
จริงจัง: ผมว่ามันผสมผสานกันระหว่างทำไม่ทันกับเค้าตั้งใจอยากให้มันเป็นประมาณนี้ล่ะครับ
ปล. งาน UI/UX นี่ผมไม่กล้าไปต่อว่าใครเท่าไหร่ เพราะตัวเองก็ไม่ถนัดเอาซะเลย ถ้าให้เลือกตอนนี้ CLI ไปโลด 555
..: เรื่อยไป
ัมันอยู่ที่ Work process ของหน่วยงานด้วย ทางฝั่งตะวันตกเดี๋ยวนี้จะนิยมใช้ Agile เรียกว่าเป็น Trend เลยก็ได้ ซึ่งแนวคิดของ Agile ที่เป็นหัวใจหลักเลย คือ ไม่เดาเองให้ผู้ใช้ทดลองแล้วให้ Feedback กลับมา โดยออกแบบย่อย Process งานออกเป็นชิ้นให้เล็กที่สุดที่ทำงานได้ในตัวมันเอง เพื่อทำ Prototype จากนั้นทดสอบภายในระดับนึงเพื่อให้ Bug ไม่เยอะ แล้วปล่อยให้ผู้ใช้เป็นคนให้ Feedback อีกทีว่า ใช่ หรือ ไม่ใช่ ถ้าไม่ใช่ก็ปรับแก้ไขจนกว่าจะลงตัว อาจสงสัยว่าเขาเก็บ Feedback ยังไง ถ้าเป็น windows คงเดาไม่ยาก แค่ time และ message ที่วิ่งไปวิ่งมา เขาก็พอรู้แล้วว่าสิ่งที่เขาออกแบบมาผู้ใช้ตอบรับอย่างไร ความจริงมันเป็นสาขาวิชาแยกเลยนะเรื่องการวิเคราะห์ UI เนี่ย ถ้าเคยได้ยินคำว่า heat map คำนี้ก็จะใช้ในวงการนี้เป็นส่วนใหญ่เพื่อวิเคราะห์ Feedback ผู้ใช้ใน UI
อาจสงสัยมีผลดีกับบริษัทอย่างไร ก็ง่ายๆ คือ เรื่องต้นทุน การออกแบบด้วย Waterfall มันเป็นการอุปมาเอาว่าผู้ใช้อยากได้แบบนี้ แล้วก็ทำจนแล้วเสร็จ พอส่งงานปุ๊บ ลูกค้าบอกว่าไม่ใช่ ก็ฟาวล์ ต้องวนลูปกันใหม่ Agile จึงถูกออกแบบมาเพื่อการนี้ เมื่อเวลาลด ต้นทุนก็ลด หลักก็ประมาณนี้
ส่วนลูกค้าได้อะไร ก็บอกเลยว่าใน Software สาย Consumer เราคงไม่สามารถตอบสนองความต้องการทุกคนได้ 100% ดังนั้นมันจึงมีคนชอบ หรือไม่ชอบ จุดตัดก็คือ ถ้ามีคนชอบถึง 80% ก็ถือว่ามัน OK เพียงพอที่จะใส่ลงใน stable version แล้ว ทำให้รอบของ software มันกระชับขึ้น มีการแก้ไขเร็วขึ้น คนใช้งานได้ทดลองใช้งานฟีเจอร์ใหม่ๆ เร็วขึ้น ฯลฯ
+1 ชอบความเห็นนี้ครับ
Windows 8 ก็ทำไม่เสร็จนะครับ
ส่วน 7 คือ Vista ที่ทำเสร็จครับ
ผมคิดว่าเป็นเพราะ "การแข่งขัน" ครับ
สมัยก่อน OS ที่ฟีเจอร์เยอะๆ ก็มีแค่ Windows กับ Mac แต่ยุคนี้มี Android กับ iOS เข้ามาด้วย อีกทั้งยังมี Service / Platform อีกมากมายที่ความสามารถเยอะขึ้นทำให้ลดการพึ่งพาของ OS น้อยลง (อย่าง Chrome หรือ Webapp ต่างๆเนี่ย ในบางสายงานถือว่าตอนนี้ถือว่าเพียงพอไม่ต้องพึ่งโปรแกรมอื่นด้วยซ้ำ) ด้วยการแข่งขันที่สูงขึ้น ทำให้ MS ก็ต้องขยันเพิ่มฟีเจอร์ต่างๆเข้ามามากขึ้น
แต่ถ้ามันแต่รอจนเสร็จสมบูรณ์แล้วค่อยปล่อยมันก็ไม่จะทันคู่แข่ง มันก็เลยมาในรูปแบบของ Insider/Early Preview ทั้งหลายนั่นแหละครับ
ขอบคุณทุกท่านครับ ส่วนตัวผมมองว่า OS ใหญ่กว่าเกม การซื้อสิทธิ์การใช้งาน ราคา windows ก็แพงกว่าเกม มันควรสมบูรณ์ระดับหนึ่ง ไม่ขาด ไม่เกิน เพราะตัวมันมีอิทธิพลต่อชีวิตมากกว่าเกม (AAA) หรือโปรแกรมอื่น ๆ ที่สามารถปล่อยอัปเดตได้เรื่อย ๆ ให้สมกับราคาที่ซื้อสิทธิ์การใช้งานไปครับ
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
ยังรูสึกว่า คลิกขวา มันหน่วงนิดหน่อย ไม่เหมือนแบบ classic ที่ คลิกปุ๊บมาปั๊บ