Bloomberg รายงานว่าการหลอกลวงแบบ scam ที่ใช้ซอฟต์แวร์จำพวก deepfake ปลอมหน้าหรือเสียงของผู้บริหารยังระบาดรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยบริษัทขนาดใหญ่รายล่าสุดที่โดนโจมตีลักษณะนี้คือ Ferrari
ในเดือนที่ผ่านมา ผู้บริหารระดับสูงของ Ferrari หลายคนได้รับข้อความทาง WhatsApp ที่แสดงตัวว่ามาจากซีอีโอ Benedetto Vigna พูดถึงดีลการซื้อกิจการใหม่ที่ยังเป็นความลับ ขอให้ผู้บริหารช่วยเซ็นสัญญาไม่เปิดเผยข้อมูล (NDA) และเข้ามาช่วยงานซีอีโอในดีลลับนี้
หากผู้รับข้อความมีการตอบโต้กลับไป จะได้รับสายโทรเข้ามา เป็นเสียงปลอมของ Vigna สำเนียงอิตาเลียนภาคใต้ตามถิ่นเกิดของเขา อธิบายว่าต้องใช้เบอร์อื่นโทรมาแทนเบอร์ที่เขาใช้ประจำ เพราะอยากคุยเรื่องดีลที่เป็นความลับ และจำเป็นต้องมีธุรกรรมโอนเงินระหว่างประเทศอย่างเร่งด่วน เพื่อรักษาความได้เปรียบทางอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงิน
อย่างไรก็ตาม ผู้บริหารรายหนึ่งของ Ferrari ที่รับสายนี้ เกิดเอะใจขึ้นมา และบอกว่าต้องขอยืนยันตัวตนว่าเป็น Vigna จริงๆ โดยสอบถามชื่อหนังสือที่ Vigna ตัวจริงเพิ่งแนะนำให้เขาอ่านเมื่อไม่กี่วันก่อน แน่นอนว่าผู้หลอกลวงไม่สามารถตอบได้และรีบวางสายไป
เทคนิคการเลียนเสียงผู้บริหาร โดยใช้คลิปสัมภาษณ์ที่ปรากฏตามที่สาธารณะมาสร้างเสียงผ่านซอฟต์แวร์ deepfake เพื่อหลอกลวงพนักงานของบริษัทใหญ่ๆ นั้นไม่ใช่เรื่องใหม่ ก่อนหน้านี้เคยมี พนักงานของบริษัทในฮ่องกงถูกหลอกให้โอนเงินสำเร็จ ความเสียหายราว 900 ล้านบาท ส่วนบริษัทระดับโลกอื่นๆ ที่เคยเปิดเผยว่าถูกโจมตีลักษณะนี้คือ WPP เอเยนซี่โฆษณารายใหญ่ของโลก ที่โดนปลอมเสียงของซีอีโอ Mark Read ทำให้ตอนนี้บริษัทหลายแห่งเริ่มเทรนนิ่งวิธีการแยกแยะการปลอมตัว ปลอมเสียงในลักษณะนี้แล้ว
ที่มา - Bloomberg
ภาพจาก @Ferrari
Comments
ยุคนี้ การเซ็นเอกสารสำคัญคงต้องทำแบบ face-to-face แล้วมั้ง
..: เรื่อยไป
ต้องเอามือดึงหน้าด้วย
ไม่ใช่ ทอม ครูซ! ตึงโป๊ะ
เจอกับคนใกล้ตัว มันปลอมเป็นเสียงเพื่อน เพื่อมาหลอกยืมเงินกันได้เลยนะ สมัยนี้อยู่ยากมาก
Digital Signature ช่วยได้อยู่แล้ว แต่บุคคลที่ไม่ใช่สายไอทีไม่รู้ว่ามันทำงานยังไงเลยไม่มีความมั่นใจ
ขอนำเสนอ Digital ID ใน Estonia ทำงานยังไง สำหรับกรณีที่บุคคลทั่วๆ ไปไม่ใช่สายไอทีก็ใช้ digital signature กันในชีวิตประจำวันกันเป็นปกติได้ฮะ ในบทความไม่ได้พูดถึงแอปโทรศัพท์เท่าไหร่แต่การมีตัวแอปโทรศัพท์ทำให้การใช้งานง่ายขึ้นจริงจังมาก กับคนที่ไม่ใช่สายไอทีนี่ก็ได้มีโอกาสเซ็นสัญญาส่งไปมากันหลายครั้งแล้วเค้าก็ไม่ได้ติดอะไรในการเปิดดูหรือเช็คความถูกต้อง
วิดีโอท้ายบทความเป็นของ official ที่อาจจะเข้าใจได้ง่ายกว่าและมีภาพประกอบมากกว่าด้วย