เมื่อต้นเดือนนี้ Sundar Pichai ซีอีโอของกูเกิล ไปขึ้นเวทีงานสัมมนา DealBook ของ The New York Times ตอบคำถามเรื่องการแข่งขันในวงการ AI หลายข้อดังนี้
คู่แข่งของกูเกิล
- พิธีกร Andrew Ross Sorkin เริ่มคำถามแรกด้วยการอ่าน บทสัมภาษณ์ของ Satya Nadella แห่งไมโครซอฟท์ ที่พูดไว้เมื่อต้นปีว่า กูเกิลควรเป็น "ผู้ชนะโดยดีฟอลต์" ของวงการ AI เพราะเป็นผู้เริ่มต้นทุกสิ่ง และมีปัจจัยทุกอย่างพร้อมแล้ว (ความหมายโดยนัยคือ กูเกิลมีทุกอย่างพร้อมแต่ดันไปแพ้ OpenAI)
- Sundar ตอบกลับแบบเจ็บๆ ว่าอยากเอาโมเดลของกูเกิลกับไมโครซอฟท์มาเปรียบเทียบกันตัวต่อตัวว่าใครเหนือกว่า เพราะที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ใช้แต่โมเดลของคนอื่นมาโดยตลอด
- เขามองว่า Apple และ Amazon จะเปิดตัวโมเดลของตัวเองในปี 2025 เช่นกัน เพราะการพึ่งพาโมเดลของคนอื่นไม่ใช่ทางออกในระยะยาว และทั้งสองบริษัทนี้มีเงินทุนมากมายพอที่จะพัฒนาโมเดลของตัวเองได้
"กำแพง" ของการเทรน AI
- จากประเด็นว่า วงการ AI มาถึงทางตันแล้วหรือไม่ เพราะทั้ง Gemini และ GPT รุ่นใหม่ ไม่ได้พัฒนาอย่างก้าวกระโดดอีกแล้ว ซึ่งฝั่ง Sam Altman แสดงความเห็นว่า "ไม่มีกำแพง" ที่ว่านั้น (there is no wall)
- Sundar บอกว่าเขามั่นใจมากว่าจะได้เห็นพัฒนาการใหม่ๆ จากกูเกิลในปี 2025 อย่างแน่นอน (I'm very confident there'll be a lot of progress in 25) และตัวเขาเองไม่เชื่อในวาทกรรมเรื่อง "กำแพง" สักเท่าไร
- เขาบอกว่าทุกบริษัทจะเข้าถึงพลังประมวลผล (compute) ได้ไม่จำกัดตราบเท่าที่มีเงินจ่ายค่าชิปให้ NVIDIA ดังนั้นจุดชี้วัดความแตกต่างว่าบริษัทใดจะทำสำเร็จ ขึ้นกับปัจจัยอื่นๆ ที่แต่ละบริษัทมีไม่เท่ากัน เขามั่นใจว่ากูเกิลที่ลงทุนเรื่องงานวิจัยระดับฐานราก (fundamental research) และโครงสร้างพื้นฐานไว้มากจะได้เปรียบกว่าใคร
Waymo
- Sundar ยังยกกรณีของ Waymo ว่าก่อนหน้านี้ใครๆ ก็สบประมาทว่า Waymo จะไม่ประสบความสำเร็จ แต่ตอนนี้ Waymo พิสูจน์ตัวเองแล้ว
- เขาเพิ่งพาพ่อมาเที่ยวซานฟรานซิสโก และพานั่งรถ Waymo ซึ่งเขาคิดว่านี่คือตัวอย่างของ AGI ที่ปัญญาประดิษฐ์ทำงาน (ขับรถ) ได้ดีกว่ามนุษย์อย่างชัดเจน
- ในปีหน้า 2025 จะขยายเมืองที่ให้บริการเป็น 10 เมืองในสหรัฐแล้ว
Get latest news from Blognone
Follow @twitterapi
Comments
เรื่องนี้ ผมว่า Google ได้เปรียบ Microsoft จริงๆแหละ เพียงแต่ Microsoft ก็สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้เช่นเดียวกัน ถ้าจะทำ
..: เรื่อยไป
ยากอยู่นะฮะ หนึ่งในเรื่องสำคัญคือ Google มีข้อมูลอยู่น่าจะมากกว่าชาวบ้านเค้า (เอามาใช้ได้หรือเปล่านั่นอีกเรื่อง) แบบ YouTube นี่คือขุมทรัพย์มาก
แล้วยังมีพวกนี้อีก
เช่น ใช้สวิตช์แบบแสง ทำงานได้เร็วกว่า ประหยัดพลังงานกว่า ราคาถูกกว่าการเชื่อมต่อแบบ Infiniband (ปัจจุบันเป็นของ NVIDIA)
แล้วฝั่ง Quantum Computing ก็ดูจะไปไกลกว่าคนอื่น (หรือคนอื่นไม่พูด?)
ใช่ครับ ในทางปฏิบัติคือยากมาก
..: เรื่อยไป
อ้าว แล้ว Phi นี่ ไม่ใช่ของตัวเองหรอ
Phi เป็น SLM (Small Language Model) ครับ ไมโครซอฟท์ไม่ได้เรียกมันว่าเป็น LLM เลย
Coder | Designer | Thinker | Blogger
Small Language Model ที่ขนาด 7B - 14B แบบยังรันบนคอมพิวเตอร์ตามบ้านยังไม่ไหว :(
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
LLM นอกจากบริษัทที่ได้ยินกันบ่อยๆมีรายไหนน่าสนใจอีกบ้างไหมนะ
เรื่อง Search Engine นั้น Google ชนะ แต่พอมาแนว AI ที่มันมากกว่าการ จำมาตอบ
แต่จากประสบการณ์ใช้งานจริง โดยเฉพาะภาษาไทย
chatgpt ทิ้ง gemini แบบไม่เห็นฝุ่นเลยอ่ะนึกว่าคุยกับคนจริง ๆ คือเข้าใจ intention ของเราจริง ๆ
แล้วจำ context ได้ด้วย แต่ของ google เหมือนคุยกับหุ่นยนต์
ปล. ไม่ใช่ว่า ms เป็นหุ้นส่วนของ openai เหรอครับ(ผมก็ไม่ค่อยเข้าใจโมเดล for/non profit)
ms ถือหุ้น 49% แทบจะเป็นเจ้าของอยู่ละ
ส่วนพนักงานใน Google "บอกให้เปิดใช้ไม่เปิดล่ะกั๊กอะไรอยู่ โดน OpenAi, Microsoft ตัดหน้านำไปหมดแล้ว เป็นไงล่ะไอ้ผู้บริหาร Hahahaha"
Gemini ยังไม่ตอบโจทย์การใช้งานของคนส่วนใหญ่เลย
openai ไม่อยากให้ takeover , หรือ ms ไม่อยากเอง ?
จะว่าไป product ของ google ที่คุ้นมือคุ้นตา .. มีอันไหนที่เป็น product ตั้งต้นจาก google เองเลยบ้าง ?
llm ของ google ใช้ชิป Nvidia , ยังไม่ได้ใช้ชิปของตัวเอง ?
apple ไม่ทำ search .. แล้วถ้า apple ทำ model เอง , จะตอบ ผู้ใช้ ด้วย ข้อมูลล่าสุด ยังไง .. ถ้าทำแยกเป็นส่วนๆ , ตอนใช้ ก็ต้องแยกใช้จะใช้ได้หรอ ? .. แล้ว apple จะใช้ชิปอะไร จะทุ่มจ่าย Nvidia หรอ , google ยังไม่ใช้ชิปตัวเองเลย แล้วชิป apple จะใช้ได้หรอ ?
Google ออกแบบตั้งแต่ชิปถึงเครื่องฮะ แล้วไม่ใช่แค่ส่วนประมวลผล อย่าง TPU v4 นี่ออกแบบให้ใช้ optical switch ด้วย
ความแรงคืออยู่ระดับสู้กับ NVIDIA ได้ https://www.blognone.com/node/143138
กระทั่ง Apple Intelligence นี่ยัง ใช้ชิปของ Google ในการฝึก เลยนะฮะ
ตอนตัวเก่าๆ จำได้ว่ากว่าจะเปิดข้อมูลนี่คือเปลี่ยนไปใช้รุ่นใหม่แล้วถึงเอาของเก่าออกมาเปิด ไม่รู้ว่าตัวล่าสุดอย่าง TPU v6 ที่เปิดข้อมูลไปเมื่อกลางปีนี่ยังทำแบบนั้นอยู่มั้ย
ก่อนนี้ก็เข้าใจว่าเป็นแบบนั้นอ่ะครับ .. แต่บทสัมภาษณ์ บอกว่า , เขาบอกว่าทุกบริษัทจะเข้าถึงพลังประมวลผล (compute) ได้ไม่จำกัดตราบเท่าที่มีเงินจ่ายค่าชิปให้ NVIDIA
เลยเข้าใจว่า google ก็ร่วมวงทุ่มแย่งซื้อชิป Nvidia อยู่ด้วย .. รึป่าวนะ , หรือผมเข้าใจผิด ?
NVidia คือผู้ชนะโดย default ในวงการเอไอย่างแท้จริง
แต่ Google มี TPU เทรนโมเดลเองได้ รันเองได้ ไม่ต้องพึ่งพา NVidia ไม่เหมือนไมโครซอฟท์กับ OpenAI ที่ไม่มีชิปเทรนเอง
บล็อก: wannaphong.com และ Python 3
จีน ซื้อชิป Nvidia ตัวท็อปๆ ได้รึป่าวนะ ?
เอาเป็นว่า ทดสอบการทำ IS เกี่ยวกับ ISO และปรึกษาเรื่องเบอร์ตามศาสตร์ของ อ. ท่านนึง ChatGPT ชนะ Gemini แบบไม่เห็นฝุ่น แม้กระทั่งตอนเลิกสับตะไคร้แล้ว ChatGPT ก็ยังตอบได้ แต่มันจะไม่จำที่ถามไปด้านบน ไม่เหมือนตอนเสียเงิน บอกให้ดูด้านบนที่เคยถาม หรือไม่บอก มันก็ตอบได้
สัตยาพูดถูกนะความฉลาดของGeminiถ้าเทียบกับทรัพยากรระดับGoogleผมถือว่าน่าผิดหวังเลย ส่วนMSต้องเข้าใจว่าก่อนหน้านี้ไม่ได้มียุทธศาสตร์AIเหมือนGoogle MSทุกวันนี้ถือว่าไม่ตกขบวนAIโมเดลตัวเองเอาไว้ทำทีหลังก็ได้ยังไงก็ไม่มีใครเข้ามาเจาะฐานลูกค้าเหมือนที่GoogleกำลังโดนOpenAIท้าทายอยู่