
ยอดขายรถ EV ทั่วโลกในเดือนกุมภาพันธ์อยู่ที่ 1.2 ล้านคัน เพิ่มขึ้น 50% จากปีก่อนหน้า โดยมีจีนเป็นผู้นำตลาด คิดเป็น 75% ของยอดขาย EV ทั่วโลก และยอดซื้อเพิ่มขึ้น 87% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
แนวโน้มตลาด EV ในจีนกำลังเปลี่ยนไปสู่รถไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (BEV) หลังมียอดขายเพิ่มขึ้น 46% มากกว่ายอดขายรถปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) ที่เพิ่มขึ้น 22% หลังรถรุ่นใหม่ของ BYD, Xiaomi, Xpeng, และ Zeekr กำลังมาแรง โดยในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 จีนมียอดขาย EV 1.4 ล้านคัน คิดเป็น 60% ของยอดขายทั่วโลก
ตั้งแต่ปลายปี 2023 BYD ขึ้นเป็นผู้ผลิต EV รายใหญ่ที่สุดของโลก แซงหน้า Tesla และยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยขายรถ EV ได้ 133,361 คันในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 และส่งออกเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าในเดือนกุมภาพันธ์ แตะ 67,025 คัน สร้างสถิติสูงสุดเป็นเดือนที่สามติดต่อกัน
ในทางกลับกัน Tesla กำลังสูญเสียส่วนแบ่งตลาดในจีน โดยยอดขายลดลง มากกว่า 50% เหลือ 30,688 คันในเดือนกุมภาพันธ์ ซึ่งลดลงเร็วกว่าที่เคยเกิดขึ้นในเดือนมกราคม
แม้ทางสหภาพยุโรป สหรัฐฯ และแคนาดา จะกำหนดภาษีนำเข้าสูงถึง 100% เพื่อสกัดกั้นรถ EV จากจีน แต่ผู้ผลิตจีนโดยเฉพาะ BYD ยังขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเตรียมเปิดโรงงานใหม่ใน บราซิล ฮังการี อินโดนีเซีย และ ไทย เพื่อเพิ่มกำลังการผลิตทั่วโลก
แต่จีนยังครองซัพพลายเชนอุตสาหกรรม EV โดยมีกำลังการผลิตแบตเตอรี่กว่า 75% ของโลก และมีส่วนแบ่งตลาดมากกว่า 2 ใน 3 ของชิ้นส่วนสำคัญที่ใช้ในการผลิตรถ EV
ส่วนยุโรปและอเมริกาเหนือยังเติบโต โดยยอดขาย EV ในยุโรปเพิ่มขึ้น 20% แตะ 500,000 คันในช่วงสองเดือนแรกของปี 2025 เช่นเดียวกับอเมริกาเหนือที่มียอดขายเพิ่มขึ้น 20% แตะ 300,000 คัน
ที่มา: South China Morning Post
Hiring! บริษัทที่น่าสนใจ