ถึงแม้ข่าวนี้จะไม่เกี่ยวกับวงการคอมพิวเตอร์หรือเทคโนโลยีสักเท่าไหร่ ผมว่าเว็บที่ค่อนข้างเคร่งกับการตรวจสอบการเขียนอย่าง Blognone ผมว่าน่าจะโดนเต็ม ๆ ซึ่งถ้าหลักการเขียนแบบนี้ถูกตีพิมพ์ออกมาจริง เราอาจต้องมาถกเถียงกันต่อว่าจะยึดตามหลักนี้กันหรือไม่ (แต่หากว่า Founder หรือ Writer ไม่เห็นว่าควรเป็นข่าวขึ้นหน้าแรก ก็แล้วแต่จะพิจารณาครับ)
เนื่องจากราชบัณฑิตเห็นว่า คำที่ยืมมาจากภาษาต่างประเทศหลายคำ เราเขียนกันผิดหลักเรื่อยมา ใช้กันจนชินมือชินตากันไปแล้วแต่ความจริงที่ว่าผิดก็ยังคงผิดอยู่ ผลที่เกิดตามมาคือชาวต่างชาติที่เรียนภาษาเรา พอเจอศัพท์ที่สะกดผิด ๆ พวกนั้นก็ถึงกับงง (แต่ผมคิดว่า เด็กไทยรุ่นใหม่ตอนนี้ก็งงไม่แพ้กัน)
ซึ่งการเขียนผิดเหล่านั้นเกิดจากเราทับศัพท์แบบไม่ค่อยใส่วรรณยุกต์และไม่ผันเสียงตามที่ควรจะเป็นเช่น
- แคลอรี -- แคลอรี่
- โควตา -- โควต้า
- เรดาร์ -- เรด้าร์
คำเตือน: ก่อนจะแชร์ ก่อนจะเม้นต์กัน กรุณาอ่านให้ดี อ่านให้จบก่อนครับ
คุณกาญจนา นาคสกุล ราชบัณฑิต และนายกสมาคมครูภาษาไทยแห่งประเทศไทยกล่าวว่าขณะนี้พบว่ามีถึง 176 คำที่สะกดผิดตามหลักดังกล่าว ซึ่งกองศิลปกรรมได้จัดทำแบบสอบถาม 300 ชุด เพื่อสอบถามความเห็นจาก * "คณะกรรมการราชบัณฑิต ภาคีสมาชิก และผู้ที่เกี่ยวข้อง"* ในการเปลี่ยนแปลงการเขียนคำที่ยืมจากภาษาอังกฤษใหม่
เบื้องต้นจากการสอบถามความเห็นจาก "สภาราชบัณฑิต" ส่วนใหญ่เห็นด้วยกับการเติมวรรณยุกต์ และเปลี่ยนแปลงคำศัพท์ทั้ง 176 คำ เพื่อเขียนให้ถูกต้อง
อย่างไรก็ตามคุณกาญจนากล่าวว่ายังคงต้องรอดูผลการตอบแบบสอบถามทั้ง 300 ชุดด้วย ว่าจะเห็นด้วยทั้งหมด หรือเห็นด้วยบางส่วน หรือไม่เห็นด้วย หรือมีข้อเสนอแนะอะไรเพิ่มเติม ซึ่งทั้งนี้ก็จะต้องทันกำหนดเวลาคือ 31 ต.ค. 55 นี้ เพื่อจะบรรจุในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ.2554 และตีพิมพ์ต่อไป
ที่มา - มติชนออนไลน์
หนึ่งในคำที่เสนอให้เปลี่ยน ซึ่งผมมั่นใจว่ามันจะดังภายในไม่กี่ชั่วโมงนี้ หรือไม่ก็ดังไปแล้วขณะที่เขียนคอมพิวเตอร์-ค็อมพิ้วเต้อร์
ย้ำอีกที เขาแค่เสนอครับ ยังไม่ได้เปลี่ยนจริง และกรุณาไปดูที่มา มีอีกหลายคำที่ผมก็เห็นด้วยว่าควรจะเปลี่ยน เช่นพวกวรรณยุกต์เอก-โททั้งหลายที่ผมยกมาเป็นตัวอย่าง
Comments
ในนี้มีคำเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ เทคโนโลยีอยู่ เลือกออกมาเขียนก็น่าจะเป็นข่าวไอทีได้ละมั้ง
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ค็อมพิ้วเถอะ
เท็คน้อหล่อจิ
555
สากด ยากส์ จุง เร~ เก๊า พิม มะ ถุก เบยยย.
กากส์ มากส์
{$user} was not an Imposter
เห็นด้วยกับบางคำ แต่หลายคำก็ไม่เห็นด้วย ^^'
ผมว่าแบบสำรวจ 300 ชุดนี่น้อยไปนะ
~ HudchewMan's Station & @HudchewMan ~
ความเห็นท่านหนึ่งในเพจ หนังสือเพี้ยน
ประสาทจะกิน -*-
อันนี้ พี่แอน @iannnnn ทวิตไว้ครับ
ถ้าเขียนตามปกติจะเป็นข้อความที่ดูทันสมัยมาก แต่พอเปลี่ยนวิธีเขียนปุ๊บ รู้สึกเหมือนข้อความสมัยพ่อขุนรามฯ :D
ดูไปดูมาแล้วเหมือนภาษาสก๊อยมากครับ อาจจะยังไม่ชินมั้ง
ตอนดูข่าวนี้ผมก็นึกถึงบล็อกนันก่อนเลย
+1 เห็นแล้วนึกถึงภาษาสก๊อยเลย
ถูกตามหลักการออกเสียง โดยเฉพาะ ค็อมพิ้วเต้อร์ แม้สายตาเราอาจจะแย้งว่ามันไม่ชิน ไม่สวย แต่ผมว่าอนาคตน่าจะทำให้เด็กออกเสียงภาษาอังกฤษได้ถูกต้อง พูดแล้วฝรั่งไม่งง นะ จะเปลี่ยนก็ดี
ที่เสนอมามันเป็นสำเนียงไทยครับ ไม่ตรงกับฝรั่งอยู่ดี
คุณ lancaster พูดถูกเป็นอย่างยิ่งครับ ภาษาอังกฤษมันไม่มีวรรณยุกต์ ไม่มีการออกเสียงที่ตายตัวชัดเจน หลายๆ ครั้งคำคำเดียวกันแต่อยู่ในบริบทที่ต่างกัน ฝรั่งก็ออกเสียงวรรณยุกต์ไม่เหมือนกัน การคิดจะใส่วรรณยุกต์เพื่อให้ออกเสียงแบบที่คนไทยเราออกเสียงกัน ผมว่าจะทำให้ภาษาวิบัติกันไปใหญ่ เด็กไทยยุคใหม่จะออกเสียงผิดจากเจ้าของภาษาไปคนละเรื่องในเมื่อภาษาอังกฤษไม่มีวรรณยุกต์ การเขียนทับศัพท์ก็ควรเขียนแบบไม่มีวรรณยุกต์นั่นแหละดีที่สุดครับ ส่วนการอ่านออกเสียงไม่ตรงกับรูปก็ไม่ใช่ปัญหาอยู่แล้ว ภาษาไทยเราเองก็มีคำประเภทนี้อยู่มากมาย
+1 เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง เพราะมันไม่ได้ตายตัวอย่างภาษาไทย หากจะใส่วรรณยุกต์จริง ต้องถามราชบัณฑิตว่าจะใช้สำเนียงค๊อคนี่ หรือบีบีซี หรือจะเอาอเมริกันอิงลิซดีละคร๊าบ ....ปล. ผมขอเสนออ่านคอมพิวเตอร์ว่า คมพิ้วเท่อร์ จะได้แอ๊คเซ่นเหมือนทอล์กกิ้งดิกดีมากเลยนะครับ...หุหุ
เกรงว่า American English จะออกเสียงว่า "ข่อมพิ๊วเดอร์" น่ะสิครับ 555+
แค่อ่านตาม ก็ปวดลิ้นไก่ละ :-)
ต้องต้องถกกันยาวว่าจะ คม-พยู๊-เถอะ (RP), คอม-พิ๊ว-เทอร์(ห่อลิ้น - GA), หรือ กอม-ปริ๊ว-เตอะ(Indian) 555+.
555 อ่าน กอม-ปริ๊ว-เตอะ แล้วเห็นภาพเพื่อนอินเดียมันพูดคำนี้ลอยออกมาเลย
technology ผมยังออกเสียง เท็คน๊อเลาะจิ เลยสำเนียงแต่ละคนมันไม่ตรงกันเลย จะให้เขียนกันยังไงนั่นแหละ
+1024
+1 ครับ
เห็นด้วยครับ
+1แสดงให้เห็นว่าราชบัณฑิตนี้แม้จะมีความรู้เรื่องภาษาไทยเป็นอย่างดี แต่ไม่มีความรู้เรื่องภาษาอังกฤษเป็นอย่างยิ่ง
AEC มาเมื่อไหร่ สอนเด็กไปพูด แอ๊ปเปิ้น ค็อมพิ้วเต้อร์ แบบนี้ให้เด็กไทยได้อายเค้าเปล่าๆ
ก็อบความเห็นตัวเองมาอีกรอบละกัน
มีความเห็นว่าสมควรทำนะ จะได้เป็นมาตรฐานจริงๆ
ดูทุกวันนี้ บอก ทับศัพท์ไม่ต้องใช้วรรณยุกต์
แล้วคำว่า ก๊าซ แก๊ส ที่ใช้กันอยู่ทุกวันนี้มันคือมะเกลืออะไร
ช็อกโกแลต เช็ค เค้ก ไต้ฝุ่น ปลั๊ก คำพวกนี้เราเห็นกันจนชิน
แต่กลับบอกว่าทับศัพท์ไม่ต้องใส่วรรณยุกต์
แล้วมาตรฐานอยู่ตรงไหน
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ตามความคิดผม ทับศัพท์ในไทยมันมี 2 ยุคครับ
ยุคแรก เป็นยุคที่ใช้คำๆ นั้นจนกลายเป็นคำไทยหรือชื่อไทยหรือคำเฉพาะอาทิ แบงค์สยามกัมมาจล
ยุคหลัง มีการวิเคราะห์ความหมายและมีการให้นิยามเป้นภาษาไทย เพียงแต่ยังคงใช้คำๆ นั้นเพื่อสะดวกต่อการเทียบคำทางภาษาอังกฤษ
เรื่องมาตรฐานการทับศัพท์ ผมเองก็ไม่ค่อยรู้เท่าไร แต่ที่รู้เหมือนกันก็คือไม่ใส่วรรณยุกต์
ช็อกโกแลต เช็ค ไม่ผิดนะครับ ไม่ไต่คู้ไม่ใช่วรรณยุกต์
โทษทีครับที่พูดรวมๆ ไปหน่อย แต่ที่จริง ไม้ไต่คู้ก็มีอยู่ในที่เค้าเสนอครับ หมวดแรกเลย
May the Force Close be with you. || @nuttyi
ยังไม่เป็นทางการนี่ครับ
แก้หน่อยครับใช==>ใช้
ผมอ่านดูแล้ว เข้าใจว่าข่าวนี้เป็นข้อเสนอของ "ราชบัณฑิต" เพียงคนเดียว (กาญจนา นาคสกุล) นะครับ ไม่ใช่มติของ "ราชบัณฑิตยสถาน" ซึ่งไม่ตรงกับที่เขียนไว้ในหัวข่าวครับ
อ้าวเพิ่งจะเห็นอันนี้ ผมดันไปโพสไว้ในฟอรั่ม ลบไปก็ได้ครับ
คุณบอทปวดหัวแน่
จะบอกว่าที่ผ่านมามันไม่มีหลักการทับศัพท์ภาษาอังกฤษมันก็ไม่ใช่นะ ผมเคยเรียนตอนหัดเขียน thesis อยู่ แต่จำไม่ได้แล้ว
ผมมองว่าไม่ควรเปลี่ยนนะครับถ้ามันเป็นอยู่แล้ว เพราะคำ "ไทย" ที่ไม่ได้ผันตามวรรณยุกต์จริง ๆ ก็มีเยอะแยะไป
เอ่อ ผมเสนอให้เขียนภาษาอังกฤษของชื่อไทยให้ตรงเสียงด้วย Suvarnnabhumi ล่ะตัวอย่างนึง
อันนั้นจะว่าถูกก็ถูก จะว่าผิดก็ผิดครับ เพราะเหมือนเค้าใช้วิธีแปลงผ่านทางภาษาบาลีก่อนแล้วค่อยทับศัพท์เป็นภาษาอังกฤษมันเลยออกมาแปร่งๆเวลาออกเสียงตามภาษาไทยหน่ะครับ แต่ถ้าเปลี่ยนอันนี้นี่เรื่องใหญ่เหมือนกันนะครับ ชื่อของพระบรมวงศานุวงศ์ก็แปลงผ่านวิธีนี้กันหมด
สุวรรณภูมิ ไม่ใช่ภาษาไทยครับ ก็เลยต้องถอดให้เป็นคำบาลี-สันสกฤตแทน
ประเด็นก็ไม่ใช่เรื่องของภาษานี่ครับ มันเป็นเรื่องการสะกดให้ตรงเสียง คือผมมองว่าเราน่าจะสะกดให้ฝรั่งอ่านออกให้เสียงที่เราพูดกันจริงๆ มากกว่าตามรูปศัพท์ เพราะทำให้การสืื่อสารง่ายขึ้นเยอะ
คำว่า พระราม ก็เขียนว่า RAMA นะครับ ถ้าเปลี่ยนต้องเปลี่ยนหมดเลยมั้ง
The wet อะไรวะ เดอะเว็ทๆ คนไทยงง
อืม... น่าคิดนะครับผมเข้าใจว่าที่เค้าต้องไปถอดตามภาษาบาลีสันสกฤตเพราะเค้าจะถอดตามรากศัพท์ซึ่งเวลาไทยรับเข้ามาก็เปลี่ยนแปลงให้มันเข้ากับลิ้นคนไทยง่ายขึ้น พอเราไปแปลงตามรากแล้วเลยกลายเป็นว่าออกมาไม่ตรงกับเสียงที่คนไทยออกจริง แต่จริงๆมีอีกแง่คือเวลาเราใช้ภาษาต่างประเทศ มันจะดูหรูไฮดีอะไรอย่างงี้มั้งครับอย่างที่เราเอาภาษาเขมรมาเป็นราชาศัพท์ คงมีแนวคิดไม่ต่างกับการแปลงจากบาลีก่อนเป็นอังกฤษอะไรงี้
งั้นแสดงว่า "ก๋วยเตี๋ยว" ที่คนกรุงเทพออกเสียงเป็น "ก้วยเตี๋ยว" เราก็ต้องเปลี่ยนอย่างนั้นหรือครับ ยกตัวอย่างอีกคำคำว่า "ฉัน" แต่คนกรุงเทพออกเสียงว่า "ชั้น" เราต้องเปลี่ยนด้วยสิ ภาษาอังกฤษที่ใช้กันเขาก็ไม่มีวรรณยุกต์กำกับคำหลายๆคำก็อ่านไม่ตรงเสียงแต่คนไทยก็ยังอ่านได้เลย อยากให้ฝรั่งอ่านรู้เรื่อง คนไทยด้วยจะลำบากมากขึ้นหรือเปล่าครับ "เน่อ เขียนหยั่งอี้บ่ได้เขียนอี้ เน้อ"
คืออย่างคำว่าสุวรรณภูมินี่มันไม่ได้ต่างกันนิดๆหน่อยเพียงแค่ผันวรรณยุกต์น่ะสิครับ
ผมได้ยินฝรั่งออกเสียงเป็น สุ-วัน-นะ-บู-มี ซึ่งเอาจริงๆไม่มีคนไทยคนไหนออกเสียงใกล้เคียงแบบนี้เลย
อืม .... เค้าว่ากันว่าเพราะสุวรรณภูมิเป็นสันสกฤษ เวลาเขียนเป็นภาษาอังกฤษจึงต้องทับศัพท์แบบสันสกฤษบลาๆๆๆๆ
รามาไนน์ ... ประเสริฐมากครับ
ก๋วยเตี๋ยวมาจากคำจีน
คนจีนไม่ได้ออกเสียงอย่างนั้นเลย
ก่วยเตี๊ยว
พี่คริสแกก็บ่นใน Unseen เหมือนกัน ผมเองก็มองว่าดัดจริตซะมากกว่ามองเป็นบาลี-สันสกฤต
Suvarnabhumi Airport ต้องอ่านแบบนี้นะครับ
[http://www.youtube.com/watch?v=-45LEgLtCac](http://www.youtube.com/watch?v=-45LEgLtCac)
ยังไม่ค่อยเข้าใจว่าทำไมเราต้องเขียนให้คนไทยด้วยกันเองรู้ว่ามันเป็นสันสกฤษ แต่ไม่สามารถใช้สื่อสารกับประเทศเป้าหมายได้
แสดงว่าเป้าหมายหลักคือต้องการให้รู้ว่ามันเป็นภาษาสันสกฤษ
ผมว่าหลายๆ หน่วยงานของไทยมีปัญหากับการจัดลำดับความสำคัญของวัตถุประสงค์นะครับ
ภาษาอังกฤษน่ะหรือครับ?
โอ ถ้าใช่จริงๆ ล่ะปัญหาใหญ่เลยครับ
ปัญหาที่ผมคิดอยู่คือคำว่า ค็อมพิ้วเต้อร์ เนี้ย ถ้าเปลี่ยนจริง แล้วคำต่างประเทศอื่น ๆ ที่ขึ้นต้นว่า Com ละต้องเปลี่ยนหมดไหม? แล้วที่เห็นด้วยกับข้างบนก็คือเปลี่ยนแล้วไม่ใช่ว่าเสียงมันจะถูกต้อง ภาษาอื่นมั่นใจหรอว่าออกเสียงได้ถูกจริง ๆ ศัพท์บางตัว มันมีรากศัพท์มาจากที่อื่นอีกนอกจากภาษาอังกฤษ
คิดเหมือนกันเลยครับ อย่างคำว่า ter อีกคำ ตอนนี้เปลี่ยนเป็น เต้อร์ แล้วถ้าคำอื่นที่มีเขียนลงท้ายด้วย ter เหมือนกันแต่ไม่มีในลิสแล้วจะต้องเปลี่ยนหรือเปล่า อย่างเช่นคำว่า writer ไรท์เตอร์ ที่น่าจะเป็น ไรท์เต้อร์
writer เขียนเป็นภาษาไทยว่า นักเขียน หรือ นักประพันธ์ สิครับ ไม่ใช่คำที่ต้องทับศัพท์หนิ
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ชื่อบริษัทบางบริษัทเค้าก็ยังใช้อยู่เขียนทับศัพท์ไปเลย หรืออย่างชื่อโปรแกรมสมัยก่อน CU Writer ก็เรียกว่า ซียูไรเตอร์ ไม่ได้เรียกเป็น ซียูนักเขียน
บางชื่อมันก็ต้องเขียนทับศัพท์ไม่ได้เขียนแปลครับ
ชื่อเฉพาะก็ไม่ต้องไปยุ่งกับเค้าสิครับ
ซอฟต์แวร์ ไมโครซอฟท์ เห็นอะไรมั้ย?
May the Force Close be with you. || @nuttyi
หลุดประเด็นแล้วครับ เกี่ยวอะไรกับราชบัณฑิตละนี่
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ต้องเป็น "ไร้เต้อร์" สิครับ
ก็น่าจะเป็นอย่างนั้นครับ ตอนเขียนก็คิดๆ อยู่เหมือนกันว่าจะเขียนอย่างนี้ไหม แต่ว่าต้องการกล่าวถึงคำว่า ter ก็เลยเขียนไปอย่างนั้น
นอกเรื่องฮะ Tomb Raidaer - ทูมบ์ ไร้เด้อ~.
คล้ายๆมาม่าพิมพ์ไทยในเวบยูทูป
ถ้าอยากให้มันเป็นสากล ก็ควรเปลี่ยน เพราะคำใหม่มันออกเสียงได้ตรงกับที่ฝรั่งพูดจริงๆถ้าคิดแบบไทยตามไทย ไม่สนว่าเพื่อนบ้านต่างประเทศเค้าออกเสียงยังไง ก็ใช้แบบเดิมกันไป
ฝรั่งประเทศไหนอะครับ?
ออสเตรเลีย
เพิ่มอีกนิด คุณอาจคิดแบบที่ว่าถ้าอยู่ไทย ใครพูดสำเนียงฝรั่งจ๋ามันกระแดะแล้วก็ไม่คิดว่าใครจะใช้ แต่ที่ออกเสียงว่าค็อมพิ้วเตอร์นี้แหละที่พูดแล้วฝรั่งเข้าใจ เพราะเป็นเสียงสูงสลับต่ำ ถ้าคุณมาอยู่เมืองนอกแล้วพูดตามคำเขียนแบบไทย 85% ของผู้ฟัง จะฟังไม่รู้เรื่อง
แต่ผมว่าไอ่ที่เค้าจะเปลี่ยนนี่มันแอ้คเซ่นไทยแท้เลยคุณ
ได้ลองอ่านออกเสียงคำที่เค้าเสนอดูรึยังครับ?
ถ้าลองแล้วน่าจะรู้ว่ามันคือสำเนียงไทยแท้ ไม่ได้ใกล้เคียงกับต่างชาติสักประเทศ (ยกเว้นแถวอินเดีย)
ผมอ่านแล้วนะ แบบใหม่มันออกเสียงไกล้เคียงกับฝรั่งออกเสียงกว่าคำว่า คอมพิวเตอร์แน่ๆ ถ้าเขียนแบบใหม่แล้วอ่านแบบพยายามออกเสียงสูงต่ำด้วย มันจะเมคเซนส์มากๆ แต่ยังไงๆก็ไม่ได้สำเนียงฝรั่ง 100% หรอกเพราะเขียนภาษาไทยให้เหมือนที่ฝรั่งพูดจริงๆมันคงไม่มีทางมั้งครับโดยหลักการเดียวกันถ้าแบบคนอินเดียพูดแต่เค้าก็ไม่ได้สำเนียงฝรั่งเป๊ะแต่เค้าพูดแล้วฝรั่งเข้าใจ ประมาณนั้น(ไม่ได้ด่านะ)
ผมอาจอธิบายไม่เก่ง แต่จากที่ทำงานอยู่ต่างประเทศหวังว่าคงเป็นมุมต่างที่พอจะยอมรับกันได้มั้งครับว่าฝรั่งเข้าใจสำเนียงแบบไหนมากกว่า
งั้นคุณก็ผิดตั้งแต่ใส่เสียงสูงต่ำลงไปแล้วแหละครับ
คำว่า "ค็อมพิ้วเต้อร์" แบบใหม่นี้ มันจะออกเสียงเหมือนกับ "คอมพิวเตอร์" ที่เราใช้กันอยู่เป๊ะเลยครับ แค่เปลี่ยนรูปเวลาเขียนให้ตรงกับเวลาพูด ซึ่งเป็นสำเนียงไทยแท้ๆ เลย
คือคุณจับประเด็นผิดแล้วครับ เขาไม่ได้จะเปลี่ยนคำอ่าน แต่เขาจะเปลี่ยนคำเขียนให้ตรงกับคำอ่าน
แปลว่าคุณผันวรรณยุกต์ภาษาไทยผิดครับ
เพราะคำที่เสนอใหม่ มันเป็นสำเนียงไทยเป้ะๆเลย
ทุกวันนี้ การออกเสียงคำว่า "คอมพิวเตอร์" ที่นิยมกันในภาษาไทย คือ ค็อม (เสียงสั้น) - พิ้ว (เสียงตรี) - เต้อ (เสียงโท) ครับ ไม่ใช่ คอม-พิว-เตอ (เสียงสามัญหมด)
การสะกดแบบใหม่ ก็แค่เอาเสียงที่นิยมนี้ ไปใส่ในรูปการเขียนครับ ไม่ได้เปลี่ยนการออกเสียงอะไรเลย
ผมเข้าใจตามนี้เหมือนกันนะครับ แค่แก้ให้เขียนตรงกับคำที่คนไทยอ่านปัจจุบัน
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
@datalost มั่วแล้วล่ะ ไม่ไทยก็อังกฤษของคุณต้องเพี้ยนซักอย่างนึงอะ ไม่งั้นก็ทั้งคู่
แต่ผมพูด เขิ่มพิ่วเท่อะ (kəmˈpjuːtə) นะ ค็อมพิ้วเตอร์ อะไรนี่คงจะพูดกับคนไทยด้วยกันนี่แหละครับ
ค็อมพิ้วเต้อร์คงจะดีนะ
การเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี เป็นสิ่งที่ดีแต่หลักเกณฑ์คำทับศัพท์เดิม ก็ดีอยู่แล้ว และด้วยเกณฑ์ดังกล่าว สามารถสร้างคำใหม่ ที่เขียนได้เหมือนๆ กันทั้งประเทศได้ โดยไม่มีผิด (ถ้าทำตามหลักเกณฑ์จริงๆ)
ส่วนการเขียนทัพศัพท์เสียงอ่าน แนวคิดดีแต่ การออกเสียงให้ถูกต้อง ในการทับศัพท์ ทั้งๆ ที่ไม่ใช่เจ้าของภาษา อาจทำให้คำแต่ละคำ มีความแตกต่างกัน เช่น Multimedia ถ้าออกเสียงแบบอเมริกัน ก็แบบหนึ่ง (มัลไทมีเดีย) ถ้าแบบอังกฤษก็อีกแบบหนึ่ง (มัลติมีเดีย)และต้องไม่ลืมว่า การออกเสียงภาษาอังกฤษ มีการเน้นคำ หนัก เบา แล้วแต่คำศัพท์ด้วย และเวลาเขียน จะเขียนตามการออกเสียง คงเป็นเรื่องยาก เช่น Desert
ดังนั้น การเขียนทับศัพท์ตามเสียงที่ออกมา อาจมีมาตรฐานที่แตกต่างกัน แต่หากเป็นการคงรูปเดิมเอาไว้ เหมือนเกณฑ์เดิม จะทำให้สะดวกมากกว่า
ที่สำคัญ อย่างคำในภาษาอื่นๆ ที่ไม่ใช่ ภาษาอังกฤษ เช่น ฝรั่งเศส คำแต่ละคำ บางครั้งอาจออกเสียงที่แตกต่างกันก็ได้
(ตัวอย่าง คำไทย ที่ไม่ได้ออกเสียงตามรูป เช่น น้ำ (ออกเสียง น้าม)
ผมว่าตัวอย่างยังไม่ค่อยจะเห็นภาพเท่าไหร่ ผมว่าถ้าเป็นคำว่า Data หรือ Digital จะเห็นภาพมากกว่าครับ
โดยส่วนตัวผมไม่เห็นด้วยนะที่จะให้ใส่วรรณยุกต์เพิ่มขึ้นมา คือเท่าที่เจออยู่นี่ แค่อักษร สูง กลาง ต่ำ มีกฎการผันต่างกัน คนสมัยใหม่ก็ใช้กันให้วุ่นแล้วอะ คำบางคำที่เป็นคำปกติ ก็ผันวรรณยุกต์กันผิดๆ ถูกๆ อยู่แล้ว ถ้าต้องมีคำที่แก้ไขสให้ใส่วรรณยุกต์เพิ่มขึ้นมาเพิ่มอีก ทีนี้คงมั่วกันไปใหย่ :P
อีกข้อนึงก็คือ ทำไมเราต้องทำให้ภาษาไทยที่แสนจะยาวอยู่แล้ว ต้องใช้ character เปลืองเพิ่มขึ้นไปอีก ตัวอย่างจากด้านบน คอมพิวเตอร์ ต้องเพิ่มมาอีกตั้ง 3 ตัวแน่ะ สงสัยเล่นทวิตมากไปหน่อยน่ะ เลยอยากให้คำมันเขียนได้แบบสั้นๆ 55
แถมประเด็นส่วนตัว อย่างคำตัวอย่างที่อยู่ใน quote แรกสุด สามคำนั้น โปรแกรมสังเคราะห์เสียงที่ผมใช้ (PPA ตาทิพย์) ก็ดันฉลาด อ่านออกมาในเสียงที่ถูกต้อง (แบบใส่วรรณยุกต์)ให้อยู่แล้วอีกต่างหาก ดังนั้นในด้านการใช้งานก็คงไม่ต่างแฮะ หุหุ
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ผมไม่แน่ใจว่าข่าวนี้คอมเมนต์ยาวขนาดนี้พี่จะกลับมาเช็คหรือเปล่านะ
คือตอนนี้ผมสงสัยว่าพี่รู้ได้ยังไงว่าในข่าวเขียน คอมพิวเตอร์ หรือ ค็อมพิ้วเต้อร์ ครับ?
คือมันแค่บางคำครับที่โปรแกรมดันฉลาดอ่านให้ถูกตามเสียงวรรณยุกต์ ตัวอย่างคือ3 คำ ใน Quote แรกที่บอก
แต่อย่างคำที่ถามเนี่ย มันจะอ่านต่างกันครับ ไอ้ตรง พิวเตอร์/พิ้วเต้อร์ นี่ออกเสียงเหมือนกัน (แต่ถ้าเขียน "พิวเตอร์ ไม่มีคอมนำหน้า มันก็ออกเสียงว่า พิวเตอร์ เสียงสามัญนะ) แต่ที่ทำให้รู้ว่ามันสะกดต่างกัน ก็ตรงคำว่า คอม/ค็อม นี่แหละครับ "ค็อม" มันอ่านว่า "ค๊อม" คือเป็นเสียงตรีน่ะ :)
@ Virusfowl
I'm not a dev. not yet a user.
ก่อนหน้านี้การทับศัพท์บ้านเรา จะใช้วิธีการทับศัพท์ตามตัวอักษร ถ้าจำไม่ผิดเขาจะเรียก romanization
คือไม่ดูเรื่องเสียงแต่ดูแค่รูปอักษรเป็นหลัก ซึ่งใช้กับทุก ๆ ภาษาที่มีตัวเขียนโรมันเกือบทั้งหมด
รวมไปถึงชื่อสถานที่ และชื่อเฉพาะต่าง ๆ ด้วย
ผมว่าวิธีเดิมมันก็เข้าใจง่ายและเป็นมาตรฐานเดียวกันดี แต่ถ้าเปลี่ยนให้ยึดเสียงอ่านด้วย ผมว่ามันจะวุ่นนะครับ
อย่าง calorie นี่ พยางค์สุดท้ายจริง ๆ มันก็ไม่ได้เป็นเสียงโท "รี่" อย่างชัดเจนซะทีเดียว
นี้ยังไม่นับเรื่องปวดหัวที่ calorie มันมีในภาษาอื่น ๆ ทั้ง ฝรั่งเศสหรือเยอรมัน ฯลฯ ซึ่งก็ไม่รู้ว่าออกเสียง
เหมือนกันหรือเปล่า
ผมว่าทับตามรูปไปเถอะ ส่วนจะออกเสียงยังไงก็ไปเรียนรู้กันอีกที
Happiness only real when shared.
แก้นิดนึงคือ Romanisation คือเขียนให้เป็นอักษรโรมัน (ละติน) จากการเขียนแบบอื่นครับ อย่างเขียน อยุธยา เป็น Ayutthaya อันนี้คือ Romanisation
ส่วนเรื่องหลักการทับศัพท์ หลักการทับศัพท์ของราชบัณฑิตฯ เป็นหลักการที่ถอดตามการออกเสียงมาตลอดนะครับ จะตรงบ้างไม่ตรงบ้าง ก็ขึ้นกับภาษามันอำนวย ลองค้นหลักการทับศัพท์ของราชบัณฑิตฯ จะมีแยกตามภาษาครับ ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน ภาษาสเปน รวมไปถึงภาษาอาหรับ ภาษาญี่ปุ่น ฯลฯ เพียงแต่ที่ผ่านมา หลักการของราชบัณฑิตฯ จะกำหนดว่าไม่ต้องใส่รูปวรรณยุกต์ (รวมถึงไม้ไต่คู้ ที่ไม่แน่ใจว่าทำไม) ให้กับคำทับศัพท์ต่างๆ ที่มาจากพวกภาษาที่ไม่ได้มีเสียงวรรณยุกต์ (จะมีก็พวกภาษาที่มีเสียงสูงต่ำอยู่แล้ว เช่น จีน) ดังนั้นหลักการทับศัพท์จะดูแค่ว่า ภาษานั้น พยัญชนะหรือสระแต่ละเสียง จะถอดออกมาเป็นอักษรไทยอย่างไร
ผมเข้าใจว่า ที่ผ่านมา หลักการคือว่า ในเมื่อภาษาที่ถอดมานั้นไม่ได้มีกำหนดเสียงวรรณยุกต์ตายตัว การถอดมาก็ไม่ต้องกำหนดวรรณยุกต์ แต่ในการใช้งานนั้น เรามีรูปเสียงวรรณยุกต์ที่เราจะติดกันในภาษาไทย (กลาง) อยู่ อย่าง คอมพิวเตอร์ เราก็จะอ่านพยางค์สุดท้ายว่า เต้อ (เสียงโท) ไม่ค่อยมีใครอ่าน เตอ (เสียงสามัญ) หรือ เต่อ (เสียงเอก) กัน ซึ่งแนวโน้มของราชบัณฑิตฯ ในช่วงหลังๆ มานี้ จะพยายามให้มีการเขียนบันทึกเสียงวรรณยุกต์ตามการออกเสียงของคนไว้ด้วย (เริ่มมาสักพักแล้ว ไม่ใช่ว่ามีอันนี้เป็นอันแรก)
เอาจริงๆ แล้ว ถ้าสังเกตดู ก็ไม่ใช่ว่าคนไทยจะชินกับการทับศัพท์โดยไม่ใส่รูปวรรณยุกต์กันไปเสียหมดหรอกครับ ผมว่าก่อนหน้านี้เราชินกับการใส่รูปวรรณยุกต์ด้วยซ้ำ อย่างคำว่า ช็อปปิ้ง ถ้าจะเอาแบบไม่ใส่รูปวรรณยุกต์ตามหลักการทับศัพท์ภาษาอังกฤษ (อันปัจจุบันที่ยังไม่ได้เปลี่ยน) ก็จะเขียนว่า ชอปปิง ซึ่งดูแล้วเราก็คงไม่ได้ชินเหมือนกัน ที่ไม่ใส่รูปวรรณยุกต์เลย ก็ดูน่าจะเป็นความเคยชินยุคหลังๆ หน่อย ถ้าอ่านตามหนังสือพิมพ์กีฬา ก็อาจจะสังเกตได้ว่า พวกชื่อทีมชื่อเมืองที่เป็นภาษาอังกฤษมักไม่ค่อยใส่รูปวรรณยุกต์กันแล้ว (ลิเวอร์พูล ไม่ใช่ ลิเว่อร์พูล) แต่ภาษาอื่นก็ยังชินที่จะใส่กันมากหน่อย (เลชเช่ หนังสือพิมพ์ก็ยังสะกดกันแบบนี้)
ทั้งหมดนี้ ไม่ได้แปลว่าเห็นด้วยกับแนวทางนี้ของราชบัณฑิตฯ นะ ก็มีเหตุผลที่ไม่เห็นด้วยอยู่
ประเทศไทยยังคงคิดว่าวัฒนธรรมของสังคม (เช่น ภาษา) เป็นอะไรที่กำหนดโดยจากข้างบนลงมา หรืออย่างน้อยก็สมควรถูกชี้นำโดย authority
ถ้าภายในวันข้างหน้า (อีกสัก 3-4 ชั่วรุ่น) คำแบบที่เสนอใหม่นี้จะกลายเป็นมาตรฐาน มันก็เรื่องของมัน แต่วันนี้ผมจะใช้อย่างที่ผมชอบและสื่อสารกับคนอื่นๆ ทั่วไปได้
ราชบัณฑิตไม่ใช่คนกำหนดอะไรตายตัวได้หรอก สุดท้ายก็ต้องยอมโอนอ่อมตาม norm ทุกที ไม่ต้องไปสนใจเท่าไรนักก็ได้
อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกว่าประเทศไทยโชคดีครับ ที่มีหน่วยงานอย่างราชบัณฑิตสถานไว้ให้คนพวกนี้มีงานทำ ถ้าเกิดพวกนี้ไปยุ่งกับหน่วยงานที่ สำคัญๆ เช่น หน่วยงานที่คุมระเบียบการตั้งชื่อวิทยาศาสตร์สิ่งมีชีวิต ฯลฯ มันจะเป็นโชคร้ายของคนไทยและมวลมนุษยชาติโดยรวม
สรุป 4 ย่อหน้าใน 1 ประโยค คือ ราชบัณทิตไม่ใช่พ่อ
อืม... แรง
จริง ๆ การที่เรามีหน่วยงานที่ค่อยดูแลเรื่องมาตรฐานการใช้ภาษามันก็ไม่ใช่เรื่องเสียหายนะครับ
จริงอยู่ราชบัณฑิตฯ ไม่ใช่เจ้าของภาษาที่มีสิทธิกำหนดนั่นนี่ เพราะสิ่งที่ราชบัณฑิตกำหนด
แล้วคนไม่ยอมใช้ตามก็มีเยอะแยะไป แต่ประโยชน์ของราชบัณฑิตฯ ก็มีอยู่ไม่น้อย ถ้าคุณไปอ่าน
หนังสือเก่า ๆ ก่อนมีราชบัณฑิตฯ คุณจะปวดหัวมากเพราะมันสะกดมั่วไปหมด ตำรายาโบราณนี่
เขียนกันมั่วจนน่ากลัวว่ากินแล้วจะตายเอา
มีมาตรฐานกลาง ๆ มันก็ดีกว่าไม่มีเป็นไหน ส่วนไม่เห็นด้วยกับมาตรฐานก็มาถกเถียงด้วยเหตุผลดีกว่า
Happiness only real when shared.
เห็นด้วยทุกประการครับ
จริงๆแทนที่จะมารณรงค์เรื่อง Nonsense แบบนี้ เรามารณรงค์เรื่องที่จำเป็นต่ออนาคตดีกว่ามั้ย? อาเซียนจะเปิดแล้วเรายังเรียกชื่อประเทศไม่ตรงกับชาวบ้านเค้าอยู่เลย
จีน >> ไชน่า
อังกฤษ >> อิงแลนด์
ญี่ปุ่น >> เจแปน
กัมพูชา >> แคมโบเดีย
ฝรั่งเศส >> ฟรานซ์
เกาหลี >> โคเรียน,โคเรีย
พม่า >> เมียนม่า
ผมว่าเรื่องนี่สำคัญกว่าสำเนียงการอ่านพรรค์นี้เยอะนะครับเพราะเปลี่ยนไปก็ใช่ว่าจะตรง เอาเข้าจริงบริติชกับอเมริกันยังอ่านไม่ตรงกันเลย แต่การที่มีแต่คนไทยเรียกชื่อประเทศต่างจากชาวบ้านเนี่ยผมว่ามันไม่เข้าท่าและไม่น่ารักษาไว้ด้วยซ้ำ แทนที่มันจะเป็นอะไรที่สื่อกันเป็นสากลได้สะดวกกลับกลายเป็นว่าสื่อสารไม่รู้เรื่อง
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ตุรกี >> เตรอกี ด้วยครับ
Ooh
ไม่ใช่แค่ประเทศไทย
ประเทศที่มีภาษาเป็นของตัวเองก็เรียกชื่อประเทศอื่นตามใจตัวเองเกือบทั้งหมดเหมือนกัน
อีกอย่างผมว่าควรอนุรักษ์ไว้ แม่งเท่ออกจะตายครับ
ไม่น่าจะเกี่ยวนะครับอย่างประเทศที่เจริญแล้วหลายประเทศก็ไม่ได้เรียกประเทศตัวเองตามแบบภาษาอังกฤษ
ญี่ปุ่น - Japan - Nihon
เกาหลีใต้ - South Korea - Hankook
กัมพูชา - Cambodia - Kamer (อันนี้ไม่แน่ใจ)
ด้วยความรู้ที่จำกัดผมจึงยกตัวอย่างได้เพียงเท่านี้ครับ แต่เชื่อว่าต้องมีอีกหลายประเทศแน่นอน ขนาดประเทศไทยเรายังไม่เรียกว่าไทยแลนด์เลยครับ
That is the way things are.
ขอแย้งนะครับ
หนึ่งคือประเทศที่เจริญแล้วเขาใช้ไม่ได้แปลว่าเราควรจะใช้ และ
สองคือภาษาไทยและประเทศไทยเราไม่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลกในฐานะเดียวกับเขา
สามคือการศึกษาของคนในประเทศเราไม่ได้มีมาตรฐานดีแบบเขาที่ประชาชนทุกคนจะรู้ชื่อประเทศทั้งรูปแบบท้องถื่นและสากลอย่างเขาในระดับรากหญ้า
ป.ล.ไทยแลนด์ ก็ยังใช้คำว่า ไทย ตรงตัวครับ แต่ที่คุณพูดทำให้ผมนึกกรณีปวดตับออกมาได้อีกอันคือชื่อเมืองหลวงเรานี่เองครับ KrungThep >> Bangkok นี่มันโคตรจะเพี้ยนอ่ะครับ จริงอยู่ชื่อเดิมอาจจะเรียกว่าบางกอกตรง แต่กี่สิบกี่ร้อยปีผ่านไปไม่คิดเลยรึไงว่าควรจะเปลี่ยนภาษาอังกฤษให้ตรงกับปัจจุบันได้แล้ว?
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
ทำไมดูแคลนภาษาตัวเองขนาดนั้นครับ ต้องดิ้นรนเพื่อให้ภาษาของเราเป็นหนึ่งในภาษาสากลสิครับเพราะภาษาของเรายังเป็นรองภาษาเวียตนามอยู่+++ฝรั่งมันก็เรียก Bangkok มาเป็นร้อยปีแล้วครับ ถ้าไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองอะไรฝรั่งมันก็จะเรียกประเทศเราว่า Siam มาจนถึงวันนี้หรือบางทีถ้าไม่มีกรุงรัตนโกสินทร์ฝรั่งมันก็อาจเรียกประเทศเราว่า Ayothaya ก็เป็นได้+++อีกอย่างนะครับ คุณพูดแบบไม่ให้เกียรติคนที่เรียนหนังสือในเมืองไทย ถึงประเทศเรามาตรฐานจะลุ่มๆดอนๆ แต่ที่คุณว่าประชาชนรากหญ้าเขาไม่รู้ เขาไม่รู้จริงๆหรือครับหรือว่าคุณคิดไปเอง?
คุณคิดว่าคุณมีเหตุผลอะไรที่จะทำให้ภาษาไทยเป็นภาษาสากลครับ
ผมถามจริงจังนะ ... เพราะผมเคยถามคำถามนี้กับตัวเองแล้วครับ
ผมก็ไม่ค่อยรู้เรื่องการเมืองระหว่างประเทศเท่าไหร่นะครับ แต่เพราะคิดว่าถ้าเกิดภาษาของเรามันสามารถแทรกซึมไปได้ทั่วโลกประเทศเราก็จะมีบทบาทเพิ่มมากขึ้นในเวทีระดับโลก เราสามารถพูดภาษาของเราได้โดยไม่ต้องพึ่งภาษาอังกฤษแบบในปัจจุบัน องค์ความรู้ก็จะมีมากขึ้นเพราะเกิดการแปลมาเป็นภาษาไทย คิดไม่ออกแล้วครับ ตอบได้แค่นี้แหละ
ประเทศไทยมีความสำคัญอะไรขนาดนั้นที่จะทำให้ชาวต่างชาติจำนวนมากต้องหันมาสนใจศึกษาภาษาเราหล่ะครับ
อย่างภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี สเปน ผมเข้าใจว่าคนศึกษาภาษาเหล่านี้ เพราะมีผลต่อการดำเนินธุรกิจ
หากคนไทยจะบอกว่า เราไม่พูดอังกิด(ฤษ)นะ เราจะพูดภาษาไทยเพื่อติดต่อกับคุณ ผมว่าคงไม่มีใครเอาเราหล่ะครับ โดยเฉพาะในขณะนี้ที่ยังต้องพึ่งประเทศอื่นๆอยู่
ความฝันของคนไทยที่จะพูดภาษาไทยอย่างเดียวโดยไม่พูดภาษาอื่นเลย อาจจะดับวูบไปภายใน 4 ปีนี้ครับ เพราะนอกจากเราจะต้องพูดภาษากลาง(อังกฤษ)ได้แล้ว ยังจะต้องพูดภาษาเพื่อนบ้านได้ด้วยครับ (AEC)
Russia is just nazi who accuse the others for being nazi.someone once said : ผมก็ด่าของผมอยู่นะ :)
นั่นแหละครับ
คือเราไม่มีอำนาจ หรือแรงดึงดูดอะไรที่จะทำแบบนั้นได้
ทำไมชาวต่างชาติจะต้องเรียนรู้ภาษาไทยถ้าไม่มีอะไรมาเป็นแรงดึงดูด
เราพูดถึงภาษาจีนซึ่งเราทราบกันดีว่าจีนเป็นมหาอำนาจในยุคนี้ แต่ถามว่ามีใครมองว่าภาษาจีน ภาษาญี่ปุ่น เป็นภาษาสากลเทียบเท่าภาษาอังกฤษมั้ยครับ ... ผมตอบเลยว่ามันไม่มีครับ
ใช่ว่าผมไม่เห็นด้วยนะครับ ผมเองก็อยากให้ทุกคนทั่วโลกพูดภาษาไทยได้มากกว่าคำว่า "ผัดไทย, ต้มยำกุ้ง, สวัสดี" เหมือนกันครับ
เอาง่ายๆคือผมมองโลกตามความเป็นจริงครับ ไม่เพ้อฝันในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ (อย่างน้อยก็ในช่วงชีวิตของผม) ภาษาสากล?? เอาให้เพื่อนบ้านติดๆ กันเนี่ยยอมเรียนภาษาไทยเป็นภาษาที่ 3 4 5 กันก่อนเสียเถอะครับแล้วค่อยฝันไปถึงขนาดนั้น
การเรียก Bangkok ทั้งๆที่ชื่อจริงๆเปลี่ยนเป็น Krungthep ไปตั้งนานแล้วเนี่ยมันไม่ประหลาดผมก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้วครับ ส่วนจะเรียกอย่างไรผมไม่ได้แคร์เลยสักนิดครับถ้ามันเรียกให้ถูก จะเปลี่ยนแปลงการปกครองหรือไม่นี่ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับประเด็นผมเลยโดยสิ้นเชิง ไม่รู้ว่าจะยกมาทำไมนะครับ
อีกอย่างผมไม่ได้พูดถึงคนเรียนเลยครับ ไม่ใช่คุณโดนชี้นำจากความคิดในหัวของคุณเองอยู่แล้วหรือเปล่าถึงคิดไปว่าผมไปว่าคนเรียน? สิ่งที่ผมพูดมันชัดเจนนะครับว่าสิ่งที่มันห่วยแตกจริงๆก็คือระบบการศึกษาไทยในปัจจุบันนี่แหละครับ ตั้งแต่ประถมยันสอบเข้ามหาวิทยาลัย (ตอนนี้ระบบมหาวิทยาลัยก็เริ่มตกต่ำเช่นกัน)ลองเปิดตา เปิดหู เปิดใจ เปิดอะไรก็ตามที่มันบังตาคุณอยู่บ้างก็ดีครับ จะได้พบกับความจริงอันแสนโหดร้ายและไม่เสนาะหู เพราะเราจะได้รับผลของมันเร็วๆนี้แหละครับ
ส่วนผู้เรียนก็เป็นแค่เหยื่อผู้เคราะห์ร้ายครับ
คุณพูดเกือบถูกนะครับว่าเราควรดิ้นรนให้ภาษาเราเป็นภาษาสากล แต่สิ่งที่คุณคิดมันดันย้อนกลับจากกระบวนการที่ควรจะเป็นครับ
ลองคิดดูว่าจีนกำลังจะกลายเป็นภาษาที่สามเพราะอะไรระหว่าง
ก.คนใช้ภาษาจีนเยอะ จีนเลยมีบทบาทเพิ่มขึ้นในเวทีโลก
ข.จีนมีบทบาทมากขึ้นในเวทีโลก คนเลยหันมาสนใจภาษาจีน
คงจะเห็นใช่หรือเปล่าครับว่าภาษาน่ะมันเป็นผลพลอยได้ ไม่ใช่อะไรที่เราจะทำตัวเป็นเสือมือเปล่าแล้วไปยัดเยียดให้ประเทศอื่นๆ หันมาใช้
ชื่อ : Not Available at this Moment (N/A)
เรื่องชื่อเรียกผมว่าไม่สำคัญหรอกครับ เพราะแต่ละประเทศมีชื่อเรียกแต่ละอย่างที่ต่างกันไปอยู่แล้ว
ยกตัวอย่างให้ฟังครับว่าคนญี่ปุ่นเรียกประเทศพวกนี้ว่าอะไร
จีน >> จู โกะ คุ /
อังกฤษ >> อิ กิ ริ ซึ /
ญี่ปุ่น >> นิ ฮง /
กัมพูชา >> คัม โบ เจีย /
ฝรั่งเศส >> ฟุ ราน ซึ /
เกาหลี >> เหนือ - คิ ตะ โช เซ็น, ใต้ - คัง โคะ คุ /
พม่า >> เมียน มา
แต่ถ้าถามคนญี่ปุ่นว่ารู้จัก ไชน่า อิงแลนด์ เจแปน ฟรานซ์ มั้ย เค้าก็รู้กันนะครับ
ฟุ ราน ซึอันนี้ออกเสียงเป็นฟรานซ์ในแบบญี่ปุ่นแล้วไม่ใช่เหรอครับ ฮ่าๆ
ผมว่าการที่ประเทศนึงมีศัพท์เรียกอีกประเทศนึงที่ไม่เหมือนคำภาษาอังกฤษ มันสะท้อนได้เหมือนกันนะว่าประเทศเค้ามีความสัมพันธ์กันมานาน มันแสดงถึงประวัติศาสตร์ผ่านทางภาษา
คิดว่าถ้าจะเปลี่ยน ก็เปลี่ยนให้ตรงกับชื่อนั้น ๆ ที่คนที่นั่นเขาเรียกจริง ๆ ดีกว่า ตามภาษาอังกฤษหมดก็ไม่ได้แปลว่าถูกอยู่ดี
Mecca > มักก๊ะฮ์
Medina > มาดีนะฮ์Turin > โตริโน
Florence > ฟิเรนเซ
คือสุดท้าย ฝรั่งก็ทำเหมือนเรา คือเรียกไปตามความคุ้นลิ้นนั่นแหละ ไม่ได้มมีมาตรฐานอะไร
แถมของไทย
Ko Yo > เกาะยอ (อันนี้ไม่ได้ไปเห็นเอง ครูภาษาอังกฤษเล่าให้ฟังอีกที)
ไม่เห็นด้วยเลยครับ
การเรียกชื่อภูมิศาสตร์ เป็นเรื่องธรรมดามากที่จะเรียกไม่ตรงกัน อย่างที่ท่านอื่นบอกไปแล้วคือ ชื่อเหล่านั้นก็เป็นชื่อที่คนพูดภาษาอังกฤษเรียก ไม่ได้มีสถานะความเป็นสากลอะไรขนาดนั้น (ถ้าอยากได้อะไรที่ใช้กันทั่วไปเกือบหมด เป็นมาตรฐานหลัก ระบบปี ค.ศ. ยังดูยิ่งใหญ่กว่ามาก)
ถ้าสังเกตดู ทุกภาษามีวิธ๊เรียกชื่อภูมิศาสตร์แบบของตัวเองกันหมด แม้แต่ภาษาอังกฤษเอง เพราะภาษาอังกฤษก็เรียกชื่อประเทศต่างๆ ไม่ตรงกับวิธีคนอื่นเลยเหมือนกัน (มีประเทศไหนในยุโรปเรียกเยอรมนีว่า Germany บ้าง?)
การรู้จักชื่อภูมิศาสตร์ในแต่ละภาษา เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนภาษาครับ คุณเรียนภาษาไหน ก็จะมีเรื่องนี้ให้เรียน (เอาจริงๆ เป็นเรื่องที่ปวดหัวน้อยที่สุดแล้วล่ะ แป้ปเดียวก็จำได้ ง่ายกว่าจำศัพท์ในชีวิตประจำวันตั้งเยอะ)
แหม่ พูดแล้วก็นึกอยากกิน ขนมไชน่าน้ำเงี๊ยว
ผมว่าคุณมองข้ามความสำคัญของการสร้างมาตรฐานให้กับการใช้ภาษาไทยแล้วล่ะ เรื่องการเปลี่ยนวิธีสะกดคำนี่ยังอยู่ในขั้นตอนการเสนอขอความเห็นนี่ครับ? ใช่ว่าจะมีผลบังคับใช้ในทันทีทันใด มันอยู่ที่ผู้ใช้ภาษาไทยอย่างเราๆ เองต่างหากที่จะยอมรับปรับใช้กำเกณฑ์เหล่านี้หรือไม่?
ผมอ่านแล้วรู้สึกได้ว่าคุณดูถูกการทำงานของพวกเขามากเลยนะ หรือคงคิดว่าเขาไม่มีภูมิความรู้ในเรื่องที่ทำนี่เลย?
ถ้าไม่ใช่คนในวงการไอที ก็ไม่ควรมาออกความเห็นเรื่องคำศัพท์ไอที....อย่างนั้นหรือครับ?
คนที่ไม่ได้จบมาทางวิทยาศาสตร์ ก็ไม่ควรมาออกความเห็นเรื่องคำศัพท์ทางวิทยาศาสตร์....อย่างนั้นหรือครับ?
ช่างไฟสมัครเล่น (- -")
ถ้าเปลี่ยนจริงนี่ขอบายใช้ไปใช้ตัวละตินดีกว่าครับมันใช้ยากมาก ลองเอาภาษาเวียตนามเป็นตัวอย่างที่ตัวกำกับการออกเสียงเยอะเกิน
อยากได้ภาษาไทยแบบออกเสียงตามรูปกันจริงๆเหรอ... ขอเชิญให้ไปเที่ยวเมืองลาว แล้วฝึกอ่านภาษาลาวสักหนึ่งสัปดาห์ แล้วคุณจะหลงรักความเรียบง่ายตรงไปตรงมา ไม่ต้องซับซ้อนของภาษาต้นกำเนิดของไทยทางเหนือ
จะไปเปลี่ยนให้คนเค้ายิ่งสับสนทำไม เขียนทับศัพท์แทนตามตัวอักษรก็ดีอยู่แล้ว
เสือกไปใส่วรรณยุกต์ อย่างคำว่า คอมพิวเตอร์ คุณเปลี่ยนเป็น ค็อมพิ้วเต้อร์
มันก็คือภาษาอังกฤษสำเนียงไทย เพราะสำเนียงอังกฤษมันไม่ได้ออกเสียงแบบนี้
ไปทำสำเนียงภาษาอื่นเค้าเพี้ยนไปอีก
คุณเปลี่ยนไปก็ไม่ได้มมีประโยชน์อะไรเลย ถ้าคุณจะเปลี่ยนเป็น ค็อมพิ้วเต้อร์ ที่จริงควรจะเป็น
"ข่อมพิ๊วเถอะ" แบบนี้ถึงจะถูก คำว่า ter ฝรั่งมันไม่ได้ออกเสียงว่า เต้อ สักหน่อย
+1
ที่จริง pu นี่ต้องอิกับอูผสมกันด้วยซ้ำ lol
+1
もういい
ถ้าสรุปแล้วเปลี่ยนจริง คนทำงานแปล UI ของโปรแกรมต่างๆ รวมทั้ง dictionary, เครื่องมือตรวจตัวสะกด คงต้องมาไล่แก้กันเหนื่อย
pittaya.com
ทีมแปลโปรแกรม โอเพ่นซ้อสต่างๆ มีความเห็นกันอย่างไรบ้างครับ?
ส่วนตัวคิดว่ามันก็คงจะงงในตอนนี้ แต่คนรุ่นใหม่มาก็ไม่งงแล้ว ถามว่าตอนนี้งงกับภาษามั้ย เราก็งงนะ กีตาร์ ทำไมเขียนกีตา แต่ออกเสียงกีต้า อะไรแบบนี้ เค้าคงไม่ได้จะเขียนให้ตรงคำอ่านภาษาอังกฤษ แต่เขียนให้ตรงคำอ่านภาษาไทยนี่แหละ ปัจจุบันที่เขียนกับที่อ่านคนละแบบกันอยู่หลายคำมาก
อคติทำให้คนรับเหตุผลด้านเดียว
ผมว่า ถ้ามีความรู้พื้นฐานการสะกดคำภาษาอังกฤษ จะไม่งงเลยครับ
อย่าลืม "ฟุตบาท" ด้วยนะตัวเธอว์
คำจริงๆมันคือ "ฟุตปาธ" (Foot Path) ที่แปลว่าทางเท้าไม่ใช่หรือครับ ?
ปล. ผมคืดว่ายึดตามที่สังคมเห็นสมควรและถนัดดีกว่าครับ มาตรฐานตั้งได้เรื่อยๆ แต่ก็จะปรับเปลี่ยนไปตามการยอมรับโดยรวมครับ ดังนั้น แคลอรี่ หรือ แคลอรี ก็เป็นไปได้ทั้งคู่ครับตราบใดที่การสื่อสารยังส่งสารคือคำว่า Calorie ได้ครับ คือผมอยากให้มองภาษาเหมือนน้ำมากกว่าก้อนหินน่ะครับ ผมชอบคำว่า เกมส์ หรือ เท่ห์ มากกว่า เท่ หรือ เกม แต่มันไม่ใช่คำมาตรฐาน แต่การสื่อสารเกิดขึ้นได้ ...ผมก็คิดว่ามันไม่น่าจะผิดนะครับ .... แต่หากแก้มาแล้วเป็นที่ยอมรับก็โอเคครับ ถ้าไม่ก็ไม่เป็นไรน่ะครับ
ขอบคุณครับ สวัสดีครับ
+1
ฟุตบาท = เท้าเท้า
ฟุตปาธ = ทางเท้า
คำว่า เท่กับ เท่ห์นี่ผมไม่รู้ครับ
รู้แค่ว่า คำว่า เกมส์ใช้กับการแข่งขันใหญ่ๆ ที่ส่วนมากเป็นกีฬา เช่น โอลิมปิกเกมส์
ส่วนคำว่า เกมใช้กับการแข่งขันเล็กๆ หรือเกมที่เราๆ เล่นกันอยู่ใน
ค็อมพิ้วเต้อร์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือ กระดานทั้งหลายนี่แหละครับแต่มันก็ทำให้ผมงงว่า แล้วถ้าเกมคอมพิวเตอร์มันแข่งกันระดับโลก จะเรียก เกมหรือว่า เกมส์? -*-
Dream high, work hard.
เท่าที่สังเกตนะครับ จริงหรือเปล่าไม่ทราบ
เกมส์ -> ใช้กับคำเฉพาะ
เกม -> ทั่วไป
^
^
that's just my two cents.
ภาษาไทย "ฟุตพาธ" ไม่ได้แปลว่าทางเท้าแต่แปลว่า "ตลาด" หรือ "ร้านอาหาร" ครับ
เจ็บ!
บาทวิถี
เปลี่ยนชื่อแยก "Henri Dunant" ด้วย :D
เข้าใจว่า อันนี้ (พยายาม) อ่านตามเสียงฝรั่งเศส แล้วเพี้ยนอีกทีนะครับ.
เปลืองตัวอักษร
//สะกิด คุณบอท มาให้ความเห็น
Dream high, work hard.
ผมว่าปวดขมับล่ะทีนี้
คราวนี้ปัญหาต่อไปที่ผมมองคือ เด็กไทย ... อย่าว่าแต่เด็กไทยเลยครับ รุ่นๆ ผมหลายคนผันวรรณยุกต์ยังผิดๆ ถูกๆ กันอยู่เลย
+เยอะๆ
บางทีเตือนแล้วก็แก้ได้ทีสองที ก็กลับมาเป็นอีก เหมือนกับผิดจนชินเลยครับ...
Dream high, work hard.
เสนอให้ราชบัณฑิตหัดเขียนโปรแกรมแก้คำผิด อัตโนมัติ ในโลก internet เพื่อเด็กรุ่นใหม่จะได้อ่านคำศัพท์ที่ถูกต้อง จากทุกเวบ
เปลื่ยนตัวเองง่ายกว่าเปลื่ยนคนอื่นนะครับ เหล่า ราชบัณฑิต
งี้เราควรจะเขียนตัวสะกด Computer ว่าอย่างไรครับ ระหว่าง
ส่วนตัวผมว่าถ้าจะยึดหลักตามนี้ มันจะมีปัญหาหลายๆอย่างตามมาค่อนข้างเยอะนะครับ
แล้วภาษาอังกฤษสำเนียงไทย มันมีมาตรฐานหรือเปล่า เราถึงพยายามเขียนตัวเขียนให้ออกเสียงตามแบบสำเนียงอังกฤษแบบไทยๆ?
จะให้ยึดตามต้นฉบับ ก็งงอีกว่า จะเอา American English accent หรือ British English accent อีกอยู่ดี(ยังไม่นับประเทศอื่นๆอีกที่ออกเสียงแตกต่างกัน) ส่วนตัวผมว่าเขียนกลางๆแบบไม่ใส่วรรณยุกต์ ก็ถือว่ากลางๆดี ส่วนการออกเสียงคงขึ้นกับครูผู้สอนคนแรก ว่าสอนให้อ่านออกเสียงอย่างไรนั่นแหละ แล้วเด็กก็จะจำไปตลอด
อย่างที่ข้างบนว่าหากกำหนดการเขียนตามเสียง(แบบไทยๆ) แล้วคนที่จบนอกมาอ่าน ยิ่งงงกับการเขียนไปใหญ่ เขียนตามสำเนียงที่ตัวเองใช้เป็นประจำมา กลายเป็นแต่ละคนเขียนไม่เหมือนกัน งงกว่าเดิมอีก
ขอเอา ความคิดเห็น คุณเทพพิทักษ์มาแปะด้วยครับ
คำถามคือ
หลักการเดิมที่ไม่ใช้วรรณยุกต์กำกับหายไปไหน?
การที่เดิมไม่ใช้วรรณยุกต์กำกับก็เพราะเป็นการทับศัพท์ตามรูปคำ ไม่ใช่ตามเสียงอ่าน ซึ่งเป็นหลักการเดียวกับคำยืมภาษาอื่นที่สามารถถอดอักษรได้ เช่น บาลี-สันสฤต ทำให้เห็นรูปคำภาษาเดิมได้ชัดเจน
อนึ่ง ภาษาอังกฤษไม่มีวรรณยุกต์ ปิ๊กหนิก อาจจะเป็นสำเนียงหนึ่ง แต่ผมคิดว่าคนจำนวนมากออกเสียงว่าปิ๊กนิก ซึ่งถูกทั้งคู่ แต่ปัญหาคือ จะมีคนไม่เห็นด้วยกับเสียงที่กำหนดเสมอ เช่น คอมพิ้วเต้อร์ จะมีคนแย้งว่าเขาออกเสียงเป็น คอมพิ้วเถอะร์ มากกว่า ซึ่งตรงนี้เป็นปัญหาทั่วไปของการเขียนตามเสียง
คำที่ยืมมานานแล้วปัญหาอาจเห็นไม่ชัด แต่เวลาทับศัพท์คำใหม่ ถ้ากำหนดให้ใช้วรรณยุกต์กำกับจะมีปัญหาเรื่องสำเนียงสูงมากครับ
จะเปลี่ยนอีกบ่อยไหม
ที่ผ่านมา รถ. เปลี่ยนหลักการเป็นว่าเล่น เอกสารเดิมเคยใช้อย่างหนึ่ง วันดีคืนดีก็มาเปลี่ยน ทำให้ต้อง revise เอกสารใหม่หมด โปรแกรมคอมพิวเตอร์ต่าง ๆ ที่เคยจัดการภาษาแบบเดิมได้ ก็ต้องแก้กันขนานใหญ่ให้จัดการกับแบบใหม่รวมกับแบบเก่าได้ในเวลาเดียวกัน
คำถามคือ เปลี่ยนถี่ขนาดนี้ หลักการที่ประกาศนี้จะเชื่อถือได้แค่ไหน? อีกไม่นานก็จะเปลี่ยนอีกใช่ไหม?
เห็นด้วยกับการเขียนให้ถูกต้องตามตัวอักษรที่ภาษาแม่ใช้มากกว่าตามเสียงอ่าน
อย่างที่ปฏิบัติมาตลอดคือ l=ล r=ร c=ค g=ก
จินตนาการดู หากเขียนตามเสียงอ่าน เขียนออกมาอ่านเสียงก็เพี้ยน ฝรั่งไม่เข้าใจเหมือนเดิม แถมจะถอดคำออกมาเป็นภาษาแม่ ก็ยิ่งมั่วหนักเข้าไปกันใหญ่เลยทีเดียว
+1 ครับ เพราะเสียงพูดของภาษาต่างประเทศไม่มีมาตรฐาน การไปยึดกับสิ่งที่ดิ้นได้ยิ่งจะทำให้เกิดความสับสนมากขึ้น
ศัพท์อื่นๆที่ออกเสียงไม่ตรงคำก็มีเยอะแยะ เช่น อนึ่ง (คำกร่อน) ตำรวจ สำเร็จ กำเนิด(คำแผลง)เสมา (ชื่อต้นไม้) ซึ่งผมมองว่าทำให้ภาษาดูเรียบร้อยกว่าเยอะเลยครับ หรือถ้าเป็นไปได้ ผมอยากให้ปรับเสียงอ่านให้ตรงกับภาษาเขียนมากกว่านะ
อ่านดูเหมือนจะไม่ใช่การทำให้เกิดประโยชน์ต่อชาติต่อภาษาซักเท่าไหร่ คล้ายจะสนองนี้ดตัวเองอยู่กลายๆ
ถ้าจะทำจริงๆ คำอย่างค็อมพิ้วเต้อร์ควรไปอยู่ในวงเล็บที่แสดงให้รู้ว่าคอมพิวเตอร์มันอ่านออกเสียงแบบนี้นี้นะ ไม่ใช่เอามาใช้เป็นคำมาตรฐานที่แสดงบนสื่อทั่วไป
อีกอย่างฝรั่งเองมันก็ไม่เคยสนว่าประเทศเจ้าของภาษาจะอ่านยังไง คนในประเทศมันถนัดอ่านแบบไหนมันอ่านออกเสียงตามใจตัวเองซะอย่างนั้น อันนี้หมั่นไส้ส่วนตัว
ฮ่าฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
เพลียมากครับ ไม่ไหวนะ
Coder | Designer | Thinker | Blogger
เขียนแบบไม่ต้องตามเสียงที่ออกน่าจะดีแล้ว อย่างดิกชันนารีปกติเขาก็มีเขียนการออกเสียงไว้ด้วยไม่ใช่เรื่องที่น่าจะต้องปรับปรุง ควรเอาเวลาไปทำการรณรงค์วิธีเขียนที่ถูกต้องและชัดเจนจะดีกว่า ข้อดีของแบบเดิมคือคงการเขียนให้ง่ายเข้าไว้ไม่มีวรรณยุกต์สะดวกและลดโอกาสผิดพลาดลงได้มาก
ตายห่า เผลอไปนึกถึงคำนึง ไม่ได้เกี่ยวกับศัพท์ไอทีเลย
คำว่า esquire มิต้องอ่านว่า เอ็สคว.. หรอกเรอะ -__-"
"เอส ควาย เย่อ" ไม่หมิ่นเหม่ ยกเว้นจะคิดลึก
ผมออกเสียงสั้นอะ - -
เอาแค่ภาษาอังกฤษภาษาเดียว
ก่อนอื่นต้องเลือกประเทศก่อน ว่าจะให้ตรงกับประเทศไหน อเมริกา, อังกฤษ, ออสเตรเลียก็ออกเสียงไม่เหมือนกันต่อมาก็ต้องมาเลือกว่าจะเอาสำเนียงไหน เหนือ, ใต้, ออก, ตก การออกเสียงก็ต่างกันเหมือนแต่ละภาคของไทย
และภาษาอังกฤษเองก็มีการเปลี่ยนการออกเสียงมาตลอดเวลาอยู่แล้ว
ภาษาอังกฤษนี่ตัวพ่อเรื่องการสะกดไม่ตรงเสียงเลย วิธีออกเสียงในดิกยังต้องมีสัญลักษณ์พิเศษมาบอก
ตัวอย่าง เขียนคล้าย ๆ กัน เสียงออกมาคนละเรื่อง
though
thought
through
เรียนภาษาอังกฤษไม่เคยอ่านคำนี้ถูกเลยจริงๆ
มีคำว่า live(ลีฟ) กับ live(ไลฟ์) อีก
warp - ว้าบบบบ
(กุมขมับ)
wrap รึเปล่าครับ
หรือ wrap ไม่ได้ออกเสียงว่า วาร์ป
wrap = แ(ว)ร้ปwarp = วอ้ร์ป หรือที่คนไทยชินว่า ว้าร์ป
ตอนนี้ผมมีปัญหาที่ไม้ยมก (ๆ) มากกว่า คือถ้าใช้ในการพิมพ์เอกสารหรือะไรต่างๆ นาๆ มันจะไม่ตัดคำให้ จนผมเอือมระอาสุดๆ แล้วผมก็ติดการใช้แบบชิดหน้าเว้นหลังแบบที่ผมใช้โพสต์นี้ตลอดมาเลย เพราะอย่างแรกคือมันตัดคำขึ้นบรรทัดใหม่ได้ดี และอีกข้อคือมันไม่เปลืองวรรคมากจนเกินไป ซึ่งผมก็ไม่รู้ราชบัญทิตควรจะทำอย่างไรกับไม้ยมกนี้ดี ควรจะปรับใช้ใหม่จาก เว้นหน้าเว้นหลัง เป็นชิดหน้าเว้นหลังดีหรือไม่?
เห็นมีแต่คนใช้ชิดหน้าเว้นหลัง
อ้อคุณใช้ไม้ยมกผิด นาๆ => นานา
อาจจะลืมไปว่า ยุคที่มีการออกเสี้ยงเพี้ยนจากสำเนียงต้นฉบับคือยุคที่การสื่อสารยังล้าสมัย
เห้อ.....ไปกินน้ำมะเน็ดดีกว่า
อาจจะต้องใช้เวลาในการเปลี่ยน โดยส่วนตัวช่วงแรกยังไงก็ควรอนุญาตให้เขียน/อ่าน ตามสมัยนิยมไปก่อน
แต่ถามตามใจผม ถ้าพวกที่มัน มีการใส่รูปวรรณยุกต์ มาแต่อ้อนแต่ออกแล้ว อย่างพวก แก๊ส ก๊าส อะไรพวกนี้ เปลี่ยนให้ถูกตามหลักนี๋โอเค.
แต่อย่างคำว่าคอมพิวเตอร์ นี่ จริงๆ ศัพท์บัญญัติ ก็มี แต่ล้มเหลวในการใช้งาน แล้วคุณจะมาตามแก้ทับศัพท์อีกเหรอ ?
Shut up and ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ raise your dongers ヽ༼ຈل͜ຈ༽ノ
ผมว่าเอาเข้าจริงแม้แต่คำไทยเราก็ออกเสียงผิดกันเยอะครับ
น้ำ ออกเสียงเป็น น้ามเก้า ออกเสียงเป็น ก้าว
อะไรอีกน้า ก่อนหน้านี้คิดได้หลายคำ แต่คิดตอนนี้ไม่ออก
น่าจะเรียกกระทรวงวัฒนธรรมมาทะเลาะกับราชบัณฑิต ผมว่าราชบัณฑิตนี่แหละตัวทำภาษาวิบัติเลย
นอกจากแบบสอบถาม 300 ฉบับแล้ว
อยากให้ราชบัณฑิตฯ มาอ่านค็อมเม้นท์ข่าวนี้ด้วย
^
^
that's just my two cents.
นี่ล่ะภาษาวิบัติของแท้เลย
ไม่เห็นด้วยนะครับ เหตุผลเรื่องชาวต่างชาติมาเรียนภาษาไทยแล้วอ่านไม่ถูก ก็ต้องให้เรียนเพิ่มเอาแหละ คำหลายๆ คำมันต้องใช้การจำเอาแทนการอ่านตามหลัก เป็นพวกข้อยกเว้นเรื่องแบบนี้ภาษาอังกฤษก็มี ถ้าคนไม่รู้จัก ใครมันอ่าน restaurant ถูกบ้าง
สงสัย ราดบันดิด คงไม่รู้จักคำว่า
If it work, don't fix
ปล. ผมตั้งใจเขียนให้ไม่ถูกนะ
อ่า ชอบอันนี้ที่สุด ใช่เลย - -
ผมว่าบางคำเช่น แคลอรี ควรมีไม้เอกนะ เพราะมันก็เขียนผิดๆอย่างนี้บ่อยพอๆกับเขียนแบบถูกต้องอ่ะ การเปลี่ยนไปใช้ แคลอรี่ คงทำได้ไม่ยาก แล้วมันก็อ่านออกเสียงอย่างนั้นจริงๆ
แต่บางคำเช่น คอมพิวเตอร์ มันเห็นอย่างนี้มาชินแล้ว อย่าไปเปลี่ยนเลย วรรณยุกต์วุ่นวายไปหมด
เห็นเเต่ละคำเเล้วน้ำตาจะไหล โอ้ว...
มีฝรั่งถามว่าทำไมคนไทยออกเสียงคำว่า "น้ำ" ว่า "น้าม" ทำไมไม่ออก "นั้ม"
เหอๆ คนไทยตอบไม่ได้
ผมเดาว่าเกิดจากการเรียนการสอนของไทยที่นิยมให้เด็กทั้งชั้นท่องตาม และต้องออกเสียงให้พร้อมกันทำให้เกิดการลากเสียงจากเสียงสั้นจนเป็นเสียงยาว พอพูดติดปาก มันก็ออกมาเป็น น้าม
พอดีเห็น comment ข้างบน "น้ำตา" คำนี้ก็อ่าน "นั้ม" สั้นๆนะ
อ่านได้สองแบบขึ้นอยู่กับคำที่ตามมา
ตามหลักแล้ว สระ ำ เป็นเสียงสั้น ควรอ่าน นั้ม มากกว่า
ผมเห็นด้วยกับการเปลี่ยนแปลงแบบนี้นะครับ เพราะว่าเราสะกดผิดมาตลอด
อีกอย่างที่เขาเปลี่ยนมาสะกดแบบนี้เพื่อให้ตรงตามเสียงที่ "คนไทย" อ่านครับ ไม่ใช่คนต่างชาติหรือเจ้าของภาษา
ที่ผ่านมาการสะกดของไทยมันผิดเพี้ยนและไร้แบบแผนมานานมากแล้วครับ จนจับจุดไม่ได้ว่าควรจะสะกดอย่างไร มันวิบัติมานานแล้ว
ผมเชื่อว่าหลาย ๆ คนอ่านคำว่า "พาส" ไม่เหมือนที่เวลาอ่านคำว่า "พาด" เพราะมักจะอ่าน "พาส" เป็น "พ้าด" โดยอัตโนมัติทั้ง ๆ ที่ไม่มีวรรณยุกต์โทกำกับ เพราะชินกับคำว่า "Pass" แล้ว ซึ่งมันไม่ถูกต้องครับ
งั้นแปลว่าเราควรจะเขียนตามการออกเสียงเหรอครับ ผมเข้าใจว่าการเขียนภาษาต่างประเทศเป็นภาษาไทยอาศัยการเทียบตัวอักษรซะอีก ถ้าเขียน พ้าด แล้วให้นึกถึงคำต้นฉบับผมว่าไม่มีใครรู้นะว่าหมายถึง pass และถ้าแบบนี้ก็ต้องทำแบบข้างบนบอกคือเขียน ชั้นแทนฉัน มั้ยแทนไหม เพราะก็ออกเสียงแบบนี้กัน
หาเรื่องให้เด็กไทยอีกและราชบัณฑิต...
สิ่งที่ควรทำเป็นอันดับแรกคือ ส่งครูภาษาไทยไปอบรมเพื่อให้ผันวรรณยุกต์ได้ถูกต้องก่อน
ครูเดี๋ยวนี้ไม่สอนอะไรไปมากกว่าไก่จิกเด็กตายบนปากโอ่ง ... แต่ไม่บอกให้นักเรียนเข้าใจว่ามันคืออะไร มันเอาไว้ทำอะไร ต้องทำยังไง ฯลฯ
เอาแค่ ค่ะ, คะ, ขา, จ้ะ, จ๊ะ, จ๋า ให้มันถูกต้องก่อนเถอะครับ กราบขอร้องเลยครับ
ถามเพื่อน ... "จ๋า อ่านออกเสียงว่า" มันบอกว่า "จ๊า" ผมเลยถามกลับไปว่า "แล้ววีเจคนสวยล่ะชื่ออะไร ใช่วีเจจ๊ามั้ย"
มันตอบว่าถ้าเป็นชื่อคนออกเสียงว่าจ๋า ถ้าใช้ในประโยคทั่วไปอ่านว่าจ๊า
ได้จ๊า... ขอตัวลาไปกรัมม็อกโซนนะจ๊า
ลาล่ะจ๊า
ผิดบ่อยๆ เจอแล้วคันไม้คันมือมากคือ "ค่ะ" กับ "คะ" นี่แหละครับ
ดีนะผู้ชายใช้คำเดียวกันหมด "ครับ" :P
Dream high, work hard.
คะ กับ ค่ะ นี่เจอบ่อยมาก เจอทีไรก็คิดทุกทีว่าจะใช้ให้มันถูกๆหน่อยไม่ได้หรอว้าาาาาาา
แต่จะไปเตือนอะไรมากก็ไม่ได้ เดี๋ยวโดนปรี๊ดใส่
ขนาดแฟนตัวเองยังผิดเลย แต่ไม่กล้าบอก กลัวหูชา -*-
หวังว่าคงจะไม่ผ่านละกันนะครับ
ภาษาเขาขึ้นอยู่กับการออกเสียง ดันจะไปนิยามการออกเสียงให้เขาอีก